บทที่ 1821 ได้รับกายาสวรรค์อีกครั้ง

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1821 ได้รับกายาสวรรค์อีกครั้ง

 

“วังสวรรค์” ฉินติงหลิงยืนอยู่บนหอคอยดวงตาสวรรค์และมองทิวทัศน์ของวังสวรรค์ด้วยความคิดถึง

 

หลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน นางจึงถอนหายใจออกมาเบาๆ “แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่ข้ายังจําทิวทัศน์เมื่อสามแสนปีก่อนได้อย่างชัดเจน”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยยืนอยู่ด้านข้างฉินติงหลิงด้วยท่าที่อ่อนน้อม

 

ความอาวุโสของฉินติงหลินไม่สามารถเปรียบเทียบกับราชันมังกรแต่นางมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน

 

เดิมที่นางเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของนิกายโบราณในภาคกลาง มันคือนิกายเหนือสวรรค์เมื่อนางกลายเป็นสมาชิกของวังสวรรค์ นางถูกบังคับให้เป็นนางสนมของเทพอมตะตะวันเดือด

 

เทพอมตะตะวันเดือดมีนางสนมมากมายจากทั้งห้าภูมิภาค

 

ฉินติงหลิงเป็นจักรพรรดินีของวังนางสนมภาคกลาง

 

หลังจากเทพอมตะตะวันเดือดเสียชีวิต ฉินติงหลิงหายตัวไปอย่างลึกลับและพึ่งปรากฏตัวขึ้นเมื่อสองสามวันก่อน

 

“ตัวตนของผู้อาวุโสฉินติงหลิงไม่ผิด แต่ตามประวัติศาสตร์ นางบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งโลหะเหตุใดนางจึงเปลี่ยนเป็นเส้นทางแห่งโชค?” เทพธิดาจื่อเว่ยมีคําถามอยู่ในใจ

 

ฉินติงหลิงไม่ใช่หญิงงามในอุดมคติของผู้คน แต่นางมีความงามที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและทําให้ผู้คนรู้สึกประทับใจเมื่อมองเห็น

 

นางสูงกว่าคนทั่วไป ไหล่กว้าง นางยืนตัวตรงและปลดปล่อยกลิ่นอายที่กล้าหาญออกมานางสวมเสื้อคลุมสีทองขนาดใหญ่ไว้บนแผ่นหลังและทิ้งตัวยาวไปบนพื้น

 

นางดูเหมือนจักรพรรดินีผู้ปกครองเหนือสามัญชนมาตั้งแต่กําเนิด กลิ่นอายของนางมักทําให้ผู้คนต้องก้มศีรษะลงและไม่กล้ามองหน้านางโดยตรง

 

ฉินติงหลิงกล่าวเบาๆ “จ่อเว่ย ข้ารู้ว่าเจ้ามีคําถาม ความจริงก็คือข้าตั้งใจหายตัวไป ย้อนกลับไป เวลานั้นเทพอมตะตะวันเดือดควบคุมโลกทั้งใบ ไม่มีผู้ใดสามารถต่อต้านเขา โชคดีที่เขาไม่ใช่เทพปีศาจ แม้ข้าจะถูกบังคับให้เป็นนางสนมของเขา ข้าก็มีเป้าหมายของตนเอง นั่นคือการเรียนรู้เส้นทางแห่งโชคจากเขา”

 

“หลังจากเทพอมตะตะวันเดือดเสียชีวิต ข้าได้รับความรู้มากมาย ข้าตัดสินใจที่จะละทิ้งเส้นทางแห่งโลหะและบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งโชค แต่เวลานั้นข้าเป็นผู้อมตะระดับแปดอยู่แล้วความเสี่ยงมีมากเกินไป ข้าได้รับความช่วยเหลือจากวังสวรรค์และมีโอกาสจําศีล ข้ายังละทิ้งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งโลหะทั้งหมดและเปลี่ยนมันเป็นโลงศพโลหะฝังข้าไว้ในเส้นโลหิตปฐพีเพื่อทําความเข้าใจเส้นทางแห่งโชค”

 

“การจําศีลดําเนินมาเป็นเวลาสามแสนปี เมื่อข้าตื่นขึ้น โลกก็เปลี่ยนแปลงเกินความเข้าใจของข้าไปแล้ว”

 

น้ําเสียงของฉินติงหลิงเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก

 

สามแสนปีไม่ใช่เวลาสั้นๆ ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว

 

ทุกคนที่นางรู้จักตายไปนานแล้ว

 

หลังจากเทพอมตะตะวันเดือด มันยังมีเทพปีศาจจิตวิญญาณและเทพอมตะสวรรค์พิภพ

 

ตอนนี้โลกกําลังเผชิญหน้ากับคลื่นแห่งยุคใหม่ คําทํานายและสัญญาณต่างๆ แสดงให้เห็นว่าเทพอมตะคนใหม่กําลังจะถือกําเนิด

 

“เป็นเช่นนั้น” เทพธิดาจ่อเว่ยรู้สึกยินดีที่ได้ยินคําอธิบาย “ผู้อาวุโส ท่านมาได้ถูกจัง หวะนักข้าต้องยอมรับผิดในเรื่องนี้ วังสวรรค์ล้มเหลวซ้ําแล้วซ้ําอีก สาเหตุหนึ่งที่ทําให้เกิดเรื่อง นี้คือจุดอ่อนบนเส้นทางแห่งโชคของเรา เรามักพ่ายแพ้ให้กับปีศาจตนนั้นเสมอ”

 

ฉินติงหลิงพยักหน้า “ข้าได้รับข้อมูลแล้ว ผู้ใดจะคิดว่าปีศาจเช่นฟางหยวนจะปรากฏตัวขึ้นนี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากแม้แต่ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของมนุษยชาติ อย่างไรก็ตามอย่าโทษตนเอง การตัดสินใจของเจ้าไม่ผิด มันเป็นเพียงเพราะศัตรูเจ้าเล่ห์เกินไปและมีมรดกที่น่าอัศจรรย์มากเกินไปโดยเฉพาะอย่างหลัง มันทําให้ฟางหยวนรับมือได้ยาก”

 

“ข้าเกรงว่าเหตุผลที่ข้าตื่นขึ้นในครั้งนี้จะเกิดจากอิทธิพลของฟางหยวน”

 

เทพธิดาจอเว่ยประหลาดใจ “ผู้อาวุโสหมายความว่าอย่างไร?

 

ฉินติงหลิงยิ้ม “จ่อเว่ย มีความหมายลึกซึ้งในการตื่นขึ้นของข้า ให้ข้าถามเจ้า ผู้ใดเป็นคนปลุกข้า?”

 

“มันคือฟางเลิ้ง”

 

“ถูกต้อง” ฉินติงหลิงกล่าวอย่างช้าๆ “ปีศาจต่างโลกไม่มีอยู่ในโชคชะตาของโลกใบนี้ มันเป็นสิ่งผิดปกติ เจตจํานงสวรรค์พยายามใช้หมากเบี้ยตัวนี้เพื่อต่อต้านเทพปีศาจจิตวิญญาณ เช่นเดียวกับยาแก้พิษของอสูรพิษที่มักอยู่ใกล้ชิดกับมัน ฟางเจิ้งเป็นสิ่งที่เจตจํานงสวรรค์สร้างขึ้นเพื่อต่อต้านฟางหยวน”

 

ฉินติงหลิงมองเทพธิดาจื่อเว่ยด้วยความชื่นชม “เจ้ารู้จักเส้นทางแห่งโชคเพียงเล็กน้อยแต่เจ้าสามารถอนุมานสิ่งนี้และเลี้ยงดูฟางเลิ้ง นี่ไม่ง่ายเลย”

 

“ผู้น้อยไม่สมควรได้รับคําชมนี้ ข้าพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องวังสวรรค์และความชอบธรรมของมนุษยชาติเท่านั้น”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า พูดได้ดี นี่คือจิตวิญญาณของวังสวรรค์ แม้สามแสนปีจะผ่านไปแต่สิ่งนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง!”

 

ฉินติงหลิงหัวเราะอย่างมีความสุข “ฟางหยวน ปีศาจต่างโลกเป็นตัวแปรที่ไม่แน่นอน ฟาง เจิ้งเป็นกุญแจสําคัญในการหยุดยั้งเขา ฟางเจิ้งจะเปลี่ยนไปเมื่อฟางหยวนเกิดการเปลี่ยนแปลง เทพปีศาจจิตวิญญาณล้มเหลวในการต่อต้านสวรรค์ขณะที่ฟางหยวนหลบหนีจากการควบคุมของเจตจํานงสวรรค์และแข็งแกร่งขึ้น กระทั่งวังสวรรค์ก็ไม่สามารถทําสิ่งใดกับ เขาเพื่อแก้ปัญหานี้ เจตจํานงสวรรค์จึงส่งฟางเลิ้งไปปลุกข้าให้ตื่นขึ้น”

 

“โชคชะตาเป็นสิ่งที่แน่นอนขณะที่โชคผันแปร ยิ่งการบ่มเพาะของผู้อมตะสูง เท่านั้น โชคของพวกเขาก็ยิ่งแข็งแกร่งเท่านั้น การกระทําของพวกเขาจะส่งผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ ฟางหยวนมีโชคที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เจ้าทําให้ฟางเลิ้งกลายเป็นผู้อมตะ สิ่งนี้ทําให้เขามีอิทธิพลมากพอที่จะปลุกข้าให้ตื่นขึ้นเพื่อต่อต้านความได้เปรียบของฟางหยวน ข้าแน่ใจว่าสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันนี้จะยังเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต ปีศาจฟางหยวนจะอยู่ได้ไม่นาน”

 

เมื่อกล่าวถึงจุดนี้ฉินติงหลิงก็ออกคําสั่งเทพธิดาอเว่ย “เจ้าต้องเลี้ยงดูฟางเจิ้งต่อไปและทําให้แน่ใจว่าเขาจะปลอดภัย ตราบเท่าที่เรามีเขา เราจะสามารถทําตามเจตจํานงสวรรค์ เราจะประสบความสําเร็จโดยใช้ความพยายามน้อยลง”

 

“ผู้น้อยเข้าใจแล้ว” ดวงตาของเทพธิดาจื่อเว่ยส่องประกายเจิดจ้า

 

ก่อนหน้านี้เทพธิดาจื่อเว่ยไม่ได้ให้ความสําคัญกับฟางเจิ้งมากนัก นางเชื่อในความแข็งแกร่งของตัวนางเองและวังสวรรค์ การจัดการเกี่ยวกับฟางเจิ้งเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น

 

แต่หลังจากได้รับการแจ้งเตือนจากฉินติงหลิง เทพธิดาจื่อเว่ยจึงเข้าใจว่าฟางเจิ้งเป็นตัวหมากเบี้ยที่มีประโยชรน์ในการจัดการฟางหยวนมากที่สุด

 

หลังจากเทพธิดาจื่อเว่ยทําให้ฟางเจิ้งกลายเป็นผู้อมตะ เขาก็ทําให้ฉินติงหลิงตื้นขึ้น

 

ตราบเท่าที่เทพธิดาจื่อเว่ยยังลงทุนกับฟางเจิ้ง ผู้คนเช่นฉินติงหลิงอาจปรากฏขึ้นเรื่อยๆ

 

“ยิ่งฟางเจิ้งเติบโตขึ้นเท่าใด โชคของเขาก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น เขาจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลง ทั้งหมดคือการจัดเตรียมของเจตจํานงสวรรค์เพื่อตอบโต้ฟางหยวนโดยเฉพาะ

 

“ในกรณีนี้เราจะให้ความสําคัญกับฟางเลิ้ง วังสวรรค์จะสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่

 

เทพธิดาจื่อเว่ยเข้าใจสถานการณ์อย่างชัดเจน นางเปลี่ยนกลยุทธ์ที่เหมาะสมที่สุดทันที

 

“อีกอย่าง ข้ามีเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์มากมาย ข้าได้รับมันมาอย่างลับๆ พวกมันเป็นเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งโชคของเทพอมตะตะวันเดือด ข้าต้องการให้เจ้าพัฒนาและหลอมรวมพวกมัน” ฉินติงหลิงนําวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลออกมา

 

เทพธิดาจื่อเว่ยรับมันไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง “ข้าจะทําอย่างดีที่สุด ผู้อาวุโสโปรดวางใจ”

 

สวรรค์สีขาว ถ้ําสวรรค์ห้าเชียง

 

ฟางหยวนมาที่นี่เมื่อเร็วๆนี้ ท่าไม้ตายอมตะน้ําตกดาบแห่งปัญญา

 

น้ําตกสีเงินขนาดใหญ่ร่วงหล่นลงมาจากความว่างเปล่าและพุ่งเข้าปะทะกายาสวรรค์ที่อยู่ด้านล่าง

 

หยดน้ําแต่ละหยดคือความคิดที่อยู่ในรูปลักษณ์ของดาบ

 

เมื่อเวลาผ่านไปมันก็กลายเป็นทะเลสาบ

 

ท่าไม้ตายอมตะนักดาบแห่งปัญญา!

 

ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายต่อเนื่อง

 

น้ําในทะเลสาบเริ่มเดือดพล่าน จากนั้นนักรบที่ถือดาบยาวจํานวนมากก็กระโดดออกมาจากทะเลสาบและทําลายเจตจํานงที่อยู่ในกายาสวรรค์

 

ท่าไม้ตายอมตะน้ําตกดาบแห่งปัญญาใช้วิญญาณอมตะดาบแห่งปัญญาเป็นแกนกลางมันเป็นการรวมตัวกันระหว่างเส้นทางแห่งดาบและเส้นทางแห่งปัญญา ดังนั้นมันจึงมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้วิญญาณอมตะดาบแห่งปัญญาเพียงลําพังเพื่อกําจัดเจตจํานงเหล่านั้น

 

ท่าไม้ตายอมตะนักดาบแห่งปัญญาเป็นการรวมตัวระหว่างเส้นทางแห่งดาบและเส้นทางมนุษย์ฟางหยวนสร้างสิ่งนี้ขึ้นมาหลังจากที่เขากลายเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางมนุษย์

 

สองชั่วโมงต่อมา

 

เสียงกรีดร้องของนกกระเรียนก็ดังไปทั่วถ้ําสวรรค์ห้าเซียง

 

มันตื่นขึ้นและกระพือปีกอย่างสง่างาม

 

“ในที่สุดข้าก็ได้รับกายาสวรรค์อีกครั้ง!”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ครั้งนี้ข้าใช้เวลาน้อยกว่าครึ่งของชีวิตก่อนหน้า”

 

“ถึงเวลาไปยังถ้ําสวรรค์นักรบอสูรและถ้ําสวรรค์วรรณกรรมแล้ว”

 

ฟางหยวนยิ้มด้วยดวงตาส่องประกาย

 

เหตุการณ์ที่ดีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เขาได้รับรายงานจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาว่าวิญญาณอมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งโชคถูกหลอมรวมแล้ว

 

ฟางหยวนยังไม่ได้รับวิญญาณความเสียใจ เขาไม่ต้องการยกระดับวิญญาณอมตะดวงอื่นของเขาในเวลานี้

 

แต่เขารีดไถทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งโชคมากมายจากกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้เขาต้องการวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งโชคมากที่สุดในเวลานี้

 

วิญญาณอมตะทุกดวงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมื่อพวกมันถูกหลอมรวมแล้ว ผู้อื่นจะไม่สามารถหลอมรวมเป็นดวงที่สอง

 

มิติช่องว่างจักรพรรดิพัฒนาไปได้ด้วยดี ฟางหยวนร่ํารวยพอที่จะเลี้ยงดูวิญญาณอมตะระดับหกได้อย่างไม่มีปัญหา