บทที่ 1813 คลื่นสัตว์อสูรที่น่าสะพรึงกลัว
คลื่นขนาดใหญ่สาดซัดอยู่ในสายธารแห่งกาลเวลา
เรือรบหมื่นปียิงดาบแสงพุ่งเข้าโจมตีรังกระเรียนใบไม้ร่วงอย่างต่อเนื่อง
ภายในรังกระเรียนใบไม้ร่วง กลุ่มผู้อมตะที่สิ้นหวังกล่าวกับกู้หลิวรู่ “ผู้อาวุโส โปรดจากไป!”
กู้หลิวรู่ลังเล
คนเหล่านั้นกล่าวต่อ “ภาคกลางสามารถสูญเสียพวกเราแต่ไม่สามารถสูญเสียท่าน สถานการณ์อันตรายเกินไป เราทุกคนจะถูกฆ่าหากเราพยายามหนีไปพร้อมกัน นอกจากนี้วังสวรรค์ยังส่งคําสั่งมา!”
เทพธิดาอเว่ยออกคําสั่งให้รังกระเรียนใบไม้ร่วงปิดกั้นเรือรบหมื่นปีเพื่อเปิดโอกาสให้กู้หลิวรู่หลบหนี
กู้หลิวรู่ถอนหายใจ “ข้าไม่คิดว่าสถานการณ์จะพัฒนามาถึงจุดนี้ ทุกคน การเสียสละของพวกเจ้าจะไม่สูญเปล่า!”
หลังจากนั้นเขาก็กระโดดออกจากรังกระเรียนใบไม้ร่วงและดําลงไปใต้น้ํา
ฟางหยวนเห็นเหตุการณ์นี้และตัดสินใจไล่ล่ากู้หลิวรู่ แต่รังกระเรียนใบไม้ร่วงพยายามปิดกั้นเขาโดยไม่คํานึงถึงตัวเอง
ฟางหยวนไม่สามารถจัดการรังกระเรียนใบไม้ร่วงได้ในระยะเวลาสั้นๆและทําได้เพียงมองกู้หลิวรู่จากไปเท่านั้น
“เช่นนั้นพวกเจ้าก็ไปตายซะ!” ฟางหยวนกันเสียงเย็นและโจมตีรังกระเรียนใบไม้ร่วงอย่างไร้ปรานี้
ภายใต้การโจมตีซ้ําๆของเรือรบหมื่นปี รังกระเรียนใบไม้ร่วงแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในที่สุด
ผู้อมตะมากกว่าสิบคนตกลงไปในสายธารแห่งกาลเวลาและกลายเป็นเหยื่อของฝูงอสูรปีที่กระหายเลือด
“สัตว์ร้าย หนีทาง!” ฟางหยวนตะโกนเสียงดัง เขาต้องการรับผลประโยชน์จาก
แต่อสูรปีมีมากเกินไป ผู้อมตะส่วนใหญ่ถูกกัดกินโดยอสูรปีโดยไม่เหลือแม้แต่ชิ้นส่วนซากศพ
“ปัง!”
เป็นเพียงเวลานี้ที่อสูรปีฉลูแรกกําเนิดพุ่งเข้าโจมตีเรือรบหมื่นปีและทําให้มันเกือบพลิกคว่ํา
หัวใจของผู้อมตะที่อยู่ในเรือรบหมื่นปีสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง
“ซ่อมเร็ว!”
“วิญญาณจํานวนมากถูกทําลาย!”
“อสูรปีแรกกําเนิดตัวนี้แข็งแกร่งมาก!”
ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจและเร่งตรวจสอบสภาพแวดล้อมอย่างระมัดระวัง
ตอนนี้อสูรปีแรกกําเนิดแปดตัวกําลังปิดล้อมเรือรบหมื่นปีอยู่ทุกทิศทาง
บางตัวอยู่ใกล้ บางตัวอยู่ไกล แต่ตัวที่ดูโดดเด่นที่สุดคืออสูรปีฉลูแรกกําเนิด
ดวงตาของฟางหยวนส่องประ
ค่ายกลวิญญาณอมตะสนามรบสิบสองราศียังขาดอสูรปีฉลูแรกกําเนิด!
หรือกระทั่งฟางหยวนจะมีอสูรปีฉลูแรกกําเนิดอยู่แล้ว แต่เขาก็ต้องการจับอสูรปีฉลูแรกกําเนิดตัวนี้ไปแทนที่
หลังจากทั้งหมดพลังอํานาจของค่ายกลวิญญาณอมตะสนามรบสิบสองราศีขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของอสูรปีแรกกําเนิด และอสูรปีฉลูแรกกําเนิดตัวนี้ก็มีความแข็งแกร่งที่โดดเด่นมากกว่าอสูรปีฉลูแรกกําเนิดทั่วไปอย่างชัดเจน
“แต่นี่ไม่ใช่เวลาปราบมัน” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่นก่อนออกคําสั่ง “ถอย!”
เรือรบหมื่นปีเริ่มล่าถอย
แต่ไม่ว่าเรือรบหมื่นปีจะหนีไปที่ใด ฝูงอสูรปีก็กีดขวางมันตลอดทาง
เช่นเดียวกับอสูรปีจอแรกกําเนิดที่พุ่งเข้ามากีดขวางเรือรบหมื่นปีอย่างไม่ลดละ
เรือรบหมื่นปียิงดาบรุ่งอรุณออกไปแต่ดาบรุ่งอรุณกลับแตกสลายเมื่อปะทะร่างกายของมัน
อสูรปีจอแรกกําเนิดกระโดดเข้าไปหาเรือรบหมื่นปีก่อนจะใช้เขี้ยวอันแหลมคมฉีกกระชากหัวเรือออกเป็นชิ้นๆ
“หนีเร็ว อสูรปีจอแรกกําเนิดตัวนี้มีวิญญาณอมตะ!” ฟางหยวนแสดงออกอย่างเย็นชา
ภายใต้สถานการณ์ที่สับสนวุ่นวาย เขาไม่ต้องการต่อสู้กับอสูรปีแรกกําเนิด
โชคดีที่อสูรปีต่อสู้กันเองเช่นกัน
อสูรปีจอแรกกําเนิดตัวนี้สามารถเอาชนะอสูรปีวอกแรกกําเนิดหลายตัวได้ด้วยตัวมันเพียงลําพัง
ฟางหยวนหันเรือรบหมื่นปีกลับไปทางอสูรปีวอกแรกกําเนิดอย่างชาญฉลาด จากนั้นเรือรบหมื่นปีก็เคลื่อนที่ผ่านช่องว่างระหว่างฝูงอสูรปีไปอย่างรวดเร็ว
อสูรปีจอแรกกําเนิดถูกปิดกั้นโดยอสูรปีวอกแรกกําเนิด
หลังจากหลบหนีไปเรื่อยๆ พวกเขาก็ไปถึงทางออกในที่สุด
แต่ในจังหวะนี้หนูตัวน้อยกลับปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันและวิ่งเข้าไปในเรือรบหมื่นปีราวกับสายฟ้าสีทอง
“โอ้ ไม่!”
“ฟางหยวน มันขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว!”
การแสดงออกของผู้อมตะในเรือรบหมื่นปีเปลี่ยนแปลงไป
เรือรบหมื่นปีแข็งแกร่งภายนอกแต่อ่อนแอภายใน หากอสูรปีชวดแรกกําเนิดอาละวาดอยู่ภายในเรือรบหมื่นปี มันอาจถูกทําลาย
ในช่วงเวลาสําคัญฟางหยวนไม่สามารถปกปิดความแข็งแกร่งเอาไว้ได้อีกต่อไป เขาปลดปล่อยพลังอํานาจระดับแปดออกมาและเผชิญหน้ากับอสูรปีชวดแรกกําเนิด
กรรไกรฤดูใบไม้ผลิระดับแปดพุ่งเข้าโจมตีอสูรปีชวดแรกกําเนิด
อสูรปีชวดแรกกําเนิดตัวนี้อยู่ในรูปลักษณ์ของหนูตัวน้อย มันมีร่างกายสีทองขนาดเท่ากําปั้นมนุษย์แต่มันดูแข็งแกร่งมาก
ฟางหยวนใช้กําลังทั้งหมดแต่อสูรปีชวดแรกกําเนิดตัวนี้กลับไม่เกรงกลัว
ดวงตาของมันส่องประกายขึ้น ก่อนที่จะมันจะกัดวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาและหลบหนี
มันจากไปในเสี้ยวพริบตา
“ท่านฟางหยวน แย่แล้ว วิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ําถูกหนูตัวนั้นขโมยไป!”
ฟางหยวนหัวเราะ “มันเป็นของปลอมที่ข้าสร้างขึ้น แม้มันจะเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาแต่มันไม่ใช่วิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ํา”
ฟางหยวนคิดค้นท่าไม้ตายอมตะล่าอสูรปีขึ้นมาด้วยตนเอง เขาจะไม่รู้จุดอ่อนของมันได้อย่าง
ดังนั้นเขาจึงเตรียมพร้อมสําหรับสถานการณ์นี้เอาไว้แล้ว
เมื่อเรือรบหมื่นปีได้รับความเสียหายถึงระดับหนึ่ง มันจะโยนเหยื่อชิ้นหนึ่งออกมาและทําให้อสูรปีเข้าใจผิด
วิธีนี้อาจไม่สามารถหลอกผู้อมตะของวังสวรรค์แต่อสูรปีมีสติปัญญาที่จํากัด พวกมันไม่เหมือนผู้อมตะระดับแปดที่ยิ่งใหญ่ของวังสวรรค์
หลังจากอสูรปีชวดแรกกําเนิดงับเหยื่อ มันจะดึงดูดกองทัพอสูรปีเข้าไปหา ขณะที่เรือรบหมื่นปีจะถูกละทิ้งและมีโอกาสหลบหนี
ในที่สุดเรือรบหมื่นปีก็หลุดออกจากวงล้อมของกองทัพอสูรปีที่น่าสะพรึงกลัว
หลังจากยืนยันความปลอดภัย ฟางหยวนนําเรือรบหมื่นปีกลับเข้าไปในมิติซ่องว่างจักรพรรดิทันที
เรือรบหมื่นปีเต็มไปด้วยรอยขีดข่วน อสูรปีชวดแรกกําเนิดฝากรูไว้ที่ด้านข้างตัวเรือ บนชั้นดาดฟ้าเรื่อยังมีรอยกรบเล็บหลายจุดราวกับถูกตัดด้วยใบมีด
วิญญาณระดับมนุษย์จํานวนนับไม่ถ้วนถูกทําลายในสงคราม วิญญาณอมตะจํานวนมากได้รับบาดเจ็บเช่นกัน กระทั่งวิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ํายังได้รับความเสียหาย
ภายนอกมันอาจดูเหมือนเรือรบหมื่นปีไม่บุบสลาย แต่ในความเป็นจริงมันพบความสูญเสียครั้งใหญ่
สายธารแห่งกาลเวลาเป็นหนึ่งในแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพ สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ที่นั่นล้วนไม่ธรรมดา แม้แต่ฟางหยวนก็ไม่สามารถจัดการพวกมันได้ในระยะเวลาสั้นๆ
หนึ่งในสิ่งที่ทําให้ฟางหยวนประทับใจเป็นอย่างมากก็คืออสูรปีแรกกําเนิดสามตัว
“แต่ทั้งหมดยังอยู่ในการคํานวณของข้า”
“อสูรปีแรกกําเนิดที่โจมตีเรือรบหมื่นปีถูกทําเครื่องหมายไว้แล้ว ข้าสามารถไปหาและกําหราบพวกมันในภายหลัง
“ข้าต้องเสี่ยงหากข้าต้องการสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะสนามรบสิบสองราศี
ฟางหยวนลอบถอนหายใจ
ค่ายกลวิญญาณอมตะสนามรบสิบสองราศีต้องใช้อสูรปีแรกกําเนิดสิบสองชนิดที่แตกต่างกัน ได้แก่ หนู วัว เสือ กระต่าย มังกร งูม้า แพะ ลิง ไก่ สุนัข และหมู
ในแต่ละช่วงเวลา สายธารแห่งกาลเวลาจะให้กําเนิดอสูรปีบางชนิดมากกว่าปกติ พวกมันจะกลายเป็นสายพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในปีนั้นๆและสามารถปราบปรามอสูรบีชนิดอื่น
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาของพวกมันสิ้นสุดลง พวกมันจะถูกอสูรปีชนิดอื่นกดดัน สุดท้ายมันจะเหลือเพียงตัวที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่รอดชีวิต
เช่นเดียวกับอสูรปีฉลูแรกกําเนิด อสูรปีจอแรกกําเนิด และอสูรปีชวดแรกกําเนิดทั้งสามตัวที่ฟางหยวนพึ่งพบ พวกมันเป็นหลักฐานที่ดีที่สุดสําหรับเรื่องนี้
ฟางหยวนสามารถรวบรวมอสูรปีแรกกําเนิดบางชนิดได้อย่างง่ายดายเพราะพวกมันเป็นอสูรปีประจําปีที่มีจํานวนมากเป็นพิเศษ นอกจากนั้นความแข็งแกร่งส่วนตัวของพวกมันยังแตกต่างกัน
การฟื้นฟูเรือรบหมื่นปีไม่ใช่เรื่องยาก
วิญญาณระดับมนุษย์สามารถเติมเต็มอย่างง่ายดายขณะที่อาการบาดเจ็บของวิญญาณอมตะต้องใช้เวลาและความพยายามเล็กน้อย แต่ฟางหยวนมีค่ายกลวิญญาณอมตะวิญญาณก่อนหน้า!
รากฐานบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของฟางหยวนแข็งแกร่งเกินไป เขาสามารถรักษาวิญญาณอมตะเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย
“มิติช่องว่างของผู้อมตะภาคกลางเหล่านั้นว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง ดูเหมือนเทพธิดาจื่อเว่ยได้เรียนรู้บทเรียนของนางแล้ว” ฟางหยวนยิ้ม
ทรัพยากรทั้งหมดของผู้อมตะภาคกลางเหล่านั้นถูกนําออกไปก่อนการต่อสู้เพราะเทพธิดาจื่อเว่ยเกรงว่าทรัพยากรเหล่านั้นจะตกอยู่ในมือของฟางหยวน
ฟางหยวนไม่สนใจเรื่องนี้
หลังจากทั้งหมดทรัพยากรเล็กๆน้อยๆเหล่านั้นไม่มีความสําคัญกับเขา
“ต่อไปข้าต้องซ่อมเรือรบหมื่นปีและกลับไปยังสายธารแห่งกาลเวลา เพื่อจับอสูรปีแรกกําเนิดที่ยังขาดอยู่”
“จากนั้นข้าจะสํารวจอาณาจักรแห่งความฝัน มีอาณาจักรแห่งความฝันกองใหญ่ที่ข้ารีดไถมาจากกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้รอข้าอยู่”
ฟางหยวนรู้สึกถึงเวลาที่กระชั้นชิดเข้ามา
อีกไม่นานถ้ําสวรรค์ห้าเชียงจะเปิดออก การเดิมพันจากยุคโบราณกําลังจะสิ้นสุดลง
“ข้าทําได้เพียงทําทุกสิ่งให้ดีที่สุดเท่านั้น” ฟางหยวนถอนหายใจ
ในเวลาเดียวกันเทพธิดาจื่อเว่ยก็ถอนหายใจอยู่ในวังสวรรค์เช่นกัน
นางเต็มไปด้วยความกังวล วังสวรรค์พ่ายแพ้ในสายธารแห่งกาลเวลาอีกครั้ง
ความแข็งแกร่งของเรือรบหมื่นปีทําให้นางรู้สึกหมดสิ้นหนทาง
นางรู้ว่าฟางหยวนกําลังล่อลวงให้พวกนางเข้าไปในสายธารแห่งกาลเวลา แต่มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงมีความสําคัญมากเกินไป แม้นางจะรู้ว่ามันเป็นกับดัก แต่นางก็ต้องงับเหยื่อของเขา
“แม้มันจะเป็นหลุมเลือด เราก็ต้องกระโดดลงไป! วังสวรรค์ไม่เคยกลัวการเสียสละ!” ดวงตาของเทพธิดาจื่อเว่ยส่องประกายแหลมคมแต่นางยังขมวดคิ้วอีกครั้ง “แต่เราต้องเปลี่ยนคฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา มันจะเป็นความสําเร็จอันยิ่งใหญ่ตราบเท่าที่เราสามารถหยุดฟางหยวนจากการรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง!”