บทที่ 674 ฟีนิกซ์เก้ายมโลก

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

หลังจากที่หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น ไข่ก็มีปฏิกิริยาทันทีโดยการปลดปล่อยเปลวพลิงสีเขียวออกมาอย่างรุนแรง

ทองคำสีชาดที่ทับถมอยู่บนไข่ถูกเปลวเพลิงสีเขียวอันรุนแรงหลอมละลาย และเริ่มถูกดูดซับเข้าไปในไข่อย่างบ้าคลั่ง

ขนาดของไข่ในตอนแรกนั้นมีขนาดประมาณเท่ากับไข่นกกระจอกเทศ แต่เมื่อมันยิ่งดูดซับทองคำสีชาดที่หลอมละลายไปเรื่อย ๆ ขนาดของมันก็เริ่มใหญ่ขึ้น ๆ จนท้ายที่สุดไข่ก็มีขนาดใหญ่เท่ากับครึ่งความสูงของคนปกติ

หวงอู่เริ่มตื่นตระหนกเมื่อเห็นว่าไข่หยุดขยายขนาดแล้ว เนื่องจากทองคำสีชาดที่หลิงตู้ฉิงนำมามันถูกหลอมละลายไปจนหมดเรียบร้อย นางรีบถามหลิงตู้ฉิงทันที “องค์เหนือหัว ท่านจะให้ข้าส่งข้อความไปบอกให้คนของเราเอาทองคำสีชาดมาเพิ่มไหม? นี่มันดูเหมือนว่าองค์หญิงน่าจะต้องการพลังอัคคีเพิ่มอีก”

หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “ไม่จำเป็น ที่นี่คือแดนกระดูกขาว ที่นี่มีพลังที่เหมาะให้นางดูดซับอยู่แล้ว”

หลิงตู้ฉิงนึกไม่ถึงเช่นกันว่าหวงซีจะกลายเป็นฟีนิกซ์เก้ายมโลกหลังจากกำเนิดใหม่

แต่เมื่อเขานึกถึงประสบการณ์การผ่านความตายและไปเยือนยมโลกมานับพันครั้งของหวงซี ในระหว่างที่อยู่ในกระบวนการกำเนิดใหม่ด้วยคาถาวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์ เขาก็พอเข้าใจว่าที่เป็นเช่นนี้มันก็สมควรแล้ว และในเมื่อนางกลายเป็นฟีนิกซ์เก้ายมโลกแบบนี้ มันก็ยิ่งดีต่อแผนการของเขาเข้าไปใหญ่เพราะในอนาคตการชำระล้างแดนกระดูกขาวมันจะยิ่งง่ายขึ้นเป็นอย่างมากด้วยพลังของหวงซี

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หวงอู่รู้สึกงุนงงและคิดในใจ ‘ไม่ใช่ว่าเผ่าฟีนิกซ์ของนางต้องอาศัยพลังธาตุอัคคีในการเกื้อหนุนเป็นหลักไม่ใช่เหรอ? ทำไมหลิงตู้ฉิงถึงได้บอกว่าแดนกระดูกขาวมีพลังที่หวงซีต้องการใช้?’

ในขณะเดียวกับที่หวงอู่กำลังงุนงง จู่ ๆ เปลวเพลิงสีเขียวก็รุนแรงขึ้นและแผ่กระจายออกไปเป็นวงกว้างทุกทิศทางอย่างบ้าคลั่ง ส่งผลให้ในเวลาเพียงชั่วพริบตาทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบ ๆ กายพวกเขาก็ถูกลุกท่วมไปด้วยเปลวเพลิงสีเขียว

ย้อนไปช่วงเวลาก่อนหน้านี้ที่หลิงตู้ฉิง หลิงไช่หยุนและหวงอู่ปรากฏกายขึ้นที่แดนกระดูกขาว บรรดาวิญญาณปีศาจและภูตผีต่าง ๆ ที่ได้กลิ่นของคนที่มาจากภูเขาฟีนิกซ์ พวกมันก็รีบกรูกันเข้ามาหาทันที

แต่เมื่อพวกมันกรูกันมาถึง แต่กลับเห็นระดับการบ่มเพาะอันแข็งแกร่งของหวงอู่ พวกมันจึงหยุดลงและล้อมเอาไว้ เนื่องจากพวกมันรู้ดีว่าต่อให้โจมตีไปพวกมันก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ดังนั้นพวกมันจึงหยุดคอยเพื่อรอให้วิญญาณปีศาจและภูตผีที่ระดับสูงกว่าพวกมันมาถึง

แต่แล้วในระหว่างที่พวกมันกำลังรอวิญญาณปีศาจและภูตผีระดับสูง จู่ ๆ เปลวเพลิงสีเขียวที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายมืดหม่นและเย็นยะเยือกก็แผ่กระจายออกมาจากจุดที่กลุ่มของหลิงตู้ฉิงยืนอยู่

เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเปลวเพลิงสีเขียวที่แผ่กระจายออกมา เหล่าวิญญาณปีศาจและภูตผีรู้สึกได้ทันทีว่าเปลวเพลิงสีเขียวนี้เป็นภัยคุกคามอันใหญ่หลวงของพวกมัน ดังนั้นพวกมันจึงไม่รีรอและหันหลังหนีในทันที

น่าเสียดายที่ต่อให้พวกมันจะหนีเร็วแค่ไหน แต่เปลวเพลิงสีเขียวที่แผ่กระจายออกมานั้นเร็วกว่าพวกมันมาก แค่เพียงชั่วพริบตาบรรดาวิญญาณปีศาจและภูตผีจำนวนนับไม่ถ้วนก็ถูกเปลวเพลิงสีเขียวเผาชำระจนหลงเหลือไว้แค่เพียงพลังวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งถูกหลอมรวมเข้ากับเปลวเพลิงสีเขียว

ท้ายที่สุดเปลวเพลิงสีเขียวก็แผ่ขยายไปกว้างถึง 1,000 ตารางกิโลเมตร และจากนั้นมันก็หยุดแผ่ขยาย ซึ่งแน่นอนว่าบรรดาวิญญาณปีศาจและภูตผีที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ที่เปลวสีเขียวแผ่ขยายนั้นล้วนถูกเผาชำระหายไปจนหมด

ส่วนวิญญาณปีศาจและภูตผีตนอื่น ๆ ที่อยู่นอกระยะ เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นพวกมันก็ไม่กล้าเข้ามาใกล้อีก

เมื่อเห็นว่าไม่มีวิญญาณปีศาจและภูตผีให้เผาชำระอีกแล้ว เปลวสีเขียวก็ถูกดึงกลับเข้ามาอยู่ในไข่เหมือนเดิม ซึ่งหลังจากที่เปลวเพลิงสีเขียวถูกดึงกลับมาจนหมด ไข่ที่เคยมีความสูงแค่ครึ่งความสูงของคนก็ขยายใหญ่ขึ้นไปอีกกลายเป็นสูงเท่ากับคนปกติเรียบร้อย

“แคร่ก!” ไข่เริ่มมีรอยปริร้าว และจากนั้นเปลือกของมันก็ค่อย ๆ แตกออกจนมองเห็นสิ่งที่อยู่ด้านใน

หญิงสาวผู้มีหน้าตางดงามพอที่จะล่มเมืองได้แบบสบาย ๆ สวมชุดกระโปรงยาวสีเขียวกำลังยืนยิ้มให้กับหลิงตู้ฉิง

ระดับการบ่มเพาะของหญิงสาวในตอนนี้หล่นกลับมาอยู่ที่ระดับสวรรค์สมบูรณ์ขั้นสูงสุด ซึ่งเหลืออีกเพียงก้าวเดียวก็จะทะลวงไปยังขอบเขตราชัน

“ถวายบังคมองค์หญิง!” หวงอู่รีบโค้งคำนับ

หวงซีโบกมือเก็บเปลือกไข่ของนาง จากนั้นนางชี้ไปที่หลิงไช่หยุน และพูดว่า “หวงอู่ เจ้าพานางกลับไปก่อนและดูแลแขกทั้งหลายให้ดีที่สุด! เดี๋ยวพวกข้าจะตามกลับไปในภายหลัง”

หลังจากพูดจบ หวงซีก็พาหลิงตู้ฉิงบินจากไปทันที

หลิงไช่หยุนทำหน้ามุ่ย และบ่นอุบอิบว่า “ดูเหมือนว่าข้าจะได้แม่ใหม่เพิ่มมาอีกคนแล้ว!”

หวงอู่ยิ้มและพูดกับหลิงไช่หยุนว่า “พวกเรากลับกันก่อนเถอะ!”

ไม่จำเป็นต้องเดาเลยว่าหวงซี และหลิงตู้ฉิงจะทำอะไรกันต่อหลังจากนี้

หวงอู่ คือผู้ที่มีชีวิตรอดมาตั้งแต่ยุคของหลิงตู้ฉิง ดังนั้นนางจึงรู้ว่าความสัมพันธ์ของหวงซีและหลิงตู้ฉิงเป็นอย่างไร ในตอนนี้เมื่ออีกคนได้กลับมาแล้วและอีกคนเพิ่งกำเนิดใหม่ ดังนั้นพวกเขาคงมีอะไรมากมายให้ต้องรำลึกกัน

ในเวลาเพียงชั่วครู่เดียว หวงอู่ก็ได้พาหลิงไช่หยุนกลับมาถึงเมืองลอยฟ้าที่หน้าตำนักฟีนิกซ์

บรรดาผู้คนที่กำลังรออยู่เมื่อเห็นว่า หวงอู่กลับมาแล้ว พวกเขาต่างก็รีบพุ่งเข้ามาถามด้วยความสงสัยทันที “องค์หญิงเป็นยังไงบ้าง? แล้วพวกเขาไปไหนกันแล้ว?”

หวงอู่หัวเราะด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข “องค์หญิง กำเนิดใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบแถมระดับการบ่มเพาะขององค์หญิงฟื้นฟูมาอยู่ที่ระดับสวรรค์สมบูรณ์ ซึ่งทำให้นางไม่ต้องเริ่มบ่มเพาะใหม่ตั้งแต่ศูนย์ และที่สำคัญมันดูเหมือนว่าพลังใหม่ขององค์หญิงจะสามารถกำจัดเหล่าวิญญาณปีศาจและภูตผีที่อยู่ในแดนกระดูกขาวได้อย่างง่ายดายอีกด้วย ดังนั้นต่อไปนี้ภูเขาฟีนิกซ์ของเราจะต้องรุ่งโรจน์มากกว่าเดิมแน่นอน!”

ทุกคนที่ได้ยินเช่นนี้ต่างก็พากันตื่นเต้นไม่หยุด สุดยอดอัจฉริยะของพวกเขาเมื่อหลายหมื่นปีได้ฟื้นกลับคืนมา แถมพวกเขายังมีราชันมรณะในอดีตเป็นผู้หนุนหลังอีก ยุคนี้จะมีใครที่สามารถหยุดยั้งความรุ่งโรจน์ของพวกเขาได้?

ในเวลาเดียวกัน บรรดาผู้คนที่หลิงตู้ฉิงพามาต่างก็มองไปที่หลิงไช่หยุนด้วยสีหน้าสงสัย จากนั้น หลิงฟ่างหัวก็เป็นคนถามขึ้นว่า “ท่านพ่อไปไหนแล้ว?”

หลิงไช่หยุนตอบกลับด้วยสีหน้าบูดเบี้ยว “เขาจะไปไหนได้นอกซะจากไปเที่ยวเล่นกับแม่คนใหม่ล่าสุดของพวกเราไง!”

จ้าวเหมิงลู่และหลิวเฟ่ยเฟ่ยต่างเผยรอยยิ้มขมขื่น แต่พวกนางก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา พวกนางเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับภูเขาฟีนิกซ์ ซึ่งพวกนางเองก็ไม่คิดเช่นกันว่าจริง ๆ แล้วสามีของพวกนางเคยเป็นนายเหนือหัวของภูเขาฟีนิกซ์มาก่อน

ส่วนความสัมพันธ์ของหลิงตู้ฉิงและหวงซีนั้น ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้คุยอะไรกันมากมายนัก แต่จากท่าทางการแสดงออกของทั้งคู่มันก็ทำให้พวกนางเดาไม่ยากว่าพวกเขาผูกพันธ์กันลึกซึ้งขนาดไหน

หลังจากรอคอยเวลามากว่า 70,000 ปีจนเนื้อหนังของตัวเองสูญสลายกลายเป็นดินไปหมดแล้ว พอมาถึงตอนนี้ที่สามารถกำเนิดใหม่ขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์ พวกเขาคงไม่แสดงความรู้สึกให้กันและกันเห็นแค่เพียงการกระซิบคุยกันอย่างเดียวหรอก

ในขณะที่ทุกคนกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องของหลิงตู้ฉิง หวงอู่ก็เดินเข้ามาหาและพูดกับจ้าวเหมิงลู่และคนอื่น ๆ ว่า “องค์หญิงได้สั่งข้าเอาไว้ให้ดูแลพวกท่านเป็นอย่างดีที่สุด ดังนั้นข้าขอเชิญทุกท่านเข้าไปพักผ่อนในตำหนักของพวกเราก่อนเพื่อรอเวลาที่องค์เหนือหัวและองค์หญิงกลับมา”

จ้าวเหมิงลู่พยักหน้า “ถ้างั้นพวกเราก็ขอรบกวนท่านด้วยก็แล้วกัน”

หลังจากนั้นทุกคนก็เดินตามหวงอู่ และเหล่าผู้อาวุโสของภูเขาฟีนิกซ์ เข้าไปในตำหนักฟีนิกซ์ด้วยกัน

แต่เมื่อพวกเขาได้ก้าวเข้ามาในตำหนัก หวงเซียะก็ปรากฏกายขึ้นขวางพวกเขาเอาไว้และถามขึ้นทันที “บรรพบุรุษ เกิดอะไรขึ้นกันที่ข้างนอกนั่น?”

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่มันรุนแรงมาก จนเหล่าผู้อาวุโสประกาศกับทุกคนที่มีระดับการบ่มเพาะต่ำกว่าขอบเขตราชันให้หลบอยู่แต่ในตำหนัก ดังนั้นทั้งหวงเซียะและคนอื่น ๆ จึงรู้แค่เพียงว่ามีเรื่องร้ายเกิดขึ้นที่ด้านนอก แต่ไม่รู้ว่าเรื่องมันเกิดจากอะไร

ในตอนนี้เมื่อหวงเซียะได้เห็นเหล่าบรรพบุรุษเดินเข้ามา นางจึงรีบถามขึ้นทันที

“ตอนนี้พวกเรากำลังมีแขกไว้ค่อยคุยกันทีหลัง” เฟิงปิงพูดขึ้น

“แขกงั้นเหรอ?” หวงเซียะมองไปที่กลุ่มของจ้าวเหมิงลู่ จากนั้นนางเลิกคิ้วขึ้นด้วยสีหน้าประหลาดใจ เมื่อนางเห็นหลิงเทียนหยุนและหลิงฟ่างหัว “เอ๊? เป็นพวกเจ้าเองเหรอ? ว่าแต่พ่อของพวกเจ้าล่ะ? เขาไม่ได้มาด้วยงั้นเหรอ?”

เมื่อเห็นหลิงฟ่างหัวมาปรากฏกายที่นี่ หวงเซียะก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ทำไมกลุ่มคนที่อยู่ในทะเลชางหมางถึงปรากฏตัวขึ้นที่นี่ได้?