ความคิดชั่วร้ายในใจทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของซือถูเหิงดูชั่วร้ายน่าขนลุกยิ่งขึ้น เขาควบคุมด้ายวิญญาณด้วยมือหนึ่ง ส่วนอีกมือก็แอบหยิบขวดยาออกมาจากข้างเอว เขาเปิดฝาขวดอย่างเงียบๆ และเทยาลงบนฝ่ามือที่ควบคุมด้ายวิญญาณ ไม่นาน ด้ายวิญญาณก็ถูกปกคลุมด้วยชั้นสีแดงเข้มที่บางมากๆ สีแดงนั้นถูกแสงสีส้มของไฟวิญญาณบดบังเอาไว้ แม้ว่าจะมีคนยืนอยู่ข้างๆ ก็เกรงว่าจะไม่สามารถพบความผิดปกติใดๆ
ซือถูเหิงมองไปที่จวินอู๋เสียที่กำลังหลับตา แล้วริมฝีปากของเขาก็โค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มที่ดูน่าขนลุก
นังเด็กเวรไม่รู้ที่ตาย คิดหรือว่าน้ำหน้าอย่างเจ้าจะคู่ควรเป็นศัตรูของอาณาจักรบน?
ข้าจะส่งเจ้าลงนรกแบบไม่ให้เจ้ารู้ตัว!
นี่นับว่าเป็น ‘ความใจดี’ อันน้อยนิดที่มีให้เชียวนะ หนึ่งวันครึ่งผ่านไปในชั่วพริบตา ในที่สุดซือถูเหิงก็ตัดการเชื่อมโยงด้ายวิญญาณ เมื่อการเชื่อมโยงถูกตัด จวินอู๋เสียก็ลืมตาขึ้นช้าๆ เทียบกับความเจ็บปวดในตอนจบรอบแรก ครั้งนี้นางรู้สึกดีกว่ามาก แต่ถึงยังไง นางก็ผ่านการฝึกอย่างต่อเนื่องหลายวัน ใบหน้าของนางจึงค่อนข้างซีด
ใบหน้าของซือถูเหิงกลับเป็นเฉยเมยตามปกติ เขาขมวดคิ้วมองจวินอู๋เสียขณะที่ลุกขึ้นยืนช้าๆ
“ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะช่วยข้า” ขณะที่ซือถูเหิงกำลังจะจากไป จวินอู๋เสียก็พูดขึ้น
ซือถูเหิงชะงักฝีเท้า เขายังคงหันหลังให้นาง ขณะที่มีรอยยิ้มหยันปรากฏขึ้นบนใบหน้า แต่รอยยิ้มนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาหันกลับมามองจวินอู๋เสีย ก็ไม่เหลือร่องรอยของมันอีก
“ข้าไม่ได้จะช่วยเจ้า แต่ข้าทำเพื่อปกป้องเมล็ดของต้นวิญญาณ หวังว่าเจ้าจะไม่เข้าใจผิด ข้ายังเกลียดเจ้าเหมือนเดิม แต่ฉินเกอพูดถูก เมล็ดของต้นวิญญาณอยู่ในตัวเจ้า ถ้าเจ้าตาย ก็ยากที่จะแน่ใจได้ว่าเมล็ดจะไม่เสียหาย ข้าไม่ได้ช่วยเจ้า ข้าแค่ทำหน้าที่ของข้าให้สมบูรณ์เท่านั้น” คำพูดของซือถูเหิงฟังดูใจดำ แต่ก็สอดคล้องกับนิสัยหัวแข็งของเขา
ดวงตาสีเทาไร้ความรู้สึกคู่นั้นสบกับสายตาเย็นชาของจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียฉลาดมาก เรื่องนี้ซือถูเหิงรู้ดี ก่อนที่จะทำสำเร็จ เขาจะให้นางสงสัยอะไรไม่ได้ ดังนั้นเขาต้องระวังให้มากตอนที่อยู่ใกล้ๆนาง
“อย่างนี้นี่เอง” จวินอู๋เสียพยักหน้าเล็กน้อยเหมือนไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติใดๆ
ซือถูเหิงทำท่าเหมือนไม่อยากพูดต่อ เขาหันหลังเดินจากไป คำพูดและการกระทำของเขาไม่มีสิ่งใดผิดปกติ แทบไม่มีอะไรน่าสงสัยเลย
จนกระทั่งซือถูเหิงออกจากวิหารใต้ดิน ร่างของจ้าววิญญาณก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆนาง เขามองจวินอู๋เสียที่เพิ่งยืนขึ้นและถามว่า“เป็นอย่างไรบ้าง?”
“เป็นคนเสแสร้งที่ฉลาดมาก” จวินอู๋เสียกล่าวอย่างเย็นชา ซือถูเหิงดูเป็นคนหัวแข็งไม่ยืดหยุ่น ถ้านางไม่พบความผิดปกติก่อนหน้านี้ คงถูกเขาหลอกไปแล้ว ถึงอย่างไรซือถูเหิงก็ไม่เคยดีกับนาง แต่จู่ๆก็ตกลงจะช่วยนาง นี่มันขัดแย้งกันอย่างมาก
แต่ดูเหมือนซือถูเหิงจะหาข้อแก้ตัวที่ยอดเยี่ยมได้แล้ว
“หลังจากเขารับช่วงต่อจากหลงจิ่ว ข้าเห็นเขาใช้อะไรบางอย่างในมือ เจ้ารู้สึกไม่สบายตรงไหนรึเปล่า?” จ้าววิญญาณขมวดคิ้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล เป็นเพราะนางบอกไว้ว่าไม่ว่าเขาจะเห็นอะไรก็ห้ามปรากฏตัวออกมาเด็ดขาด จ้าววิญญาณจึงได้แต่เฝ้ามองทุกอย่างอยู่ในห้องลับของวิหารใต้ดิน แต่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย