บทที่ 454

“อืม” คุณท่านซ่งพยักหน้าเบาๆ

อู๋ตงไห่ก็ส่งสายตาให้อู๋ซิน

อู๋ซินก็รู้ความหมายในสายตาของพ่อตนเอง เขากำลังให้กำลังใจตนเองอยู่ ให้ตนเองไปเอ่ยปากเรื่องนี้กับซ๋งหวั่นถิง

จากนั้นมนาน ซ่งหวั่นถิงก็เดินเข้ามา พอเห็นอู๋ตงไห่และอู๋ซิน ก็อึ้ง แล้วก็รีบเดินเข้ามา แล้วก็ทักทายไป

อู๋ตงไห่ก็ยิ้มอยู่ด้านข้าง แล้วพูดกับซ๋งหวั่นถิงว่า “หวั่นถิง ผมกำลังพูดถึงคุณกับปู่คุณอยู่เลย”

ซ่งหวั่นถิงก็ถามอย่างแปลกใจว่า “พูดถึงฉันหรือคะ? ไม่ทราบคุณกับคุณปู่พูดอะไรถึงฉันหรือคะ?”

ในตอนนี้อู๋ซินก็มองซ่งหวั่นถิง สายตาจริงจังแล้วพูดว่า “หวั่นถิง พวกเราก็รู้จักกันตั้งแต่เด็ก ถือว่าเกือบจะเป็นคู่ตุนาหงันกันแต่เล็ก

บวกกับความสัมพันธ์อันดีของสองตระกูลเรา ก็เลยอยากจะกินดองให้สนิทสนมกับตระกูลซ่งให้มากกว่าเดิม ดังนั้น ผมก็เลยไปขอ

ให้พ่อผมมาสู่ขอคุณกับคุณปู่ซ่ง คุณปู่ซ่งบอกต้องถามคุณก่อน ไม่ทราบว่าคุณจะยอมให้โอกาสผมครั้งนี้ไหมครับ?”

ซ่งหวั่นถิงก็ทำตัวไม่ถูก แล้วพูดว่า “อู๋ซิน พวกเราก็ไม่ได้เจอกันหลายปี อยู่ดีๆ ก็มาเอ่ยเรื่องนี้ มันจะดูกะทันหันไปหน่อยไหม? ….”

อู๋ซินก็รีบพูดว่า “ถ้าหากว่าคุณคิดว่ามันกะทันหันไปหน่อย ผมสามารถค่อยๆ สร้างความสัมพันธ์กับคุณได้ เริ่มจากการค่อยๆ

ทำความรู้จักกัน คุณว่าอย่างไรครับ?”

ซ่งหวั่นถิงก็มองปู่ตนเอง จากนั้นก็ส่ายหัวอย่างขออภัยว่า “ขอโทษด้วยนะอู๋ซิน ฉันมีคนที่ชอบแล้ว………”

ในใจอู๋ซินก็หดหู่มาก แต่ก็ยังซักถามไปต่อ “หวั่นถิง ผมได้ยินปู่ซ่งบอกว่า คนที่คุณชอบ เป็นเพียงคนธรรมดา ไม่ได้เป็นลูกหลานตระกูลใหญ่ที่ไหน คุณเป็นถึงหลานสาวของตระกูลซ่ง ไปแต่งกับคนธรรมดา มันจะทำให้คนอื่นหัวเราะเยาะเอานะ!”

“ไม่หรอก” ซ่งหวั่นถิงพูดอย่างตั้งใจมากกว่า“เรื่องงานแต่งนี้ จะต้องแต่งกับคนที่ตนเองรักถึงจะถูก ถ้าแต่งด้วยเหตุผลอื่น มันจะเป็นการผิดหลักของการแต่งงาน”

พูดจบ เธอก็บอกอู๋ซินว่า “อู๋ซิน เมื่อครู่นายก็บอกไปแล้ว ว่าเรารู้จักกันตั้งแต่เด็ก ฉันก็ขอบอกนายว่า อย่าเลือกคู่ครองหรือแต่งงาน เพราะผลประโยชน์ของทางตระกูล งานแต่งงานเช่นนี้ มันไม่มียืดยาว และไม่มีความสุข”

อู๋ซินได้ยินดังนั้น ในใจก็หดหู่อย่างมาก

ให้ตายเถอะ ผมจะมาสู่ขอคุณ แต่คุณกลับปฏิเสธผม ยังจะบอกผมอีกว่า อย่าแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ของตระกูลอีกอย่างนั้นหรือ? พูดตอกหน้ากลับมาได้ไม่ธรรมดาเลยนะ! พูดนิดเดียวเจ็บไปถึงทรวง นี่หรือผู้หญิงที่อายุ20กว่า!

ในตอนนี้ อู๋ตงไห่ก็อึ้งอย่างมาก

เขาไม่คิดเลยว่า ซ่งหวั่นถิงไม่เพียงจะปฏิเสธคำขอของลูกชายตนเอง ยังใช้เหตุผลที่ว่า การแต่งงานเช่นนี้ไม่ยืดยาว ไม่มีความสุขอีกด้วย ปฏิเสธปิดทางทั้งหมด มันเป็นปฏิเสธอู๋ซินแบบหลายชั้นเลยทีเดียว!

ยิ่งตกใจกับความคิดของซ่งหวั่นถิง อู๋ตงไห่ก็ยิ่งหวังอยากจะให้ซ่งหวั่นถิงมาเป็นสะใภ้ตนเอง

ผู้หญิงเช่นนี้ ถ้าหากว่าสามารถมาเป็นสะใภ้ของตระกูลอู๋ได้ละก็ เธอก็จะเป็นผู้ช่วยที่ดีของลูกชายตนเองได้แน่ๆ

ในตอนนี้ ในใจของเขาก็ตัดสินใจว่า ผู้หญิงตระกูลซ่งคนนี้ ตระกูลอู๋จะต้องเอามาให้ได้

ดังนั้น อู๋ตงไห่ก็เลยเข้าไปตบไหล่อู๋ซิน ที่กำลังหดหู่ แล้วยิ้มพูดว่า “แกกับหวั่นถิงยังวัยรุ่นอยู่ สมควรที่จะเน้น เรื่องความรู้จักกัน เรื่องอิสระด้านการแต่งงาน ดังนั้นเรื่องนี้จะรีบร้อนไม่ได้ เพราะถึงอย่างไรพวกแกก็ยังเป็นวัยรุ่น ยังมีเวลาอีกมาก ยังไม่ต้องรีบ”

คุณท่านซ่งเห็นอู๋ตงไห่ไม่พูดจี้แล้ว ในใจก็โล่งอก ก็เลยพยักหน้าไป แล้วเรียกลุงวี พร้อมสั่งว่า “ไปจัดห้องให้ตงไห่และอู๋ซินเข้าพัก ต้องต้อนรับอย่าให้ได้ขาด แล้วก็ไปบอกทางห้องอาหาร ให้รีบจัดเตรียมอาหารกลางวัน เที่ยงนี้จะรับแขกคนสำคัญสองท่าน”

ลุงวีก็ตอบรับ แล้วพูดกับอู๋ตงไห่และอู๋ซินว่า “ทั้งสองท่านครับ เชิญตามกระผมไปที่ห้องพักเลยครับ”

อู๋ตงไห่พยักหน้า แล้วพูดกับคนตระกูลซ่งว่า “เช่นนั้น พวกผมก็ขอตัวไปพักที่ห้องก่อนนะครับ เดี๋ยวเจอกันที่ห้องอาหาร”

หลังจากบอกลาไป ทั้งสองก็ตามลุงวีออกมา แล้วไปยังห้องพัก

พอเข้าห้องพัก ก็ปิดประตู อู๋ซินก็รีบร้อนพูดว่า “พ่อครับ! ตาแก่ซ่งไม่ไหวหน้าใครเลย เขากล้าดูถูกผมงั้นหรือครับ?!”

อู๋ตงไห่ก็ยิ้มเบาๆ แล้วพูดว่า “อย่าเพิ่งร้อนใจ หลายวันนี้ต้องไปสืบเสียหน่อย ดูว่าซ่งหวั่นถิงมีคนที่รักแล้วจริงๆ หรือเปล่า ถ้ามีจริง พ่อ จะสืบให้รู้ให้ได้ว่ามันเป็นอินทร์พรมณ์องค์ไหนกัน!”

————