ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 713 แม้แต่ลูกเขาก็จำไม่ได้
“…”
“อ่อใช่ คุณแสนรัก คุณมีลูกไหมคะ? ดูอายุคุณก็ไม่เด็กแล้ว คุณก็แต่งงานมีลูกแล้วใช่ไหมคะ?”
จู่ๆ เธอเปลี่ยนหัวข้อ จากนั้นก็ถามคำถามนี้ขึ้น
แสนรักตกตะลึงครู่หนึ่ง
ชั่วขณะหนึ่ง เขานั่งอยู่ตรงนนั้นจนลืมไปว่าตัวเองยังโมโหอยู่
เขามีลูกไหม?
อันที่จริงเขาจำไม่ได้แล้ว หลังจากแยกบุคลิก ความทรงจำหลายอย่างไม่ได้นำเอามาด้วย นอกจากแก้แค้น เขาก็ไม่มีความทรงจำอื่นอีกเลย
อาจเป็นเพราะบุคลิกหลักต้องการปกป้องสิ่งเหล่านี้ หรือว่าเป็นเพราะการมีตัวตนอยู่ของบุคลิกนี้ เป็นเพียงเครื่องมือชิ้นหนึ่ง ที่เพียงแค่ทำภารกิจให้สำเร็จ
“ไม่มี!”
ในที่สุดเขาก็ตอบกลับด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
แสงสว่างในดวงตาของเส้นหมี่หรี่ลงกะทันหัน…
เธอเดาผลได้แล้ว แต่ว่า ในตอนที่ออกมาจากปากของเขาจริงๆ เธอรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก
เขาจำไม่ได้แม้แต่ลูก
“แบบนี้เองเหรอคะ งั้นฉันขอประทานโทษคุณแสนรักจริงๆ นะคะ ต่อไปฉันจะไม่พูดถึงลูกสาวของฉันต่อหน้าคุณแล้วค่ะ” เธอวางยากับน้ำอุ่นในมือลงอย่างเศร้าโศก แล้วหันหลังไปเตรียมเข็มฉีดยาให้เขา
แสนรัก: “…”
ทั้งๆ ที่เมื่อครู่ยังโมโหและรังเกียจมาก แต่ตอนนี้หลังจากที่เขาเห็นสีหน้าแบบนี้ของเธอ ก็รู้สึกไม่ค่อยดีใจสักเท่าไหร่
ภายในห้องเงียบสงัดอยู่ครู่หนึ่ง
“หมอคิตตี้คะ คุณมีพัสดุที่มาจากญี่ปุ่นหรือเปล่าคะ? ฉันเอามาให้คุณแล้ว” จู่ๆ ประตูห้องพักผู้ป่วยถูกพยาบาลผลักเข้ามา
เส้นหมี่เห็นแล้ว ดวงตาเป็นประกายทันที
“ใช่ๆ ของฉันเองค่ะ ขอบคุณนะคะ”
เธอรีบเข้าไปรับพัสดุมาจากมือของพยาบาล เหมือนเป็นสิ่งล้ำค่าอย่างมาก
แสนรักเลิกคิ้ว…
มันคืออะไร?
สามารถทำให้ความรู้สึกเศร้าในดวงตาของเธอเหมือนกับหายไปในพริบตา
“เธอมีพัสดุมาจากญี่ปุ่น?”
“ใช่ค่ะ ซื้อให้คุณค่ะ CDกล่องหนึ่ง คุณดูสิคะ” เส้นหมี่แกะพัสดุออก เมื่อได้ยินเขาถาม ก็หยิบแผ่น CD และเครื่องเล่นแบบพกพาออกมาตรงหน้าเขา
แสนรักตกตะลึง
ซื้อให้เขา?
แต่ว่า นี่มันสมัยไหนแล้ว? ยังฟัง CD?
อีกอย่าง เธอรู้ได้ยังไงว่าเขาชอบฟังอะไร? เธอเพิ่งมาได้ไม่นาน ก็ซื้อของให้เขาด้วยตัวเอง?!
เขาทำเสียงฮึดออกมาจากจมูก…
แต่ว่า เพียงครู่หนึ่ง ผู้หญิงคนนี้ก็เอา CD แผ่นนี้ใส่ลงในเครื่องเล่นพกพานั้น จากนั้นก็หยิบหูฟังยัดเข้าหูเขาโดยไม่ให้โอกาสพูด
“คุณฟังดูค่ะ เพราะมากๆ”
เธอเลิกคิ้วมองดูเขา ระยะห่างนี้ ใกล้จนเขาสามารถมองเห็นเงาของตัวเองในดวงตาดำคู่นั้นของเธอ
เขาแข็งทื่อกะทันหัน ในร่างกาย มีความโมโหเพิ่งขึ้นมาทันที
แต่ว่า ในตอนที่เขากำลังจะกำเริบ ในหู ดนตรีที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนดังขึ้น เสียงนั้น ดั่งสายลมยามเช้าที่ไหลผ่านลำธารบนภูเขา และก็เหมือนหยดน้ำไหลริน ป่าทึบที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ เงียบสงัดสงบเงียบ นุ่มนวลอ่อนนุ่ม ฟังจนความโมโหในใจของเขาสงบลงโดยไม่รู้ตัว
จนลืมไปว่าจะระบายความโมโห
เส้นหมี่เฝ้าดูเขาอย่างจริงจังอยู่ตลอด
CD นี้ อันที่จริงจิตแพทย์ชาวญี่ปุ่นท่านนั้นส่งให้เธอ มุ่งเป้าไปที่ผู้ป่วยทางจิตที่คลั่งไคล้แบบพวกเขา
ได้ยินว่า นี่เหลืออยู่เพียงแผ่นเดียว
เห็นเขาสงบลงทันที ส่วนความโมโหในดวงตา ก็เหมือนถูกอะไรพัดพาไป กลายเป็นอ่อนโยนขึ้นเยอะ
เธออดไม่ได้ที่จะดีใจมาก!
ดนตรีนี้ มีประโยชน์จริงๆ ด้วย
“เพราะไหมคะ?”
เธอถามขึ้นอีกครั้ง
ส่วนครั้งนี้ เป็นเพราะความดีใจในใจ ดวงตาของเธอก็สว่างเป็นพิเศษ เหมือนน้ำพุในทะเลทราย ใสสะอาดจนทำให้แสนรักรู้สึกแสบดา
ดวงตาคู่นี้ สวยงามจริงๆ
เหมือนกับดวงตาคู่นั้นที่เขาวาดภาพอยู่บ่อยๆ
ในหัวแสนรักจู่ๆ เกิดภาพนี้ขึ้น ทันใดนั้น เขานั่งเหม่อลอยอยู่ตรงนั้น…
“คุณแสนรัก?”
เส้นหมี่ไม่รู้ความคิดในใจของเขาในตอนนี้ เห็นเขานั่งจ้องตัวเองเหม่อลอยอยู่ตรงนั้น นึกว่าฟังดนตรีนี้ฟังจนเกิดปัญหา จึงรีบถามขึ้นประโยคหนึ่ง
พูดจบ แสนรักถึงได้รู้สึกตัว
เขาดึงสายตากลับทันที
“ทำอะไร?”
“…ไม่มีอะไร ก็แค่…อยากถามคุณแสนรักว่าชอบของขวัญนี้ไหมคะ? คุณอยู่ในห้องพักผู้ป่วยค่อนข้างน่าเบื่อ ฟังดนตรีสามารถบรรเทาความเบื่อหน่ายได้”
เส้นหมี่เห็นเขาหันหน้าไปทางอื่นอีกครั้ง สีหน้าแข็งทื่อ จึงอดผิดหวังไม่ได้
โชคดีตรงที่ ชายหนุ่มคนนี้ท้ายสุดไม่ได้ส่งคืนให้กับเธอ
“วางไว้เถอะ”
“ได้ค่ะ” เส้นหมี่ดีใจทันที หลังจากที่นำเครื่องเล่นพกพาวางไว้ข้างกายเขาอย่างระมัดระวัง ก็ไม่กล้ารบกวนเขาอีกเลย
เขายอมรับก็ดีที่สุดแล้ว ไม่ว่าอย่างไร นี่ก็คือความสำเร็จก้าวแรกของเธอ ถึงเวลารอให้ลูกสาวมาถึง นั่นก็จะดียิ่งกว่า
—
ทางเหนือ สวนแมกโนเลีย
หลังงานจัดงานศพของ วุฒิพล เสร็จ สวนแมกโนเลียนี้ เหลือเพียงภรรยาของเขาเพียงคนเดียว จูเน่ก็กลับมาไม่ได้แล้ว ทางด้านกองทัพได้สั่งประหารชีวิตแล้ว
ทรงกลดได้เห็น ก็เป็นห่วงเธอว่าจะคิดสั้น ดังนั้นเขาจึงให้ครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ที่นี่ชั่วคราว