ตอนที่ 1177

Alchemy Emperor of the Divine Dao

“ฮ่าฮ่าฮ่า!” เมิ่งเหว่ยแสดงสีหน้าพึงพอใจ “ข้าพึ่งฝนทักษะพิเศษ ซึ่งมันทำให้ข้าสามารถสัมผัสร่องรอยของความศักดิ์สิทธิ์ได้ในระยะเวลาหนึ่ง!”

ช่วยไม่ได้ที่หลิงฮันจะประเมินนางสูงขึ้น ทักษะนั่นช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก มันสามารถสำรวจพื้นที่ที่ไม่เคยสำรวจมาก่อนได้ โดยที่ตัวเองไม่ต้องรับความเสี่ยง

“ถ้างั้นสถานการณ์ในปัจจุบันเป็นเช่นไร?” หลิงฮันถาม

เมิ่งเหว่ยพยักหน้า จากนั้นนางก็หลับตาลงและนิ่งราวกับเป็นรูปปั้นหิน

หืม?

หลิงฮันสัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างออกมาจากร่างกายของเมิ่งเหว่ย โดยทั่วไปแล้วมันไม่สามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้ มีเพียงแค่การใช้สัมผัสสวรรค์เท่านั้นถึงจะรับรู้การมีอยู่ของมัน

หลังจากนั้นไม่นาน เมิ่งเหว่ยก็ลืมตาขึ้นอย่างกะทันหันและพูดว่า “มันยังคงมีกลุ่มสัตว์อสูรอยู่ด้านใน ข้าจำพวกมันได้”

“พวกมันแข็งแกร่งแค่ไหน?” หลิงฮันถาม

“สัตว์อสูรส่วนใหญ่อยู่ในระดับภูผาวารีขั้นสูง มีเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่อยู่ระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นสูงสุด” เมิ่งเหว่ยกล่าว จากนั้นนางก็ตบไปที่ไหล่ของหลิงฮัน “ในอดีต พวกข้าทำได้แค่วิ่งหนีเท่านั้น แต่ตอนนี้พวกข้ามีเจ้าอยู่ที่นี่ พวกมันจะต้องถูกสังหารหมดอย่างแน่นอน”

“เจ้าคิดว่ามันเป็นเรื่องของข้าหรือไม่?” หลิงฮันส่ายหัว

ถ้าพวกมันเป็นแค่สัตว์อสูรระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นสูงสุด เขาก็ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัว แต่เขากลัวว่าจะมีสัตว์อสูรระดับสุริยันจันทราอยู่ หากเป็นเช่นนั้นเขาก็จะทำได้แค่หนีเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ขุมทรัพย์ของนักปรุงยา มันก็ยังคุ้มค่าที่จะเสี่ยงอยู่ดี

ปัง!

เขาเตะพังประตูลานกว้างและเข้าไปข้างใน

แต่เดิมมันเป็นสวน แต่ตอนนี้เป็นสวนที่แห้งแล้ง ซึ่งมีสัตว์อสูรสามตัวกำลังนอนอยู่บนพื้น รูปร่างของมันคล้ายคลึงกับเสือ แต่ที่แตกต่างคือพวกมันทั้งสามตัวมีเขาสีเงินอยู่ตรงกลางหน้าผาก

เมื่อได้ยินเสียงของการเคลื่อนไหว สัตว์อสูรทั้งสามตัวก็ลุกขึ้นพร้อมกัน

“มีใครกำลังมา!”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ดูเหมือนพวกเราจะได้สังหารหมู่พวกมันอีกแล้ว!”

“เลือดเนื้อของจอมยุทธนั้นเต็มไปด้วยแหล่งพลังงาน หากข้าได้กินมนุษย์ บางทีข้าอาจได้เลื่อนระดับ”

“มันจะเป็นแบบนั้นได้อย่างไร เว้นแต่เจ้าจะได้กินมนุษย์ที่เป็นจอมยุทธระดับสุริยันจันทรา! ยังไงก็ตามมันเป็นเรื่องที่ดีจะเริ่มงานสังหารหมู่ ข้าไม่ได้กินเนื้อมนุษย์มาช้านาน ช่างน่าคิดถึงยิ่งนึก!”

สัตว์อสูรทั้งสามตัวพูดคุยกันอย่างเป็นธรรมชาติ หลังจากที่พวกมันทะลวงผ่านขอบเขตพระเจ้า การที่พวกมันจะแปลงกายเป็นมนุษย์นั้นจึงไม่ใช่ปัญหา

หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “ข้าเองก็ไม่ได้กินเนื้อของสัตว์อสูรมานาน และข้าก็ไม่รู้สึกรังเกียจที่จะได้กินเนื้อของพวกเจ้า”

“เจ้ามนุษย์อวดดี!”

“ฆ่ามัน!”

สัตว์อสูรทั้งสามตัวส่งเสียงคำรามและกระโจนเข้าหาหลิงฮัน

พวกมันทั้งสามตัวเป็นสัตว์อสูรระดับภูผาวารีขั้นสูงและมีพลังต่อสู้ที่ค่อนข้างหน้าทึ่งทีเดียว เพราะสัตว์อสูรนั้นมีความได้เปรียบเหนือกว่ามนุษย์มาก ไม่ว่าจะเป็นพลังโจมตีหรือพลังป้องกันก็ตาม

เมื่อสัตว์อสูรทั้งสามตัวกระโจนเข้ามา ร่างเงาของพวกมันก็บังหลิงฮันมิด

หลิงฮันส่ายหัวและยกนิ้วขึ้นมาอย่างเฉยเมย ฉัวะ แสงดาบพุ่งออกมาสามสาย แล้วจากนั้นสัตว์อสูรทั้งสามตัวก็ถูกฟันออกเป็นสองส่วนและตายอย่างสมบูรณ์

เนื่องจากหลิงฮันเคยสังหารกลุ่มโจรยี่สิบสี่คนที่เป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงมาก่อน ดังนั้นเมิ่งเหว่ยและกลุ่มของนางจึงเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่เมื่อพวกนางเห็นหลิงฮันสังหารสัตว์อสูรทั้งสามตัวด้วยนิ้วเดียว มันก็ยังทำให้พวกนางรู้สึกตกตะลึงอย่างมากอยู่ดี

จอมยุทธระดับภูผาวารีอย่างเขาแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร!

สมแล้วที่เป็นศิษย์ของนิกายสวรรค์เยือกแข็ง!

หลิงฮันเดินไปข้างหน้าและเก็บร่างของสัตว์อสูรทั้งสามตัวเข้าไปในหอคอยทมิฬ ซากศพของพวกมันสามารถทำเป็นยาบำรุงได้ดีและมีคุณสมบัติซ่อมแซมร่างกายได้อย่างน่าทึ่ง

“ยังมีอีก!”

สัตว์อสูรหลายตัวแห่กันออกมาจากคฤหาสน์และเมื่อเห็นโลหิตเปื้อนบนพื้นดินพร้อมกับสหายของพวกมันทั้งสามตัวที่หายไป ทำให้พวกมันรู้สึกโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก

อสูรพยัคฆ์เขาเดียวก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “มนุษย์ สหายของข้าอยู่ที่ไหน?”

“พวกมันต้องการกินข้า ดังนั้นข้าจึงสังหารพวกมันไปแล้ว” หลิงฮันกล่าวด้วยรอยยิ้ม

นี่ทำให้สัตว์อสูรเหล่านั้นโกรธเกรี้ยวมากยิ่งขึ้น และพวกมันแต่ละตัวอย่างจะพุ่งเข้าไปสังหารหลิงฮันให้ตายคามือ

อย่างไรก็ตาม อสูรพยัคฆ์เขาเดียวส่งเสียงคำรามและทำให้สัตว์อสูรตัวอื่นๆสงบลง จากนั้นมันก็พูดว่า “มนุษย์  พวกข้าไม่มีความเกลียดชังต่อกัน ในเมื่อพวกเจ้าเข้ามาในอาณาเขตของข้า แล้วทำไมต้องสังหารพรรคพวกของข้า?”

หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “ข้ารู้สึกละอายเล็กน้อยกับคำถามของเจ้า! ยังไงก็ตาม เนื่องจากพวกเจ้าเป็นสัตว์อสูร แล้วทำไมถึงมาอยู่อาศัยในสถานที่ของมนุษย์? พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่?”

ช่วยไม่ได้ที่อสูรพยัคฆ์เขาเดียวจะรู้สึกตกใจ ทั้งที่มันเป็นฝ่ายถามมนุษย์ แต่มนุษย์ผู้นี้กลับไม่ตอบคำถามของมัน และยังยิงคำถามใส่อีก

ถึงกระนั้นมันก็ไม่อยากเป็นศัตรูกับมนุษย์พวกนี้ สหายของมันทั้งสามตัวถูกสังหารอยากรวดเร็ว นี่แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งแค่ไหน

“พี่ใหญ่ พวกเราจะพูดจาไร้สาระกับมันอยู่ทำไม ในเมื่อพวกเขามีจำนวนมากกว่ายังต้องกลัวพวกมันอีกหรือ?” อสูรพยัคฆ์เขาเดียวตัวหนึ่งกล่าวด้วยความเหยียดหยาม พวกมันเคยกินมนุษย์มานับไม่ถ้วน ในสายตาของพวกมันมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอ จึงทำให้พวกมันไม่หวาดกลัวต่อมนุษย์

อสูรพยัคฆ์เขาเดียวที่เป็นหัวหน้าดูลังเล ด้านหนึ่งมันไม่อยากมีเรื่องกับหลิงฮัน ในอีกด้านหนึ่งเนื่องจากพวกมันคิดว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอมาโดยตลอด ดังนั้นมันจึงไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี

“ฆ่าพวกมัน!” เมิ่งเหว่ยนำดาบออกมาและกระโจนออกไปข้างหน้า

“ตามหัวหน้าไป!” เหล่าลูกน้องของนางรีบติดตามนางไปอย่างรวดเร็ว มิฉะนั้นถ้านางถูกพวกอสูรพยัคฆ์เขาเดียวล้อม แม้นางจะเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงก็จะถูกพวกมันฉีกเป็นชิ้นๆอย่างรวดเร็ว

“ฮ่าฮ่าฮ่า ที่แท้มันก็เป็นเจ้านี่เอง!” สัตว์อสูรเขาเดียวตัวหนึ่งแสยะยิ้ม ที่ชายตาของมันมีบาดแผล เนื่องจากถูกเหมิ่งเหว่ยโจมตีเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน ทำให้มันเคียดแค้นนางมาหลายปี และไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะมีโอกาสได้แก้แค้น

ดังนั้นมันจึงตัวแรกที่กระโจนออกมา

เมื่อพรรคพวกของมันเห็น พวกมันก็รีบตามไปทีละตัว

อสูรพยัคฆ์เขาเดียวที่เป็นหัวหน้าฝูงทำได้แค่มองและแผดเสียงคำราม

“ฆ่ามัน! ฆ่ามันเลย!” หูเฟยหยินกำลังซ่อนตัวอยู่ด้านหลังสุ่ยเยี่ยนยวี่ ถึงแม้นางจะชอบดูอะไรสนุกๆ แต่ก็หวาดกลัวต่อความตาย ดังนั้นนางจึงหลบอยู่ด้านหลังสุ่ยเยี่ยนยวี่และดูฉากต่อสู้

สุ่ยเยี่ยนยวี่เองก็อยากออกไปร่วมต่อสู้ด้วย นางไม่อยากเป็นคนไร้ประโยชน์เมื่ออยู่กับหลิงฮัน ถึงกระนั้นนางไม่ได้โง่ ในบรรดากลุ่มอสูรพยัคฆ์เขาเดียวที่อ่อนแอที่สุดมีระดับบ่มเพาะพลังเทียบเท่ากับนาง

ส่วนจักรพรรดิจอมอสูรมีหน้าที่รับผิดชอบปกป้องนางอยู่ด้านข้าง แม้มันจะมีพลังต่อสู้ระดับสุริยันจันทรา แต่มันไม่สามารถใช้พลังดังกล่าวได้ตามอำเภอใจ มิฉะนั้นถูกขับไล่ออกไปจากที่นี่

อย่างไรก็ตาม ทั้งหลิงฮันและจักรพรรดิจอมอสูรต่างก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร พวกเขาแค่สังเกตการณ์อยู่ด้านข้างเท่านั้น