ตอนที่ 1844 ขุดหลุมฝังตัวเอง

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“แข็งแกร่ง! นั่นมัน… แนวคิดแห่งห้วงมิติ?”

“พระเจ้าช่วย นภาสวรรค์หนึ่งดาวสามารถเตะนภาสวรรค์สามดาวจนปลิวได้ด้วย?”

“ไม่นึกเลยว่าหานเซี่ยวจะพลาดเรื่องง่ายๆ เช่นนี้”

เมื่อเย่หยวนลงมือ มันก็ทำให้ทุกผู้คนตกตะลึงอย่างถึงที่สุด

เพราะทุกผู้คนนั้นคิดว่าจะได้ดูเรื่องสนุก คิดกันอยู่ในหัวว่าเย่หยวนคงได้เจ็บตัวหนักแน่

เพียงแค่พวกเขาไม่นึกไม่ฝันว่าฝ่ายที่เจ็บหนักจะกลายเป็นหานเซี่ยวเสียเอง

ลูกเตะนี้ไม่ได้เบา มันทำให้หานเซี่ยวกระอักเลือดออกมาอย่างหยุดไม่ได้ไปนาน

“ไอ้เด็กเวร กล้ามาลอบโจมตีข้าเช่นนี้! อีกสามเดือนข้างหน้าข้าจะมาล้างแค้นความอับอายของลูกเตะนี้ให้เจ้าได้รู้ซึ้ง!” หานเซี่ยวยกมือขึ้นกุมอกพร้อมกล่าวลั่น

ทุกคนรับรู้ได้ทันทีว่าหานเซี่ยวนั้นโกรธแค้นแค่ไหน

ตัวตนของเขานั้นมิใช่จะเป็นคนทั่วๆ ไป เพราะเขาคือทายาทตระกูลหานแห่งเมืองหลวงจักรพรรดินี้

ตระกูหานนั้นคือหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองหลวงจักรพรรดินี้ พวกเขาย่อมมีพละกำลังที่เหนือล้ำกว่าใครๆ

หลายวันต่อมาชายชุดดำก็กลับมารายงานแก่เล้งห่าว

“นายน้อย ข้าได้ตรวจสอบเรื่องราวมาแล้ว เด็กคนนั้นมันมีนามว่าเย่หยวนที่เพิ่งเข้าเมืองหลวงจักรพรรดิมาได้ไม่นานนัก ส่วนเรื่องที่ว่ามันมาจากที่ไหนนั้น ข้าไม่อาจตรวจสอบได้เลย หรือก็คือก่อนหน้านี้เจ้าเด็กคนนี้มันไม่เคยสร้างชื่อใดๆ ไว้ที่ไหนเลย”

เล้งห่าวกล่าวถามขึ้นด้วยท่าทางตื่นตกใจทันที “ไม่มีทางน่า! ยอดฝีมือมากพรสวรรค์ระดับนี้มันย่อมต้องมาจากเมืองหลวงจักรพรรดิหรือยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสักแห่งแน่ มีหรือที่มันจะไร้ชื่อ? เจ้าพลาดอะไรไปหรือเปล่า?”

ชายชุดดำบอก “ผู้น้อยได้ทำการตรวจสอบยอดอัจฉริยะที่ฝีฝนแนวคิดแห่งห้วงมิติในเมืองหลวงจักรพรรดิและยอดเมืองหลวงจักรพรรดิภายใต้การปกครองของจักรพรรดิเทพสวรรค์ซีหยูมาจนหมดแล้ว และก็ไม่ได้พบเลยว่าจะมีชื่อของเย่หยวนนี้อยู่ที่ใด ไม่น่าจะมีความผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้นได้แน่”

ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิและเมืองหลวงจักรพรรดิภายใต้การปกครองของจักรพรรดิเทพสวรรค์ซีหยูนั้นมันไม่ได้มีจำนวนมากมายเหมือนเมืองจักรพรรดิ

ตราบเท่าที่มีช่องทางสื่อสาร การจะตรวจสอบใดๆ มันก็ย่อมเป็นไปได้ไม่ยาก

แต่พวกเขากลับไม่พบชื่อเสียงเรียงนามของเย่หยวนเลย

ได้ยินเช่นนั้นเล้งห่าวก็ถอนหายใจยาวออกมา “หากเป็นเช่นนั้นแล้วก็อย่าได้เก็บเด็กคนนี้ไว้อีกเลย ตอนนี้มันกำลังทำอะไรอยู่?”

ชายชุดดำตอบกลับมา “ขอรายงานนายน้อย มันกำลังเข้าสู่การเก็บตัว ณ หอรวมแก่นแท้พลัง ได้ยินว่ามันจ่ายผลึกปราณเทวะเป็นจำนวนเท่าเวลาสามเดือนในคราเดียว ที่สำคัญมันยังไปทำร้ายหานเซี่ยวแห่งตระกูลหานจนบาดเจ็บด้วย”

เล้งห่าวผงะไปนิดหน่อยก่อนจะหัวเราะขึ้นมา “หานเซี่ยว? เจ้าลูกเก็บมาเลี้ยงสุดน่าสมเพชของตระกูลหานน่ะเหรอ? แต่แบบนี้เองก็ดี ด้วยนิสัยของมันแล้วมันคงไม่ปล่อยเจ้าเย่หยวนนั้นไว้แน่ แต่อย่างไรเสียก็จงส่งเถี่ยยิงไปจัดการปิดฉากเผื่อเรื่องราวมันผิดคาดเสียเถอะ”

เมื่อชายชุดดำได้ยินเขาก็ตอบขึ้นด้วยท่าทางตื่นตกใจ “นายน้อย นี่มัน… จะไม่เป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตนเกินไปหรือ? เถี่ยยิงนั้นเป็นถึงนภาสวรรค์สี่ดาวเลยนะ!”

อาณาจักรนภาสวรรค์นั้นมันแตกต่างจากอาณาจักรระดับต่ำๆ อย่างสิ้นเชิง ช่องว่างของแต่ละดาวนั้นมันมากมายมหาศาล

นภาสวรรค์สี่ดาวนั้นคือตัวตนในอีกระดับที่ไม่อาจเทียบเคียงได้

นี่คือพลังฝีมือที่พอจะเป็นผู้ตรวจการของเมืองจักรพรรดิระดับต่ำๆ ได้แล้ว

เพราะอย่างไรเสียผู้ตรวจการของสิบเมืองสันเขาใต้เองก็เป็นแค่นภาสวรรค์สี่ดาวเช่นกัน

ตอนนี้เล้งห่าวกลับสั่งให้คนระดับนั้นไปจัดการกับนภาสวรรค์หนึ่งดาวคนหนึ่ง มันจะไม่เป็นการใช้คนใหญ่เกินงานไปหน่อยหรือ?

เล้งห่าวยกมือขึ้นมาโบกปัด “สิงโตนั้นเข้าขย่ำเหยื่อด้วยทุกสิ่งที่มี เด็กคนนั้นมันมีฝีมือที่ไม่อ่อนแอ ปลอดภัยไว้ก่อนย่อมดีกว่า เจ้าเองก็เห็นใช่ไหมว่านภาสวรรค์สามดาวไม่อาจโค่นมันลงได้”

ชายชุดดำรีบพยักหน้าออกมาในทันทีที่ได้ยิน “ขอรับ ผู้น้อยจะรีบไปจัดการเรื่องราวให้แล้วเสร็จ”

สามเดือนต่อมาภายในห้องบ่มเพาะของเย่หยวน เย่หยวนกำลังค่อยๆ ลืมตาเปิดขึ้น

คลื่นพลังของเขาในตอนนี้มันเหนือล้ำกว่าเก่าอย่างมาก

วายุศักดิ์สิทธิ์ของเขานั้นเล็กลงไปอีกครั้งเมื่อเทียบกับตอนที่เขาขึ้นอาณาจักรนภาสวรรค์มาใหม่ๆ แต่เจ้าลายศักดิ์สิทธิ์มันกลับเด่นชัดมากขึ้น

อาณาจักรลายพระเจ้าสองดาว!

แม้ว่ามันจะเป็นแค่อาณาจักรลายพระเจ้าสองดาวขั้นต้น แต่หากเอาแค่เรื่องความหนาแน่นของปราณเทวะแล้ว เย่หยวนนั้นมีปราณเทวะที่หนาแน่นเสียยิ่งกว่าอาณาจักรนภาสวรรค์สองดาวขั้นสุดเสียด้วยซ้ำ

และเจ้าสิ่งนี้นี่เองคือเคล็ดลับที่ทำให้เย่หยวนสามารถกระโดดข้ามขั้นต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งกว่าได้

ตุบ!

ประตูห้องบ่มเพาะค่อยๆ เปิดออกปล่อยให้เย่หยวนได้เดินออกมาด้านนอก

จู่ๆ ก็มีแสงสำขาวพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของเย่หยวนในวินาทีที่เขาออกมา

ลอบโจมตี!

การโจมตีนี้มันลงมืออย่างพอเหมาะพอดี ดูท่าแล้วอีกฝ่ายคงเตรียมตัวลงมือมานานพอสมควรโดยไม่คิดที่จะให้เย่หยวนได้มีโอกาสตอบโต้ใดๆ เลย

แต่ว่าเย่หยวนกลับใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติออกมาได้อย่างรวดเร็วกว่าอีกฝ่าย!

เมื่ออีกฝ่ายรู้ตัว ดาบของเขามันก็ถูกเย่หยวนดูดเข้าสู่ห้วงมิติไปแล้ว

จากนั้นเย่หยวนก็ยกมือทั้งสองขึ้นมาประกบจับดาบเล่มนั้นไว้ในทันที

และเรื่องราวทั้งหมดนี้มันก็เกิดขึ้นในเวลาแค่เสี้ยวพริบตา รวดเร็วจนมองไม่ทัน

ในสายตาของทุกผู้คนนั้นเรื่องราวยังไม่ทันเริ่มมันก็จบลงเสียแล้ว

“เจ้าเองรึ? สวรรค์มีทางแต่เจ้ากลับเลือกที่จะฝ่าลงนรก! ข้าอุตส่าห์ไว้ชีวิตแล้วไปแล้วแต่ตอนนี้เจ้ากลับเปลี่ยนจากแย่เป็นเลวร้าย”

เย่หยวนกล่าวออกมาด้วยความเย็นชา

ชายคนตรงหน้านี้ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากหานเซี่ยว

เขากลับไปรักษาตัวเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนถึงจะหายจากแผลในครานั้น

แต่ในใจของเขานั้น ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากเขาก็ยิ่งไม่อาจอดทนต่อไปได้ เพราะฉะนั้นหลายวันมานี้เขาจึงได้มานั่งรออยู่ในหอหน้าห้องบ่มเพาะของเย่หยวนและคิดที่จะสังหารเย่หยวนในวินาทีที่เขาออกมา

เขารู้สึกว่าการที่เย่หยวนเตะถูกเขาได้ในวันนั้นมันเป็นเพราะเขาไม่ระวังตัวเอง

ด้วยพลังอาณาจักรนภาสวรรค์สามดาวอย่างเขา หากเขาคิดลอบโจมตีแล้วเย่หยวนที่เป็นแค่นักยุทธอาณาจักรนภาสวรรค์หนึ่งดาวย่อมไม่มีทางที่จะหลบรอดไปได้!

น่าเสียดายที่เรื่องราวมันกลับผิดคาดไป

หานเซี่ยวรู้สึกว่าการลอบโจมตีนี้ของเขามันสมบูรณ์แบบ แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นเขาก็ยังทำพลาดลงอีกจนได้

วันนี้เขาได้รู้แล้วว่าการเตะของเย่หยวนนั้นมันไม่ใช่การลอบโจมตีใดๆ

แต่พลังฝีมือของอีกฝ่ายนั้นเป็นของจริง!

เขาพยายามอย่างมากที่จะดึงดาบกลับออกมา แต่แรงบีบของเย่หยวนนั้นมันเหมือนคีมเหล็กไม่ปล่อยให้ดาบขยับได้แม้แต่น้อย

“เด็กน้อย เจ้าคิดจะทำอะไร? ข้าเป็นคนตระกูลหาน หากเจ้ากล้าลงมือต่อข้าเจ้าไม่ได้ตายดีแน่!” เมื่อหานเซี่ยวได้เห็นว่าตัวเองไม่อาจต้านทานได้แล้วเขาจึงยกชื่อตระกูลมาขู่แทน

เย่หยวนกล่าวขึ้น “ตระกูลหาน? คนตระกูลหานมันมีนิสัยเหลือทนชอบทำตัวเลวทรามเสียยิ่งกว่ามนุษย์เช่นนี้หรือ? หากเจ้าคิดสังหารผู้คนก็เตรียมตัวถูกสังหารกลับด้วยสิ”

หานเซี่ยวหรี่ตามองพร้อมปล่อยดาบออกจากมือ พยายามที่จะวิ่งหนีออกไปทันที

เย่หยวนทำแค่หัวเราะออกมาก่อนจะขวางดาบนั้นออกจากมือ

‘ฟุบ!’

เมื่อลำแสงดาบนั้นพุ่งผ่านตัวเขาไป หัวใจของหานเซี่ยวก็กลายเป็นรูโบ๋เสียแล้ว

“แข็งแกร่ง! เขาเพิ่งบรรลุอาณาจักรนภาสวรรค์สองดาวมาได้แท้ๆ แต่กลับแข็งแกร่งได้ปานนี้เลยหรือ?”

“การลอบโจมตีเมื่อสักครู่นี้ต่อให้เป็นนภาสวรรค์สี่ดาวก็ใช่ว่าจะรับมือได้ง่ายๆ ใช่ไหม? แต่เจ้าหมอนี่มันกลับรับไว้ได้ง่ายๆ เลย!”

คนทั้งหลายต่างรู้และเห็นว่าหานเซี่ยวคิดมาแก้แค้นในวันนี้ พวกเขาจึงคิดว่าเย่หยวนจะต้องตายและมามุงดูเรื่องราวกัน

แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าฝ่ายที่ตายจะเป็นหานเซี่ยว ไม่ใช่เย่หยวน!

แต่ว่าการที่เย่หยวนกล้าสังหารคนตระกูลหานนี้มันก็ทำให้ผู้คนตื่นตกใจในความกล้าของเขามาก!

ท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงนั้นเย่หยวนค่อยๆ เดินออกมาจากหอรวมแก่นแท้พลังและเดินไปยังเส้นทางของร้านสุรา

หลังจากเลี้ยวไปมาอยู่นิดหน่อยเย่หยวนก็มาหยุดอยู่ในตรอกเปลี่ยวๆ แห่งหนึ่ง

“ตามมาถึงขนาดนี้ เจ้าไม่คิดที่จะลงมือใดๆ เลยจริงหรือ?” จู่ๆ เย่หยวนก็พูดขึ้น

นั่นทำให้ชายชุดเทาคนหนึ่งเดินออกมาจากความว่างเปล่าพร้อมดาบยาวในมือ

ชายชุดเทาคนนี้มีสายตาที่เย็นชาพร้อมด้วยจิตสังหารที่แรงกล้า แค่มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน

“เด็กน้อย เจ้านั้นเก่งกาจเสียจริงถึงขั้นจับรอยข้าได้!” เถี่ยยิงกล่าว

เย่หยวนยืนนิ่งไปนิดหน่อยก่อนจะพูดขึ้น “เจ้ามาสังหารข้า เจ้าไม่รู้เลยหรือว่าข้านั้นสำเร็จแนวคิดแห่งห้วงมิติ? เจ้าคิดจะเอาทักษะห่วยๆ ของเจ้ามาแสดงใดๆ ต่อหน้าข้ากัน? หากข้าเดาไม่ผิดเจ้าคงมาจากบ้านตระกูลเล้งสินะ?”

เถี่ยยิงหรี่ตาลงมองทันที “เจ้าฉลาดจริงๆ น่าเสียดายที่จะต้องตายในไม่ช้าเสียแล้ว!”

……………………….