จวินอู๋เสียกลับไปที่ห้องที่ไม่ได้อยู่เป็นเวลานาน ทุกอย่างในห้องยังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย โต๊ะเก้าอี้ถูกเช็ดจนสะอาด ของบนโต๊ะเป็นของใหม่อย่างเห็นได้ชัด แต่มันเหมือนกับกาน้ำชาที่นางเคยใช้เมื่อก่อนนี้ทุกประการ
จวินเสี่ยนรอนางเป็นเวลานาน ทุกวันเขาจะคิดว่านางจะกลับมาในวันนั้นหรือไม่ เขาจะไม่ยอมให้หลานสาวของเขาต้องน้อยใจกับเรื่องใด และทำถึงขั้นที่ห้องของนางจะต้องได้รับการทำความสะอาดเป็นประจำ โต๊ะเก้าอี้ก็ถูกเปลี่ยนทุกสามเดือน แต่จะไม่เปลี่ยนรูปร่างลักษณะของพวกมัน
สามเดือนผ่านไป แล้วอีกสามเดือนก็ผ่านไป ของที่ไม่เคยใช้พวกนั้นก็ถูกทิ้งเพราะความดื้อรั้นของจวินเสี่ยน เขาต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดและสิ่งที่นางคุ้นเคยมากที่สุดให้กับนาง จวินอู๋เสียนั่งเงียบเหม่อลอยอยู่บนเตียงนุ่ม นางหวนนึกถึงอดีตเมื่อหลายปีก่อนตอนที่ยังไม่เกิดอะไรขึ้น ราวกับว่าหากนางเงยหน้าขึ้นก็จะยังเห็นคนๆนั้นยืนยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ที่หน้าประตูของนาง มองดูนางด้วยสายตาหยอกเย้า
แอ๊ด……
จู่ๆประตูก็ถูกผลักเปิดออก จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว สิ่งที่ปรากฏตรงหน้านางไม่ใช่คนที่อยู่ในความฝันนาง แต่เป็นสัตว์อสูรสีดำที่เข้ามาพร้อมกับท่านแบะแบะและกระต่ายโลหิต
ร่างหนึ่งหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องของนาง แต่แล้วก็จากไปหลังจากประตูเปิด จวินอู๋เสียรู้ว่านั่นคือซูหย่า……
ศิษย์อาจารย์คู่นี้เข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง ซูหย่าเข้าใจถึงความเจ็บปวดของจวินอู๋เสีย และจวินอู๋เสียก็รู้ถึงความเศร้าของซูหย่าเช่นกัน
“อาจารย์ซูหย่าเอาพวกเรามาส่งแล้วก็ไป” สัตว์อสูรสีดำเดินเข้าไปหาจวินอู๋เสีย แล้วเอาตัวถูไถหัวเข่าของนาง ท่านแบะแบะกับกระต่ายโลหิตก็เอาเท้าตะกุยพรม ก่อนจะกระโดดขึ้นไปบนเตียงและลงนอนข้างๆจวินอู๋เสีย
“ข้ารู้” จวินอู๋เสียตอบเบาๆ บางอย่างไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยคนอื่น และนางเองก็เป็นเหมือนซูหย่า
จวินอู๋เหยายังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าจะสูญสิ้นอิสรภาพ แต่จวินอู๋เสียมั่นใจว่านางจะช่วยเขาได้อย่างแน่นอน
แต่เยี่ยนปู้กุย……
เยี่ยนปู้กุยเสียชีวิตขณะที่พยายามช่วยซูหย่า ตอนที่ประมุขวิหารหยกวิญญาณช่วยซูหย่า นางถูกพบอยู่ใต้ร่างของเขา ตอนนั้นร่างกายของเขามีบาดแผลโชกเลือดน่ากลัว จวินอู๋เสียได้รู้ว่าเยี่ยนปู้กุยเสียชีวิตแล้วจากพวกเฉียวฉู่……พวกเขาพยายามค้นหาเยี่ยนปู้กุยและเหรินหวงในโลกวิญญาณ แต่ก็ต้องกลับมาพร้อมกับความผิดหวัง
จวินอู๋เหยากับนาง แม้จะแยกจากกัน แต่พวกเขาก็ยังมีชีวิตอยู่ แต่ซูหย่ากับเยี่ยนปู้กุยถูกพรากจากกันด้วยความตาย……
“ในอนาคต ตอนข้าไปที่อาณาจักรบน ข้าจะลองไปดูที่ดินแดนแห่งวิญญาณ” จวินอู๋เสียลูบขนสัตว์อสูรสีดำอย่างช้าๆ จ้าววิญญาณเคยกล่าวไว้ว่าวิญญาณผู้กล้าบางตนอาจจะเข้าไปที่ดินแดนแห่งวิญญาณได้ แม้ว่าความเป็นไปได้จะน้อยมาก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย
ตราบใดที่ยังมีความหวัง จวินอู๋เสียจะไม่มีวันยอมแพ้
ขณะที่นางกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เส้นเลือดที่หลังมือของนางก็โป่งพองขึ้นมา ดูราวกับมีพลังมหาศาลดันอยู่ภายใน มันกระจายจากมือของนางไปตามแขน!
ใบหน้าของจวินอู๋เสียเปลี่ยนเป็นซีดขาวทันที ขนาดว่านางเป็นคนใจแข็งและมีขีดอดทนต่อความเจ็บปวดสูง ก็ยังต้องกัดฟันตัวสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวด เหงื่อไหลซึมจนชุ่มไปทั่วร่าง นางทำได้แค่ก้มตัวห่อไหล่และฝืนทนต่อความเจ็บปวดที่รุนแรงจนแทบขาดใจ!
จวินอู๋เสียล้มตัวลงนอนบนเตียง ร่างกายเล็กๆของนางเจ็บปวดมากจนต้องขดตัวเป็นลูกบอล สีหน้าของสัตว์อสูรสีดำที่อยู่ข้างๆนางเปลี่ยนไป ขณะที่ท่านแบะแบะและกระต่ายโลหิตก็พากันตื่นตระหนกและกังวล
ทันใดนั้น ร่างของฉินเกอก็พุ่งเข้ามาในห้อง เขาดึงตัวนางขึ้นทันทีและมองไปที่มือของนางซึ่งเต็มไปด้วยเส้นเลือดสีน้ำเงิน เมื่อเห็นว่ามือของนางอยู่ในสภาพใดเขาก็ขมวดคิ้ว
��