ตอนที่ 795 วันออกเดินทาง

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 795 วันออกเดินทาง

เทียนเจี้ยนมาคนเดียว เขาดูคล้ายกับคนธรรมดา แต่เสื้อผ้าสีขาวของเขาดูเหมือนจะมีกลิ่นอายของสวรรค์ ลมแรงขึ้นสูงบนท้องฟ้าทำให้อาภรณ์ของเขาปลิวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผมสีดำยาวของเขาเองก็ลอยอยู่ในอากาศ

เทียนเจี้ยนมองเจี้ยนเฉินด้วยท่าทางที่ซับซ้อน ข้าไม่เคยคิดว่า เจ้าจะมาไกลถึงที่นี่ เจี้ยนเฉิน โชคดีที่ข้าได้ทิ้งเครื่องหมายไว้ที่ตัวเจ้า ไม่งั้นคงหาเจ้าไม่ได้ง่าย เจี้ยนเฉินตอนนี้ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบกำลังค้นหาเจ้าทั้งทวีป เจ้าไม่เหมาะที่จะอยู่ที่ทวีปเทียนหยวนอีกต่อไปแล้ว เจ้าควรรีบออกไปโดยเร็ว

ได้ยินอย่างนั้น สีหน้าของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขารีบกล่าวว่า อาวุโส ตอนนี้เสือขาวมีสถานที่ที่จะซ่อนตัวได้แล้ว ซึ่งไม่ต้องกังวลว่าจะถูกพบอีก นอกจากนี้ทวีปเทียนหยวนยังใหญ่มาก ถ้าข้าซ่อนตัวได้ดี มันย่อมเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะหาข้าได้

สถานที่ซ่อนตัวที่เจ้ากล่าว คงเป็นวัตถุเซียนของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงล่ะสิ เทียนเจี้ยนจ้องเขม็งไปที่เจี้ยนเฉิน เวลานี้ความตกใจภายในใจของเจี้ยนเฉินได้แต่เพิ่มขึ้น ไม่เพียงแต่เขาได้รับสหายคู่ใจอย่างพยัคฆ์ปีกเทวะที่มีพันธะที่ลึกซึ้งกับมันตั้งแต่ที่มันยังเป็นลูกเสือตัวเล็ก ๆ อยู่ แม้กระทั่งจิตวิญญาณม่านพลังของเมืองทหารรับจ้างที่ได้ปรากฏนาน ๆ ครั้งก็ดูเหมือนจะมีความผูกพันอันลึกลับกับเขา

และตอนนี้แม้แต่วัตถุเซียนที่เคยดำรงอยู่นานหลายปีนับไม่ถ้วนก็ยังติดตามเจี้ยนเฉิน พฤติกรรมแบบนี้ดูเหมือนจะบอกเทียนเจี้ยนว่าชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขาไม่สามารถเปรียบเทียบกับอัจฉริยะทั่วไปคนอื่น ๆ ได้

เจี้ยนเฉินพยักหน้า ถูกของผู้อาวุโส มันเป็นวัตถุเซียน ตระกูลผู้พิทักษ์จะไม่สามารถหาตัวมันได้ หากลูกเสืออยู่ที่นั่น

ไม่ มันไม่ง่ายอย่างที่เจ้าคิดหรอก เทียนเจิยนค่อย ๆ ส่ายหัว เจี้ยนเฉิน เจ้าเคยยืนอยู่ที่สมาคม เจ้าคงจะได้เข้าใจว่าวัตถุเซียนมีความหมายกับพวกเขาอย่างไร ตอนนี้เจ้าได้เอาวัตถุเซียนมาแล้ว เจ้าได้ขโมยความแข็งแกร่งของสมาคมไปแล้ว ในอนาคตผู้ที่ค้นหาเจ้าอาจจะไม่ใช่เพียงแค่ตระกูลผู้พิทักษ์เท่านั้น สมาคมจะไม่ยอมปล่อยให้เจ้าไป เพราะว่าวัตถุเซียนนั้นมีความสำคัญกับพวกเขามากเกินไป

เจี้ยนเฉินไม่ได้พูดสิ่งใด เขาไม่เข้าใจว่าเทียนเจี้ยนกำลังพูดถึงเรื่องอะไร ? มันเป็นเพียงวัตถุเซียนสนับสนุนซึ่งในตอนนี้มันมีคุณค่าสำหรับเขามาก ไม่เพียงแต่เป็นความหวังเดียวของเขาที่จะไปถึงระดับ 7 ซ้ำยังเป็นที่ซึ่งเสือขาวซ่อนตัวอยู่ด้วย ตอนนี้เจี้ยนเฉินมีหลายเรื่องมากเกินไปสำหรับการส่งคืนวัตถุเซียนชิ้นนี้

นอกจากนี้ วัตถุเซียนในตอนนี้มีจิตสำนึก มันมีความคิดเป็นของตัวเองและมันก็เป็นวัตถุเซียนเองที่เลือกจะติดตามเขา มันแม้แต่เลือกเขาเป็นเจ้านายของมันด้วยซ้ำ เจี้ยนเฉินจะพยายามทำให้ถึงที่สุด แม้ว่าเขาจะต้องการคืนมันก็ตาม

ร่างประธานและผู้อาวุโสสูงสุดแวบข้ามาในความคิดของเจี้ยนเฉิน เขาอดรู้สึกกระดากใจไม่ได้ เขาไม่เพียง แต่สร้างปัญหาใหญ่ให้กับสมาคมเท่านั้น

ท่านประธาน ผู้อาวุโสสูงสุด ในอนาคตเจี้ยนเฉินจะชดเชยความเสียหายของท่านให้หลายเท่า”เจี้ยนเฉินกล่าว

เจี้ยนเฉิน วัตถุเซียนอยู่คู่กับสมาคมมานานแสนนาน แม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าสมาคมจะมีวิธีใดในการค้นหาวัตถุเซียน หนำซ้ำในขณะนี้ตระกูลผู้พิทักษ์ใช้กำลังทั้งหมดออกค้นหาทั่วทั้งทวีปแล้ว ในตอนนี้พวกเขายังคงรวบรวมภาพวาดของเจ้าอยู่ ดังนั้นในอนาคตอันใกล้นี้ภาพวาดเหล่านั้นจะแผ่กระจายไปทั่วทวีป เมื่อถึงเวลานั้นทวีปเทียนหยวนจะไม่มีที่ไหนอีกแล้วที่เจ้าสามารถอยู่ได้

ผู้อาวุโส ข้าควรทำอย่างไรดี ? ข้าต้องออกจากทวีปจริง ๆ หรือ ? แม้ว่าข้าจะเดินทางไปที่ทวีปสัตว์เทวะ ผู้เชี่ยวชาญของทวีปสัตว์เทวะก็จะค้นหาข้าเหมือนกัน เจี้ยนเฉินรู้สึกหนักใจมาก

หลังจากคิดถึงบางอย่าง เทียนเจี้ยนได้พึมพำออกมาว่า บางทีอาจจะมีอีกหนึ่งที่ที่เจ้าสามารถไปได้ มีเพียงสถานที่นี้เท่านั้นที่สามารถปกป้องเจ้าจากทั้งตระกูลผู้พิทักษ์และทวีปสัตว์เทวะได้

มันอยู่ที่ไหนหรือ ? เจี้ยนเฉินถามขึ้นทันที

เผ่าพันธุ์ทะเล ! เทียนจินกล่าวอย่างช้า ๆ

เผ่าพันธุ์ทะเล สี่เผ่าพันธุ์โบราณ ? เจี้ยนเฉินถามด้วยความตกตะลึง

เทียนเจี้ยนพยักหน้าและยืนยันว่า ถูกต้องเผ่าพันธุ์ทะเลของสี่เผ่าพันธุ์โบราณ เวลานี้มีเพียงเผ่าพันธุ์ทะเลที่ครอบครองพลังที่สามารถทำให้ทั้งตระกูลผู้พิทักษ์และทวีปสัตว์เทวะเกรงกลัวได้ เป็นเพราะเทพแห่งท้องทะเลในสมัยโบราณนั้นยังไม่ตาย เมื่อพันปีที่ผ่านมา ข้าสัมผัสได้ว่าเทพเจ้าแห่งท้องทะเลยังมีชีวิตอยู่

ได้ยินดังนั้น เจี้ยนเฉินสั่นไหวอย่างรุนแรง เขาตกใจมาก

สี่สุดยอดจอมยุทธของสมัยโบราณ เป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุด โมเทียนหยวน, พยัคฆ์ปีกเทวะ เทพเจ้าสงครามของร้อยเผ่าพันธุ์, และเทพเจ้าแห่งท้องทะเลของหุบเหวทะเลลึก ทั้งสี่บุคคลอยู่ในระดับที่ทุกสรรพชีวิตต้องแหงนมอง พวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีระดับมากกว่าเซียนจักรพรรดิ

เจี้ยนเฉิน ข้าจะพาเจ้ากลับไป เจ้าไม่สามารถอยู่ที่ทวีปเทียนหยวนได้อีกแล้ว ข้าจะส่งเจ้าไป หลังจากที่เจ้าจัดการเรื่องเบ็ดเตล็ดที่เจ้าต้องจัดการเสร็จแล้ว เทียนเจี้ยนถอนหายใจเบา ๆ นี่เป็นวิธีเดียวที่จะปกป้องเจี้ยนเฉิน ไม่นานหลังจากนั้นเขาค่อย ๆ โบกมือและพลังที่มองไม่เห็นห่อหุ้มเจี้ยนเฉินและดูดเขาเข้าสู่ประตูมิติ

เมื่อเจี้ยนเฉินปรากฏตัวอีกครั้ง เขาก็อยู่นอกเมืองลอร์ในอาณาจักรเกอซุน เทียนเจี้ยนเองก็ตามเขาไปด้วย

เจี้ยนเฉินไปจัดการกับสิ่งที่เจ้าต้องการที่บ้านของเจ้าเถิด ข้าจะรอเจ้าที่นี่ เทียนเจี้ยนกล่าวอย่างใส่ใจ

เจี้ยนเฉินไม่ได้กล่าวถ้อยคำใด ๆ ตอบกลับ เขากำลังจะออกจากทวีปเทียนหยวนและเขาก็ไม่มีความสุขเพราะเขารู้ว่าเขาจะต้องทิ้งสหายและครอบครัวไว้ เมื่อเขาจากไปเขาก็ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาอีกครั้งเมื่อไหร่ บางทีเขาอาจจะกลับมาหลังจากที่เขามีความแข็งแกร่งพอที่จะปัดเป่าทั้งตระกูลผู้พิทักษ์และทวีปสัตว์เทพอสูร อย่างไรก็ตามเขาไม่ทราบว่าวันนั้นไกลแค่ไหน

บางทีเขาอาจต้องใช้เวลาหลายพันปีก่อนที่เขาจะสามารถกลับมา ตอนนั้นทุกคนคงจะเปลี่ยนไปแล้ว

เจี้ยนเฉินมีความอ้างว้างที่ไม่อาจอธิบายได้ เขาบินไปยังคฤหาสน์เจียงหยางแห่งเมืองลอร์ด้วยจิตใจที่หนักอึ้ง

ปัจจุบันในเมืองลอร์ เรื่องเกี่ยวกับการตามหาพยัคฆ์ปีกเทวะได้แพร่กระจายไปจากปากสู่ปาก ขณะนี้ถึงขั้นที่เกือบทุกคนในทวีปเทียนหยวนรู้เกี่ยวกับพยัคฆ์ปีกเทวะ

เจี้ยนเฉินกลับไปที่คฤหาสน์ การมาถึงของเขาทำให้สถานที่นี้กลายเป็นสถานที่ที่มีชีวิตชีวา ซึ่งเหล่าผู้อาวุโสจำนวนมากต่างรีบวิ่งออกมาและล้อมรอบเขาราวกับดวงดาวโอบล้อมดวงจันทร์ พวกเขาต่างถามว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง การแสดงออกของพวกเขาต่างเต็มไปด้วยมารยาทและความกังวลพร้อมกับความภาคภูมิใจ ขนาบไปทั้งสองอารมณ์

หลังจากคุยกับทุกคนในคฤหาสน์แล้ว เขาก็เรียกลุงเจียงไปที่ห้องของเขา เขาได้สร้างม่านโปร่งใสรอบ ๆ ห้องด้วยการโบกของมือของเขา

เมื่อมองจากพฤติกรรมของเจี้ยนเฉิน ลุงเจียงรู้ว่าเจี้ยนเฉินอยู่ในสภาวะไม่ดี บางทีอาจมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น ? ดูจากความรอบคอบของเจี้ยนเฉิน ลุงเจียงจึงเริ่มเคร่งขรึมมากขึ้นและถามว่า นายน้อยสี่ ทำไมท่านถึงระมัดระวังนักล่ะ หรือว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ? “

เจี้ยนเฉินหันกลับไปมองที่ห้องของเขา เขาห้ามไม่ได้ที่จะนึกภาพเก่า ๆ ผ่านตาของเขา เขาถอนหายใจอย่างนุ่มนวลพลางกล่าวว่า ลุงเจียง ข้าต้องออกไปจากที่นี่สักระยะหนึ่งและระยะเวลานั้นอาจยาวนานมาก

นายน้อย มีเรื่องอะไรใหญ่โตเกิดขึ้นหรือ ? ใบหน้าของลุงเจียงเต็มไปด้วยความกังวล

เจี้ยนเฉินพยักหน้าเล็กน้อย มีบางสิ่งเกิดขึ้น ท่านลุงเจียงหลังจากข้าออกเดินทางไป ตระกูลจะอยู่ในความดูแลของท่าน

นายน้อย ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลเลยเรื่องตระกูล จงระวังให้มาก เสียงของลุงเจียงนั้นเต็มไปด้วยความห่วงใย เขาสามารถคาดเดาได้ว่าเจี้ยนเฉินนั้นอาจยังมีศัตรูที่ทรงพลังมากที่อยู่ข้างนอก

เจี้ยนเฉินได้นำแกนอสูรระดับ 6 หลายสิบอันออกจากแหวนมิติและวางไว้บนโต๊ะ เขากล่าวว่า ท่านลุงเจียง แก่นอสูรระดับ 6 เหล่านี้จะช่วยให้ท่านบ่มเพาะได้เป็นอย่างดี ข้าไม่จำเป็นต้องใช้พวกมันอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นข้าควรใช้พวกมันเสีย ข้าหวังว่าในครั้งต่อไปที่เราพบกัน ท่านลุงเจียงจะไปถึงขอบเขตเซียนผู้คุมกฎแล้ว

เจียนเฉิงกล่าวกับลุงเจียนอีกสองสามอย่างก่อนที่จะออกจากห้อง จากนั้นเขาก็เดินไปที่ลานด้านหลังของคฤหาสน์ที่อาคารเล็ก ๆ เงียบสงันที่ซึ่งพี่ชายคนโตเจียงหยางหู่พักอยู่

ลุงเจียงเฝ้าดูแก่นอสูรที่เจี้ยนเฉินทิ้งไว้เบื้องหลัง โดยจ้องมองพวกมันอย่างซับซ้อนก่อนที่จะค่อย ๆ เก็บพวกมันลงไปในแหวนมิติทีละอัน หลังจากนั้นเขามองออกไปนอกหน้าต่างอย่างไม่เต็มใจนักราวกับว่าเขานึกย้อนไปถึงความทรงจำที่เก่าแก่บางอย่าง

หลังจากนั้นไม่นานที่ลุงเจียงพึมพำออกมาอย่างรวดเร็ว ตอนที่บรรดาตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบของทวีปโผล่ออกมาข่าวคราวการค้นพบพยัคฆ์ปีกเทวะได้แผ่กระจายไปทั่วทุกหนทุกแห่ง และลูกเสือที่เคยเดินทางไปกับนายน้อยสี่ดูเหมือนจะคล้ายคลึงกับมันมาก บางทีแท้จริงแล้วมันอาจเป็นพยัคฆ์ปีกเทวะหรือไม่ ? มิฉะนั้นด้วยความแข็งแกร่งของนายน้อยย่อมไม่ถูกบังคับให้เข้ามาอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้แน่

นายท่านจากไปหลายร้อยปีแล้ว มีเวลาไม่มากนักจนกว่าจะสิ้นสุดอายุขัยของท่าน ท่านไปอยู่ที่ไหน ถ้าบรรพบุรุษได้รู้ว่าท่านออกไปโดยเหลือทิ้งอัจฉริยะที่ไม่เคยมีมาก่อนของตระกูลเจียงหยางไว้เบื้องหลัง ข้าคิดว่าท่านบรรพชนคงจะให้ยกโทษให้ท่านและถอนบทลงโทษของท่าน พวกเขาน่าจะช่วยให้ท่านประสบความสำเร็จในฐานะเซียนผู้คุมกฎ

ขณะที่ลุงเจียงรำพึง น้ำตาขุ่น ๆ 2 หยดไหลกลิ้งลงมาตามใบหน้าของเขา

เจี้ยนเฉินมาถึงอาคารเล็ก ๆ ที่พี่ชายคนโตอยู่ เขาเห็นพี่ชายของเขานั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นโดยให้สาวใช้คนหนึ่งคอยพยุง

พี่ใหญ่ ! เจี้ยนเฉินตะโกนตรงไปยังทางเจียงหยางหู่

อ่า นี่คงเป็นนายน้อยสี่ สาวใช้ผู้นี้ขอคารวะนายน้อยสี่ ทันทีที่สาวใช้เห็นเจี้ยนเฉิน นางรู้สึกประหลาดใจและรีบคำนับเจี้ยนเฉิน

น้องสี่ ในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้ว เจียงหยางหู่มองไปที่เจี้ยนเฉิน รอยยิ้มที่ใส่ใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา แต่น้ำเสียงของเขายังคงสงบอยู่และปราศจากอารมณ์ขุ่นมัวใด ๆ

เจี้ยนเฉินรีบเดินไปที่เจียนหยางฮูและไล่สาวใช้ออกไป หลังจากนั้นเขาก็ผลักรถเข็นด้วยตนเองพาเจียงหยางหู่ไปที่ลาน

เจี้ยนเฉินเหลือบมองผ่านพุ่มไม้ดอกและพูดเบา ๆ ว่า พี่ชาย ข้ามาในเวลานี้เพื่ออำลา

เจียงหยางหู่ยิ้มเล็กน้อย น้องชาย ทำไมเจ้าถึงไม่อยู่อีกสักครู่ล่ะในตอนนี้ แทนที่จะรีบร้อนไปใย เจ้าใช้เวลาในคฤหาสน์ไปกี่วันเองหรือ ? “

ได้ยินอย่างนั้น เจี้ยนเฉินหัวเราะแห้ง ๆ ออกมาก่อนที่จะผลักดันรถเข็นเข้าอาคาร เขากล่าวว่า พี่ชาย คนอื่น ๆ ข้าอำลามาแล้ว ซึ่งข้ามาในครั้งนี้มีบางอย่างที่นอกเหนือจากการอำลาท่าน นั่นก็คือการรักษาแขนขาของท่าน