บทที่ 649 ผู้หญิงที่บ้าคลั่ง

The king of War

ไช่กวางไม่ตอบสนองใดๆได้แต่มองไปที่หยางเฉินอย่างเย็นชาและพูดว่า “ฉันจะยกโทษให้กับความละอ่อนของนาย มาคุกเข่าและเลียรองเท้าของฉันให้สะอาดซะแล้วฉันจะทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

ไช่เหวินมองไปที่หยางเฉินด้วยใบหน้าท่าทางที่เย็นชา การที่เขามาที่นี่ก็เพื่อที่จะมาระบายอารมณ์ให้กับน้องชายของเขา ตราบใดที่น้องชายของตนมีความสุขต่อให้ต้องฆ่าหยางเฉินเขาก็ยอม

หยางเฉินไม่ได้โกรธแต่กลับหัวเราะแทน “คนที่ไม่รู้อะไรย่อมไร้ความเกรงกลัว!ฉันเองก็จะยอมยกโทษให้กับความโง่เขลาของนายเช่นกัน ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆนายจะเอาไปทำอะไรก็ได้เชิญตามสบายแต่ฉันจะพาผู้หญิงสามคนที่เหลือไปและฉันก็จะยอมปล่อยนายไป”

“ไอ้ระยำ รนหาที่ตายจริงๆ!”

ไช่เหวินโบกมืออย่างโกรธเกรี้ยว “ไปจัดการแขนขาไอ้หนุ่มนั่นซะ ฉันจะจัดการผู้หญิงของมันต่อหน้ามันเนี่ยแหละ!”

ขณะนั้นเอง ชายร่างกำยำห้าหกคนก็ได้กรูเข้าไปหาหยางเฉิน

เมื่อผังเสี่ยวเยว่เห็นฉากนี้เข้าก็แทบจะร้องไห้ออกมา “หยางเฉิน ไม่ต้องมาสนใจพวกเรา รีบไปซะ!”

สำหรับหล่อนแล้วการที่จะออกไปจากที่นี่อย่างสุขสงบคงไม่มีหวังเลยแม้แต่น้อย

ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ทำไมจะต้องทำให้หยางเฉินลำบากด้วย?

หล่อนยอมตายดีกว่าที่จะต้องพวกไอ้พวกเลวทรามต่ำช้าพวกนี้ข่มขืน

ใบหน้าของโจวชินและเนี่ยเจียเจียหลบซ่อนอยู่ด้านหลังของหยางเฉินด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล

ใบหน้าของจางหรุ่ยพูดเยาะเย้ยออกมาด้วยใบหน้าที่ดูเหี้ยมโหดดุร้าย “กล้ามาทำให้คุณชายกวางขุ่นเคืองใจคงรนหาที่ตายมากสินะ อย่างนายต้องตายสถานเดียว!”

หยางเฉินยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ไหวติง ในเมื่อมีคนมาละเมิดหาเรื่อง เขาก็ต้องจัดการให้เสร็จสมบูรณ์เป็นเรื่องธรรมดา

“หนุ่มน้อย ไปตายซะ!”

ชายร่างกำยำปล่อยหมัดเข้าไปที่ใบหน้าของหยางเฉินโดยตรง

หยางเฉินไม่ขยับไปไหน ดวงตาเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม

“เพี๊ยะ!”

เมื่อเห็นหมัดของอีกฝ่ายกำลังลงมา หยางเฉินก็ได้เอื้อมมือออกไปพร้อมกับจับข้อมือของชายกำยำคนนั้นและพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันตัดสินใจที่จะปล่อยพวกนายไปแล้วเชียวแต่ว่าทำไมพวกนายถึงยังรนหาที่ตายกันนะ?”

เมื่อคำพูดสิ้นสุดลง เขาก็ได้ใช้กำลังในทันที คนอื่นๆได้ยินเสียง“แคร๊ก”ออกมาจากนั้นก็เห็นมือของชายร่างกำยำโค้งงอหักเป็นมุมเก้าสิบองศา

“ปึง!”

อีกฝ่ายยังตอบสนองถึงความเจ็บปวดไม่ได้เลยด้วยซ้ำหยางเฉินก็ได้ใช้เท้าเตะชายร่างกำยำลอยออกไปราวกับเตะลูกบอล

ในเวลาเดียวกันหยางเฉินขยับตัวอีกครั้ง ผู้คนยังมองไม่ทันเห็นจึงไร้ซึ่งการตอบสนองใดๆจากนั้นชายร่างกำยำทั้งหมดก็ได้ลอยล่องกลับหัวกลับหางกันไปหมด

เมื่อทุกคนตกลงมาที่พื้นก็ต่างหมดสติกันไปตามๆกัน

ในช่วงเวลานี้ ทุกอย่างเงียบสงัด

สองพี่น้องไช่เหวินและไช่กวางเบิกตากว้าง ชายร่างกำยำเหล่านี้ล้วนแต่เป็นคนฝีมือดีแข็งแกร่งของตระกูลไช่ทั้งนั้นคาดไม่ถึงเลยว่าจะอ่อนแอได้ถึงเพียงนี้ พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถูกหยางเฉินทุบตีได้ยังไงกัน

เจียวต้าเหว่ย ฉือเจียงและเหลียงหยุนที่ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าได้แต่มองอย่างตกตะลึง

จางหรุ่ยเองก็ตกใจไม่แพ้กันเมื่อเห็นชายร่างกำยำห้าหกคนตกลงมาที่พื้นและสลบไป ร่างกายของเธอสั่นเทาไปหมด

ผังเสี่ยวเยว่ โจวชินและเนี่ยเจียเจียที่ยืนอยู่ด้านหลังของหยางเฉินเองก็ตกตะลึงไม่แพ้กันแต่อย่างไรก็ตามในดวงตานั้นก็มีความบ้าคลั่งอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ

ผังเสี่ยวเยว่มองไปที่แผ่นหลังของคนที่อยู่ด้านหน้าของตนเอง ในใจรู้สึกได้ถึงความปลอดภัยที่มั่นคงเป็นอย่างมาก

ทันใดนั้นหล่อนก็รู้สึกขึ้นมาว่าขอเพียงมีหยางเฉินอยู่ก็จะไม่มีใครสามารถมารังแกอะไรหล่อนได้

“นาย…นายกล้ามากนะที่มาจัดการกันแบบนี้!”

ไช่กวางพูดอย่างสั่นเครือ

ดวงตาของไช่เหวินหนักแน่น ตำแหน่งของเขาในตระกูลไช่นั้นสูงกว่าไช่กวางเป็นอย่างมาก ระดับการรับรู้อะไรต่างๆก็กว้างกว่า การยื่นมือของหยางเฉินทำให้เขารับรู้ได้ถึงวิกฤตที่อันตราย

“นายเป็นใครกันแน่?”ไช่เหวินถามในทันที

หยางเฉยพูดอย่างเรียบง่ายว่า “ฉันเป็นใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องในตอนนี้ล่ะ?”

ไช่เหวินเลิกคิ้วขึ้น แม้ว่าหยางเฉินจะเอาชนะคนแข็งแกร่งจากตระกูลไช่ได้อย่างง่ายดายแต่เขาก็ไม่อยากที่จะทำให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดกันเพียงเพราะยังไม่รู้จักกับอีกฝ่าย

สำหรับเขาแล้ว ตราบใดที่หยางเฉินไม่ได้เป็นคนของแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร

เมื่อสักครู่ดูเหมือนว่าพวกของฉือเจียงจะได้เรียกชื่อของหยางเฉินออกมาและในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูเองก็ไม่มีแซ่หยางเสียด้วยสิ

“คุณชายเหวิน พวกเรากับไอ้หนุ่มนั่นไม่รู้จักกันซะหน่อย อย่ามาโทษเราเลย!”

“ใช่แล้ว พวกเราพาแฟนของเราออกมาทานข้าวและนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้รู้จักกับเขา”

“ระหว่างพวกเราไม่ใช่แค่ไม่มีมิตรภาพแต่ยังมีความขัดแย้งกันมากอีกด้วย หากไม่ใช่ว่าคุณชายกวางมาล่ะก็พวกเราเองก็คงไม่ปล่อยเขาไปเช่นกัน”

เมื่อเหลียงหยุนและคนอื่นๆเห็นเหตุการณ์นี้เข้าจึงได้ค่อยๆเอ่ยปากแยกความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับหยางเฉินให้ชัดเจน

ในมุมมองของพวกเขา การที่หยางเฉินสู้กับคนของตระกูลไช่ก็เท่ากับว่ารนหาที่ตาย พวกเขากลัวว่าหากเอาตัวไปเกี่ยวข้องกับหยางเฉินจะทำให้ตระกูลของพวกเราต้องเดือดร้อนไปด้วย

หยางเฉินมองไปที่คนพวกนั้นอย่างรังเกียจพร้อมกับพูดอย่างเย็นชาว่า “ก็แค่ฝูงหมาฝูงหนึ่งเท่านั้น ต่อให้จะอยากเกี่ยวข้องกับฉันก็คงไม่มีโอกาสนั้นเสียหรอก”

“หยางเฉิน แกนี่มันทำตัวจองหองจริงๆ!ไปทำให้คนของคุณชายเหวินขุ่นเคืองใจ ต่อให้มีเป็นสิบชีวิตก็ไม่พอซะหรอก!”

เหลียงหยุนพูดพร้อมกับกัดฟันกรอดๆ

เนื่องจากหยางเฉินได้เริ่มแยกแยะความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาออก ดังนั้นเขาจึงไม่รังเกียจที่จะเหยียบย่ำหยางเฉินให้จมดิน

ฉือเจียงเองก็พูดอย่างเย้ยหยัน “หยางเฉิน เกรงว่านายคงไม่รู้ด้วยซ้ำสินะว่าคุณชายเหวินเป็นใครกัน?ฉันจะบอกให้ สถานบันเทิงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ในเมืองเยี่ยนตูล้วนเป็นของตระกูลไช่แม้แต่แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูเองก็ยังไม่กล้าที่จะมาหาเรื่องตระกูลไช่เลย”

เห็นได้ชัดว่าตระกูลไช่นั้นมีสถานบันเทิงในเมืองเยี่ยนตูเพียงครึ่งเดียวแต่จากปากของฉือเจียงกลับกลายเป็นเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ได้เสียนี่ ไม่มีใครเลียแข้งเลียขาได้ถึงขนาดนี้

เจียวต้าเหว่ยเองก็ไม่ยอมที่จะเสียโอกาสในการแบ่งแยกความสัมพันธ์ให้มันชัดเจนจึงได้พูดว่า “คุณชายเหวินเป็นถึงเทพของตระกูลไช่และยังเป็นผู้นำในอนาคตของตระกูลไช่อีกด้วย ฉันแนะนำให้นายคุกเข่าอ้อนวอนเถอะ ไม่แน่ว่าคุณชายเหวินอาจจะยอมปล่อยนายไป”

หยางเฉินเหลือบตามองสองสามคนนั้นอย่างไม่สนใจไยดีจากนั้นก็ถอนสายตากลับมา การโต้เถียงกับเหล่าสุนัขก็มีแต่จะด้อยค่าตัวตนไม่ใช่เหรอ?

“หนุ่มน้อย ตอนนี้รู้แล้วสินะว่าฉันเป็นใคร?”

เมื่อถูกฉือเจียงและคนอื่นๆประจบสอพลอ ไช่เหวินก็ได้แต่เสพสุขสิ่งเหล่านี้พร้อมกับเหล่ตามองหยางเฉินและพูดว่า “ดูเหมือนว่าผู้หญิงของนายจะสวยใช่ย่อยเลยนะ ฉันจะให้โอกาสนายในการออกไป ไสหัวไปซะในตอนนี้แล้วฉันไม่คิดเล็กคิดน้อยอะไรกับนายอีก”

“พูดไร้สาระพอแล้ว!”

หยางเฉินส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

“เสี่ยวเยว่ ตอนนี้หล่อนอยากจะทำอะไรมากที่สุด?” ทันใดนั้นหยางเฉินก็ได้หันไปมองและถามผังเสี่ยวเยว่

ผังเสี่ยวเยว่ผงะไปครู่หนึ่ง ไม่เข้าใจว่าจนถึงตอนนี้แล้วทำไมหยางเฉินยังมาถามว่าหล่อนอยากจะทำอะไรมากที่สุดอีก

“พูดออกมาอย่ากังวล!” หยางเฉินพูดด้วยรอยยิ้ม

เมื่อเห็นท่าทางและรอยยิ้มที่ดูอ่อนโยนของหยางเฉิน ความกังวลในใจของผังเสี่ยวเยว่ก็หายไปโดยสิ้นเชิง หล่อนเหลือบมองไปที่ไช่กวางและพูดว่า “ฉันอยากตบหน้าเขาสักฉาด!”

“เพี๊ยะ!”

ทันทีที่เสียงหล่นลงก็เกิดเสียงตบดังขึ้นมาในทันใดพร้อมกับร่างร่างหนึ่งที่ลอยออกไป

หยางเฉินที่อยู่ข้างหล่อนเมื่อครู่นี้ได้เคลื่อนไปอยู่ในจุดที่ไช่กวางยืนอยู่และไช่กวางก็ถูกตบหน้าจนตัวลอยออกไปเรียบร้อย

ทุกๆคนต่างตกตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง

การตบของหยางเฉินนี้ไม่รู้ว่าใช้แรงมากเพียงใดถึงตบจนฟันหน้าสองซี่ของไช่กวางหลุดออกไป

“อ่า…”

ปากของไช่กวางเต็มไปด้วยเลือดสดๆ เขาตะโกนออกมาอย่างเจ็บปวด “พี่ชาย ฉันอยากให้มันตาย อยากให้มันตาย!”