ตอนที่ 1388 ขัดแย้ง โดย Ink Stone_Fantasy

พระผู้สร้าง น่านฟ้าเหนือสันหลังของทวีป

สกายลอร์ดเดินลงมาด้านล่างหอคอย ก่อนจะก้าวอาดๆ เข้าไปในถ้ำใต้ดินที่ถูกปรับปรุงขึ้นมาใหม่

ก่อนที่เมืองแห่งนี้จะกลายมาเป็นพระผู้สร้าง มันเคยเป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ที่มีชื่อเสียงของแบล็คสโตน และมีประวัติศาสตร์มาเกือบพันปี มันเคยเข้ามาที่นี่หลายครั้ง โครงสร้างถ้ำที่สลับซับซ้อนไม่สามารถสร้างปัญหาให้กับมันได้ สิ่งเดียวที่ทำให้มันรู้สึกหงุดหงิดก็คือเดอะแมสก์ นาซเพล

“ท่านสกายลอร์ด นายของข้ากำลังทำการทดลองที่สำคัญอยู่ ไม่ทราบว่าท่านได้แจ้งนายท่านเอาไว้ก่อนหรือเปล่าขอรับ?” ตรงหน้าประตูลานทดลอง ร่างระดับต้นตัวหนึ่งมายืนขวางหน้าเฮคซอดเอาไว้ ในฐานะที่เป็นข้ารับใช้ของเดอะแมสด์ มันย่อมต้องเลือกทางเดินเดียวกับราชาที่ตัวเองรับใช้ หัวสองหัวถูกหินเวทมนตร์เชื่อมต่อเอาไว้ ดูแล้วทั้งแปลกประหลาดและน่าเกลียด

“ไสหัวไป!” เฮคซอดไม่ได้สนใจคำพูดของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย มันยกมือขึ้นมาเตรียมจะตบข้ารับใช้ให้กลิ้งลงไปกับพื้น

หากเป็นร่างระดับต้นสายต่อสู้ บางทีมันอาจจะมีการลังเลอยู่บ้าง แต่เดอะแมสก์ที่หมกมุ่นอยู่กับการเปลี่ยนสภาพร่างกาย หินเวทมนตร์ส่วนใหญ่ที่หลอมรวมเข้ากับร่างกายของมันจึงไม่เหมาะกับการต่อสู้ ดังนั้นความสามารถของร่างระดับต้นที่ติดตามมันจะเป็นอย่างไรก็คงพอจะรู้ๆ กันอยู่

น่าจะเป็นเพราะรับรู้ได้ถึงความโกรธของสกายลอร์ด ข้ารับใช้จึงหุบปากทันที

เฮคซอดผลักประตูบานใหญ่เข้าไป ก่อนจะเดินเข้าไปในลานทดลองโดยไม่หันหน้ากลับมามอง การที่มันไม่เปิดประตูมิติแล้วโผล่ไปอยู่หน้าเดอะแมสก์เลยก็ถือเป็นการให้เกียรติอีกฝ่ายมากแล้ว

ด้านหลังประตูคือถ้ำที่กว้างขวางแห่งหนึ่ง

ด้านบนเพดานถ้ำมีหินเรืองแสงถูกฝังเอาไว้ ดูแล้วเหมือนท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาว ส่วนใต้เท้านั้นคือร่างชั้นต่ำที่เบียดเสียดยัดเยียดกัน จำนวนของพวกมันมีมากกว่าหินเวทมนตร์ ส่วนใหญ่แล้วพวกมันจะมีรูปร่างเหมือนหนอน และตอนนี้พวกมันถูกขังอยู่ในรั้วเหมือนสัตว์ ทนทุกข์ทรมานจากการถูกกระตุ้นซ้ำๆ ด้วยแกนพลังเวทมนตร์

เฮคซอดขมวดคิ้วขึ้นมา

ถึงแม้จะเป็นร่างชั้นต่ำ แต่พวกมันก็เป็นร่างชั้นต่ำที่ไร้ประโยชน์มากที่สุด เมื่อไม่มีแขนขาก็หมายความว่าไม่สามารถทำงานได้ สติปัญญาอันต่ำเตี้ยเรี่ยดินทำให้แม้แต่จะฝึกให้เชื่องก็ยังไม่สามรถทำได้ แต่จากการค้นพบโดยบังเอิญในระหว่างทดลอง ทำให้พบว่าพวกมันมีเปอร์เซ็นต์ในการรวมร่างเข้ากับสิ่งมีชีวิตอื่นสูงที่สุด มันคือร่างปรสิตในอุดมคติ

แต่แน่นอน ไม่ใช่ว่าร่างชั้นต่ำพวกนี้จะมีชีวิตอยู่ตรงกระทั่งสงเสียงสะท้อนตอบรับกับหินอาญาสิทธิ์ที่เติบโตขึ้นมาได้ พวกที่ตายไปจะกลายเป็นปุ๋ยให้กับร่างชั้นต่ำกลุ่มต่ำไป ส่วนพวกที่สามารถปรับตัวได้สำเร็จก็จะกลายเป็นอาวุธ

สกายลอร์ดย่อมไม่มีทางเห็นใจพวกชั้นต่ำที่ไม่สามารถแม้กระทั่งสื่อสารได้พวกนี้ เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนนี้ที่พวกมันไม่สามารถทำประโยชน์อะไรได้ อย่างน้อยในตอนนี้พวกมันก็สามารถกลายเป็นกำลังให้กับเผ่าพันธุ์ได้ สิ่งที่มันรู้สึกไม่พอใจก็คือรสนิยมแปลกๆ ของเดอะแมสก์

เห็นๆ อยู่ว่ากระบวนการแปลงสภาพสามารถทำในถ้ำที่ปิดได้ แต่อีกฝ่ายกลับจงใจทำมันในที่ๆ สะดุดตา สะพานสูงใหญ่สี่สะพานจากทั้งสี่ด้านทอดผ่านด้านบนร่างชั้นต่ำจำนวนนับหมื่นพวกนี้ ก่อนจะเชื่อมต่อกับเสาหินขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางถ้ำ ทุกครั้งที่ต้องเข้าไปในกลางลานทดลอง ก็จะถูกบังคับให้ต้อง ‘ชื่นชม’ ผลงานที่อีกฝ่ายภาคภูมิใจพวกนี้

ร่างที่คืบคลานกลิ้งไปกลิ้งมาของพวกชั้นต่ำ เสียงร้อยโหยหวนจากความเจ็บปวด กลิ่นที่แสบจมูกของปฏิกูล และกองชิ้นส่วนที่เหม็นเน่าของผลงานการทดลองที่ล้มเหลว ทำให้ทั่วทั้งถ้ำเต็มไปด้วยบรรยากาศที่น่าสะอิดสะเอียน คนปกติทั่วไปไม่มีใครชื่นชอบสถานที่แบบนี้แน่นอน แต่เดอะแมสก์กลับเอาห้องทดลองมาตั้งไว้บนเสาหิน เฮคซอดถึงขนาดสงสัยว่าสมองของมันเกิดความเสียหายระหว่างที่ทำการวมร่างกับหินเวทมนตร์หรือเปล่า มันถึงได้ยิ่งดูเลอะเทอะขึ้นทุกวัน

เมื่อเดิมข้ามสะพานมา มันจึงมองเห็นนาซเพลอยู่ในห้องแปลงสภาพชั้นบน

เมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า สกายลอร์ดพลันรู้สึกได้ถึงไฟแห่งความโกรธที่ปะทุขึ้นมา มันเห็นเดอะแมสก์กำลังเดินไปรอบๆ ซากนกเหล็กที่ลูกน้องของมันลากกลับมา รอบๆ มีขุนนางมนุษย์ที่ไม่รู้เป็นหรือตายนอนอยู่หลายคน ขุนนางคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ถูกอีกฝ่ายคว้าจับเอาไว้ในมือ สีหน้าดูหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด บนกางเกงมีรอยเปียกซึมอย่างชัดเจน

“นาซเพล!” มันส่งเสียงคำราม “ใครอนุญาตให้เจ้าลงมือกับคนที่ข้ามาพา? ต่อให้เจ้าอยากจะทำการทดลอง เจ้าก็ควรจะได้รับอนุญาตจากข้าก่อนถึงจะถูก!”

ไม่แปลกที่มันจะโกรธเช่นนี้ มันลำบากแทบตายกว่าจะเคลื่อนย้ายมนุษย์ไปที่รอยแตก จากนั้นจึงส่งพวกเขาขึ้นมาที่พระผู้สร้าง เพื่อเป็นการตัดกำลังของพวกเกรย์คาสเซิล แล้วก็ยังเป็นการเพิ่มแรงงานภายในเมืองด้วย เรียกได้ว่าแผนการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าตอนที่พามนุษย์มนุษย์กลุ่มหนึ่งขึ้นมาบนพระผู้สร้าง ขุนนางจากอีเทอร์นอลวินเทอร์คนหนึ่งพลันวิ่งหน้าตาตื่นมาหาเขา บอกว่าเพื่อนขุนนางหลายคนถูกทหารยามลากตัวไป จนถึงตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง

นี่คือการทำลายระเบียบที่มันสร้างขึ้นมาอย่างยากลำบากอย่างไม่ต้องสงสัย

สิ่งที่ทำให้เฮคซอดรู้สึกไม่พอใจมากที่สุดก็คือแทนที่จะจำเอาชาวบ้านธรรมดามาทำการทดลอง อีกฝ่ายกลับเลือกจับมาแต่ขุนนาง — ขุนนางนั้นคือหัวใจสำคัญในการควบคุมชาวเมืองระดับล่าง ถ้าไม่มีขุนนางคอยเป็นตัวแทนแล้วล่ะก็ อาศัยมันเพียงตัวเองคิดอย่างจะออกคำสั่งมนุษย์จำนวนหลายหมื่นคนนี้ มันจะต้องเสียแรงและเสียเวลาเพิ่มขึ้นหลายเท่าอย่างแน่นอน

“ท่านเฮคซอด…ช่วยข้าด้วย!” ขุนนางที่ยังมีชีวิตอยู่ร่ำไห้ขอร้องเขา

“หืม…ที่แท้ก็ท่านสกายลอร์ดนี่เอง” เดอะแมสก์หันหน้ากลับมา ก่อนจะพูดอย่างไม่แยแสว่า “ข้าต้องขอบอกก่อนว่านี่เป็นการเข้าใจผิดกัน จริงอยู่ที่ข้าชื่นชอบความยอดเยี่ยมของการรวมร่าง แต่นั่นไม่ได้รวมถึงพวกแมลง ส่วนที่ยอดเยี่ยมที่สุดของพวกมัน ข้าได้มาตั้งแต่เมื่อ 600 ปีก่อนแล้ว”

อีกฝ่ายถอดหน้ากากอันหนึ่งที่อยู่บนหัวออกมา ก่อนจะเผยให้เห็นโครงหน้าที่เหมือนกับมนุษย์ผู้หญิงอยู่ภายใต้หน้ากาก นั่นมันจะเป็นใบหน้าของแม่มดซักคน แต่ว่าตอนนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของมันแล้ว

ซึ่งหน้ากากแบบนี้ยังมีอยู่อีก 10 กว่าอัน ถ้าหากถอดหน้ากากออกมาทั้งหมด นั่นจะต้องเป็นภาพที่น่าสยดสยองอย่างมากแน่ จากที่นาซเพลเคยบอกมา สมองคือจิตวิญญาณของปัญญา มันสำคัญมากกว่าส่วนอื่นๆ ในร่างกาย ถ้ายิ่งมีสมองเยอะก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพในการครุ่นคิดที่สูงขึ้น ด้วยเหตุนี้ลักษณะพิเศษของเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่ง อย่างน้อยก็ควรจะมีสองหัว แบบนี้จะได้ครุ่นคิดปัญหาในเวลาที่พักผ่อนได้ เป็นการใช้ประเวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด

แต่ในสายตาของเฮคซอด มีแต่สัตว์อสูรที่อัปลักษณ์และสัตวประหลาดอาณาจักรซีสกายเท่านั้นถึงจะมีหน้าตาแบบนั้น

ลำแสงสีม่วงสว่างวาบขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หน้ากากในมือเดอะแมสก์แยกออกเป็นสองส่วนในพริบตา จากนั้นเส้นเลือดเส้นหนึ่งที่อยู่บนใบหน้ามนุษย์ตัวเมียก็ค่อยๆ แยกออก เลือดสีน้ำเงินเข้มไหลออกมาจากรอยแตก

น่าจะเป็นเพราะคิดไม่ถึงว่าเฮคซอดจะลงมือ นาซเพลจึงตื่นตกใจทันที มันปล่อยขุนนางที่อยู่ในมือ ก่อนจะเอามือปิดใบหน้าที่ได้รับบาดเจ็บแล้วเดินถอยหลังไป 4 – 5 ก้าว “สกายลอร์ด นี่เจ้าบ้าไปแล้วเหรอ? ลงมือกับราชาเพราะแมลงเนี่ยนะ? อย่าลืมสิว่าข้าคือคนที่สร้างพระผู้สร้างขึ้นมานะ แล้วก็เป็นความหวังในการเอาชนะสงครามแห่งโชคชะตาของเผ่าพันธุ์ด้วย หรือว่าเจ้าคิดจะหักหลังจักรพรรดิ?”

เมื่อเห็นสีหน้าตื่นตกใจของอีกฝ่าย เฮคซอดยิ่งรู้สึกมีความสุข

หลังกลายเป็นแม่ทัพตะวันตก มันก็ต้องเจอกับเรื่องที่ไม่ได้ดั่งใจอยู่ตลอดเวลา ทั้งไนท์แมร์ที่จู่ๆ ก็หายตัวไป กองทัพของมันที่ไม่สามารถฝ่าแนวป้องกันของมนุษย์เข้าไปได้ซักที แม้แต่ตอนนี้ที่มันพยายามอย่างหนักเพื่อชัยชนะของเผ่าพันธุ์ ก็ยังมาถูกเดอะแมสก์สร้างปัญหาลับหลังอีก นี่มันช่างน่าขันเสียจริงๆ!

นาซเพลไม่มีทางไม่รู้ว่ามันเป็นคนพามนุษย์เหล่านี้ขึ้นมายังพระผู้สร้าง การที่มันลงมือโดยไม่ขออนุญาตนั้นคือการดูหมิ่นอย่างเปิดเผย เรียกได้ว่าหลังสูญเสียอะไรหลายๆ อย่างติดต่อกัน ตอนนี้เฮคซอดโดนดูถูกแล้ว

ที่นี่ไม่ใช่หอเจ้าชีวิตของจักรพรรดิ เดอะแมสก์เองก็ไม่ใช่ผู้พิฆาตเวทมนตร์ ถ้าไม่แสดงฝีมือให้อีกฝ่ายเห็นบ้าง เกรงว่ามันคงจะคิดว่าตัวเองนั้นจะรังแกได้ง่ายๆ

เอาแต่พูดอยู่นั่นแหละว่ามีหัวเยอะถึงจะได้เปรียบ

เมื่ออยู่ต่อหน้าความต่างชั้นกันของความแข็งแกร่ง ต่อให้มีหัวเยอะแค่ไหนมันก็ไม่มีประโยชน์ มันต้องทำให้อีกฝ่ายรู้สำนึกว่าใครกันแน่ที่เป็นแม่ทัพตะวันตก

“ถ้าเจ้าจงรักภักดีต่อจักรพรรดิจริงๆ เจ้าก็น่าจะรู้ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ” เฮคซอดสลายพลังประตูมิติที่เหมือนคมมีด ก่อนจะพูดเสียงเยือกเย็นว่า “มนุษย์เหล่านี้ไม่ได้มีประโยชน์ต่อข้าเท่านั้น แต่พวกมันยังมีประโยชน์อย่างมากต่อเผ่าพันธุ์ด้วย หวังว่าเจ้าจะเข้าใจในจุดนี้”

หลังจากราชาทั้งสองสบตากัน ก็เป็นเดอะแมสด์ที่เป็นฝ่ายยอมอ่อนข้อก่อน “เป็นข้าที่สะเพร่าเอง…ครั้งหน้าข้าจะถามความเห็นจากเจ้าก่อน”

“อย่างนั้นก็ดี” เฮคซอดพยักหน้า มันเองก็ไม่คิดที่จะบีบอะไรอีกฝ่ายมากนัก เพราะว่าพระผู้สร้างต้องอาศัยผู้ยกระดับที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้แกนพลังเวทมนตร์มาเป็นคนบังคับ และส่วนใหญ่พวกมันก็ล้วนแต่เป็นลูกน้องของนาซเพล ขณะเดียวกันอีกฝ่ายยังเป็นผู้สร้างร่างซิมไบออนท์ที่ต้องใช้ในสงครามด้วย มันไม่อาจทำอะไรเดอะแมสก์จริงๆ ได้ ไม่อย่างนั้นจักรพรรดิไม่มีทางปล่อยมันไปแน่

“นาย นายท่าน…ฮือ ได้เจอท่านช่างเป็นเรื่องดีจริงๆ …” ขุนนางรีบคลานเข้ามากอดขาสกายลอร์ดเอาไว้

“เรื่องนี้เดี๋ยวค่อยว่ากัน” เฮคซอดกวาดตามองเขา ก่อนจะหันกลับไปถามเดอะแมสก์ว่า “ในเมื่อไม่ได้เอามาร่วมร่าง อย่างนั้นเจ้าพามนุษย์มาที่นี่ทำไม?”

เดอะแมสก์มุ่ยปากไปทางซากนกเหล็ก “ข้าแค่อยากจะถามพวกมันว่าแกนของเจ้าสิ่งนี้มันทำงานยังไงกันแน่”

เฮคซอดมองตามสายตาของอีกฝ่ายไป ก่อนจะเห็นเครื่องจักรที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างประณีตเครื่องหนึ่งถูกวางเอาไว้หน้านกเหล็ก

……………………………………………………………..