บทที่ 476

ไม่รู้เลยเวลานี่มันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น

ทำไมท่านหงห้าถึงไว้หน้าเย่เฉินขนาดนั้น? เขาเป็นลูกเขยของเพื่อนนักเรียนเก่าแก่ของพ่อตาไม่ใช่เหรอ?

เพื่อนนักเรียนเก่าแก่ของพ่อตาก็เป็นแค่คนธรรมดาไม่เอาไหน ให้คนไม่เอาไหนเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้าน นั่นก็เท่ากับว่าคนไม่เอาไหนใช้ทองห่อคนไม่เอาไหนไว้!

ทำไมท่านหงห้าถึงให้ความสำคัญกับคนธรรมดาที่ไม่เอาไหนคนนี้

ช่วงเวลาที่เขายังแยกแยะที่มาที่ไปของเรื่องนี้ไม่ออก ท่านหงห้าตบหน้าไปหนึ่งฉากอย่างแรง!

“เพี้ยะ!”

สมองของจางเจี้ยนมึนงงไปชั่วขณะ และแก้มของเขาก็พองขึ้นทันที

“ ท่านหงห้า นี่ท่าน… ”

จางเจี้ยนตกใจตัวสั่น และเอ่ยปากถาม “ท่านห้า นี่ผมทำอะไรผิด?”

ท่านหงห้ากัดฟันและด่าว่า “นายเป็นแค่สุนัขตัวหนึ่งของฉัน ถึงกับกล้าล่วงเกินอาจารย์เย่ นายเบื่อชีวิตแล้วใช่ไหม? ได้! วันนี้ฉันจะลากนายไปที่กรงสุนัขแล่เนื้อให้สุนัขกิน!”

จู่ๆจางเจี้ยนก็รู้สึกว่าสมองของเขาระเบิด และเขาก็ทรุดตัวลงนั่งอยู่กับพื้น

ในฐานะที่เขาเป็นสุนัขรับใช้ของท่านหงห้า แน่นอนเขาต้องรู้ว่าท่านหงห้าเป็นคนยังไง คนที่ตายอยู่ในมือท่านหงห้า มีนับไม่ถ้วนมาตั้งนานแล้ว อีกอย่าง ส่วนใหญ่ซากศพก็จะเข้าไปอยู่ในท้องของสุนัขที่เขาเลี้ยงไว้ทั้งนั้น!

หลังจากนั้น เขาก็รีบคุกเข่าลงกับพื้น โขกศีรษะไปพูดไป “ท่านห้า ขอให้ท่านไว้ชีวิตด้วยเถิด ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นเพื่อนของท่าน… ”

“เพื่อน?” ท่านหงห้าเตะไปที่หน้าอกของเขา และพูดอย่างเคร่งขรึม อาจารย์เย่เป็นดวงจันทร์ที่สว่างไสวในใจของฉัน ฉันได้แค่เงยหน้ามองเท่านั้น ไหนจะมีคุณสมบัติที่จะเป็นเพื่อนของอาจารย์เย่!”

คำพูดของท่านหงห้าพูดออกมาจากจิตใต้สำนึก ทุกคนที่ฟังแล้ว ยิ่งตะลึงมากขึ้น เย่เฉินตกลงที่มาที่ไปเป็นยังไงกันแน่? สามารถทำให้ท่านหงห้าเคารพนับถือได้ถึงขั้นนี้?

พันหยวนหมิงที่ยืนอยู่ข้างๆเขาก็ตกใจจนสั่นไปทั้งตัว เมื่อเห็นลูกเขยของตัวเองถูกท่านหงห้าทุบตี ถึงแม้เขาจะเจ็บปวดใจ แต่มีความกลัวมากกว่า!

ในตอนนี้ท่านหงห้าพูดกับลูกน้องสองคนที่อยู่ข้างๆ “มา เอาสุนัขตัวนี้ไปให้สุนัขที่ฉันเลี้ยงไว้ในกรงไป!”

บอดี้การ์ดทั้งสองรีบก้าวเข้ามาลากจางเจี้ยนออกไปทันที

จางเจี้ยนตกใจและร้องไห้ หันไปมองเย่เฉิน ทั้งร้องไห้ขอร้อง “เย่เฉิน โทษที่ผมมีตาหามีแววไม่ เห็นแก่ที่พ่อตาของพวกเราสองคนเป็นเพื่อนนักเรียนกันมาหลายปี ท่านก็ให้ท่านหงห้าปล่อยผมสักครั้งเถอะ!”

เย่เฉินยิ้มและพูดว่า “ไง? ตอนนี้รู้จักขอร้องคนแล้ว? เมื่อกี้นายจะไล่ฉันไปไม่ใช่หรอ?”

จางเจี้ยนเช็ดน้ำตาพร้อมกับสะอื้น และพูดว่า “คุณชายเย่ ผมผิดไปแล้ว ผมยอมเป็นวัวเป็นม้าให้ท่าน ขอเพียงแค่ท่านอภัยให้ผมสักครั้ง!”

พูดถึงตรงนี้ จางเจี้ยนสีหน้าซีดเซียวพูด “คุณชายเย่ ขอเพียงแค่ท่านอภัยให้ผมครั้งนี้ ผมยินยอมที่จะมอบทรัพย์สินทั้งหมดให้กับท่านภายใต้ชื่อของผม!”

เมื่อพันหยวนหมิงได้ยินคำพูดนี้ เขาก็โพล่งออกมาอย่างไม่มีสติ “จางเจี้ยนนายบ้าแล้วหรอ? ทรัพย์สินภายใต้ชื่อนายส่วนใหญ่ก็เป็นเงินที่ฉันให้นาย! อีกอย่างยังมีอีกครึ่งหนึ่งที่เป็นของลูกสาวของฉัน!”

“ ไอ้แก่ตายยากหุบปากเลยนะ!”

จางเจี้ยน กัดฟันแล้วจ้องมองไปที่พันหยวนหมิน แล้วด่าอย่างโมโห “ไอ้สุนัขแก่ตายยาก แม่งตาบอดหรอ? ดูไม่ออกหรอว่าชีวิตผมก็จะไม่เหลือแล้ว?!”

พันหยวนหมิงคิดไม่ถึงว่าจางเจี้ยนถึงกับด่าตัวเอง พูดอย่างโมโหทันที “นาย…นายพูดกับฉันอย่างนี้ได้ไง?! อย่าลืมนะ ฉันเป็นพ่อนายนะ!”

“แม่งไสหัวไป!” จางเจี้ยนพูดอย่างเกลียดชัง “ถ้าไม่ใช่ไอ้คนตายยากอย่างคุณให้ผมแกล้งเสแสร้ง เป็นไปไม่ได้ที่ผมจะไปล่วงเกินคุณชายเย่!”

พูดจบ จางเจี้ยนก็รีบมองไปทางเย่เฉิน พูดด้วยน้ำตา “อาจารย์เย่ เป็นเพราะไอ้แก่ที่ตายยากคนนี้ ตั้งแต่เมื่อวานก็กำชับผม บอกให้ผมช่วยเขาดูถูกเหยียดหยามท่านกับพ่อตาท่านให้ถึงที่สุด ผมถึงตาบอดล่วงเกินท่าน ดังนั้นเขาถึงจะเป็นคนร้ายตัวจริง! คนที่ควรถูกแล่เนื้อไปเลี้ยงสุนัข คือเขา! “