เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 1106
คนอื่นๆต่างก็มองไปที่หยางเฟิง อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าไปตามๆกัน
หยางเฟิงนั้นยังไงสะก็ยังเป็นหนุ่มที่ชอบจะเอาชนะ
แค่เจอความไม่เป็นธรรมนิดเดียวก็ยอมไม่ได้แล้ว
กำไรก็แค่สิบเปอร์เซ็นต์มันจะอะไรกันนักหนา ?
อยากจะทำธุรกิจในเกาะดาวนี้ ยังไงสะก็ต้องเคารพกฎของตระกูลหลี่นะ!
เมื่อก่อนนั้นมีหลายคนที่ไม่ยอมเคารพกฎเกณฑ์ของตระกูลหลี่ แต่ว่าจุดจบของพวกเขานั้นต่างก็จบได้อย่างอนาถมาก
ถึงขั้นที่ว่าทั้งตระกูลนั้นต่างก็โดนกำจัดกันไปสะจนหมด ก่อนที่จะค่อยๆทยอยออกจากเกาะดาวไป !
ที่ยิ่งกว่านั้นนอกจากบ้านและครอบครัวจะถูกทำลายแล้ว แม้แต่ชีวิตนั้นก็ได้ถูกถวายทิ้งไว้ที่เกาะดาว !
หยางเฟิงนั้นกล้าที่จะมาโจมตีทำร้ายหลี่เหิง จุดจบนั้นจะต้องจบไม่สวยเป็นอย่างแน่!
รปภ หลายสิบคนนั้นได้ล้อมหยางเฟิงเอาไว้ สีหน้าแต่ละคนนั้นต่างก็ดุดันและน่าเกรงขาม
หยางเฟิงนั้นหันไปเอ่ยกับเย่เมิ่งเหยียนด้วยสีหน้าที่แน่นิ่ง“ที่รัก คุณหลบไปยืนไกลๆหน่อยสิ ป้องกันไม่ให้อีกสักครู่ตอนโจมตีกันแล้ว จะได้ไม่กระเด็นโดนคุณน่ะ!”
เย่เมิ่งเหยียนพยักหน้า ก่อนที่จะถอยออกไปอีกด้านหนึ่งอย่างเงียบๆ
บนใบหน้าของเธอนั้นไม่มีสีหน้าที่แสดงถึงความเกรงกลัวแต่อย่างใด
ด้วยหลายเหตุการณ์ที่ต้องพบเจอมา และสำหรับพลังอำนาจของหยางเฟิงนั้น เธอนั้นก็รู้และเข้าใจดีมาตั้งแต่ตอนแรก
ไม่ต้องเอ่ยถึงพวก รปภ ของโรงแรมสิบกว่าคน
ถึงแม้จะเป็นพวกคนของตระกูลหลี่ทั้งตระกูล ……
ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้แม้แต่หัวนิ้วโป้งเดียวของหยางเฟิง!
“ฆ่าสิ!”
เมื่อต้องมาเผชิญกับการถูกมองข้ามจากหยางเฟิง รปภ สิบกว่าคนนั้นก็โกรธขึ้น
คำโบราณเขาว่าไว้ดีจริงๆ จะต้องยอมตายด้วยความจงรักภักดีเพื่อนาย!
หลี่เหิงที๋โดนดูถูกเช่นนี้ เขานั้นเหมือนกับโดนดูถูก เหมือนโดนตบเข้าที่ใบหน้าของเขาอย่างเต็มแรง!
รปภ ทุกคนนั้นต่างก็เอ่ยร้องคำรามออกมา ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปเพื่อพยายามฆ่าหยางเฟิง
ฟึ๊บ!
ฟึ๊บ!
พลั๊ว!
……
ก่อนที่จะได้มีเสียงของการแตกหักดังออกมา
หยางเฟิงนั้นที่ได้ตบและพุ่งเข้าไปครั้งแล้วครั้งเล่า
รปภ สิบกว่าคนนั้น ทั้งหมดต่างก็โดนผลักจนบินลอยออกไป
พวกเขานั้นต่างก็ล้มลงไปนอนอยู่กับพื้น มือทั้งสองข้างนั้นเอามาจับที่บนใบหน้า ก่อนที่จะร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างโหยหวน
ฟันของพวกเขานั้นต่างก็โดนต่อยจนกระเด็นออกไป และในปากนั้นก็เต็มไปด้วยเลือดสด!
เมื่อมองเห็นดังนี้ ผู้คนที่อยู่ข้างๆนั้นต่างก็ขนลุกขนพองกันขึ้นมา
หยางเฟิงคนนี้เขาช่างเก่งกาจจริงๆ !
เขานั้นเป็นใครกันแน่นะ?
เป็นใครหมายเลขหนึ่งที่มาจากไหนกัน?
แม้แต่ รปภ สิบกว่าคนนั้นต่างก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา?
นี่ยังนับว่าเป็นคนอีกหรอเนี่ย ?
แค่หมัดเดียวก็ทำเอาให้ รปภ หนึ่งคนนั้นกระเด็นออกไปได้?
ต้องรู้ว่า รปภ พวกนี้นั้นได้ถูกคัดเลือกเข้ามาอย่างเข้มงวดและระเอียดมาก และพละกำลังของแต่ละคนนั้นต่างก็แข็งแกร่งกำยำ
ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่ว่าพวกเขานั้นก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้หนึ่งแค่หนึ่งหมัดของหยางเฟิง !
“มึง……”
เมื่อมองเห็นหยางเฟิงที่โหดร้ายเช่นนี้
ร่างกายของหลี่เหิงนั้นไม่หยุดที่จะตัวสั่น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่สายตาของหยางเฟิงนั้นจ้องมองมาที่เขา เขานั้นยิ่งอ้าปากกว้างขึ้น แม้แต่คำพูดเดียวก็เอ่ยออกมาไม่ออก
“หยางเฟิง เจ้ากล้าที่จะมาทำเรื่องวุ่นวายที่นี่งั้นหรอ?เจ้าต้องรู้บ้างนะ ว่าที่นี่นั้นเป็นพื้นที่ของตระกูลหลี่นะ!”
หลี่เหิงเอ่ยร้องออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆ
หยางเฟิงนั้นก้มมองมาที่หลี่เหิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาแล้วเอ่ย“ข้านั้นได้เคยเอ่ยไว้แล้ว ว่าข้านั้นไม่ได้เข้าใจในกฎเกณฑ์ของตระกูลหลี่ แต่ว่าเจ้านั้นอยากที่จะมารนหาที่ตาย เจ้านั้นคิดว่า บริษัทเฟิงเมิ่งกรุ๊ปนั้นจะยอมให้พวกเจ้าย่ำยีได้ง่ายๆงั้นหรอ ?เดิมทีข้านั้นอยากที่จะไว้หน้าให้กับเฉินตงสักหน่อย แต่ว่าตอนนี้มองดูแล้ว ข้านั้นจะไม่ไว้หน้าให้เขานั้นอีกต่อไป เพราะว่าพวกเจ้าที่เป็นคนเช่นนี้ นั้นไม่เหมาะด้วยซ้ำที่ข้านั้นจะไว้หน้าให้!”
เมื่อเอ่ยจบ หยางเฟิงมองไปที่เย่เมิ่งเหยียนแล้วเอ่ย“ที่รัก พวกเราไปกันเถอะ!โรงแรมแบบนี้ ที่มีพวกบ้าบออยู่ที่นี่ มันส่งผลกระทบต่อความอยากกินอาหารของผมน่ะ ”
เย่เม่งเหยียนนั้นได้พยักหน้าอย่างอ่อนโยน
หลังจากนั้น หยางเฟิงนั้นก็ได้จับมือเย่เมิ่งเหยียนก่อนที่จะหันหลังแล้วเดินออกไป !
ส่วนสำหรับหลี่เหิง……
วันนี้นั้นก็แค่สอนบทเรียนเล็กๆน้อยๆให้เขา
หากเขานั้นยังดิ้นรนและไม่รู้จักที่ตายต่อไป
รอบต่อไป จะไม่มีเพียงแค่หมัดเดียวเท่านั้นแล้วล่ะ!
เมื่อมองเห็นแผ่นหลังของหยางเฟิงที่เดินจากไป
ผู้คนที่อยู่ในสถานที่นั้นต่างก็ตกตะลึงตาค้างกันไป
หยางเฟิงนั้นกลับกล้าทำร้ายคนที่เป็นถึงคุณชายของตระกูลหลี่ ?
บริษัทเฟิงเมิ่งกรุ๊ปนั้นยังจะอยากที่จะพัฒนาและเจริญเติบโตต่อไปบนเกาะดาวไหมนะ?
นี่มันก็แค่ฝันเท่านั้นแหละ!
แต่ว่าหลี่เหิง
เขานั้นโกรธจนสีหน้าของเขานั้นเริ่มเปลี่ยนไปเป็นสีแดงขึ้นเรื่อยๆ
เพราะตัวตนของเขานั้นเป็นถึงคุณชายของตระกูลหลี่ แล้วเขาจะต้องไปรับความอัปยศอะไรเช่นนี้ทำไมกัน?