บทที่ 469

เมื่อเห็นเย่เฉินถามเองตอบเอง จางเจี้ยนโมโหแล้วพูด “แสร้งทำเป็นโง่มีประโยชน์ไหม? ให้คุณไปแบกปูนถือว่าให้เกียรติคุณแล้ว!”

เย่เฉินพยักหน้า ยิ้มแล้วพูดว่า “ได้ ผมรู้แล้ว ผมจะจัดการให้คุณอย่างดี”

เมื่อจางเจี้ยนเห็นว่าเขาก็ยังพูดอย่างมีเลศนัย จึงพูดอย่างเมินเฉยว่า “ประสาท!”

พูดจบ เขาก็เอ่ยปากพูดว่า “ในฐานะที่ฉันเคยผ่านมาก่อน จะขอเตือนคุณหน่อย คุณอายุยังน้อย เดี๋ยวนี้ถ้าออกไปหางานสุจริตทำ ไม่แน่ก็อาจจะประสบความสำเร็จ”

“การแบกปูนเป็นเรื่องที่ต่ำต้อยหรอ? ไม่เลยสักนิด คุณรู้ไหมมีนักร้องคนหนึ่งชื่ออาตู้? สมัยก่อนเขาก็ทำงานก่อสร้างแบกปูน เดี๋ยวนี้เขาก็ดังแล้วไม่ใช่หรอ?”

“และตอนนี้Kwai Kuaishou และ Tik Tok ดังขนาดนั้น คุณสามารถสมัครลงทะเบียนได้ ไม่แน่พอนายโพสต์คลิปวิดีโอ ทำเกี่ยวกับปูน อาจทำให้นายดังก็ได้!”

เย่เฉินยิ้มหัวเราะและพูด “ผมมีบัญชี Tik Tok คุณต้องการติดตามผมไหม?”

จ้างเจี้ยง ถามอย่างดูถูก “โห พ่อบ้านอยู่บ้านทำงานต้มหุงอย่างคุณยังเล่น Tik Tok สะด้วย ไหนใน Tik Tok หมายเลขอะไร? มีชื่อว่าอะไร? หรือว่าชื่อผู้ชายไม่เอาไหนในเมืองจินหลิง?”

เย่เฉินยิ้มและพูดว่า “หมายเลข Tik Tok ของผมคือ 786019911 ชื่อว่าเทพมังกรแมงดา

ภาพหน้าจอคือมังกรสีเลือดหมู เพื่อน จะกดติดตามกดไลค์ไหม?”

“เทพมังกรแมงดา?” จางเจี้ยนมองเย่เฉินอย่างดูถูกและพูดว่า “อย่างคุณ? แม่งเป็นเทพมังกร? ผมว่ารักษาหน้าไว้หน่อยไหม? ถ้านายเป็นเทพมังกรแมงดา ผมก็คงเป็นลูกเขยเทวดา ลูกเขยเทพ ลูกเขยฮ่องเต้ ลูกเขยอ๋องละมั้ง?”

เย่เฉินยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “คุณหน่ะ คุณเป็นเขยติดดินด้วย”

“เขยติดดิน หมายความว่าไง” จางเจี้ยนขมวดคิ้ว

เย่เฉินหัวเราะฮ่าๆ “ลูกเขยที่แบกปูน นี่ยังไม่เข้าใจเหรอ?”

“เชี่ย!” จางเจี้ยนอดไม่ได้ที่จะตะโกนด่าออกมา “เจ้าเด็กอย่างคุณไม่รู้จักาลเทศะจริงๆ!”

เย่เฉินไม่สนใจเขา ยกครูผู้อาวุโสของพ่อตาขึ้น รีบเดินตรงไปอีกแค่ไม่กี่ก้าวก็มาถึงหน้าประตูห้องเรียน

คุณท่านตบที่มือของเย่เฉินแล้วพูด “ไอ้หนุ่ม สามารถยิ้มรับคำดูถูก ดูก็รู้แล้วว่าเป็นหนุ่มที่มีอนาคตที่กว้างไกล”

พูดจบ คุณท่านหมุนรถเข็น แล้วเข้าไปในห้องเรียน

จางเจี้ยนบ่นพึมพำ “อายุมากแล้วตาลายจริงๆ ไม่รู้ดูยังไงถึงดูออกว่าเขาเก่ง”

เย่เฉินไม่สนใจเขา ยังไงเขาก็จะห่างจากโชคชะตาที่ตัวเองจัดการให้เขา ในอีกไม่นาน

ขณะนี้ อาจารย์มาถึงพอดี ก็มีเสียงเฮฮาดีใจดังขึ้นในห้องเรียนและทุกคนก็ทักทายคุณท่านไม่หยุด

สมัยนั้นความผูกพันระหว่างศิษย์กับอาจารย์ ก็เหมือนกับพ่อลูกไม่มีผิด

คุณท่านมองทุกคนที่อายุเกินห้าสิบ วัยกลางคนที่มีผมขาวเป็นบางส่วน เลยทำให้สบายใจอย่างที่สุด ค่อยๆพยักหน้า

เขาสอนหนังสือมาตลอดชีวิต กล่าวได้ว่ามีลูกศิษย์เต็มไปทั่วล่า เมื่อได้เห็นนักเรียนเหล่านี้ เขารู้สึกว่าชีวิตนี้ไม่มีอะไรที่เขาต้องเสียใจอีก

“เชิญอาจารย์สอนบทเรียนให้พวกเราอีกบทหนึ่งเถอะ” มีคนเสนออย่างจริงจัง

ทุกคนก็แสดงความรู้สึกเรียกร้องเช่นเดียวกัน

คุณท่านพยักหน้า น้ำตาคลอเบ้า นั่งอยู่ข้างหลังเวที ใช้นิ้วสัมผัสกับแท่นที่ขรุขระแล้วค่อยๆพูด “สวัสดีนักเรียนทุกคน”

“ สวัสดีครับอาจารย์” ทุกคนตะโกนโดยพร้อมเพรียงกัน

คุณท่านพยักหน้าและพูดว่า “ ฉันแก่แล้ว ยืนไม่ได้แล้ว ตะโกนไม่ไหวแล้ว คุณภาพของการบรรยายอาจไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน ดังนั้นฉันต้องขอโทษทุกคนก่อนนะ”

————