เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1114

ลู่ฝานพูดว่า “แสดงให้เห็นว่านายไม่ใช่พวกเดียวกับฉันไง เมื่อเป็นแบบนี้ นายจะปลอดภัย”

หยวนเลี่ยพูดว่า “แต่ว่า……”

ลู่ฝานยกมือขึ้นมาแล้วพูดว่า “สหายหยวนเลี่ย นาย เฝิงอิ่ง และเซี่ยงจู้ เป็นเพื่อนที่ฉันมีอยู่ไม่มากในเมืองหลวง ฉันไม่อยากให้นายเป็นอะไรจริงๆ พวกเขาต้องการจัดการฉัน ฉันไม่กลัวเลย เพราะฉันมั่นใจว่าพวกเขาฆ่าฉันไม่ตาย แต่ถ้าเป็นนาย ต้องรู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี นี่ก็ถือว่าช่วยฉันแล้ว!”

หยวนเลี่ยมองตาลู่ฝาน เขาเห็นเพียงความจริงใจและแน่วแน่

ผ่านไปนาน หยวนเลี่ยพูดด้วยรอยยิ้ม “ได้ครับ สหายลู่ฝาน ทำไมนายถึงเก่งขนาดนี้ ผมผ่านด่านแรกได้ถือว่าสุดขีดจำกัดแล้ว ส่วนรอบที่สองมีโอกาส 80 เปอร์เซ็นต์ที่จะโดนคัดออก ต่อไปถ้ามีโอกาส นายต้องให้คำชี้แนะผมอย่างเต็มที่สักรอบ ผมจะได้กลับไปโอ้อวดที่เขตเยี่ยนได้”

ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “ได้แน่นอน!”

จากนั้นหยวนเลี่ยยกแก้วชาขึ้นดื่ม

หลังจากนั้นหยวนเลี่ยลุกขึ้นบอกลา ลู่ฝานเดินมาส่งเขาที่ประตูลานบ้าน

มองหยวนเลี่ยเดินออกไป ลู่ฝานเอาสองมือไพล่หลัง ยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “เขาเป็นเพื่อนที่น่าคบหา”

ลู่ฝานหันหลังเดินกลับไป ฝ่ามือขยับเบาๆ ปราณชี่ไหลเวียนอยู่ปลายนิ้ว เหมือนเขากำลังทดสอบวิชาอะไรบางอย่าง วิชาใหม่ที่ไม่เคยฝึกฝนมาก่อน……

ทางด้านนี้ หยวนเลี่ยกลับมาที่บ้านตัวเอง

ยังไม่ทันเข้ามา จู่ๆ หยวนเลี่ยรู้สึกผิดปกติ จึงหันไปมองด้านหลัง

กวาดตามองดู ไม่มีการเคลื่อนไหวแปลกๆ หยวนเลี่ยพึมพำว่า “คิดไปเองเหรอ ทำไมฉันรู้สึกเหมือนมีคนตามฉันมา เฮ้อ ใครจะไม่มีอะไรทำจนตามฉันมาล่ะ!”

หยวนเลี่ยสะบัดหัว ขำตัวเองไปสองครั้ง เดินเข้ามาในลานบ้าน นางข้าหลวงคนหนึ่งเดินมาด้วยรอยยิ้ม

หลังจากตัวของหยวนเลี่ยหายไป องครักษ์เกราะทองคนหนึ่งรีบเดินออกไป

องครักษ์เกราะทองสองสามคน ที่ช่วยหยวนเลี่ยเฝ้าประตู ทำเหมือนไม่เห็นคนคนนี้ ปล่อยให้เขาเดินออกไป

จวนไท่จื่อ ในสวนหลังบ้าน

ไท่จื่อฉินอวิ่นกำลังตกปลาอีกแล้ว ดูมีความพึงพอใจและมีความสุข

เหรินเจียงและคนอื่นยืนเรียงตามลำดับอยู่ด้านหลัง แต่แปดผู้โดดเด่นเหลือแค่พวกเขาไม่กี่คนแล้ว

องครักษ์เกราะทองคนหนึ่งรีบเดินเข้ามา คุกเข่าข้างหนึ่งลงตรงหน้าไท่จื่อ

“เตี้ยนเซี่ย ทุกอย่างเรียบร้อยครับ คุณชายเทียนรับเงื่อนไขของเรา อีกทั้งยังปลุกปั่นนักบู๊ทั้งหมด เตรียมฆ่าลู่ฝานบนเขาวิถีบู๊ครับ!”

“ดี!”

ไท่จื่อฉินอวิ่นพูดเสียงดัง จากนั้นสะบัดมือ เหรินเจียงรีบเดินเข้ามา เอาธนบัตรเป็นรางวัลให้องครักษ์เกราะทองคนนี้

ไท่จื่อฉินอวิ่นพูดต่อ “จับตามองลู่ฝานต่อไป ถ้าเขามีการกระทำแปลกๆ รีบรายงานฉันทันที จำไว้ว่าการกระทำแปลกๆ อย่างเช่น ถ้าเขาถอดใจกลางคันอะไรทำนองนั้น ให้รีบรายงานทันที”

องครักษ์เกราะทองตอบรับเสียงดัง จากนั้นพูดต่อ “วันนี้มีคนหนึ่งเอาข่าวนี้ไปแจ้งลู่ฝาน แต่เหมือนลู่ฝานไม่มีความคิดถอดใจกลางคันครับ ในทางตรงกันข้ามกลับสนใจเพิ่มขึ้นอีก จะสู้ตัดสินพละกำลังกับนักบู๊คนอื่นด้วย”

ไท่จื่อฉินอวิ่นขมวดคิ้วพูดว่า “แจ้งงั้นเหรอ ใครแจ้ง ไอ้เลวคนไหนปากมาก”

องครักษ์เกราะทองพูดเสียงดังว่า “เตี้ยนเซี่ย นักบู๊ที่ชื่อหยวนเลี่ยครับ!”

ไท่จื่อฉินอวิ่นครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “หยวนเลี่ย ฉันนึกออกแล้ว คนเขตเยี่ยนที่ใช้เงินจำนวนมากซื้อโควตารายชื่อ หึ ฉันใจดีให้โควตารายชื่อกับเขาหนึ่งรายชื่อ คิดไม่ถึงว่าเขาจะไม่รักษาดูแลขนาดนี้ กลับเป็นศัตรูกับฉันด้วย ไปบอกซุนจื้อและคนอื่น ให้ขึ้นไปบนเขาวิถีบู๊ จัดการเขาด้วย กำจัดทิ้งพร้อมกันเลย!”

พูดจบ เบ็ดในมือไท่จื่อฉินอวิ่นสั่นเบาๆ

ฉินอวิ่นยกเบ็ดขึ้นทันที ปลาตัวใหญ่ถูกเขาดึงขึ้นมา

“ฮ่าๆ ติดเบ็ดแล้ว!”

เหรินเจียงและคนอื่นที่อยู่ข้างๆ เอ่ยชมไม่หยุด “ไท่จื่อเป็นยอดฝีมือในการตกปลาจริงๆ ครับ!”

ฉินอวิ่นหัวเราะร่า ยื่นมือไปจับปลาตัวใหญ่ แต่ขณะนั้นเอง ปลาตัวใหญ่ตัวนั้นสะบัดอย่างแรง หลุดออกจากเบ็ดตกปลา ตกลงไปในบึง!

ฉินอวิ่นอึ้งไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นเขากำมือหักคันเบ็ดทิ้งทันที!