ตอนที่ 2015

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 2,015 : หาเรื่อง!

 

เพี๊ยะ!!

 

เสียงตบอย่างถนัดถนี่หนึ่งดังชัดขึ้นเข้าหูทุกผู้คน พาลให้วังชินหั่วกลับกลายเป็นเงียบงันไร้สรรพเสียงใดๆในชั่วพริบตา เพราะอยู่ดีๆต้วนหลิงเทียนก็ตบหน้าเวินเยี่ยนอย่างแรงจนหน้านางสะบัด!!

 

ซื่อ! ซูด! ฟืด!

 

……

 

สิ้นเสียงตบ เสียงสูดลมหายใจเข้าด้วยความสะท้านพลันดังขึ้นระงมก้องวังชินหั่ว

 

เมื่อเหล่าศิษย์ชั้นยอดหันไปมองต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง แววตาของมันก็เผยความหวาดกลัวทั้งเหนือคาด

 

สวรรค์!

 

พวกมันเห็นอะไร!

 

ต้วนหลิงเทียนไม่เพียงปราดออกมาขวางทางเวินเยี่ยน ยังตบหน้านางดังฉาด!

 

จังหวะนี้เมื่อเหลือบไปเห็นใบหน้าขาวช้ำเลือดมีรอยมือแดงเป็นจ้ำ ทุกผู้คนอดไม่ได้ที่จะขนลุกซู่!

 

เวินเยี่ยนแม้จะเป็นศิษย์ที่แท้จริงที่เป็นสตรี แต่พลังฝีมือของนางหาใช่ชั่วไม่!

 

กระทั่งในบรรดาศิษย์ที่แท้จริงทั้งหมด 170 คนของลัทธิบูชาไฟ พลังฝีมือของนางก็ยอดเยี่ยมถึงขั้นติด 10 อันดับแรกในทำเนียบยอดฝีมือ! นางรั้งอยู่ในอันดับที่ 9!!

 

ทว่าตอนนี้…

 

ต้วนหลิงเทียน ผู้ที่พึ่งจะก้าวขึ้นมาเป็นศิษย์ที่แท้จริง กระทั่งยังไม่ทันติดอันดับในทำเนียบยอดฝีมืออะไร กลับกล้าที่จะหาเรื่องเวินเยี่ยนด้วยการไปหยุดขวางทางกระทั่งตบนางจนหน้าสั่น!!

 

‘เจ้านั่นมันเบื่อชีวิตแล้วหรือไง!?’

 

จังหวะนี้เหล่าศิษย์ชั้นยอดอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความคิดดังกล่าวขึ้นในหัว

 

ส่วนอีกด้านนั้น เวินเยี่ยนที่อยู่ดีๆก็ถูกขวางทางอย่างไม่ทันตั้งตัว จึงอดไม่ได้ที่จะงุนงงสงสัย

 

ด้วยเหตุนี้นางจึงไม่ทันได้ตั้งตัวและตอบสนองเรื่องราวใดๆ

 

จนเมื่อเสียงสูดลมหายใจด้วยความสะท้านดังขึ้นระงม เวินเยี่ยนก็พึ่งจะดึงสติกลับเข้าตัวได้สำเร็จ

 

พริบตาหน้าเวินเยี่ยนก็เปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์ปั้นยาก กอปรด้วยมีรอยมือแดงจ้ำ และตอนนี้แก้มก็เริ่มปูดบวมขึ้นมา ทำให้หน้าตานางแลดูดุร้ายน่าเกลียดน่ากลัวนัก ไม่เหลือความงามใดๆทั้งสิ้น พาลให้เหล่าศิษย์ชั้นยอดหลายคนอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า

 

ไฉนพวกมันไม่เคยเห็นด้านที่อัปลักษณ์และน่ารังเกียจของนางมาก่อน?

 

“เจ้ากล้าตบข้างั้นเหรอ!?”

 

เวินเยี่ยนที่หน้าดุร้ายปั้นยากมองต้วนหลิงเทียนตาขวาง ทว่าตอนนี้นอกจากโทสะที่ล้นปรี่แล้ว ลึกลงไปในแววตานางกลับฉายความหวาดกลัวออกมาเล็กน้อย

 

และเป็นเพราะบังเกิดความหวาดกลัว ด้วยไม่เข้าใจว่าไฉนอีกฝ่ายกล้าลงมือกับนางถึงขนาดนี้ ทำให้นางไม่กล้าผลีผลามลงมือกับชายเบื้องหน้า! ด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะมีความเป็นมาไม่ธรรมดา!!

 

จากท่าทีที่แสดงออกของเวินเยี่ยนทำให้รับทราบว่านางเป็นคนขี้ระแวงคนหนึ่งกระทั่งรู้จักอดทนอดกลั้นเป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้นางถึงได้อดทนจับตาดูก่านหรูเยี่ยนอยู่ได้เป็นปีๆ! จนในที่สุดก็ค้นพบความลับของก่านหรูเยี่ยน และไปแจ้งจับเค่อเอ๋อกับก่านหรูเยี่ยนที่หอคุมกฏ!!

 

ในลัทธิบูชาไฟมีศิษย์ที่แท้จริงทั้งสิ้น 170 คน

 

ในบรรดาศิษย์ที่แท้จริงก็มีสตรีไม่ถึง 20 คน

 

และในบรรดาศิษย์ที่แท้จริงทั้งหมด 170 คน ก็มีศิษย์สตรีเพียงแค่ 2 คนเท่านั้นที่ติดอยู่ใน 10 อันดับแรกของทำเนียบยอดฝีมือ

 

นอกจากเวินเยี่ยนคนนี้ ก็คือก่านหรูเยี่ยนที่พาเค่อเอ๋อมายังลัทธิบูชาไฟ

 

ก่านหรูเยี่ยนนั้นมีอันดับ 7 ในทำเนียบยอดฝีมือ

 

ไม่ว่าจะในด้านรูปร่างหน้าตาหรือความสามารถ เวินเยี่ยนก็ไม่อาจเทียบกับก่านหรูเยี่ยนได้ลเย

 

ในลัทธิบูชาไฟแห่งนี้ ก่านหรูเยี่ยนถูกยกย่องให้เป็นเทพธิดา! ตราบใดที่เวินเยี่ยนอยู่ใกล้ๆนาง ก็เป็นได้แค่ไม้ประดับ

 

ด้วยเหตุนี้เวินเยี่ยนจึงอิจฉาริษยาก่านหรูเยี่ยนนัก

 

ทุกครั้งที่นางเจอหน้าก่านหรูเยี่ยน นางมักจะลอบสาปแช่งสวรรค์ที่นำสิ่งดีๆไปมอบให้ก่านหรูเยี่ยนจนหมด!

 

จนกระทั่งครั้งล่าสุดที่นางพบโอกาสทองในการเล่นงานก่านหรูเยี่ยน นางจึงได้ไปแจ้งต่อหอคุมกฏ ทำให้ก่านหรูเยี่ยนถูกจับขังได้สำเร็จ

 

ทว่า…

 

เวินเยี่ยนไม่เคยคิดกระทั่งหลับยังไม่เคยฝัน

 

ว่าชายหนุ่มที่ไม่รู้เป็นใครมาจากไหนในชุดศิษย์ที่แท้จริง อยู่ๆกลับโผล่พรวดมาขวางทางนาง และตบหน้านางดังฉาด ทำให้นางได้รับความอัปยศต่อหน้าศิษย์ชั้นยอดมากมาย!

 

“ทำไมข้าตบเจ้าน่ะเหรอ?”

 

เมื่อเห็นว่าเวินเยี่ยนไม่ตอบโต้อะไร ต้วนหลิงเทียนพลันระวังเวินเยี่ยนขึ้นหลายส่วน พอได้ยินคำถามด้วยน้ำเสียงเล็ดรอดไรฟันด้วยโทสะ เขาพลันตอบกลับไปอย่างเฉยเมย “ไม่มีอะไรมาก แค่หน้าเจ้ามันขัดลูกนัยน์ตาข้า!”

 

แค่หน้าเจ้ามันขัดลูกนัยน์ตาข้า!

 

คำตอบด้วยน้ำเสียงไร้แยแสนี้ของต้วนหลิงเทียน ทำให้สรรพเสียงในวังชินหั่วสาบสูญไปอีกครั้ง

 

กระทั่งบรรดาอาวุโสเพลิงทองแดงที่ทำหน้าที่รับเรื่องที่โต๊ะรับรองของวังชินหั่วยังอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง ต่างมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาอึ้งทึ่ง

 

ต้วนหลิงเทียนผู้นี้จะไม่ดุร้ายไปหน่อยหรือ!

 

หาญกล้าตบหน้าเวินเยี่ยน อันดับ 9 ในทำเนียบยอดฝีมือ…หลังจากนั้นยังกล้าตอบคำถามนางไปด้วยวาจาน้ำเสียงเช่นนั้น!

 

นี่ยังไม่ใช่ตั้งใจหาเรื่องผู้คนเรอะ!

 

“ไม่! ต้วนหลิงเทียนไม่มีทางหาเรื่องเวินเยี่ยนด้วยเหตุผลเท่านี้แน่…ทั้งคู่สมควรเคยมีเรื่องบาดหมางใดกันมาก่อนไม่ผิดแน่ หาไม่แล้วไฉนพอเห็นเวินเยี่ยนถึงได้ลงมือแบบนั้น…ขัดลูกนัยน์ตาหรือ ไม่มีทาง!”

 

แน่นอนว่ายังมีศิษย์ชั้นยอดและอาวุโสเพลิงทองหลายคนที่คล้ายเห็นว่าเรื่องนี้สมควรมีลับลมคมใน

 

พวกมันย่อมไม่เชื่อข้ออ้างดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน

 

ไม่เพียงแต่พวกมันไม่เชื่อเหตุผลในการทุบตีคนของต้วนหลิงเทียน กระทั่งเวินเยี่ยนเองก็ไม่เชื่อในคำกล่าวของต้วนหลิงเทียนด้วยเช่นกัน!

 

“บัดซบ! ที่แท้เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่ ข้าเจ้ามิเคยพบหน้ากันมาก่อน พวกเราต่างไร้เรื่องราวบาดหมางใดๆ…ไฉนเจ้าต้องมาจงใจทำข้าให้ได้รับความอับอายขายหน้าเช่นนี้!?”

 

หน้าเวินเยี่ยนยิ่งมายิ่งอัปลักษณ์ปั้นยากนัก น้ำเสียงก็ยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ โทสะของนางดั่งภูเขาไฟที่คุกรุ่นเจียนปะทุออกเต็มที

 

เป็นไปได้ว่าหากโทสะของเวินเยี่ยนระเบิดออก คงไม่อาจควบคุมระงับได้ง่ายๆ!

 

“จงใจทำให้เจ้าอับอายขายหน้า?”

 

ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองเวินเยี่ยนด้วยสายตาไร้แยแส แสยะยิ้มกล่าวออกด้วยน้ำเสียงรังเกียจ “เจ้าสำคัญตัวเองมากไปแล้ว”

 

“เจ้า!”

 

เห็นสีหน้าท่าทีดูแคลนรังเกียจของต้วนหลิงเทียน เวินเยี่ยนยิ่งมีโมโหนัก! จากนั้นทั่วร่างพลันปรากฏมวลพลังขุมหนึ่งพวยพุ่งออกมา ยังเปี่ยมล้นไปด้วยจิตสังหารเย็นเยียบ!!

 

“ไสหัวไปให้พ้น อย่าได้ขวางทางข้า!”

 

ทว่าต้วนหลิงเทียนกลับไม่แยแสจิตสังหารเยียบเย็นของนางแม้แต่น้อย ยังตะโกนขับไล่เวินเยี่ยนออกไปให้พ้นทางด้วยน้ำเสียงเย็นชาปานนางเป็นหมูหมา

 

ซื่อ! ฟืด! ซูด!!

 

 

เห็นฉากดังกล่าวเสียงสูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บระงมขึ้นมาอีกรอบ

 

หลังสิ้นเสียงสูดลมหายใจเข้าแล้ว เหล่าศิษย์ชั้นยอดก็เริ่มซุบซิบคุยกันอีกครั้ง

 

“ต้วนหลิงเทียนคนนี้จะไม่ดุร้ายไปหน่อยหรือ ไม่เพียงไปขวางทางศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยน แถมยังตบหน้าศิษย์พี่ไม่พอ…มาตอนนี้ยังกล้ากระทั่งขับไล่ศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนให้ไสหัวไปให้พ้นทาง! นี่ถ้าหากข้าไม่มาเห็นกับตาข้าก็ไม่มีทางเชื่อว่ามันจะกล้าทำขนาดนี้!!”

 

“ถึงแม้ว่ามันจะมีพลังฝีมือสูงส่งถึงขั้นฆ่าหยางเหวินได้ ทว่าหยางเหวินก็ไม่ใช่อะไรที่จะนำไปเปรียบเทียบกับศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนได้เลย…หยางเหวินนั่นยังไม่ติดอยู่ในทำเนียบยอดฝีมือด้วยซ้ำ ทว่าศิษย์พี่เวินเยี่ยนคือสุดยอดฝีมือในอันดับที่ 9 ของทำเนียบยอดฝีมือ! นี่มันไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกันแน่?”

 

“บางทีมันอาจดูเบาศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยน เพราะไม่รู้จักศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนหรือไม่?”

 

“เจ้าคิดว่ายังจะมีเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ด้วยหรือ? กับคนอื่นข้าอาจไม่กล้าพูด…แต่ต้วนหลิงเทียนคนนี้ตั้งแต่ที่เข้าร่วมลัทธิบูชาไฟเรามา ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามันเคยเป็นฝ่ายหาเรื่องผู้อื่น! เรื่องทั้งหมดที่มันทำมาจนถึงทุกวันนี้มีเพียงตอบโต้คนที่มาหาเรื่องมันก่อนทั้งสิ้น! เจ้าคิดจริงๆหรือว่ามันจะแค่เห็นศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนเป็นที่ขัดตา เลยไปหยุดขวางแล้วตบหน้านาง?”

 

“ใช่! ข้าไม่เชื่อว่าคนอย่างต้วนหลิงเทียนจะทำเรื่องอะไรเหลวไหลเช่นนั้น ไม่พ้นศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนต้องเคยเพาะสร้างความแค้นอะไรให้ต้วนหลิงเทียนมาก่อนแน่ หาไม่แล้วต้วนหลิงเทียนคงไม่ลงมือทำอะไรอุกอาจแบบนี้”

 

“แต่ถึงแม้ศิษย์พี่เวินเยี่ยนจะทำอะไรให้ต้วนหลิงเทียนแค้นเคืองมาก่อน…แต่ต้วนหลิงเทียนก็ไม่น่าหมิ่นเกียรติของศิษย์พี่เวินเยี่ยนเช่นนี้เลยนี่!”

 

ในสายตาของเหล่าศิษย์ชั้นยอดนั้น ต้วนหลิงเทียนนับว่ามีพลังฝีมือร้ายกาจคนหนึ่ง เพราะสามารถฆ่าหยางเหวินที่ใช้โอสถต้องห้ามมาได้ในการประลองเป็นตาย

 

อย่างไรก็ตามยังมีความต่างอันใหญ่หลวงนัก ระหว่างพลังฝีมือของหยางเหวินกับเวินเยี่ยนที่รั้งอยู่ในอันดับ 9 ของทำเนียบยอดฝีมือ พวกมันจึงไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนจะแข็งแกร่งทัดเทียมกับเวินเยี่ยนได้

 

“ต้วนหลิงเทียน?”

 

เวินเยี่ยนย่อมได้ยินเสียงกระซิบกระซาบของเหล่าศิษย์ชั้นยอดในวังชินหั่วเช่นกัน

 

ทันใดนั้นสองตาของนางก็ทอประกายดุร้ายเยียบเย็น

 

นางไม่ใช่ไม่รู้จักชื่อต้วนหลิงเทียน

 

โดยเฉพาะหลังได้ยินเรื่องราวความจริงอันเหลือเชื่อที่ต้วนหลิงเทียนสามารถฆ่าหยางเหวินคาสังเวียนเป็นตายได้ทั้งๆที่หยางเหวินใช้โอสถต้องห้ามไปแล้ว

 

ในประวัติศาสตร์ของลัทธิบูชาไฟ นี่นับเป็นครั้งแรกเลยจริงๆ ที่มีศิษย์ชั้นยอดสามารถฆ่าศิษย์ที่แท้จริงได้!

 

เหตุการณ์ดังกล่าวนับว่าสามารถบันทึกลงในประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของลัทธิบูชาไฟได้เลย

 

ด้วยเหตุนี้ทำให้หลายคนบังเกิดอารมณ์ซับซ้อนไม่น้อย

 

“ที่แท้เจ้าก็คือต้วนหลิงเทียน!”

 

เวินเยี่ยนมองจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเยือกเย็นดุร้ายทันที ตอนนี้ความหวาดกลัวทั้งระแวงในแววตาของนางสลายหายไปสิ้น

 

“ข้าจักให้โอกาสแก่เจ้า…คุกเข่าลงก้มหัวขอมาข้าและให้ข้าตบหน้าเจ้ากลับ 10 ครั้งเดี๋ยวนี้! หาไม่แล้ววันนี้ข้าจะให้เจ้าได้คลานกลับไป!!”

 

ปรากฏว่าเวินเยี่ยนคิดว่าต้วนหลิงเทียนเป็นแค่หน้าใหม่ที่ไม่รู้จักนางจึงกล้าลงมืออย่างเหิมเกริม จนทำให้นางต้องอับอาย

 

และทันทีที่รู้ว่าชายเบื้องหน้าที่แท้ก็คือต้วนหลิงเทียน ที่พึ่งจะโด่งดังในลัทธิบูชาไฟไม่นานมานี้ ความหวาดกลัวในใจของนางก็สลายหายไปสิ้น!

 

พลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนอาจจะดี

 

อย่างไรก็ตามในฐานะคนที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีเหลือง ชัว่ชีวิตเสมือนถูกกำหนดมาแล้วว่าจะไม่มีทางประสบผลเลิศล้ำอันใด

 

ตัวตนเช่นนี้ไม่เพียงแต่ไม่มีวันประสบผลสำเร็จในอนาคต กระทั่งตัวตนระดับสูงๆย่อมไม่มีใครยอมรับ!

 

เช่นนั้นเวินเยี่ยนจึงไม่หวาดกลัวว่าต้วนหลิงเทียนจะมีภูมิหลังอะไร!

 

สำหรับพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนที่แม้จะไม่ใช่ชั่ว แต่นางก็ไม่ได้เห็นอยู่ในสายตา!

 

เพราะถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะฆ่าหยางเหวินที่ใช้โอสถต้องห้ามมาได้ จนได้รับฐานะศิษย์ที่แท้จริงแทนที่หยางเหวิน แต่ต้องทราบด้วยว่าหยางเหวินที่ใช้โอสถต้องห้าม ก็มีแค่พลังเซียนต้นกำเนิดที่เพิ่มพูนขึ้นมาจนเทียบได้กับเซียนสวรรค์ 2 เปลี่ยนเท่านั้น

 

หากเป็นนาง นางก็สามารถฆ่าหยางเหวินที่ใช้โอสถต้องห้ามได้อย่างง่ายดายเช่นกัน!

 

เซียนสวรรค์ 2 เปลี่ยนที่แท้จริงนั้นเหนือชั้นกว่าเซียนสวรรค์ 1 เปลี่ยนมาก! ต่อให้ใช้โอสถต้องห้ามจนมีระดับพลังทัดเทียม แต่พลังที่ได้จากโอสถก็มิใช่จะครอบคลุมทุกด้านเหมือนกับทะลวงด่านพลัง!!

 

เพราะส่วนที่สำคัญที่สุดของการทะลวงถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 2 เปลี่ยน อยู่ที่การเปลี่ยนแปลงครั้งที่ 2 ต่างหาก!

 

นอกจากนี้ให้มองทั่วดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าภูมิภาคเบื้องบน เวินเยี่ยนก็ถือว่าเป็นเซียนสวรรค์ 2 เปลี่ยนที่มีพลังฝีมืออยู่ในระดับกลางๆ..

 

ดังนั้นแม้ต้วนหลิงเทียนจะฆ่าหยางเหวินได้ แต่นางก็ไม่ยึดถือต้วนหลิงเทียนเป็นตัวอะไร!

 

“ให้โอกาสข้าคุกเข่าเพื่อก้มหัวขอขมาและให้เจ้าตบข้า 10 ครั้ง?”

 

ต้วนหลิงเทียนทึ่งไม่น้อยเมื่อได้ยินคำของเวินเยี่ยน สายตาที่ใช้มองเวินเยี่ยนเปลี่ยนไปราวกับกำลังมองตัวโง่งม มุมปากยกยิ้มแสยะออกมา กล่าวออกด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เวินเยี่ยนนี่เจ้าแน่ใจหรือ…ว่าสมองเจ้ายังดีอยู่?”