ตอนที่ 925 ประเมินสูง ประเมินต่ำ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

จักรพรรดิยอดยุทธ์ระดับหนึ่งกับจักรพรรดิแห่งภูตระดับสาม เข้าใจอันใดผิดไปหรือไม่!

ยอดฝีมือในจวนของเขาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ล้วนต้องตายตกไปภายใต้น้ำมือของพวกประหลาดเหล่านี้ทั้งสิ้น แล้วพวกเขาสองคนนี้ที่เป็นเพียงขั้นจักรพรรดิระดับต่ำ จะรับมือไหวเหรอ!

ฝ่ายตรงข้ามก็รู้สึกตลกขบขันเช่นกัน “เมื่อครู่พวกเจ้าลอบโจมตีได้เก่งกาจมาก นึกไม่ถึงว่าพลังวิญญาณจะอ่อนแอปานนี้ ดูท่า พวกข้าจะประเมินเจ้าสูงเกินไปเสียแล้ว”

มู่เฉียนซีพุ่งมาอยู่ระหว่างพวกเขาอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ประเมินข้าสูงเกินไปอย่างนั้นเหรอ พวกเจ้าไม่อาจประเมินได้ต่างหากเล่า”

“ทักษะเทียนซวน!” มู่เฉียนซีลงมืออย่างโหดเหี้ยม

กู้ไป๋อีพุ่งตัวเคลื่อนไหวไปมาท่ามกลางคนเหล่านี้ ทำให้พวกเขาแตะไม่ได้แม้แต่ชายเสื้อของเขา กระบี่เล่มหนึ่งกวัดแกว่งตัวผ่านอากาศ ความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านออกมา!

“เงาจันทราหนาวเหน็บ!”

คมกระบี่หมุนกลับมาอีกครั้ง และโจมตีไปอีกครั้ง

“เงาจันทราคู่!”

กระบี่ของกู้ไป๋อีดูเหมือนว่าจะผ่านการฝึกมาแล้วหลายร้อยหลายพันครั้ง เขาใช้มันอย่างคล่องแคล่ว ไม่ว่าพลังของเขาจะอยู่ในระดับใดก็ตาม

หลังพานพบกับกระบี่อันเย็นยะเยือกของกู้ไป๋อีแล้ว ต่อมาก็เป็นทักษะกระบี่ที่แผดเผาอย่างแปลกประหลาด

“มังกรเพลิงสังหาร!”

กระบี่เล่มหนึ่งเข้าใจเจตนาของกระบี่อย่างลึกซึ้ง มู่เฉียนซีที่ทักษะกระบี่ของนางก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าจะใช้ทักษะกระบี่ที่ถ่ายทอดมาจากกระบี่มังกรเพลิง ก็ทำให้กำลังในการต่อสู้นั้นเพิ่มขึ้นไม่น้อยเลย

ตูม! เปรี้ยง เปรี้ยง!

การโจมตีของทั้งสองนั้นได้คร่าชีวิตของคนชุดดำเหล่านี้ไปไม่น้อยภายในชั่วพริบตาเดียว

ท่านเจ้าเมืองชางกับคนชุดดำเหล่านี้ล้วนแต่ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น

นี่…นี่เป็นพลังขั้นจักรพรรดิระดับต่ำเหรอ

พวกเขาไม่เคยเห็นจักรพรรดิระดับต่ำใดที่แข็งแกร่งเช่นนี้มาก่อน มันช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว

ผู้ที่เป็นหัวหน้าผู้นั้นกล่าวเสียงขรึมว่า “บัดซบ พวกเราประเมินศัตรูต่ำเกินไปแล้ว ลงมือ ครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องยั้งมือไว้ไมตรี!”

“ขอรับ!”

ที่เรียกว่าไม่ต้องยั้งมือไว้ไมตรีนั้นก็คือจู่ ๆ ฝ่ายตรงข้ามก็ใช้ทั้งผงพิษ พิษชนิดน้ำ และควันพิษ

ค่อก ค่อก ค่อก!

พวกเขาใช้พิษรุนแรงมากมายเช่นนี้ ทำให้ในตอนนี้สีหน้าของท่านเจ้าเมืองชางดำคล้ำขึ้นมาเพราะโดนพิษเข้าเสียแล้ว

ทว่า มู่เฉียนซีไม่ได้หวาดกลัวพิษเหล่านี้แต่อย่างใด ส่วนกู้ไป๋อีที่ได้ใช้เม็ดยาวิญญาณขั้นสวรรค์อย่างยาต้านพิษที่มู่เฉียนซีตั้งใจหลอมออกมาเป็นพิเศษนั้นก็ยิ่งไม่กลัวพิษเหล่านี้แม้แต่น้อย

แสงเย็นวาบพาดผ่านดวงตาของมู่เฉียนซี “พวกเจ้าชื่นชอบในการเล่นพิษใช่หรือไม่ เช่นนั้นข้าก็ไม่เกรงใจที่จะเล่นกับพวกเจ้า”

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!

เข็มยาหลายเข็มพุ่งตัดอากาศออกไป ทันทีที่ปลายนิ้วของมู่เฉียนซีขยับ กระสุนพิษหลายลูกก็พุ่งออกไปเช่นกัน

พลั่ก พลั่ก พลั่ก!

ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!

พิษเล็ก ๆ น้อย ๆ นั้นของพวกเขานับว่าไม่มีความหมายใด

มู่เฉียนซีวางยาพิษรุนแรงยิ่งขึ้น และมากยิ่งขึ้น!

เดิมทีก็ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงจำนวนการใช้ และไม่จำเป็นต้องคำนึงว่าพิษจะไม่พอ!

“เงาจันทราคู่!”

“บัวแดงพิฆาต!”

ทักษะกระบี่น้ำแข็งและอัคคีได้ผสมผสานกัน ก่อนจะระเบิดขึ้น ภายในชั่วพริบตาเดียวคนชุดดำเหล่านี้ก็ตายไปครึ่งหนึ่ง!

พรวด!

คนอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งยังโดนพิษที่ล้ำลึกมาก

พวกเขาถลึงตาจ้องมองมู่เฉียนซีและกล่าวว่า “พวกเจ้า…เหตุใดพวกเจ้าถึงไม่โดนพิษเลย?”

พิษที่พวกเขาทดลองมาเป็นร้อยครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่ล้มเหลว สิ่งนี้เป็นสิ่งที่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยแม้แต่น้อย!

มู่เฉียนซียิ้มเยาะและกล่าวว่า “พิษกระจอก ๆ เหล่านี้ของสำนักขวางโซ่วของพวกเจ้า เจ้าคิดว่าจะทำอันใดข้าได้อย่างนั้นเหรอ?”

“สำนักขวางโซ่ว! นี่เจ้าเป็นใครกันแน่ เจ้ารู้จักสำนักขวางโซ่วด้วยรึ” พวกเขายิ่งตกใจมากยิ่งขึ้น

ส่วนท่านเจ้าเมืองชางก็ตกใจจนผงะไปเช่นกัน “สำนักขวางโซ่ว นี่มันสำนักอันใดกัน ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย นึกไม่ถึงเลยว่าสำนักนี้จะกล้าลงมือกับข้า ช่างบังอาจไม่น้อย!”

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “ดูท่า สิ่งที่ข้าคาดเดานั้นถูกต้องแล้ว เป็นสำนักขวางโซ่วจริง ๆ ด้วย!”

มู่เฉียนซีกล่าวกับกู้ไป๋อีว่า “ลงมือ ฆ่าพวกมันซะ!”

“ขอรับ!”

ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!

พวกเขาคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่ายอดฝีมือทั้งขั้นจักรพรรดิ และขั้นมหาจักรพรรดิเหล่านี้ของตนจะถูกสองจักรพรรดิระดับต่ำสองคนนี้บีบบังคับจนถึงที่สุด!

สิ่งที่พวกเขาใช้ได้ดีที่สุดก็คือพิษ แต่ตอนนี้กลับใช้ไม่ได้ผล!

ภายใต้การโจมตีอันวิปริตนี้ เกราะป้องกันของพวกเขาก็ต้านทานเอาไว้ไม่ได้นาน

“ถอย รีบถอยและไปรายงานท่านรองเจ้าสำนักเร็วเข้า ภารกิจครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงเพราะมีผู้วิปริตโผล่มาสองคน!”

“เร็วเข้า!”

พวกเขาคิดจะถอยหนี แต่เข็มยาของมู่เฉียนซีนั้นรวดเร็วยิ่งกว่า!

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!

มู่เฉียนซีกล่าวเย้ยหยันว่า “โดนพิษของข้าแล้วยังคิดจะหนีไปรายงานข่าว พวกเจ้าช่างไร้เดียงสาเกินไปแล้วจริง ๆ!”

“พี่ใหญ่ ท่านรีบหนีไปก่อน!”

“เร็วเข้า!”

ภายใต้การคุ้มกันของพวกเขา มหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับสามผู้ที่เป็นหัวหน้าผู้นั้นก็ได้พุ่งพรวดออกไป

ร่างในชุดม่วงเคลื่อนไหวไปในพริบตา มู่เฉียนซีปรากฏกายขวางหน้าเขาไว้

นางยิ้มพลางกล่าว “ข้ายังไม่อนุญาตให้เจ้าไป!”

คนผู้นี้กล่าวอย่างโหดเหี้ยมว่า “สาวน้อย เจ้าอย่าคิดว่าเจ้ามีทักษะวิญญาณที่วิปริตแล้วข้าจะทำอะไรเจ้าไม่ได้นะ จักรพรรดิแห่งภูตระดับสามอย่างไรก็เป็นจักรพรรดิแห่งภูตระดับสามอยู่วันยังค่ำ แต่ข้าเป็นถึงมหาจักรพรรดิแห่งภูต เจ้าทำอะไรข้าไม่ได้หรอก”

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างหยอกล้อว่า “หึ หึ หึ! เจ้าคิดเช่นนั้นจริง ๆ เหรอ?”

“เจ้าบีบบังคับข้าเองนะ” คนผู้นี้พยายามอย่างเต็มกำลังเพื่อที่จะลงมือกับมู่เฉียนซี

พลังวิญญาณอันทรงพลังและน่ากลัวปะทุขึ้นมา เส้นเลือดผุดพรายขึ้นบนใบหน้าของเขา

ในตอนนี้เองมู่เฉียนซีก็ได้กวัดแกว่งกระบี่มังกรเพลิง “บัวแดงพิฆาต!”

ตูม! เสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้น เขาหลบหลีกได้

คนชุดดำเอ่ยปากกล่าวว่า “สำหรับกระบวนท่านี้ของเจ้า ข้าได้เตรียมป้องกันเอาไว้แล้ว เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าตั้งแต่แรก!”

“ไปตายซะเถอะ!” เขาสบถด้วยความเกรี้ยวกราด จากนั้นก็กระโดดขึ้นและเข้ามาใกล้อีกครั้ง!

ทันใดนั้นเอง บริเวณรอบตัวของมู่เฉียนซีก็มีพลังธาตุวารีก่อตัวขึ้นเป็นระลอกคลื่น

เมื่อเผชิญหน้ากับพลังของมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับสามที่เข้ามาใกล้เช่นนี้ มู่เฉียนซีจึงได้ยกมือขึ้น ระลอกคลื่นนั้นได้หมุนรอบตัวนางอย่างรวดเร็ว!

นางตะโกนขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ทักษะโยวหลัว!”

หลังจากได้ฝึกฝนทักษะโยวหลัวกับจิ่วเยี่ยมาหลายวันแล้ว ในที่สุดวันนี้ก็ถึงเวลานำออกมาใช้ในสนามรบจริงเสียที

ตูม!

คนชุดดำส่งเสียงครวญครางขึ้น และร่างของเขาก็กระเด็นลอยออกไป

แกร่ก!

ผิวที่เหมือนหินนั้นได้ร่วงลงมาพร้อมกับลอกเอาเนื้อหนังมังสาของเขาติดมาด้วย ทั่วทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยเลือด ใบหน้าของเขาซีดขาวเป็นอย่างยิ่ง!

เขากำลังจะตายไปในไม่ช้า!

ภายใต้สายตาที่สิ้นหวังของคนที่เหลือ กระบี่อันเย็นยะเยือกที่ไร้ซึ่งความปรานีของกู้ไป๋อีก็ได้จัดการกับพวกเขาทั้งหมด

คมกระบี่มังกรเพลิงของมู่เฉียนซีชี้ไปที่คนผู้นี้ที่ร่างเต็มไปด้วยเลือด นางกล่าว “มีเพียงเจ้านี่เท่านั้นแล้วที่มีชีวิตรอดอยู่เป็นคนสุดท้าย!”

“บอกมาเถอะ ครั้งนี้สำนักขวางโซ่วของพวกเจ้าคิดจะทำสิ่งใดกันแน่?” ดวงตาสีดำขลับของมู่เฉียนซีเผยความเย็นยะเยือกออกมาอีกครั้ง

คนชุดดำกล่าว “ข้าก็เป็นเพียงแค่คนที่กำลังจะตาย เหตุใดจะต้องเปิดเผยความลับของสำนักขวางโซ่วของพวกข้าด้วย ถึงอย่างไร ข้าก็แค่ตาย”

มู่เฉียนซีเอาเข็มยาเข็มหนึ่งออกมา และกล่าวอย่างหยอกล้อว่า “ใครบอกว่าเจ้ากำลังจะตายล่ะ อยู่ต่อหน้าข้า ต่อให้เจ้ากำลังจะตาย ข้าก็สามารถทำให้เจ้าไม่ตายได้!”

คนชุดดำกล่าว “เป็นไปไม่ได้!”

ฟึ่บ! เข็มยาเข็มนั้นในมือมู่เฉียนซีแทงเข้าตรงหัวใจของเขา!

คนชุดดำโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างยิ่ง คิดจะฆ่าเขาแล้วอย่างนั้นเหรอ เป็นเช่นนี้ก็ดี นับว่าได้ถูกปลดปล่อยแล้ว ครั้นแล้วเขาจึงหลับตาลง

ความเจ็บปวดทะลุทะลวงออกมาจากหัวใจ ทำให้เขาเกือบตายทั้งเป็น ทว่า เขากลับพบว่าเขายังไม่ตาย

คนชุดดำลืมตาขึ้นมามองมู่เฉียนซีและกล่าวด้วยความตกตะลึง “เจ้าไม่ได้ฆ่าข้า!”

มู่เฉียนซียิ้มเยาะ “ข้ายังไม่รู้เรื่องที่ข้าอยากรู้เลย เจ้าคิดว่าเจ้าจะตายได้อย่างนั้นเหรอ?”

คนชุดดำกล่าว “ต่อให้เจ้าไม่ให้ข้าตาย ข้าก็ไม่มีวันปริปากบอกอันใดกับเจ้า ทรยศหักหลังต่อสำนัก ข้าไม่ทำเด็ดขาด เจ้าตัดใจซะเถอะ!”

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “เจ้าต้องบอกแน่นอน!”