เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1102
แต่ไท่จื่อฉินอวิ่นรู้สึกสยองขึ้นมาในใจจริงๆ นักบู๊ที่มีศักยภาพน่าทึ่งยังไม่เท่าไร แต่ถ้าบวกกับการเป็นศิษย์ของขุนพลังสุดเหนือฟ้า คงวุ่นวายจนน่าตกใจแน่นอน

“ฆ่าทิ้ง ต้องรีบฆ่าทิ้งให้เร็วที่สุด”

ฉินอวิ่นตะโกนอย่างเย็นชาในใจ ถ้าลู่ฝานไม่ตาย เขาต้องกินไม่ได้นอนไม่หลับแน่นอน

ฉินฝานเอนหลังพิงเก้าอี้ สูดหายใจลึก

“ลู่ฝานนะลู่ฝาน ที่มาของนายไม่ธรรมดาจริงๆ!”

ลู่ฝานยังพุ่งไปข้างหน้าเรื่อยๆ ไม่รู้เลยว่าตัวเองผ่านมาสี่เขตต่อเนื่องอย่างสบายๆ ทำให้คนเดาเคล็ดวิชาบู๊ของเขาได้แล้ว ใช่แล้ว ลู่ฝานอาศัยร่างกายที่ตัวเองเคยฝ่าอันตรายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด มาทำการฝ่าด่าน

เปรียบเทียบดูแล้ว ความยากลำบากในการฝ่าอันตรายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด บดขยี้ร่างกายจนเกือบตาย นับประสาอะไรกับสิ่งเหล่านี้

ไม่เห็นจะเป็นไร ถ้าผ่านไปไม่ได้ ก็ไม่ต้องไป ไม่ได้เป็นอันตรายกับชีวิตสักนิด

เข้าสู่เขตสีฟ้า ลู่ฝานเพิ่งสัมผัสว่าความยากเพิ่มขึ้นมาก

ลมพัดอย่างรวดเร็ว!

ลมสีฟ้าสามารถพัดคนให้จิตวิญญาณแตกกระเจิง ร่างกายกลายเป็นผุยผงได้

ตอนนี้ฝีเท้าของลู่ฝานเริ่มระมัดระวังขึ้น เขาเคยเจอกับลมที่พัดอย่างรวดเร็ว รู้ถึงความน่ากลัวในนั้น

เดินไปข้างหน้าอีก 20 ขั้น ก็จะสามารถตามเทียนชิงหยางที่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมทันแล้ว

ลู่ฝานเดินอย่างระมัดระวังมาก พยายามเดินทุกก้าวด้วยความมั่นคง

เสียงลมเหมือนเสียงโหยหวนของผี มีเสียงกระชากวิญญาณ หากชะล่าใจเพียงเล็กน้อย จะเลือดออกเจ็ดทวารทันที

ยิ่งเดินเข้าไปเรื่อยๆ เสียงลมพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ เกราะเกล็ดมังกรบนตัวมีเสียงเหมือนจะแตกสลายดังออกมา

ในที่สุดลู่ฝานเดินมาถึงข้างเทียนชิงหยางแล้ว เดินไปข้างหน้าอีกก้าวเดียว ลมสีฟ้ากลายเป็นกระบี่สีฟ้านับไม่ถ้วน ฉีกทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง!

ทั้งสองยืนอยู่ตรงนี้ เสื้อผ้าเกิดเสียงดังจากลมพัด

เทียนชิงหยางหันมามองลู่ฝานเล็กน้อย จากนั้นพูดว่า “วิชาไม่เลว แต่เสียดายที่วิทยายุทธแย่ไปนิด นายอยากผ่านด่านนี้ ยากแล้วล่ะ!”

ลู่ฝานตอบกลับอย่างเรียบเฉยว่า “ยังไงก็ต้องลองดู ไม่ลองจะรู้ได้ไง”

เทียนชิงหยางหัวเราะพรืด แล้วพูดว่า “จากพลังปราณของนาย เดินเข้าไปอีกสองก้าว จะโดนฉีกเป็นชิ้น ถึงตอนนั้นศพนายก็จะไม่เหลือ นายแน่ใจเหรอว่าจะลอง”

ลู่ฝานพูดว่า “เก่งกาจขนาดนั้นเลยเหรอ ฟังดูแล้วทำให้นายกลัวจริงๆ นายไม่เข้าไปข้างในแล้วเหรอ”

เทียนชิงหยางยกยิ้มมุมปาก เดินขึ้นไปหนึ่งก้าว ทันใดนั้นกระบี่ลมมากมายร่วงลงบนตัวเขา

รอบตัวเทียนชิงหยางก็มีลมรุนแรงต้านทานมันเอาไว้ เทียนชิงหยางขมวดคิ้ว พูดโดยไม่หันมามองว่า “ยอมแพ้เถอะ นายตามฉันไม่ทันหรอก”

ลู่ฝานก็ยิ้มออกมาเช่นกัน ตอนนี้เขาเก็บพลังรอบตัวทั้งหมด ขนาดกระบี่หนักไร้คมเขาก็เก็บด้วยเช่นกัน

ลู่ฝานสูดหายใจลึก แล้วพึมพำว่า “ตัวฉันดั่งสายลม ลมจะทำร้ายฉันได้ยังไง!”

ลู่ฝานก้าวขาเดินออกมาหนึ่งก้าว แต่กระบี่ลมรอบๆ ไม่ได้โจมตีใส่เขา

ลู่ฝานเอาสองมือไพล่หลัง เดินอย่างสง่างามไปด้านหน้า

คิดไม่ถึงว่าตอนนี้กระบี่ลมนับไม่ถ้วนทะลุผ่านตัวเขาไป แต่ไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย!

ลู่ฝานเดินช้าๆ มาถึงข้างตัวเทียนชิงหยาง จากนั้นพูดด้วยรอยยิ้มว่า “วิทยายุทธของนายไม่เลว แต่สมองแย่ไปหน่อย!”

พูดจบ ลู่ฝานเร่งฝีเท้าเดินไปข้างหน้า

ร่างผสานฟ้าดิน ปราณชี่ในตัวลู่ฝานเผาผลาญไปอย่างรวดเร็ว แต่ฝีเท้าของเขาเบาและเร็วมาก ไม่นานก็เดินออกจากเขตสีฟ้า

ทุกคนพากันตะลึง เทียนชิงหยางเห็นภาพนี้ ก็แอบกัดฟัน

“คิดไม่ถึงว่าไอ้หมอนี่กล้าเยาะเย้ยฉัน!”

เทียนชิงหยางมองด้านหลังลู่ฝาน เขาเร่งฝีเท้าเดินไปข้างหน้าเช่นกัน ความยโสของเขาไม่มีวันยอมให้ใครเหนือกว่าเขา!