คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1360

เจ้าของโรงเตี้ยมจ้องหน้าเขาอย่างดูถูกเหยียดหยามและพูดขึ้นว่า “นั่งพักงั้นเหรอ? นายคิดว่าที่นี่เป็นบ้านของนายหรือยังไง! นายไม่รู้หรือว่าลูกค้าของฉันมีแต่คนร่ำรวย! กล้าดียังไงมานั่งพักผ่อนอยู่ตรงนี้? ที่นี่ไม่ใช่ที่พักผ่อนของนาย! ออกไปเดี๋ยวนี้!”

เมื่อเจ้าของโรงเตี้ยมต่อว่าแดร์ริลด้วยเสียงอันดัง ดังนั้นสายตาของผู้คนจึงจับจ้องมาทางพวกเขาอย่างรวดเร็ว

‘บัดซบ! ทำไมคนเราชอบตัดสินหนังสือจากปก!’

แดร์ริลหัวเราะด้วยใบหน้าที่เห้ยหยัน จากนั้นเขาก็หันมองเจ้าของโรงเตี้ยมและพูดขึ้นว่า “คุณพูดเหมือนกับว่าโรงเตี้ยมโทรม ๆ ของคุณเป็นพระราชวังอย่างนั้นแหละ! ผมจะบอกให้นะว่า ต่อให้คุณเชิญผมเข้าไปพักในโรงเตี้ยมของคุณ ผมก็ไม่อยากเข้าไปพักด้วยซ้ำ!”

แดร์ริลเป็นถึงประมุขสำนักราตูสุราลัย และเขาก็ยังเป็นผู้บริหารของสถานบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในเมืองตงไห่ ที่ซึ่งมีมูลค่าหลายหมื่นล้าน! เขาไม่แม้แต่จะชายตามองโรงแรมหรูสมัยใหม่ด้วยซ้ำ แล้วนับประสาอะไรกับโรงเตี๊ยมโทรม ๆ ที่อยู่ตรงหน้า?

เกิดความโกลาหลขึ้นในฝูงชนทันที จากนั้นเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น

“ฮ่า ๆ ขอทานอะไรช่างหยิ่งผยองเสียจริง!”

“นี่คือโรงเตี้ยมที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง แต่ชายผู้นั้นกล้าคุยโวโอ้อวดเช่นนี้ได้ยังไง?”

“เขาจะต้องเป็นคนบ้าแน่ ๆ”

เจ้าของโรงเตี๊ยมหัวเราะดังลั่นด้วยใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวและจ้องมองแดร์ริลอย่างดูถูกเหยียดหยาม “เจ้าขอทานพิการ กล้าดียังไงพูดจาอวดดีกับฉัน! ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม รีบใสหัวไปเดี๋ยวนี้! ถ้าไม่อย่างนั้นก็อย่ามาหาว่าฉันใจร้าย!”

แม้จะได้ยินเช่นนั้นแต่แดร์ริลก็ยังคงไม่ขยับเขยื้อน “คุณไม่จำเป็นต้องตะโกนใส่ผมแบบนั้น เดี๋ยวผมหายเหนื่อยแล้วผมจะออกไปเอง”

เนื่องจากว่าแดร์ริลได้รับบาดเจ็บจนแขนทั้งสองข้างของเขาจึงไร้เรี่ยวแรง ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นยืนแทบจะไม่ไหว หากเป็นไปได้เขาอยากจะนอนลงไปบนพื้นด้วยซ้ำ

“อยากตายเหรอ?” สีหน้าของเจ้าของโรงเตี้ยมเปลี่ยนไปทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น เขายกมือขึ้นสั่งลูกน้องของเขาอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “ทุบตีขอทานผู้นี้แล้วเอาไปโยนให้สุนัขป่ากิน!”

“ครับ!”

ลูกน้องของเขารีบเข้ามาล้อมแดร์ริลเอาไว้ทันที!

ในเวลานั้นฝูงชน ต่างก็เฝ้าดูสถานการณ์อย่างตื่นเต้น

ขอทานผู้นี้กล้าโต้เถียงกับเจ้าของโรงเตี๊ยมเช่นนั้นได้อย่างไร?

ในเวลานั้นไม่มีใครสงสารแดร์ริลเลย ตรงกันข้าม ฝูงชนกำลังรอดูเขาถูกทุบตี!

‘บ้าฉิบ!’

แดร์ริลกัดฟันแน่นด้วยความรู้สึกหดหู่เมื่อเขาได้เห็นลูกน้องของเจ้าของโรงเตี้ยม ถ้าหากว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บจนตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ เขาจะสามารถเขี่ยพวกเขาให้กระเด็นออกไปได้ด้วยปลายนิ้วมือ

อย่างไรก็ตาม สภาพของแดร์ริลในตอนนี้แย่ยิ่งกว่าขอทานพิการ และเขาก็ไม่สามารถฟื้นฟูพลังภายในของเขาได้เต็มที่

‘บ้าฉิบ! ฉันไม่น่าไปทะเลาะกับเจ้าของโรงเตี้ยมเลย’

“หยุดนะ!”

ก่อนที่ลูกน้องของเจ้าของโรงเตี้ยมจะเข้าถึงตัวแดร์ริล ร่างเล็ก ๆ เพรียวบางก็ปรากฏขึ้นทันที คนคนนั้นอยู่ในเสื้อผ้าผู้ชายสีเข้ม เธอเป็นผู้หญิงที่ปลอมตัวเป็นผู้ชาย!

‘อีเวตต์ เลน!’

แดร์ริลตกตะลึงจนพูดไม่ออกเมื่อได้เห็นอีเวตต์มาปรากฏตัวตรงหน้าเขา

เกิดคำถามมากมายขึ้นภายในหัวของเขาทันที ทำไมเธอถึงมาปรากฏตัวที่นี่? เธอไม่ได้อยู่ในวังหรอกเหรอ? แล้วทำไมเธอถึงได้ปลอมตัวเป็นผู้ชายเช่นนั้น?

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลูกน้องของเจ้าของโรง เตี้ยมก็หยุดการกระทำทันที

ไม่มีใครรู้ว่าคนคนนั้นเป็นผู้หญิงที่ปลอมตัวเป็นผู้ชาย แต่พวกเขาสัมผัสได้ว่าคนคนนั้นจะต้องไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป

“เอ่อ คุณครับ!” เจ้าของโรงเตี้ยมเดินเข้ามาหาอีเวตต์ด้วยท่าทางสุภาพ ขณะจ้องมองเธออย่างถี่ถ้วนและพูดขึ้นว่า “ชายคนนี้เป็นเพียงแค่ขอทาน คุณไม่จำเป็นต้องปกป้องเขา”

ฝูงชนที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเจ้าของโรงเตี้ยม

“ใช่ ชายผู้นี้หาเรื่องผิดคน!”

“ใช่ เขาสมควรถูกทุบตี!”

ฝูงชนยังคงแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง ทว่าอีเวตต์ไม่แม้แต่จะเลี้ยวมองพวกเขา เธอจ้องมองแดร์ริลด้วยหัวใจที่รู้สึกเจ็บปวด

นับตั้งแต่ที่พวกเขาแยกจากกันที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของดีไวน์ ฟาร์เมอร์ อีเวตต์ก็คิดถึงแดร์ริลทุกวันจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เธอเอาแต่เพ้อฝันถึงวันที่เธอจะได้พบเขาอีกครั้ง

อีเวตต์จินตนาการถึงวันที่พวกเขาจะได้กลับมาพบกันอีก แต่เธอไม่คิดว่า การกลับมาพบกันอีกครั้งจะทำให้เธอหัวใจสลายได้ถึงเพียงนี้ เธอมองเห็นเสื้อผ้าที่เลอะเทอะเปรอะเปื้อนของเขาในขณะที่แขนทั้งสองข้างของเขาหักจนไร้เรี่ยวแรง และที่บนหน้าอกของเขาก็ยังมีรอยไหม้อีกด้วย! มันเป็นภาพที่ดูน่ากลัวมาก!

“แดร์ริล!” อีเวตต์รีบเดินเข้าไปลูบแขนเขาเบา ๆ ขณะถามขึ้นด้วยใบหน้าที่ดูโศกเศร้าว่า “เกิดอะไรขึ้น? ใครทำแบบนี้กับคุณ?”

ในขณะกล่าวเช่นนั้น อีเวตต์ก็แทบอยากจะวิ่งเข้าไปในอ้อมกอดของแดร์ริลทันที แต่เมื่อเธอได้เห็นร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลของเขา เธอก็เปลี่ยนใจที่จะไม่ทำเช่นนั้น อย่างไรก็ตามเธอ ดวงตาของเธอมีน้ำตาคลอเบ้าเนื่องจากว่าเธอไม่สามารถเก็บความรู้สึกที่เจ็บปวดเอาไว้ได้อีกต่อไป