ในอากาศที่มืดมิด ชายชุดคลุมสีทองส่งเสียงกรีดร้อง ทันใดนั้นรูเลือดขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นในท้องของเขาทันที ข้างในว่างเปล่าราวกับเนื้อและเลือดหายไปในอากาศ

แต่เห็นได้ชัดว่าการโจมตีครั้งนี้ไม่เพียงพอที่จะสังหารชายชุดคลุมสีทอง

แม้ว่าใบหน้าของเขาจะบิดเบี้ยว ทว่าเขากลับยกมือข้างหนึ่งในท่าสวดภาวนา พร้อมทั้งใช้มืออีกข้างหนึ่งกดไปยังรูเลือด และมีอากาศสีดำพุ่งออกมาจากฝ่ามือก่อนที่จะสัมผัสร่างกาย

เห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจรักษาแผลในทันที!

ทว่าในเวลาต่อมา แสงสีทองส่องประกายในรูเลือด และจุดแสงนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นอย่างน่าประหลาด

“ไม่”

ชายชุดคลุมสีทองร้องเสียงดังลั่นกึกก้องฟ้าเมื่อเห็นเช่นนั้น ทว่ากลับสายไปเสียแล้ว

ทันใดนั้น แสงเหล่านั้นก็พร่างพรายเป็นประกาย และกลายเป็นเส้นใยสีทอง จากนั้นพุ่งออกไปทุกทิศทาง

ครั้นเมื่อเกิดเสียงดังกึกก้อง หลังจากที่ด้ายสีทองผสานกันและเปล่งประกายในความว่างเปล่า คราบเลือดจำนวนมากจึงปรากฏบนร่างของชายชุดคลุมสีทอง

จากนั้นละอองเลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว ชิ้นเนื้อบดละเอียดมากมายตกลงมาจากท้องฟ้า

ความแข็งแกร่งของปูสีทองนี้ไม่อาจหยั่งรู้ได้ และเป็นการง่ายที่จะสังหารร่างบรรพบุรุษนิพพานโดยไม่ใช้การโจมตีครั้งที่สามด้วยซ้ำ

แม้แต่ปราณก่อกำเนิดภายในร่างของชายชุดคลุมสีทอง ก็ไม่สามารถหลีกหนีการสังหารนี้ได้

หานลี่ปลดปล่อยจิตวิญญาณของเขา และในขณะเดียวกัน รูม่านตาของเขาก็ส่องแสงสีฟ้า เพื่อยืนยันว่าชายในชุดคลุมสีทองไม่มีวิญญาณเหลืออยู่จริงๆ เขาถอนหายใจยาว แล้วหันกลับมามองปูสีทองด้านล่างด้วยท่าทางลังเลในทันที

“ข้าลงมือไปแล้วสองครั้ง เจ้ายังมีอีกครั้งหนึ่งที่จะให้โอกาสข้าลงมือ หากตอนนี้ยังไม่ต้องการ ในภายภาคหน้าค่อยขอให้ข้าช่วยก็ได้ ถึงอย่างไร ข้าก็ต้องอยู่ที่นี่ ครั้งต่อไปหากเจ้าต้องการจัดการใกล้กับบริเวณทะเลสายฟ้า ข้าก็สามารถลงมือได้” หลังจากที่แสงสีทองบนร่างของปูสีทองค่อยๆ มาบรรจบกัน มันจึงส่งเสียงอย่างไร้ความรู้สึกอีกครั้ง

“เหตุใดจึงไม่สามารถออกจากที่นี่?” หานลี่ตกตะลึง ทว่ากลับถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ข้ามีพลังวิญญาณเทพไม่เพียงพอ ข้าไม่สามารถเคลื่อนไหวอย่างอิสระได้เป็นเวลานาน” ปูสีทองตอบ

“พลังวิญญาณเทพ เจ้าหมายถึง…” ท่าทางของหานลี่เปลี่ยนไปเล็กน้อย

“ก็คือพลังสวรรค์และโลกในเครื่องสังเวยของพวกเจ้า เหตุผลที่ข้าตกลงจะลงมือ ก็เพราะว่าข้อเสนอเหล่านี้มีบางสิ่งที่ข้าต้องการ ข้าเป็นเพียงหุ่นเชิด และทุกการเคลื่อนไหวก็ใช้พลังวิญญาณเทพ ข้าจะเก็บพลังครึ่งหนึ่งในเครื่องสังเวย เพื่อเป็นค่าตอบแทน” ปูสีทองอธิบายอย่างละเอียด

“เจ้าเป็นหุ่นเซียนปลอม? แต่ข้าเห็นเจ้าดูเหมือนมีปัญญา และยังสามารถเรียกเจ้าว่า ‘สหาย’ ได้ หยดน้ำที่ข้าเพิ่งให้เจ้า สามารถรองรับการเคลื่อนไหวของเจ้าได้นานแค่ไหน” สีหน้าของหานลี่เปลี่ยนไป พร้อมทั้งถามด้วยจิตใจว้าวุ่น

“ข้าคือหุ่นเซียนปลอมที่ถูกสร้างจากอาณาจักรเบื้องบน หลังจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันครั้งหนึ่งจึงตกลงสู่อาณาจักรเบื้องล่าง เมื่อระยะเวลาผ่านไปนานหลายปี จึงฝึกฝนจิตวิญญาณอิสระ แม้ว่าหยดน้ำที่เจ้าให้ข้ามาจะไม่ใช่ของแท้ แต่ก็เป็นหยดน้ำที่บริสุทธิ์ที่สุดที่ข้าเคยเห็นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และมีประสิทธิผลห้าส่วนของแท้ หยดน้ำเซียนปลอมนี้ ช่วยให้ข้าเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระเป็นเวลาสองเดือน แน่นอนว่าการเคลื่อนไหวนี้ ต้องไม่เผชิญหน้าและต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่ง มิฉะนั้น เมื่อข้าระดมพลังงานก็จะลงมือหลายครั้งด้วยพลังทั้งหมดของข้า” ดวงตาของปูสีทองเปล่งประกายครู่หนึ่ง ทว่ายังคงตอบกลับมา

“ด้วยเหตุนี้ สาเหตุที่ก่อนหน้านี้สหายหลับใหลโดยที่ไม่ออกจากที่นี่เป็นเพราะพลังไม่เพียงพอ” ดวงตาของหานลี่เป็นประกาย พร้อมทั้งถามอย่างครุ่นคิด

“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ แต่ที่ยังอยู่ที่นี่ ยังเป็นเพราะว่าพลังวิญญาณที่นี่เป็นที่ที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลกนี้ด้วย หากหลับใหลที่นี่ จะไม่เปลืองพลังงาน และเมื่อข้าสะสมพลังวิญญาณเทพได้เพียงพอแล้ว ข้าอาจมีโอกาสได้กลับไปสู่อาณาจักรเบื้องบนอีกครั้ง” ปูสีทองพูดอย่างตรงไปตรงมา

“อาณาจักรเบื้องบนที่สหายพูดถึง คืออาณาจักรเทพที่แท้จริงใช่หรือไม่” หานลี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พลางถามอย่างเคร่งขรึม

“ถูกต้อง พวกเจ้าที่อยู่อาณาจักรเบื้องล่างจะเรียกว่าอาณาจักรเทพที่แท้จริงหรืออาณาจักรเทพ แต่พวกเราที่อยู่อาณาจักรเทพ มักคุ้นชินกับการเรียกว่าอาณาจักรเบื้องบน” ปูสีทองตอบเพียงสั้นๆ

“ดูเหมือนว่านายท่านของสหายจะเป็นเทพจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่เขามีหุ่นเชิดทรงพลังเช่นเจ้า หากข้าสามารถให้พลังที่เพียงพอแก่เจ้า เจ้ายินดีจะติดตามข้าไปสักระยะหนึ่งหรือไม่” หลังจากที่หานลี่กลอกตาสองสามครั้ง เขาก็พูดบางอย่างที่น่าประหลาดใจ

“ให้ข้าติดตามเจ้า! หากเจ้าสามารถให้หยดน้ำได้เหมือนตอนนี้ทุกเดือน ก็คงเป็นไปได้ แต่ถ้าอยากให้ข้าลงมือช่วยเจ้า ค่าตอบแทนจะแยกต่างหาก และถ้าหากข้าสะสมพลังได้มากพอ ข้าจะจากไปโดยที่เจ้าไม่สามารถขัดขวาง” คราวนี้ ปูสีทองเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา

“เจ้าต้องสะสมพลังงานนานแค่ไหน พลังวิญญาณเทพจึงจะเพียงพอ” หานลี่ถามหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง

“ส่วนในร่างกายของข้าที่แปรเปลี่ยนเป็นพลังวิญญาณเทพได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง หากเป็นหยดน้ำเช่นเดียวกับเมื่อสักครู่ หนึ่งหยดสามารถเปลี่ยนได้หนึ่งเดือน หากเจ้าให้ข้าเดือนละหนึ่งหยด พันกว่าปีก็น่าจะเพียงพอ” ปูสีทองตอบ

“พันกว่าปี! ฮ่าฮ่า เวลานานขนาดนี้ก็เพียงพอแล้ว เอาล่ะ ข้าสัญญาว่าจะให้หยดน้ำแก่เจ้าทุกเดือน เพื่อให้เจ้าติดตามข้าในช่วงนี้” หานลี่หัวเราะเมื่อได้ยินเช่นนั้นและพูดโดยไม่ลังเล

“ได้ แต่ในช่วงเวลานี้ หากภายในหนึ่งเดือนเจ้าไม่สามารถมอบเครื่องสังเวยให้ข้า ข้าจะถือว่าเจ้าผิดข้อตกลง และจะสังหารเจ้าในทันที” ปูสีทองพูดอย่างไม่เกรงใจ

“นี่… ได้ ข้าตกลง” หานลี่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่เมื่อเขาเหลือบมองที่ด้านหน้าเสื้อของเขา จึงกัดฟันตอบตกลง

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ข้าก็ไม่มีปัญหา สามารถทำสัญญาชั่วคราวกับเจ้าได้” อักขระอาคมสีทองปรากฏบนร่างกายของปูสีทองอีกครั้ง เมื่อแสงค่อยๆ จางลง มันจึงตอบด้วยเสียงก้องกังวาน

จากนั้นปูยักษ์สีทองก็อ้าปากออก ทันใดนั้น ก็มีหินชนวนสีเขียวเข้มซึ่งอยู่เหนือพื้นดินสามสี่ฉื่อ เมื่อมีแสงส่องประกาย หินมาอยู่ด้านหน้าหานลี่ภายในพริบตา

หานลี่ตื่นตระหนกและเพิ่มความระมัดระวังโดยไม่รู้ตัว แต่เมื่อเห็นว่ากระดานชนวนสีเขียวเข้มลอยอยู่ข้างหน้าเขาอย่างเงียบๆ และไม่มีอะไรผิดปกติ เขาก็โล่งใจและมองขึ้นไปอีกครั้ง

เขาจึงเห็นข้อความสีเงินเปล่งประกายอยู่บนหินชนวน และนั่นคือข้อความลูกอ๊อด

หานลี่จ้องมองอย่างละเอียด จากนั้นจึงเข้าใจว่าเนื้อหาบนหินชนวนคือสิ่งที่เขาสัญญากับปูสีทองเมื่อสักครู่

“หากเจ้าคิดว่าไม่มีปัญหา เพียงแค่หยดเลือดลงไป” ปูสีทองพูดอีกครั้ง

“เพียงแค่ใช้เลือดหรือ ได้ ไม่มีปัญหา” หานลี่ตอบอย่างโล่งใจ

หากปูสีทองขอสิ่งของอย่างอื่น เขาคงต้องพิจารณาไตร่ตรองมากกว่านี้ เพราะเกรงว่าจะถูกจำกัดโดยไม่รู้ตัว ทว่าเพียงแค่เลือดก็ไม่มีปัญหา

หลังจากที่หานลี่พ่นเลือดออกมาและสัมผัสกับหินชนวน เลือดจึงกลายเป็นอักขระอาคมสีเลือดที่ไม่รู้จัก จากนั้นจึงหายวับเข้าไปในหินชนวนภายในพริบตา

เมื่อเกิดเสียงหึ่งๆ หินชนวนจึงกลายเป็นกลุ่มแสงสีเขียว และบินออกไป

ปูสีทองอ้าปากอีกครั้ง พร้อมทั้งดูดกลืนหินชนวนลงท้องไป

“ทำสัญญาชั่วคราวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้าสามารถไปกับเจ้าได้แล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะออกเดินทางเมื่อไหร่?”

“ฮ่าฮ่า สหายช่างกระปรี้กระเปร่า พวกเราเดินทางก็เลย ทว่ารูปลักษณ์ของสหายในตอนนี้ค่อนข้างน่าตกใจ ซึ่งไม่สะดวกในการเดินทางนัก เจ้าสามารถเปลี่ยนร่างได้หรือไม่” หานลี่มองไปยังร่างใหญ่มหึมาของปูสีทองพลางพูดด้วยรอยยิ้ม

“เปลี่ยนให้เล็กลง แน่นอนว่าได้” ปูสีทองพูดอย่างนิ่งเฉย

ครั้นเมื่อสิ้นเสียง ทันใดนั้นร่างใหญ่มหึมาจึงกลายเป็นแสงสีทอง พร้อมทั้งหดตัวในแสงอย่างรวดเร็ว

เมื่อแสงหายไป ปูสีทองก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นกัน กลับกลายเป็นชายหนุ่มผิวขาวสวมชุดคลุมสีเขียวมาแทนที่

ดูเหมือนว่าอายุราวๆ ยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดปี รูปร่างสูงโปร่ง รูม่านตาทั้งสองเป็นสีทอง คิ้วดาบสีเขียวเข้ม

ชายหนุ่มมีใบหน้าไร้อารมณ์ พลางพูดกับหานลี่อย่างไร้ความรู้สึกใดๆ “เมื่อข้าแปลงกายแล้ว เจ้าเรียกข้าว่า ‘นักพรตปู’ ก็ได้”

สีหน้าประหลาดใจปรากฏบนใบหน้าของหานลี่ จากนั้นเขาจึงปล่อยจิตวิญญาณออกไปสำรวจฝ่ายตรงข้ามในทันที ทว่าเมื่อหานลี่สัมผัสได้ เขากลับตื่นตระหนก เขาจึงคารวะพร้อมทั้งพูดในทันที “อาวุโสปูสุภาพเกินไปแล้ว ข้าสกุลหาน มาจากโลกวิญญาณ อาวุโสติดตามข้าไปก่อนสักระยะ ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่จะพูดคุย พวกเราออกจากที่นี่กันเถอะ” เขาไม่มีเจตจำนงที่แตกต่างกัน ทันใดนั้นเกิดแสงไฟสองดวงพร้อมกัน จากนั้นจึงแปรเปลี่ยนเป็นรุ้งสีครามและสีทอง พุ่งทะยานไปยังขอบฟ้าอันไกลโพ้นและหายวับไปในพริบตา

……

อีกด้านหนึ่ง มุมหนึ่งของเกาะขนาดมหึมา เป่าฮวาเฮยเอ้อร์ยังคงเผชิญหน้ากับหยวนเหยี่ยนอยู่บนท้องฟ้า

ทันใดนั้น เป่าฮวาและบรรพบุรุษหยวนเหยี่ยนจึงได้เปลี่ยนสีหน้าพร้อมๆ กัน เมื่อฝ่ามือพลิกกลับ กล่องหยกสองกล่องก็ปรากฏออกมาจากฝ่ามือของพวกเขา

“ฮ่าฮ่า เจ้าเด็กคนนี้ยังคงซื่อสัตย์ เจ้ากำจัดความคิดหลงผิดออกไปจริงๆ ” ชายหนุ่มชุดคลุมสีดำหัวเราะเสียงดัง จากนั้นแขนเสื้อเริ่มสั่น ท้องฟ้าใต้ร่างกายเกิดเกลียวคลื่น ทันทีที่พลังปีศาจหลั่งไหลออกมา จึงปรากฏมังกรสีดำสามตัวปรากฏขึ้นในอากาศธาตุ

เมื่อบรรพบุรุษหยวนเหยี่ยนเกิดแสงเปล่งประกาย ร่างใหญ่มหึมาจึงปรากฏอยู่เหนือมังกรสีดำ

มังกรอสูรทั้งสามส่งเสียงคำราม ทันใดนั้นจึงมีลมปีศาจสีดำพวยพุ่งออกมา พร้อมทั้งทะยานไปยังทิศทางหนึ่ง

หลังจากนั้น เสียงเย็นยะเยือกของหยวนเหยี่ยนก็ดังขึ้นในอากาศธาตุตรงข้ามเป่าฮวา “เห็นแก่ยาวิญญาณ ข้าจะไม่ไล่ล่าสังหารเจ้าเด็กสกุลหานด้วยตนเอง แต่จะออกคำสั่งทำลายล้างทันที และจะประกาศในทันที นับจากนี้ไปเจ้าเด็กคนนี้เพียงแค่ก้าวขาในโลกศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นไปได้ยาก เขาจะสามารถกลับไปยังโลกวิญญาณได้อีกครั้งหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความโชคดีของเขา”

เมื่อพูดจบ เสียงในอากาศธาตุจึงเงียบสงัดในทันที

หลังจากที่เป่าฮวาได้ยินดังนั้น สีหน้าของนางไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย เมื่อนางเก็บกล่องหยกในมือ นางจึงเหลือบมองไปยังทะเลสายฟ้าที่ปูยักษ์สีทองอยู่

ทันใดนั้นก็มีร่องรอยความสงสัยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง นางจึงขมวดคิ้วพร้อมทั้งพึมพำ “ค่อนข้างแปลก! เห็นได้ชัดว่าหุ่นเซียนปลอมลงมือแล้ว เหตุใดจึงปล่อยให้เด็กคนนั้นหนีไป หรือว่าเด็กสกุลหานจะมีวิธีการเอาชีวิตรอดอย่างคาดไม่ถึง!”