บทที่ 1849 เผ่ามนุษย์มังกรแห่งยุคใหม่

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1849 เผ่ามนุษย์มังกรแห่งยุคใหม่

 

มิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ค่ายกลวิญญาณของบรรพชนผมยาวปลดปล่อยเปลวเพลิงสีขาวขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

ภายในเปลวเพลิงสีขาว ร่างแยกมนุษย์มังกรของฟางหยวนนั่งไขว่ขาปิดเปลือกตาอยู่ที่นั้นราวกับเขากําลังนอนหลับ

 

อย่างไรก็ตามร่างกายของเขากําลังหลอมละลายราวกับเหล็กที่ถูกหลอม

 

นี่เป็นสิ่งที่เจ็บปวดโดยธรรมชาติ แต่ดวงวิญญาณของร่างแยกมนุษย์มังกรออกจากร่างกายของเขาล่วงหน้าแล้ว ตอนนี้ดวงวิญญาณของร่างแยกมนุษย์มังกรยืนอยู่ด้านข้างจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

 

ร่างหลักของฟางหยวนควบคุมค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมด้วยตนเองโดยมีจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา ผมที่หก และคนอื่นๆ ให้ความช่วยเหลือ

 

ฟางหยวนระดมผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมทั้งหมดมาที่นี่ เขาทุ่มสุดตัวกับเรื่องนี้

 

เปลวเพลิงสีขาวค่อยๆหลอมละลายร่างกายของร่างแยกมนุษย์มังกรอย่างช้าๆ

 

“ต่อไปข้าจะฝากสิ่งนี้ไว้กับเจ้า” ฟางหยวนกล่าวกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาพยักหน้า

 

ฟางหยวนจะไม่เผาทําลายร่างแยกมนุษย์มังกรจนหมด นั้นจะเป็นการฆ่าเขา

 

สิ่งที่ฟางหยวนต้องการคือหลอมละลายร่างกายของร่างแยกมนุษย์มังกรจนถึงขีดจํากัดและใกล้จึงจุดที่มันจะถูกทําลายล้างเท่านั้น

 

เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ ผู้อมตะต้องควบคุมเปลวเพลิงได้อย่างแม่นยำ

 

ฟางหยวนมอบงานนี้ให้กับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาที่อยู่ในร่างจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาผมขาว ร่างนี้มีความเชี่ยวชาญด้านการหลอมรวมมากกว่า กระทั่งฟางหยวนก็ยังไม่สามารถแข่งขัน นี่เป็นขั้นตอนที่ละเอียดอ่อน ฟางหยวนจึงมอบหมายภายกิจนี้ให้กับจิตวิญญาณแผ่นดินหางหยา

 

จากนั้นฟางหยวนก็ใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเพื่อควบรวมสายฟ้าสีดํา

 

สายฟ้าสีดาพุ่งเข้าไปในเปลวเพลิงสีขาวแต่มันไม่ได้รับผลกระทบจากเปลวเพลิง

 

ภายใต้การควบคุมของฟางหยวน สายฟ้าสีดําแทรกซึมเขาสู่ร่างกายของร่างแยกมนุษย์มังกร

 

สายฟ้าสีดําค่อยๆดึงกระดูกออกมาจากร่างกายทีละชิ้น

 

ในเวลานี้ผมที่หกรีบส่งคลื่นฟองอากาศเข้าไปปกคลุมกระดูกท่อนแขนที่ถูกดึงออกมาเป็นชิ้นแรกเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้มันถูกหลอมละลาย

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนคนอื่นๆรออยู่แล้ว พวกเขาเริ่มขั้นตอนแรกที่เตรียมไว้โดยการส่งกระดูกแขนเข้าสู่กลุ่มก่อนสายฟ้าเพื่อปรับแต่งมัน

 

ขั้นตอนที่สอง ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนอีกคนเข้าแทนที่และใช้กระแสน้ําสีเขียวช่าระล้างกระดูกแขนชิ้นนั้น

 

ขั้นตอนต่อไป ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนคนอื่นๆเริ่มอบล้าง และทําความสะอาดกระดูกแขนชิ้นเดิม

 

นี่คือขั้นตอนการชําระล้างกระดูกแขนเพียงชิ้นเดียว แต่ร่างแยกมนุษย์มังกรยังมีกระดูกอีกสามกว่าสามพันชิ้นอยู่ในร่างกายของเขา พวกมันต้องได้รับการชําระล้างในลักษณะเดียวกัน

 

และนี้ยังเป็นเพียงกระดูก

 

ไม่ว่าจะเป็นเลือด เนื้อ สมอง อวัยวะภายใน เล็บ และเส้นผม พวกมันต้องถูกชาระล้างทั้งหมด

 

มันเป็นงานที่น่าเบื่อหน่ายและยาวนาน นี่คือเหตุผลที่ฟางหยวนต้องระดมผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมทั้งหมดมาเพื่องานนี้

 

โชคดีที่แม้มันจะน่าเบื่อแต่มันไม่ยาก ปัญหาใหญ่ที่สุดคือการรักษาสภาพของร่างแยกมนุษย์มังกรเอาไว้ แต่เรื่องนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา ดังนั้นฟางหยวนจึงรู้สึกมั่นใจมาก

 

หลังจากสามวันสามคืนในมิติช่องว่างจักรพรรดิ ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของบรรพชนผมยาวก็หยุดทํางาน

 

ร่างกายของร่างแยกมนุษย์มังกรถูกชาระล้างและหลอมรวมขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ตอนนี้มันมีภูมิคุ้มกันท่าไม้ตายอมตะทําลายล้างมนุษย์มังกรเรียบร้อยแล้ว

 

ย้อนกลับไปราชันมังกรสร้างวิธียืดอายุเปลี่ยนเป็นมนุษย์มังกรโดยใช้รากฐานบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง เส้นทางแห่งพลังปราณ และเส้นทางมนุษย์ ฟางหยวนไม่มีความเชี่ยวชาญในสามด้านนี้

 

แต่รากฐานบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของฟางหยวนเป็นสิ่งที่ราชันมังกรไม่สามารถแข่งขันเช่นกัน

 

หากมีเวลาเพียงพอ ฟางหยวนจะสามารถทําลายท่าไม้ตายอมตะทําลายล้างมนุษย์มังกร หลังจากทั้งหมดไม่มีท่าไม้ตายใดที่ไม่สามารถทําลาย

 

หลังจากได้รับวังมังกร ฟางหยวนได้รับงานวิจัยทั้งหมดของเผ่ามนุษย์มังกร นั่นช่วยเขาได้มาก

 

ในความเป็นจริงอู่ส่วยเข้าใกล้ความสําเร็จมากแล้ว แม้เขาจะไม่สามารถทําลายท่าไม้ตายอมตะทําลายล้างมนุษย์มังกรของราชันมังกร แต่เขามีแนวคิดมากมาย ก่อนที่ราชันมังกรจะใช้ท่าไม้ตายอมตะทําลายล้างมนุษย์มังกร ผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรร่วมมือกับอู่ส่วยวางมิดช่องว่างของพวกเขาไว้ในภาคกลางเพื่อใช้เป็นสถานที่ทดลอง พวกเขาทดลองวิธีการทั้งหมดของพวกเขาในสถานที่เหล่านั้น

 

แดนศักดิ์สิทธิ์ที่ฟางเพิ่งพบเป็นหนึ่งในสถานที่ดังกล่าว

 

ฟางหยวนไม่สนใจมัน เขาใช้ข้อมูลที่มีอนุมานว่าแผนการใดมีโอกาสประสบความสําเร็จมากที่สุด

 

ฟางหยวนได้รับข้อมูลที่อยู่ในความทรงจําของฟางเจ๋งมาจากเฉินกงเจิ้ง เฉินกงเจิ้งไม่รู้คุณค่าของข้อมูลดังกล่าว แต่มันทําให้ฟางหยวนพบวิธีแก้ปัญหาของเขา

 

ฟางหยวนประสบความสําเร็จในการดัดแปลงร่างแยกมนุษย์มังกร ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปร่างแยกมนุษย์มังกร ของเขาจะไม่ได้รับผลกระทบจากท่าไม้ตายอมตะทําลายล้างมนุษย์มังกร

 

อย่างไรก็ตามงานของเขายังไม่เสร็จ

 

ดวงวิญญาณของร่างแยกมนุษย์มังกรปรับตัวให้เข้ากับร่างกายมนุษย์มังกรดั่งเดิมไปแล้ว ดังนั้นมันจึงยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของท่าไม้ตายอมตะทําลายล่างมนุษย์มังกร

 

ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงต้องดัดแปลงดวงวิญญาณของร่างแยกมนุษย์มังกรต่อไป

 

เรื่องนี้ไม่จําเป็นต้องใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมใดๆ ฟางหยวนมีวิธีบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณมากมาย

 

การจัดการกับดวงวิญญาณง่ายกว่าร่างกายมาก

 

ในเวลาเดียวกันรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของร่างแยกมนุษย์มังกรก็ต้องได้รับการฟื้นฟู ดังนั้นฟางหยวนจึงใช้วิญญาณความเด็ดเดี่ยวจํานวนนับไม่ถ้วนในขั้นตอนนี้

 

รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณเป็นพื้นฐานของเส้นทางแห่งทาส

 

ปัจจุบันการกดขี่สี่แม่ทัพมังกรของวังมังกรมาถึงขีดจํากัดแล้ว ในการกดขี่ทาส เจ้าของวังมังกรต้องรักษาสถานะนี้เอาไว้ด้วยรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของเขา

 

เมื่อตระหนักถึงเรื่องนี้ ฟางหยวนก็เข้าใจเหตุผลที่วังมังกรยอมรับไปหนึ่งเป็นเจ้านายในชีวิตก่อนหน้า

 

‘ในเวลานั้นมันต้องเป็นเหตุฉุกเฉิน วังมังกรต้องการรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของไปหนิงปิงเพื่อแบ่งเบาภาระและกดขี่มังกรปีศาจจางเฉิง’

 

‘จิตวิญญาณมังกรสามารถควบคุมวังมังกร มันคล้ายกับจิตวิญญาณสวรรค์และจิตวิญญาณแผ่นดิน’

 

‘แน่นอนว่าเพื่อเป็นเจ้านายคนใหม่ของมัน เราจําเป็นต้องมีมนุษย์มังกรและความทะเยอทะยานที่จะพัฒนาเผ่ามนุษย์มังกร’

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฟางหยวนก็เผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า

 

การพัฒนาเผ่ามนุษย์มังกรไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ฟางหยวนเริ่มเลี้ยงดูเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์หลายเผ่าพันธุ์ในมิติช่องว่างจักรพรรดิมาสักพักแล้ว ด้านเหนึ่งเขาต้องการเรียนรู้เส้นทางมนุษย์ อีกด้านเขาต้องการพัฒนามิติ ช่องว่างจักรพรรดิ สุดท้ายเขายังต้องการมรดกที่แท้จริงของเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านั้นอีกด้วย

 

ไม่ว่าเขาจะพัฒนาเผ่ามนุษย์มังกรหรือไม่ มันก็ไม่แตกต่างกัน

 

แน่นอนว่าฟางหยวนจะสร้างเผ่ามนุษย์มังกรที่เป็นเผ่าพันธุ์ของเขาเอง มันจะไม่ใช่มนุษย์มังกรเผ่าพันธุ์ดั้งเดิม

 

ดังนั้นมันจึงกล่าวได้ว่าฟางหยวนคือบรรพบุรุษของเผ่ามนุษย์มังกรแห่งยุคใหม่

 

วังสวรรค์ใส่ใจเรื่องชาติพันธุ์ มันเป็นพื้นฐานของพวกเขา แต่ฟางหยวนไม่สนใจ

 

หากเผ่ามนุษย์มังกรจะปกครองโลก แล้วอย่างไร? ฟางหยวนไม่สนใจเรื่องนี้แม้แต่น้อย

 

เป้าหมายเดียวในชีวิตของเขามีเพียงชีวิตนิรันดร์!

 

หากการพัฒนาเผ่ามนุษย์มังกรสามารถช่วยให้เขาบรรลุเป้าหมายนี้ เขาจะทํามัน หากมนุษย์มังกรกีดขวางเส้นทางของเขาในอนาคต เขาก็จะกําจัดพวกมัน

หากการเปลี่ยนเป็นมนุษย์มังกรหมายความว่าฟางหยวนจะได้รับชีวิตนิรันดร์ เขาก็ยินดีที่จะละทิ้งร่างมนุษย์ทันที

 

ร่างแยกมนุษย์มังกรถูกเรียกว่าอู่ส่วย เขาเป็นเจ้าของวังมังกรและเป็นเจ้านายของแม่ทัพมังกรทั้งสี่

 

ร่างแยกกาลเวลายังใช้แสงแห่งปัญญาอนุมานเรื่องต่างๆด้วยแสงแห่งปัญญาอย่างไม่รู้จบสิ้น

 

ร่างแยกกายาแห่งความฝันยังรออยู่ เดิมทีฟางหยวนต้องการใช้วังมังกรช่วยร่างแยกกายแห่งความฝันก้าวข้ามภัยพิบัติ แต่หลังจากได้รับมัน เขาตระหนักว่าวังมังกรไม่มีท่าไม้ตายสายอมตะป้องกันบนเส้นทางแห่งความฝัน

 

นั่นทําให้แผนการของฟางหยวนล้มเหลว

 

หากเขาเผชิญหน้ากับภัยพิบัติบนเส้นทางแห่งความฝัน เขาจะป้องกันอย่างไร? กระทั่งเกราะหวนคืนก็ยังได้ประโยชน์ต่อหน้ามัน

 

วิญญาณอมตะป้ายค่าสั่งแห่งความฝันสามารถใช้เป็นแกนกลางของท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน แต่ตอนนี้ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งความฝันของฟางหยวนยังต่ําเกินไปมันยังไม่บรรลุแม้แต่ระดับผู้เชียวชาญ!

 

นี่เป็นเรื่องที่ยากลําบาก

 

เขาต้องใช้เวลาและความพยายามอีกมาก ฟางหยวนคิดเกี่ยวกับมันและตัดสินใจเลื่อนสิ่งนี้ออกไป

 

เขาจะไม่ยอมให้เจตจํานงสวรรค์มีโอกาสโจมตีเขา