ตอนที่ 1166

Alchemy Emperor of the Divine Dao

หนึ่งวันของโลกภายนอกเท่ากับอยู่ใต้ต้นสังสารวัฎหนึ่งปี!

เจ็ดวันต่อมา หลิงฮันเริ่มลงมือหลอมเม็ดยาเจ็ดเพลิงลอยล่องเป็นครั้งแรก ซึ่งผลลัพธ์แน่นอนว่าเขาหลอมล้มเหลว

มันยังคงมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างสิ่งที่คิดและความเป็นจริง

เมื่อหลอมเม็ดยาล้มเหลว หลิงฮันไม่ฝืนหลอมเม็ดยาต่อ แต่เขาเลือกที่จะนั่งสมาธิเป็นเวลาสองวัน

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเขาใช้เวลาทั้งหมดสองปีเพื่อหาจุดที่ล้มเหลว แล้วหลังจากนั้นเขาก็เริ่มหลอมเม็ดยาเจ็ดเพลิงลอยล่องเป็นครั้งที่สอง   แต่ก็ล้มเหลวเหมือนเดิม

ทว่าครั้งนี้หลังจากที่หลิงฮันเรียนรู้จากความล้มเหลว ทำให้เขาเริ่มจับจุดได้เล็กน้อยและเริ่มหลอมเม็ดยาครั้งที่สาม

ประสบความสำเร็จ!

อย่างไรก็ตาม เขาหลอมเม็ดยาได้แค่สองเม็ดเท่านั้น

ในทางทฤษฎี หากหลอมเม็ดยาเจ็ดเพลิงลอยล่องหนึ่งครั้งสามารถหลอมเม็ดยาได้มากที่สุดสี่เม็ด แต่หลิงฮันหลอมสำเร็จครั้งแรกเขาหลอมได้แค่สองเม็ด  ด้วยอัตราสำเร็จครึ่งหนึ่ง นี่แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่เรื่องเรื่อง และเมื่อหลิงฮันจ้องมองเม็ดยาที่หลอมสำเร็จสองเม็ด มันก็ทำให้เขาไม่ค่อยพอใจยิ่งขึ้นไปอีก

เพราะคุณภาพของมันไม่ได้สูงมากนัก

หลิงฮันเกิดบันดาโทสะโยนและอยากโยนเม็ดยาทั้งสองเม็ดทิ้ง ในฐานะที่เขาเป็นจักรพรรดินักปรุงยา ถ้าเม็ดยาที่เขาหลอมขึ้นมามีคุณภาพต่ำแบบนี้เขาจะมีหน้าไปพบคนอื่นได้อย่างไร? แต่ในขณะที่เขายกมือกำลังโยนเม็ดยาทิ้ง เขาก็ลดมือลง

น่าเสียดาย! อย่างน้อยเม็ดยาทั้งสองเม็ดนี้ก็สามารถขายได้หนึ่งหมื่นผลึกก่อเกิด

“ทำไมข้าถึงรันทดขนาดนี้?” หลิงฮันลูบคางและจ้องมองดาบอสูรนิรันดร์ นี่เขาจะต้องเสียเงินมากแค่ไหนกว่าจะยกระดับดาบอสูรนิรันดร์ให้ไปอยู่จุดสูงสุด

“แต่ยิ่งมันทรงพลังมากขึ้นเท่าไหร่ มันก็คุ้มค่ากับการลงทุนที่เสียไป!”

“ลองอีกครั้ง!”

หลิงฮันซื้อวัตถุดิบปรุงยาทั้งหมดห้าชุด ไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากซื้อเพิ่ม แต่เงินที่มีนั้นน่าสงสารเกินไป

การหลอมยาครั้งที่สี่ หลินฮันสามารถหลอมเม็ดยาเจ็ดเพลิงลอยล่องได้สามเม็ดในครั้งเดียว ส่วนในครั้งที่ห้า เขาสามารถหลอมได้ทั้งหมดสี่เม็ด แต่อย่าคิดว่าเขาก้าวหน้าเร็วเชียว นั่นเป็นเพราะหลังจากที่หลิงฮันหลอมยาเสร็จแต่ละครั้ง เขาจะนั่งสมาธิใต้ต้นสังสารวัฎเพื่อลบข้อบกพร่อง

ดังนั้น การหลอมเม็ดยาครั้งที่ห้าอาจเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเม็ดยาและคุณภาพ

“ข้าไม่รู้ว่าถ้าเฒ่าแก่ฮันเห็นจะตกใจสิ่งที่เกิดขึ้นนี้หรือไม่?” หลิงฮันยิ้ม

เพียงแค่หนึ่งเดือน เขาสามารถหลอมเม็ดยาเจ็ดเพลิงลอยล่องได้ทั้งหมดเก้าเม็ด ซึ่งมีสี่เม็ดจัดว่ามีคุณภาพดีเยี่ยม

“ระดับบ่มเพาะพลังของข้าก้าวหน้าขึ้นไม่มากนัก แต่พลังวิญญาณแกร่งกล้าขึ้นมาก” หลิงฮันพูดพึมพัม หลังจากที่เขาใช้เวลาหลอมเม็ดยาเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่มีเวลาฝึกฝนบ่มเพาะพลัง

“ยังไงก็ตาม ข้าคงต้องเอาเม็ดยาไปขายก่อน เพื่อหารายได้ให้มากพอที่จะยกระดับดาบอสูรนิรันดร์เป็นระดับสี่”

หลิงฮันออกมาจากหอคอยทมิฬ แต่หลังจากที่ออกมาเขาก็ได้ยินฟานรู่พูดว่ามีผู้คนจากกองกำลังก่าวมาที่นี่หลายครั้ง แต่เพราะหลิงฮันเก็บตัวฝึกฝนอยู่ พวกเขาจึงทำได้แค่จากไป แต่พวกเขาได้ทิ้งข้อความเอาไว้ว่าก่าวฮวงนั้นโกรธเกรี้ยวมากและต้องการมาที่กองกำลังก่าวด้วยตัวเอง ซึ่งเส้นตายที่ก่าวฮวงกำหนดเอาไว้คือ…เมื่อวานเป็นวันสุดท้าย

“ไร้สาระ” หลิงฮันส่ายหน้าและไม่เก็บเรื่องพวกนั้นมาใส่ใจ จากนั้นเขาก็เดินออกไป

หลิงฮันเดินไปที่เมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่เชิงเขาและไปที่ร้านค้าตระกูลโม่

“นายน้อยฮัน!” ฮันหั่วบังเอิญอยู่ชั้นล่างพอดี เมื่อเขาเห็นหลิงฮัน มันทำให้เขารู้สึกตกใจ ทำไมหลิงฮันถึงมาที่นี่อีกครั้ง?

หรือว่าเขาจะยอมแพ้แล้ว และมาที่นี่เพื่อต้องการเปลี่ยนสูตรปรุงยา?

ในความคิดเห็นของเขา นี่เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลมากที่สุด

หลิงฮันหยิบขวดหยกออกมาและพูดว่า “เฒ่าแก่ฮัน ข้าคงต้องรบกวนท่านแล้ว ช่วยข้าขายเม็ดยาพวกนี้หน่อย”

ฮันหั่วไม่รีบรับปาก หลังจากที่เขาหยิบขวดหยกขึ้นมาดู เขาก็พูดว่า “นายน้อยฮัน หรือว่าขวดหยกนี้จะเป็นเม็ดยาสวรรค์ครามเร้นลับ? ครั้งก่อนที่นายน้อยฮันให้ร้านค้าของพวกเราขาย มันสามารถทำกำไรได้มากมาย!”

หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “นี่ไม่ใช่เม็ดยาสวรรค์ครามเร้นลับ แต่เป็นเม็ดยาเจ็ดเพลิงลอยล่อง!”

พรวด!

ฮันหั่วแทบสำลัก จากนั้นเขาก็ส่งเสียงกระแอมและสงบสติอารมณ์?

นี่เขาล้อข้าเล่นหรือเปล่า?

เวลาแค่หนึ่งเดือนเขาก็สามารถหลอมเม็ดยาเจ็ดเพลิงลอยล่องสำเร็จแล้ว?

เป็นไปไม่ได้! มันไม่มีทางเป็นไปได้!

แม้ว่ามันจะเป็นเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ระดับห้า แต่การที่จะหลอมสำเร็จนั้นยากมาก แม้แต่นักปรุงยาระดับหกยังเลี่ยงที่จะหลอมมัน แต่หลิงฮันสามารถหลอมมันสำเร็จได้ภายในหนึ่งเดือน? นี่เป็นเรื่องตลกอะไรกัน?

“นายน้อยฮันช่างเป็นคนที่ขบขันยิ่งนัก!” ฮันหั่วหัวเราะ

หลิงฮันเองก็ส่งเสียงหัวเราะและพูดว่า “ใช่ ข้าชอบพูดติดตลก”

ฮันหั่วถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นเขาก็พูดด้วยความอยากรู้อยากเห็น “สรุปแล้วครั้งนี้นายน้อยฮันต้องการขายเม็ดยาอะไร?”

ฮันหั่วเทเม็ดยาออกมายากขวดและมีเม็ดยาสีแดงจำนวนหนึ่งออกมา ที่น่าแปลกใจคือเม็ดยาพวกนี้ดูเหมือนกำลังเดือดพล่าน มันไม่เพียงแค่ร้อนธรรมดา แต่เหมือนเปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้

หากคนทั่วไปถือเม็ดยาดังกล่าว เกรงว่ามือของพวกเขาคงจะถูกเผาไหม้ทันที แล้วบางทีกระทั่งจอมยุทธระดับบุปผาวารีก็ยังไม่สามารถสัมผัสมันได้

ฮันหั่วเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงทำให้เขาได้รับผลกระทบเล็กน้อย แต่ที่น่าตกตะลึงกว่าร้อนความของเม็ดยาคือสีหน้าที่เขาแสดงออกมา

นี่มัน!

มันคือเม็ดยาเจ็ดเพลิงลอยล่อง!

“นายน้อยฮัน ท่านแน่ใจหรือว่าไม่ได้ล้อข้าเล่น?” ใบหน้าของฮันหั่วกระตุก เขาแทบจะเป็นลม

หลิงฮันหัวเราะและตบไหล่ของฮันหั่วและพูดว่า “เฒ่าแก่ฮัน ท่านน่าจะลดอารมณ์ขันของท่านลงบ้าง” แม้ว่าอายุของพวกเขาทั้งสองจะห่างกันเป็นหมื่นปี แต่ความสำเร็จของหลิงฮันนั้นเหนือกว่าอีกฝ่ายมาก ดังนั้นตามกฎของโลกแห่งจอมยุทธ หลิงฮันคือผู้อาวุโส และการตบไหล่ผ่านตรงข้ามไม่ได้เป็นการเหยียดหยาม

ฮันหั่วจ้องมองเม็ดยาในมืออย่างระมัดระวัง เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญการประเมินสินค้า ทำให้เขาสามารถสรุปได้ทันทีว่าเม็ดยาเพลิงลอยล่องทั้งเก้าเม็ดเพลิงหลอมเสร็จ!

เม็ดยาเจ็ดเพลิงลอยล่องที่มีความสดใหม่เปลวเพลิงของมันจะมีสีเขียว จากนั้นมันก็จะกลายเป็นสีฟ้า แดง จนกระทั่งกลายเป็นสีดำม่วง

หากเม็ดยาเปลี่ยนเป็นสีดำม่วง นั่นหมายความว่าเวลาผ่านไปนานเกินไป ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพของมันต่ำลงมากจนแทบจะกลายเป็นเม็ดยาไร้ค่า

ฮันหั่วแทบจะกรีดร้อง นี่เป็นเม็ดยาเจ็ดเพลิงลอยล่องของจริง หรือว่าหลิงฮันจะหลอมเม็ดยาสำเร็จจริงๆ?

ช่างแปลกประหลาดอะไรขนาดนี้!

“นายน้อยฮัน ท่านหลอมมันสำเร็จจริงๆอย่างนั้นรึ?”

“ไม่ใช่ ที่เจ้าเห็นตอนนี้มันเป็นแค่ภาพลวงตา” หลิงฮันกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ครั้งนี้ฮันหั่วขำไม่ออกและพูดว่า “นายน้อยฮัน ท่านทำให้ข้าตกตะลึงมากที่สามารถหลอมเม็ดยาเจ็ดเพลิงลอยล่องสำเร็จในแค่หนึ่งเดือน!”