สองวันนี้ลู่ฝานมักจะรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่าง จะเด้งออกมาจากสมองตัวเอง

ดังนั้นเขาจึงขังตัวเองไว้ในห้อง ไม่พบเจอใครเลย

รวมถึงนักบู๊คนอื่นที่ตั้งใจมาทำความรู้จักเขาด้วย ลู่ฝานปิดประตูไม่เจอใครทั้งนั้น

การกระทำของเขา ทำให้นักบู๊จำนวนไม่น้อยเกิดความไม่พอใจ

มาคัดเลือกเหมือนกัน ทำความรู้จักกันไว้ ต่อไปทุกคนจะได้ดูแลกัน

คนที่มาที่นี่ได้ ไม่มีใครเป็นคนโง่ รู้ถึงความสำคัญของการอยู่กันเป็นกลุ่มในสังคมนี้

แต่ลู่ฝานเอาแต่ไม่เจอใครแบบนี้ ดูยโสเกินไปหน่อยไหม

จู่ๆ มีนักบู๊จำนวนไม่น้อย แอบพูดถึงลู่ฝาน

หันมาดูเทียนชิงหยาง แตกต่างโดยสิ้นเชิง ตั้งแต่เข้ามาในตำหนักเสินอู่วันแรก ก็ทำความรู้จักคนไปทั่ว นับถือกันเป็นพี่น้อง

ระยะเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่วัน ร้อยกว่าคนในที่นี้ กลายเป็นเพื่อนเทียนชิงหยางเกือบทั้งหมด

ไม่ว่าพวกเขาจะชอบหรือไม่ชอบเทียนชิงหยาง ยังไงก็ต้องไว้หน้า อีกทั้งสองสามวันนี้การแสดงออกของเทียนชิงหยางก็เหมาะสมมาก ทั้งไม่อวดดีและไม่หยิ่ง กลับดูถ่อมตัวมากอย่างเห็นได้ชัด มีมารยาทและสุภาพเรียบร้อยมาก!

แม้แต่พวกสุ่ยสือฉวนที่เป็นลูกหลานสิบตระกูลใหญ่เหมือนกัน ยังหาข้อบกพร่องไม่เจอสักนิด

คืนนี้เทียนชิงหยางยังเชิญนักบู๊ทั้งหมด มางานเลี้ยงที่ลานบ้านตัวเองด้วย

ทุกคนมาถึงงาน ขนาดหานหยวนหนิงยังโดนคนเรียกมาอย่างไม่เต็มใจ มีเพียงลู่ฝานที่ปิดประตูไม่ออกมา

“ทุกท่าน คืนนี้ไม่มีเรื่องอื่น ล้วนเป็นนักบู๊ของอู่อาน และเข้าร่วมการคัดเลือกในปีเดียวกัน ต่อไปเราก็เป็นนักบู๊ในบัญชีรายชื่อเดียวกันแล้ว ชนแก้ว!”

เทียนชิงหยางยกแก้วขึ้นสูง ทุกคนคล้อยตามคำพูดไปด้วย

กินดื่มกันพอประมาณแล้ว

เทียนชิงหยางเห็นลู่ฝานยังไม่มา จู่ๆ เขายิ้มบางๆ จากนั้นแอบส่งสายตาให้นักบู๊คนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ

ทันใดนั้น นักบู๊ผอมสูงคนนี้ยืนขึ้น พูดเสียงดังว่า “ทุกท่าน วันนี้คุณชายเทียนเชิญเรามาดื่มกิน เป็นเกียรติแก่พวกเราอย่างยิ่ง แต่ฉันมองดูอยู่รอบหนึ่ง เหมือนใครบางคนไม่ได้มา อย่าบอกนะว่าไม่มีคนบอกเขา”

ทุกคนรู้ว่าใครบางคนคือใคร นอกจากลู่ฝานจะเป็นใครได้อีกล่ะ

นักบู๊ร่างกายสูงใหญ่กำยำคนหนึ่ง พูดเสียงดังว่า “ฉันว่าเขาไม่มาแล้ว ตอนคนนี้เข้ามาในตำหนักเซินอู่ก็เก็บตัวทันที ใครไปหาก็ไม่ยอมพบ เหมือนเราไม่อยู่ในสายตาเขา ไม่อยากทำความรู้จักพวกเรา!”

มีนักบู๊หน้าตาร้ายกาจคนหนึ่งลุกขึ้นพูดว่า “ฉันว่าลู่ฝานไม่รู้เรื่องอะไรเลย อย่าบอกนะว่ามาถึงตำหนักเสินอู่ จะไม่กินไม่ดื่มอะไรเลย แม้แต่นางข้าหลวงแสนสวยก็ยังโดนส่งออกมา นี่มันเพราะอะไรกัน ฉันว่ามีโอกาส 80 เปอร์เซ็นต์ที่ใช้ไม่ได้แล้ว!”

นักบู๊สองสามคนพูดแซวว่า “นายพูดให้ชัดเจนว่าตรงไหนใช้ไม่ได้”

นักบู๊หน้าตาร้ายกาจหัวเราะแล้วพูดว่า “คงใช้ไม่ได้หมดเลย!”

ทุกคนหัวเราะลั่น ขนาดหานหยวนหนิงที่นั่งตรงมุมยังหัวเราะแห้งๆ ออกมาสองสามครั้ง

แต่ในกลุ่มคน กลับมีหนึ่งคนที่ขำไม่ออก สีหน้าดูหนักใจขึ้นด้วย

จู่ๆ เทียนชิงหยางโบกมือไปมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เฮ้อ พวกนายเดามั่วแบบนี้ ระวังเขาหาว่าพวกนายใส่ร้ายนะ คุณชายลู่ฝานคือใคร นักกระบี่แห่งตงหวาผู้ยิ่งใหญ่ ด่านแรกทำสะพานสายรุ้งขาด ยอดฝีมือที่ได้อันดับหนึ่ง เขาสุดยอดมาก สุดยอดจนไม่เห็นฉันและทุกคนอยู่ในสายตา รอให้เขาได้อันดับหนึ่งทั้งรอบสองและรอบสาม ถึงตอนนั้นเราคงต้อยต่ำจนเขาไม่เห็นค่าเลยมั้ง!”

นักบู๊หน้าตาร้ายกาจ ปาแก้วหยกในมือลงบนพื้นอย่างแรง แล้วพูดว่า “ฉันจะไม่ยอมให้ลู่ฝานได้อันดับหนึ่งอีก รอบที่สองบุกเข้าไปในเขาวิถีบู๊ สามารถสู้ได้ตามใจชอบ ไม่พูดถึงเรื่องเป็นตาย ถ้าฉันเจอเขาบนเขาวิถีบู๊ ต้องขอคำแนะนำจากเขาสักสองสามกระบวนท่า ดูว่าวิชาในมือเขาจะสูงส่งขนาดนั้นหรือเปล่า!”