ตามความเป็นจริงแล้ว หากราชาทั้งหกร่วมมือกัน ถ้าหากอู๋เจ๋อไม่มีกายหยาบเช่นหลิงฮัน เขาไม่มีโอกาสชนะเด็ดขาด
เพียงแต่ว่าเมื่อหกราชาโจมตี อู๋เจ๋อกลับสร้างโซ่ศักดิ์สิทธิ์มากมายด้วยอำนาจแห่งกฎเกณฑ์คลุมร่างตนเองเอาไว้เป็นรูปทรงลูกบอลเพื่อเป็นเกราะป้องกัน
‘ปัง ปัง ปัง’ แม้จะโจมตีโดนก็ไม่สามารถทำลายบอลโซ่ศักดิ์สิทธิ์ได้
ในเมื่อไม่สามารถทำลายบอลโซ่ศักดิ์สิทธิ์แล้วจะสร้างความเสียหายต่ออู๋เจ๋ออย่างไร?
“เหอๆๆ เลิกดิ้นรนอย่างไร้ความหมายเสียเถิด ด้วยพลังอันไร้เทียมทานของข้า แค่พลังน้อยนิดของพวกเจ้าย่อมไม่เพียงพอจะแหงนมอง!” อู๋เจ๋อยิ้ม “การได้ตายในมือของนายท่านผู้นี้ ชีวิตนี้พวกเจ้าไม่มีอะไรต้องเสียใจแล้ว เจ้ารู้รึไม่ว่าจนถึงตอนนี้นายท่านผู้นี้ได้สังหารตัวตนระดับวารีนิรันดร์มามากมาย ส่วนตัวตนระดับดาราน่ะรึ? ข้าเบื่อที่จะสังหารพวกมันแล้ว! เพราะงั้นการที่พวกเจ้าสามารถตกตายในมือข้านับว่าเป็นวาสนาที่ดีแค่ไหน!”
“ฮ่าๆๆ!” หลิงฮันหัวเราะ “ในอนาคตข้าจะกลายเป็นจอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่ง เจ้ายอมมอบหัวมาแต่โดยดีดีกว่า ข้าจะลงดาบเจ้าเพื่อให้เจ้าได้รับวาสนาล่วงหน้า”
“ฮึ่ม!” แววตาของอู๋เจ๋อเย็นชา “เจ้า! ดูเหมือนว่าเจ้าของร่างนี้จะมีความเกลียดชังต่อเจ้าและต้องการสังหารเจ้าเป็นคนแรก”
“โอ้ งั้นก็เข้ามาเลย” หลิงฮันกล่าวอย่างไม่แยแส
ใบหน้าของอู๋เจ๋อเปลี่ยนเป็นมืดมน แม้เขาเป็นตัวตนไร้เทียมทานที่ไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจกับมดปลวดระดับภูผาวารีและไม่จำเป็นต้องลดตัวไปสู้กับอีกฝ่ายก็ตาม เขาก็อดรู้สึกอยากจะเหยียบย่ำหลิงฮันไม่ได้
แต่ทันใดนั้นพวกเฉินจู๋เอ๋อและคนอื่นๆลงมือโจมตีระลอกที่สองบังคับให้เขาตกอยู่ในสภาพที่ต้องป้องกันตัวเองเอาไว้อย่างเดียว… จะอย่างไรตอนนี้เขาก็ไม่ได้มีพลังระดับวารีนิรันดร์เช่นเดิมแล้ว
หลิงใช้โอกาสนี้โคจรศรฆ่ามังกรทะลวงดาราเต็มกำลัง
เขาไม่ร่วมโจมตีในระลอกที่สอง แต่เลือกรอให้อู๋เจ๋อตกอยู่ในสภาพป้องกันตนเองด้วยโซ่ศักดิ์สิทธิ์
เขากำลังหาจังหวะสังหารอีกฝ่าย
โอกาสมีเพียงครั้งเดียว ต่อให้ตอนนี้เขาตะสามารถฟื้นฟูพลังกลับมาได้อย่างรวดเร็ว แต่ด้วยพลังอันลึกลับของอีกฝ่ายเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมีมีโอกาสโจมตีสังหารอีกครั้ง
“พวกเจ้า จงตายด้วยมือของข้าซะ!” หลังจากป้องกันการโจมตีเสร็จ โซ่ศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนก็สยายออกและพุ่งแทงเข้าใส่หลิงฮันและอีกหกคน
ทุกคนเป็นเหมือนกัน หลังจากปลดปล่อยการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดออกไปแล้ว พวกเขาจะตกอยู่ในสภาพที่อ่อนแรงที่สุด
‘พรึบ พรึบ พรึบ’ โซ่ศักดิ์สิทธิ์พุ่งทะลวงเข้าใส่เฉินจู๋เอ๋อและคนอื่นๆ มือ ข้าและลำตัวของพวกเขาถูกโซ่ศักดิ์สิทธิ์แทงทะลุจนโลหิตทะลักออกมา
ทันใดนั้นเองหลิงฮันใช้โอกาสนี้ยิงคันศรเต็มกำลังออกไป
‘ฉัวะ’ ในในตอนที่เขายิงศรออกไปเขาก็ถูกโซ่ศักดิ์สิทธิ์โจมตีใส่เช่นกัน โชคดีที่กายหยาบของเขาแข็งแกร่งพอโซ่ศักดิ์สิทธิ์จึงแทงเข้าแค่กล้ามเนื้อของเขาแต่ไม่สามารถเจาะผ่านกระดูกเข้าไปได้
‘ครืนนน’ ศรพุ่งออกไปเร็วราวกับลำแสง
“อ้ากกก!” อู๋เจ๋อร้องโอดครวญ ไหล่ซ้ายของเขาถูกลูกศรทะลวงเข้าใส่และระเบิดกระจุย แขนของเขาร่วงลงพื้นพร้อมกับโลหิตสาดกระจาย
นี่ถือว่าโชคดีที่เขาควบคุมโซ่ศักดิ์สิทธิ์มาปัดป้องได้ทัน ลูกศรจึงถูกเบี่ยงวิถี ไม่เช่นนี้สิ่งที่ระเบิดคงไม่ใช่ไหล่ซ้ายแต่เป็นหัวใจของเขา
“เจ้าหนู! ข้าจะฆ่าเจ้า!” อู๋เจ๋อคำราม
เขาทั้งโมโหและหวาดกลัว เมื่อครู่เขาเกือบจะตกตายด้วยมดปลวกระดับภูผาวารี!
‘พรึบ’ โซ่ศักดิ์สิทธิ์สยายออก มือของอู๋เจ๋อยกขึ้นและควบคุมโซ่ศักดิ์สิทธิ์เจ็ดเส้นให้พุ่งเข้าใส่มือและเท้าของหลิงฮัน
สภาพในตอนนี้ของหลิงฮันเป็นอย่างไร?
ศรฆ่ามังกรทะลวงดาราเต็มกำลังมีอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวมากก็จริง แต่พลังปราณจะถูกเผาผลาญจนไม่เหลือ ต่อให้เขาในตอนนี้สามารถฟื้นฟูพลังได้อย่างรวดเร็วก็ต้องใช้เวลาสักพักอยู่ดี
หลิงฮันไม่มีแรงต่อต้านและถูกโซ่ทั้งเจ็ดโจมตีใส่
‘ฉัวะ’ โลหิตของหลิงฮันไหลออกมา แต่อู๋เจ๋อกลับกลายเป็นไร้คำพูด แม้กระทั่งการโจมตีนี้ก็ยังไม่สามารถทะลวงร่างของหลิงฮันได้
เป็นไปได้อย่างไรที่จะมีสัตว์ประหลาดเช่นนี้อยู่?
อู๋เจ๋อหวาดกลัวเล็กน้อย ถ้าพลังของเขาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เขาจะสามารถบดขยี้หลิงฮันให้ตายได้ในการโจมตีเดียว แต่ตอนนี้เขาทำได้เพียงพึ่งาอำนาจแห่งกฎเกณฑ์อย่างเดียวซึ่งปัญหาก็คือระดับพลังของร่างนี้ต่ำเดินไปอำนาจกฎเกณฑ์ที่ใช้ได้จึงมีจำกัด ไม่เช่นนั้นหากใช้พลังของมันมากเกินไปเขาจะถูกอำนาจแห่งกฎเกณฑ์สะท้อนกลับมาทำร้ายเอง
“ฮึ่ม นายท่านผู้นี้จะค่อยๆบดขยี้เจ้าอย่างช้าๆ!” อู๋เจ๋อกล่าวอย่างเย็นชา
เขาสะบัดโซ่ศักดิ์สิทธิ์ออกจากพวกเฉินจู๋เอ๋อจนร่างของพวกเขากระเด็นเข้าใส่กำแพงและใช้โซ่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดกระหน่ำจู่โจมหลิงฮัน
ไม่สามารถสังหารได้ในทันที งั้นก็ต้องทำเหมือนกับที่มดกัดช้าง ค่อยๆทำให้เจ็ดปวดและตาย
กายหยาบของหลิงฮันแข็งแกร่งเทียบได้กับโลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับห้า แต่โซ่ศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นเหมือนกับโซ่ที่ค่อยๆเลือกโลหะให้ขาดอย่างช้าๆ
‘ปัง ปัง ปัง’ หลิงถูกโซ่ศักดิ์สิทธิ์ทะลวงเข้าใส่ ตอนนี้พลังของเขายังฟื้นฟูได้ไม่มากจึงทำได้เพียงยอมถูกทุบตี
เฉินจู๋เอ๋อและคนอื่นๆได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเขาไม่สามารถช่วยเหลือหลิงฮันได้ ไม่เช่นนั้นอู๋เจ๋อคงไม่ปล่อยพวกเขาไปง่ายๆเช่นนั้น
โซ่ศักดิ์สิทธิ์กระหน่ำโจมตีจนหลิงฮันโลหิตท่วมตัวในพริบตา
“ฮ่าๆๆๆ! อู๋เจ๋อหัวเราะ ทั้งตัวตนลึกลับที่ควบคุมร่างกับตัวของอู๋เจ๋อเองต่างก็รู้สึกพึงพอใจทั้งคู่ ตัวของอู๋เจ๋อนั้นพ่ายแพ้ให้กับหลิงฮันต่อหน้าสาธารณะชน จะไม่ให้เขามีความโกรธแค้นอยู่ในจิตใจได้อย่างไร?
หลิงฮันถูกกระหน่พโจมตีอยู่ก็จริง แต่หลังจากที่ฟื้นฟูพลังกลับมาได้เขาจะตอบโต้แน่นอน
หรือถ้าหากสถานการณ์ย่ำแย่จริงๆเขาก็จะเข้าไปหลบซ่อนในหอคอยทมิฬหรือไม่ก็นำเซียนหวู่เซียงออกมาขู่ให้ตัวตนลึกลับหวาดกลัว
พวกเฉินจู๋เอ๋อไม่รู้ว่าหลิงฮันมีหอคอยทมิฬ เมื่อเห็นสภาพของหลิงฮันและตัวของพวกเขาเองจึงคิดว่าพวกเขาทำได้แต่เพียงรอความตาย
แม้พวกเขาจะมีไพ่ลับอย่างอื่นอยู่แต่ที่แห่งนี้ถูกจำกัดพลังให้ไม่เกินสุริยันจันทรา
หากใช้ไพ่ลับที่ว่าก็มีแต่จะเปลี่ยนวิธีการตายเป็นถูกเขตแดนบดขยี้ก็เท่านั้นเอง
นี่พวกเขาไม่มีทางรอดแล้วจริงๆ?
พวกเขาเป็นคนที่มีเจตจำนงอันแรงกล้าซึ่งไม่มีทางยอมแพ้อย่างสิ้นหวังเด็ดขาด ภายในสมองของพวกเขาครุ่นคิดถึงวิธีทุกอย่างให้รอดชีวิต
“เหอๆ เฒ่ามารเฉินยิน ในที่สุดเจ้าก็โผล่หัวมาแล้วสินะ!” เสียงหนึ่งดังก้องขึ้นมาราวกับฟ้าผ่า เสียงนั้นก้องกังวานไปทั่วพระราชวัง
อะไรกัน ที่นี่ยังมีคนอื่นอยู่อีกรึ?
แต่พวกหลิงฮันเจ็ดคนกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกคาดหวัง… พวกเขาหวังว่าจะสามารถพลิกสถานการณ์ในตอนนี้ได้!