อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 1954 ยังอีกไกลนักกว่าจะถึงเป้าหมาย!
“ไม่ทราบว่าเจตจำนงเพลงดาบของคุณกินอาณาบริเวณแค่ไหน, ผู้อาวุโสลู่อวิ๋น?” จางเซวียนถามด้วยความอยากรู้
“ผม?” ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นออกจะแปลกใจเล็กน้อยกับคำถาม เขามีสีหน้าเจื่อนๆขณะส่ายหัว “ผมไม่ได้เชี่ยวชาญศิลปะเพลงดาบมากนัก ตอนที่ยังหนุ่มจึงไม่ผ่านเกณฑ์ของศิษย์สายตรงฝ่ายในด้วยซ้ำ แต่เพราะผมเพียรพยายามฝึกฝนอย่างไม่ลดละ ในที่สุดจึงสำเร็จวรยุทธในระดับที่เป็นอยู่และได้รับตำแหน่งผู้อาวุโสฝ่ายนอก แม้ผมจะฝึกฝนวิถีแห่งเพลงดาบมาเนิ่นนานหลายปี แต่ก็ยังทำสถิติได้ไม่ถึง 100 เมตร…ตอนนี้ผมทำได้ 97 เมตรเท่านั้น”
“97 เมตร? แค่นั้นก็น่าทึ่งมากแล้ว” จางเซวียนตั้งข้อสังเกตขณะหันกลับไปมองห้องที่ปิดสนิทอยู่ตรงหน้า
ศิษย์สายตรงของเขาคนนี้เพิ่งร่ำเรียนศิลปะเพลงดาบจากเขาได้เพียงคืนเดียว ซ้ำมีความเข้าใจในเทคนิคการใช้ดาบเพียงเทคนิคเดียวเท่านั้น ในเมื่ออีกฝ่ายยังปราศจากความเข้าใจอันล้ำลึกในวิถีของเพลงดาบ จางเซวียนก็อดสงสัยไม่ได้ว่าศิษย์ของเขาคนนี้จะทำได้ดีแค่ไหน
…..
สิ่งแรกที่ตั้นเฉี่ยวเทียนเห็นเมื่อเข้าไปในห้องคือแท่นรูปกลมที่มีดาบปักแน่นอยู่ตรงกลาง
นี่คงเป็นสิ่งที่เรียกว่าแท่นเทพดาบที่ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นพูดถึง
พื้นที่ตรงหน้าเขาโล่งกว้างจนน่าประหลาดใจ ไม่มีผนังทั้งบริเวณด้านหน้าและด้านบน เพื่อเปิดทางให้เจตจำนงเพลงดาบของผู้เข้ารับการทดสอบพุ่งออกไปได้หลายเมตร เพราะหากมีผนัง ก็คงต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงลิ่วในการสร้างห้องที่สามารถแบกรับแรงกดดันจากการปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบได้
ตั้นเฉี่ยวเทียนก้าวขึ้นไปบนแท่น เขาชักดาบออกมาแล้วสูดหายใจลึก เพ่งสมาธิทั้งหมดให้กับการขับเคลื่อนพลังงาน
เจตจำนงเพลงดาบมีรากฐานอยู่บนความเข้าใจในศิลปะเพลงดาบของนักรบผู้นั้น
เขาฝึกฝนศิลปะเพลงดาบมากว่า 10 ปีแล้วตั้งแต่ยังเด็ก จึงรู้ซึ้งและมีจิตใจที่ฝังลึกอยู่กับศิลปะเพลงดาบ
เพียงแค่ถือดาบในมือ ตั้นเฉี่ยวเทียนก็รู้สึกเหมือนมือของเขาจะหลอมละลายเข้ากับดาบ แทนที่จะเป็นอาวุธ กลับให้ความรู้สึกเหมือนแขนของเขายืดยาวออกไปอีก
หึ่งงงง!
ดูเหมือนดาบนั้นจะรับรู้ความคิดของเขาได้ มันส่งเสียงหึ่งดังลั่นขณะที่แท่นเทพดาบเรืองแสงสีขาวราวกับน้ำนมออกมา
นัยน์ตาของตั้นเฉี่ยวเทียนบ่งบอกความมุ่งมั่น เขาขับเคลื่อนพลังงานจนเต็มพิกัด
ฟิ้วววว!
เจตจำนงเพลงดาบระเบิดออกไป
ตั้นเฉี่ยวเทียนรีบลืมตาดูเพื่อกะระยะทาง สิ่งที่เห็นทำให้ถึงกับหน้าชา
“1 สือ? 1 ใน 3 ส่วนของ 1 เมตร?”
เขาขับเคลื่อนพละกำลังจนเต็มพิกัด แต่กลับกลายเป็นว่าการปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบของเขากินอาณาบริเวณเพียง 1 ใน 3 ของ 1 เมตรเท่านั้น ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็หมายความว่าความเข้าใจในศิลปะเพลงดาบของเขาเทียบชั้นไม่ได้แม้แต่กับศิษย์สายตรงระดับล่างหรือ?
“มะ-ไม่จริงหรอก เป็นไปไม่ได้…ขนาดหัวเจียงเหอยังสู้เราไม่ได้เลย!” หัวสมองของตั้นเฉี่ยวเทียนแทบระเบิด
ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นย้ำแล้วย้ำอีกว่าหอเทพดาบมีความเที่ยงธรรมขนาดไหน แต่ในการต่อสู้ของจริง ศิลปะเพลงดาบของเขาเหนือชั้นกว่าแม้แต่หัวเจียงเหอ แล้วความสามารถของเขาจะถูกจำกัดอยู่ที่ 0.33 เมตรได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้!
“เดี๋ยวก่อน เราเอาชนะหัวเจียงเหอได้ด้วยศิลปะการโยนดาบ บางทีเราควรจะทดลองด้วยกระบวนท่านั้น…”
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ตั้นเฉี่ยวเทียนนึกได้ว่ายังมีไม้ตายอยู่ จึงสูดหายใจลึกก่อนกระดิกนิ้ว
วิ้งงงง!
ดาบในมือของเขาลอยขึ้นสู่กลางอากาศ
ทันทีที่ดาบหลุดมือไป เจตจำนงเพลงดาบอันหนักหน่วงก็ระเบิดออกจากร่างของเขา ดาบนั้นแผ่เจตจำนงเพลงดาบของมันออกมา ทั้งห้องปกคลุมไปด้วยหมอกขาว คลื่นพลังงานอันทรงพลังโอบรอบดาบไว้ราวกับพายุเฮอริเคน
“เฮ้ย…” ตั้นเฉี่ยวเทียนจังงังไปอีกครั้ง
ตอนที่เขาผลักดันเจตจำนงเพลงดาบจนสุดกำลัง ก็ปลดปล่อยออกมาได้เพียง 0.33 เมตร แต่ทันทีที่ใช้เทคนิคการโยนดาบที่ท่านอาจารย์ถ่ายทอดให้ ยังไม่ทันจะได้ปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบออกไป ก็เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่ขึ้นแล้ว หากเขาสำแดงเทคนิคนี้จนสำเร็จ ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นอย่างไร?
หรือว่ามีความแตกต่างใหญ่หลวงระหว่างศิลปะเพลงดาบที่เขาเพียรพยายามทำความเข้าใจมา 10 ปีกับสิ่งที่ท่านอาจารย์เพิ่งถ่ายทอดให้?
“ไปเลย!”
ตั้นเฉี่ยวเทียนมีสีหน้ากระอักกระอ่วน เขาสะบัดดาบ มันพุ่งออกไปทันที
ฟิ้วววว!
เจตจำนงเพลงดาบสีขาวพวยพุ่งออกมาพร้อมกับการเคลื่อนไหวของดาบ จากนั้นก็หายวับไปในชั่วพริบตา
ตั้นเฉี่ยวเทียนกะพริบตาปริบๆด้วยความงงงัน
เจตจำนงเพลงดาบของเขากินอาณาบริเวณแค่ 0.33 เมตรเท่านั้น แต่เมื่อใช้ศิลปะเพลงดาบของท่านอาจารย์ เจตจำนงเพลงดาบก็พุ่งออกไปแสนไกลจนไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตา…
เท่าที่ดู น่าจะมากกว่า 30, 50 หรือแม้แต่ 100 เมตร!
“มันยังพุ่งอยู่หรือ?”
หลังจากรีรออยู่ครู่หนึ่ง เจตจำนงเพลงดาบก็ดูจะยังไปไม่สุดทาง ทำเอาตั้นเฉี่ยวเทียนถึงกับจังงัง
นี่มันพุ่งไปไกลจนไม่อาจวัดผลได้หรือเปล่า?
วิ้งงง!
แต่ขณะที่กำลังกังวล ผนังที่อยู่ด้านข้างเขาก็สั่นสะท้านเล็กน้อยก่อนจะปรากฏผลลัพธ์
“499 เมตร!”
อีกเพียง 1 เมตร ตั้นเฉี่ยวเทียนก็จะได้เป็นเทพดาบ!
เมื่อรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ตั้นเฉี่ยวเทียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความเสียดาย
ดูเหมือนเราจะได้ร่ำเรียนศิลปะเพลงดาบของท่านอาจารย์แต่ไม่อาจเข้าถึงเจตจำนงเพลงดาบขั้นพื้นฐานและอื่นๆได้เลย…
ตั้นเฉี่ยวเทียนเคยคิดว่าด้วยการฝึกฝนอย่างหนักตลอดระยะเวลา 10 ปี การจะได้เป็นศิษย์สายตรงระดับล่างของสำนักดาบเมฆเหินก็คงไม่ยากเกินไป แต่ดูเหมือนเขาจะประเมินความสามารถของตัวเองสูงกว่าความเป็นจริง
ยังอีกไกลนักกว่าจะถึงเป้าหมาย!
ไม่น่าแปลกใจแล้วที่เฉว่ชิงซึ่งไม่ได้ขาดแคลนทรัพยากร อีกทั้งได้คำชี้แนะจากเฉว่เฉิน ก็ยังเป็นได้แค่ศิษย์สายตรงระดับล่าง ในเมื่อตอนนั้นตัวเขาฝึกฝนศิลปะเพลงดาบตามลำพัง แถมยังไม่อาจใช้พลังปราณได้…
เป็นไปได้ว่า 0.33 เมตรคือผลลัพธ์จากการฝึกฝนของเขาตั้งแต่ก่อนได้พบท่านอาจารย์ ถ้าไม่ได้พบท่านอาจารย์ เขาก็คงทำอะไรไม่ได้เลย
เราได้ร่ำเรียนกระบวนท่าจากศิลปะเพลงดาบของท่านอาจารย์เท่านั้นไม่ใช่ทฤษฎีที่อยู่เบื้องหลังแต่ก็ยังแผ่เจตจำนงเพลงดาบออกไปได้ไกลขนาดนี้ถ้าเราเข้าใจแนวคิดของมันอย่างสมบูรณ์แบบล่ะก็น่าคิดเหลือเกินว่าตัวเราจะทรงพลังขนาดไหน ตั้นเฉี่ยวเทียนคิด
ตัวเขาในเวลานี้ไม่ต่างอะไรกับเด็กคนหนึ่งที่เรียนรู้วิธีแก้โจทย์เลขผ่านการเลียนแบบ เขาได้คำตอบที่ถูกต้อง แต่หากถูกตั้งคำถามว่าทำไมถึงใช้วิธีนั้น หรือต้องขยายความรายละเอียดที่อยู่เบื้องหลังวิธีการแก้โจทย์ของเขาว่าคืออะไร ก็แน่นอนว่าตอบไม่ได้
คนๆหนึ่งอาจแสดงออกถึงความกล้าหาญได้อย่างลึกซึ้งจากจิตวิญญาณจนสามารถปลุกเร้าอารมณ์และความรู้สึกของผู้อื่นได้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะกลายเป็นกวีอย่างหลี่ไป๋ที่มาพร้อมกับบทกวีที่อยู่เหนือกาลเวลา
แม้จะอยู่ในฐานะดังกล่าว แต่เจตจำนงของตั้นเฉี่ยวเทียนก็ยังแผ่ออกไปได้ไกลถึง 499 เมตร ซึ่งหากเขามีความเชี่ยวชาญในภูมิปัญญาที่แท้จริงของท่านอาจารย์ล่ะก็ แน่นอนว่าจะต้องประสบความสำเร็จมากกว่านี้
จะว่าไป นี่จะไม่หมายความว่าท่านอาจารย์ของเขาสามารถแผ่เจตจำนงเพลงดาบออกไปได้ไกลกว่า 500 เมตรหรือ? น่าจะเหนือชั้นกว่าบรรดาผู้ปราดเปรื่องของสำนักดาบเมฆเหินด้วยซ้ำ!
เราควรรีบออกไปพบท่านอาจารย์เพื่อให้เขาได้มีโอกาสทดลอง ตั้นเฉี่ยวเทียนครุ่นคิดอย่างตื่นเต้นขณะรีบออกจากห้อง
ขนาดศิลปะเพลงดาบที่เขาร่ำเรียนเพียงวันเดียวยังไร้เทียมทานขนาดนี้ เขาเชื่อมั่นว่าท่านอาจารย์จะต้องทำลายสถิติได้แน่!
เมื่อเห็นตั้นเฉี่ยวเทียน ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นรีบไถ่ถาม “เป็นอย่างไรบ้าง? คุณทำได้เกินกว่า 30 เมตรหรือเปล่า?”
ถึงเขาจะมั่นใจว่าตั้นเฉี่ยวเทียนน่าจะทำได้ตามเงื่อนไข แต่ก็อดใจเต้นตึกตักไม่ได้จนกว่าจะได้รู้คำตอบ
“ผมทำได้…” ตั้นเฉี่ยวเทียนหน้าแดงก่ำ
อันที่จริง ความเข้าใจในศิลปะเพลงดาบของตัวเขาทำให้สามารถปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบออกไปได้เพียง 0.33 เมตรเท่านั้น แต่ถ้าเขายอมรับออกไป คงถูกขับออกจากสำนักทันที ด้วยเหตุนี้ หลังจากใคร่ครวญอย่างดีแล้ว ตั้นเฉี่ยวเทียนจึงตัดสินใจตามน้ำไปก่อน
ต่อไป เขาก็แค่ต้องฝึกฝนให้หนักกว่าเดิมเพื่อกำจัดจุดอ่อนข้อนี้ให้ได้!
ผู้อาวุโสลู่ถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังจากได้ยินว่าตั้นเฉี่ยวเทียนผ่านการทดสอบ เขาซักไซ้รายละเอียด “การปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบของคุณกินอาณาบริเวณเท่าไหร่?”
เขาเคยเห็นศิลปะเพลงดาบของตั้นเฉี่ยวเทียนแล้ว มันเป็นการสำแดงศิลปะการต่อสู้อันน่าทึ่ง ถึงขนาดที่หัวเจียงเหอ, ศิษย์พี่หมายเลข 1 ของบรรดาศิษย์สายตรงฝ่ายนอกก็ยังเทียบชั้นไม่ได้
เพียงเท่านั้นก็มากพอจะทำให้ตั้นเฉี่ยวเทียนขึ้นเป็นผู้นำในหมู่ศิษย์สายตรงฝ่ายในแล้ว
“เอ่อ…นี่คือผลการทดสอบของผม” ตั้นเฉี่ยวเทียนตอบพร้อมกับยื่นตราหยกอันหนึ่งให้
เขาบันทึกผลลัพธ์ที่ปรากฏบนผนังเมื่อครู่นี้เอาไว้
เห็นตั้นเฉี่ยวเทียนอับอายขายหน้าจนต้องยื่นตราหยกให้เขาแทนการพูดตัวเลขออกมา ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นเข้าใจทันทีว่าผลการทดสอบของอีกฝ่ายคงไม่ดีนัก “คุณไม่ต้องกังวลเรื่องผลการทดสอบในเวลานี้หรอก คุณอายุยังน้อย ขอแค่ได้เข้าเป็นหนึ่งในศิษย์สายตรงฝ่ายใน ต่อไปก็จะพัฒนาตัวเองได้รวดเร็วอย่างแน่นอน…”
แต่ยังไม่ทันจะพูดจบ ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นก็เห็นตัวเลขที่ปรากฏบนตราหยก นัยน์ตาของเขาแทบทะลุออกจากเบ้า “4-499 เมตร?”
“ใช่” ตั้นเฉี่ยวเทียนพยักหน้าด้วยใบหน้าแดงก่ำ น่าอับอายเหลือเกินที่ต้องโกหกดื้อๆแบบนี้
“….”
ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นมองตราหยกในมือสลับกับสีหน้าอับอายเกินขนาดของตั้นเฉี่ยวเทียน เขาทึ้งผมตัวเองอย่างหงุดหงิด
คุณเป็นบ้าอะไร*?*
ไอ้สีหน้าอับอายเหลือหลายของคุณทำให้ผมคิดว่าคุณคงทำได้ราวๆ 30 เมตรเท่านั้น*…แต่ให้นรกกินเถอะผลลัพธ์ของคุณคือ 499 เมตร**!*
รู้หรือเปล่าว่ามีศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดมากมายแค่ไหนที่อยากจะทำผลงานให้ได้แบบคุณแต่ไม่มีปัญญา?
คุณเกือบจะได้เป็นเทพดาบแล้วรู้บ้างไหม?
แทนที่จะภูมิใจกลับหน้าแดงก่ำด้วยความอับอายกับสถิติของตัวเอง…แล้วผมล่ะ?ถ้างั้นผมเป็นตัวอะไร?ตัวตลกเดินได้ให้ใครๆดูถูกเหยียดหยามใช่ไหม?
ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นรู้สึกเหมือนถูกปล้นศักดิ์ศรีทั้งหมดไปและทำลายมันจนแหลกสลายเป็นชิ้นๆ
เขาเคยเห็นศิษย์สายตรงมากมายที่หงุดหงิดและท้อใจกับผลลัพธ์อันน้อยนิดของตัวเอง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นใครคนหนึ่งทำสีหน้าแบบนั้นทั้งที่ได้ผลลัพธ์ดีเลิศ
เรื่องแบบนี้เหมือนกับสถานการณ์ในวันหนึ่งที่เป็นวันประกาศผลสอบ คุณเห็นนักเรียนคนหนึ่งกำลังพึมพำพร่ำบ่นไม่หยุด จึงเข้าไปปลอบใจเขา หลังจากปลอบกันอยู่นาน ในที่สุดหมอนั่นก็ยอมบอกว่าเขาเสียอกเสียใจเพราะเหตุใด
ในการทดสอบที่มีคะแนนเต็ม 100 คะแนน เขาทำคะแนนได้ 99
ส่วนตัวคุณที่เข้าไปปลอบใจเขา…ได้เพียง 9 คะแนนเท่านั้น!
ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นไม่เคยรู้สึกอยากหายตัวมากเท่านั้นมาก่อน