เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 1090

พอได้ยิน

ชายผมแดงก็ขรึมลงในทันที

แม้เขาจะโมโหอยู่ในใจ แต่ตอนนี้ก็ไม่มีทางไหนที่จะจัดการปีศาจหงอได้

เพราะปีศาจหงอพูดถูก

ถ้าเสียเขาไป เขาก็ไม่มีทางควบคุมสำนักยมบาลได้!

น่าแค้นใจ!

น่าแค้นใจจริง ๆ!

ถ้าไม่เพราะเรื่องนั้นในตอนนั้น ปีศาจหงอจะยะโสต่อหน้าเขาได้หรือ?

ขอแค่ตระกูลปลีกวิเวทออกจากหุบเขา

สำนักยมบาลอะไรนั่น ก็มีแค่ชื่อใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เหมือนดินปั้นไก่กระเบื้องรูปหมา

เสียดายที่……

พอคิดถึงเงาของคนผู้นั้น เขาก็อดตัวสั่นไม่ได้

“หึ!”

ชายผมแดงแสยะเสียง: “ฉันไม่สนว่านายจะมีข้ออ้างอะไร สรุปคำเดียวคือ รีบรวบรวมชิ้นส่วนมงกุฎภาพมังกรให้เร็วที่สุด!ขอแค่รวบรวมชิ้นส่วนภาพมงกุฎมังกรได้ครบ ตระกูลเฟิงของฉันจะได้ออกจากภูเขาสักที!”

“ครับ!”

ปีศาจหงอพยักหน้าแล้วเอ่ยด้วยสีหน้าทแม่ง ๆ ว่า: “ท่านเฟิงหวูตี่ ตอนนี้ชิ้นส่วนภาพมงกุฎมังกรปรากฏอย่างน้อยหกชิ้นแล้ว!”

“อะไรนะ?หกชิ้น!”

พอได้ยินคำนี้

ดวงตาของก็หดลงอย่างฉับพลัน

เขานึกไม่ถึงว่าชิ้นส่วนมงกุฎภาพมังกรจะปรากฏมามากมายเช่นนี้แล้ว

ปีศาจหงอเอ่ยแนะนำว่า: “ในมือของเจ้าสำนักยมบาล มีชิ้นส่วนภาพมงกุฎสองชิ้นแล้ว ส่วนชิ้นส่วนภาพมงกุฎมังกรที่เหลืออีกสี่ชิ้น อยู่ในมือคนผู้หนึ่งที่ชื่อว่าหยางเฟิง……”

ปีศาจหงอก็ไม่ได้เอ่ยอะไรต่อไปอีก

เฟิงหวูตี่ยกมือขึ้นปัด เอ่ยอย่างรำคาญว่า: “ฉันไม่อยากฟังเรื่องพวกนี้ ฉันไม่สนว่าชิ้นส่วนภาพมงกุฎมังกรจะอยู่ในมือใคร นายต้องเอาทั้งหมดกลับมาให้ฉัน!ถ้านายเอากลับมาได้ ฉันจะรายงานผู้นำตระกูลหมิง ให้นายเข้าตระกูลเฟิง ได้เพลิดเพลินกับทรัพยากรตระกูลปลีกวิเวทของเรา!”

“แต่ถ้านายเอากลับมาไม่ได้……นายก็คงรู้ผลลัพธ์ดี!”

“แน่นอน”

“ถ้าผมได้ชิ้นส่วนภาพมงกุฎมังกรทั้งหมด ผมมอบให้นายท่านแน่ เพียงแต่……”

พูดถึงตรงนี้

ปีศาจหงอก็กลายเป็นอยากจะเอ่ยบางอย่างแต่ก็หยุดเอาไว้

“เพียงแต่อะไร?อย่าอึก ๆ อัก ๆ!”

เฟิงหวูตี่เอ่ยด้วยสายตาดุดัน

“เหอะ ๆ!”

ปีศาจหงอหัวเราะเบา ๆ: “เพียงแต่ผมห่วงว่า สุดท้ายเจ้าสำนักจะไม่มอบชิ้นภาพมงกุฎมังกรให้ท่าน?”

พอได้ยินคำนี้

สีหน้าของเฟิงหวูตี่ก็เปลี่ยนไป

เขาไม่พอใจในตัวเจ้าสำนักมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

ตอนที่เขาช่วยเจ้าสำนักผู้นั้นก่อตั้งสำนักยมบาล ต้องเสียกำลังคนไปไม่น้อย

แต่ทว่า……

หลายปีมานี้ สำนักยมบาลยังคงรวบรวมภาพชิ้นส่วนมงกุฎมังกรไม่ครบ

เขาหมดความอดทนรอแล้ว

ตระกูลปลีกวิเวททั้งตระกูลหมดความอดทนรอแล้ว!

พวกเขาปลีกวิเวกมานานแล้ว

รอคอยที่จะออกจากหุบเขา!

ไม่ใช่ถูกล่ามไว้หุบเขาลึกที่ไม่เห็นแสงเดือนแสงตะวันตลอดไป!

นัยน์ตาของเฟิงหวูตี่เผยไอสังหารที่เยือกเย็นออกมา

“ไม่ว่าใคร ต่อให้เป็นเจ้าสำนักยมบาลก็ตาม หรือเป็นคนที่ชื่อหยางเฟิงก็ช่าง!”

“ชิ้นส่วนภาพมงกุฎมังกรต้องตกเป็นของตระกูลปลีกวิเวทนิรันด์ คนอื่นไม่มีสิทธิ์ครอบครอง นายเข้าใจมั๊ย?”

“ครับ!”

ปีศาจหงอพยักหน้าไม่พูดอะไรอีก

“หึ!”

เฟิงหวูตี่แสยะเสียงแล้วเอ่ยว่า: “ส่วนทางเจ้าบ้าน ผมจะช่วยคุณอธิบาย แต่อย่าให้ผมโมโหอีก ความอดทนของผมมีขีดจำกัด!”

“ไปบอกเจ้าสำนักบ้าบทอะไรนั่นด้วย ฉันให้โอกาสเขาครั้งเดียวเท่านั้น และอย่าหาว่าฉันโหดเหี้ยมอำมหิตละกัน!”

“ถึงเวลานั้นจะเป็นเจ้าสำนักยมบาลมาจากไหน ฉันก็จะฆ่าให้เรียบ!”

พอสิ้นเสียง

เงาของเฟิงหวูตี่ไหวขึ้นมาแล้วก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

ปีศาจหงอยังคงยืนอยู่ตรงนั้นอยู่นานโดยไม่เอ่ยอะไร