เย่จิ่งห

“ข้าจะไปทำลายค่ายกลนั่น”

“ทำลายค่ายกล? ที่นี่มีค่ายกลตรงไหน?”

“โฮก…..”านมองดูจอมมาร พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำว่า “กู้ชูหน่วนเป็นภรรยาของข้า การช่วยเหลือนางเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของข้า เจ้ารีบปล่อยมือ เก็บวิชาดอกไม้ผลิบานอีกครั้งของเจ้าด้วย”

“ข้ารู้เพียงว่านางเคยรับปากข้า ขอเพียงข้าปลูกดอกพุดเต็มหุบเขาด้วยตนเอง นางก็จะแต่งงานกับข้า ข้าได้ปลูกดอกพุดเต็มหุบเขาแล้ว ตอนนี้นางเป็นภรรยาของข้า”

“เจ้าหน้าไม่อาย นางเพียงแค่ไม่อยากทำให้เจ้าเสียใจ จึงพูดขึ้นมาเป็นข้ออ้างเท่านั้น”

“เจ้าไม่ใช่นาง เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าในใจนางคิดยังไง?”

“คนโง่ยังรู้ว่านี่เป็นเพียงแผนรับมือชั่วคราวที่เหมาะสมของนาง”

“เย่จิ่งหาน เจ้ากินองุ่นไม่ถึง แล้วเที่ยวพูดว่าองุ่นนั้นเปรี้ยว เจ้ารีบปล่อยมือ ภรรยาของข้าไม่จำเป็นต้องให้เจ้าช่วย”

หากไม่จำเป็นต้องใช้พลังทั้งหมดที่มีเพื่อนำวิญญาณกู้ชูหน่วนออกมา จอมมารของถูกเขาปัดกระเด็นไปนานแล้ว จะปล่อยให้เขาพูดบ่นอยู่ตรงนี้หรือ

เย่จิ่งหานกลอกตามองบน

เดิมกู้ชูหน่วนก็คือภรรยาของเขา เขาจะต้องเปรี้ยวอะไร?

“เจ้าใช้วิชาดอกไม้ผลิบานอีกครั้งติดต่อกันถึงสองครั้ง หากเจ้าไม่ปล่อยมือ เจ้าจะต้องตายแน่ รีบถอนตัว”

“เจ้าบังคับเปลี่ยนชะตากรรม แหกกฎข้อห้าม หากไม่หยุด คนที่ตายคือเจ้า ควรถอนตัวคือเจ้า”

ทั้งสองคนแข่งขันกัน ใครก็ไม่ยอมปล่อยโอกาสครั้งสุดท้ายนี้ไป

สุดยอดผู้อาวุโสมองอยู่ทางด้านข้างอย่างร้อนใจ

“พวกเจ้าทั้งสองคนไม่ต้องทะเลาะกันแล้ว นำวิญญาณของหัวหน้าเผ่าออกมาใช้เพียงคนคนเดียวก็พอแล้ว พวกเจ้าต้องมีคนคนหนึ่งรีบปล่อยมือ ไม่อย่างนั้นพวกเจ้าทั้งสองคนล้วนจะต้องตาย”

“ให้เขาปล่อยมือ”

จอมมารกับเย่จิ่งหานพูดออกมาพร้อมกัน

ระหว่างความเป็นความตาย ใครก็ไม่ยอมปล่อยมือ

อย่างแรกคือกลัวหลังจากที่ตนเองปล่อยมือ แล้วอีกฝ่ายไม่สามารถที่จะนำวิญญาณกู้ชูหน่วนออกมา

อย่างที่สองก็คือ อีกฝ่ายเป็นคนสำคัญที่สุดของกู้ชูหน่วน หากใครตายไป ต่อให้กู้ชูหน่วนฟื้นขึ้นมา ก็จะเสียใจ พวกเขาจึงยอมที่จะเสียสละตนเอง

เซียวหยู่เซวียนมองดูอย่างร้อนใจที่สุด

พวกเขามีข้อห้าม สามารถบรรลุถึงระดับเจ็ดได้

เขากลับไม่มีความสามารถนั้นที่จะสามารถบรรลุไปถึงระดับเจ็ด จึงทำได้เพียงมองดูอย่างเป็นกังวล

เขาไม่รู้ว่าเขากำลังเป็นกังวลเรื่องอะไร รู้เพียงว่าหากไม่สามารถนำวิญญาณกู้ชูหน่วนออกมา เขาจะทรมานอย่างมาก…..ทรมานอย่างที่สุด……

“ตูม….”

ศพของกู้ชูหน่วน เปี่ยมไปด้วยพลังของพวกเขาทั้งคู่ จนฉายแสงจ้า

แสงเจิดจ้าขึ้นมา พลังของพวกเขาทั้งสองคนถูกปิดกั้นไว้ด้านหน้า แล้วต่างถูกตีกลับ หากพวกเขาหลบได้ไม่ไว คงจะถูกพลังของตนเองตีกลับจนบาดเจ็บแล้ว

“เกิดอะไรขึ้น ทำไมพลังของข้าถึงไม่สามารถที่จะนำส่งเข้าไป และก็ไม่สามารถนำวิญญาณของนางออกมา”

“ข้าก็เหมือนกัน”

เย่จิ่งหานกับจอมมารต่างก็ตกตะลึง

หากไม่สามารถนำวิญญาณของนางออกมาได้ งั้นนางจะทำอย่างไร จะไม่….

ทุกคนต่างหันไปมองสุดยอดผู้อาวุโส

สุดยอดผู้อาวุโสพูดขึ้นมาทันทีว่า

“วิทยายุทธของพวกเจ้าทั้งสองคน คนหนึ่งคือหยาง คนหนึ่งคือหยิน หยินหยางผสมผสาน วิญญาณของหัวหน้าเผ่าทนรับไม่ไหว พวกเจ้าไม่เพียงไม่สามารถนำออกมา ยังจะถูกพวกเจ้าทำให้ระเบิด พวกเจ้าจะต้องมีคนคนหนึ่งหยุดมือ”

“หากหยุดตอนนี้ แล้วคิดอยากที่จะใช้พลังระดับเจ็ดอีกนั้น เป็นไปไม่ได้ สุดยอดผู้อาวุโส ท่านรู้ไหมว่าคำพูดของท่านในตอนนี้มีความสำคัญแค่ไหน?”

“ข้ารู้ ข้ามั่นใจว่าในพวกเจ้าจะต้องมีคนคนหนึ่งหยุด ข้าอายุมากขนาดนี้แล้วขอร้องพวกเจ้า พวกเจ้าทั้งสองคนดูว่าใครจะหยุดมือก่อน”

“เชอะ…..”

พลังที่พวกเขาทั้งสองคนส่งให้กับกู้ชูหน่วนล้วนถูกตีกลับทั้งหมด ยิ่งอยู่ก็ยิ่งรุนแรง

ทั้งเย่จิ่งหานกับจอมมารก็ต้านทานไม่ไหวแล้ว มุมปากต่างมีเลือดไหล สีหน้าขาวซีด

ปล่อยต่อไปแบบนี้ วิญญาณของกู้ชูหน่วนยังไม่ถูกนำออกมา พวกเขาก็ตายอยู่ที่นี่ก่อนแล้ว