ภาค 7 ความผันผวนในใต้หล้าเป็นยุคของข้า บทที่ 645 ทำตรงกันข้ามกับหลักการทั่วไป

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ถึงแม้ว่าผู้วิเศษเซิงกับผู้สืบทอดของเขาจะได้รับเนื้อหาที่แท้จริงของคัมภีร์นภากาลเวลามาไม่กี่ส่วน แต่ว่ากระบี่กาลเคลื่อนคล้อยของพวกเขา ย่อมมาจากคัมภีร์นภากาลเวลาไม่ผิดแน่

ในตอนที่ยังอยู่บนโลกลอยน้ำ หลังจากสังเกตเห็นวรยุทธ์ที่มารดาของตนถ่ายทอดให้ซูอวิ๋นแห่งสำนักกระเรียนหิมะ ว่าเป็นส่วนหนึ่งของคัมภีร์นภารังสรรค์ชีวิต เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้ว่าที่โลกซ้อนโลกอาจจะมีวิชาอื่นๆ ของสำนักหยกพิสุทธิ์อีก

แต่คิดไม่ถึงเลยว่า ตนเพิ่งมาถึงโลกซ้อนโลกได้ไม่นาน ก็เจอคนเช่นนี้เข้าแล้ว

อีกฝ่ายมีส่วนเกี่ยวข้องกับเสวี่ยชูฉิงหรือไม่?

‘คัมภีร์นภาต้นกำเนิดสิบม้วน ในชั้นหนังสือวังเทพมีเก็บไว้สี่ม้วน ในจำนวนนี้กลับไม่มีคัมภีร์นภากาลเวลา คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้หลังจากวิกฤตการณ์ กลับทำให้ข้าได้เจอผู้สืบทอดของคัมภีร์นภากาลเวลา’

เยี่ยนจ้าวเกอครุ่นคิดในใจ ‘ในอดีตเทพไท่อี้ ศิษย์ของบรรพเทวกษัตริย์แห่งสำนักหยกพิสุทธิ์ เชี่ยวชาญคำภีร์นภากาลเวลาที่สุด’

‘เพียงแต่ไม่รู้ว่า สายของผู้วิเศษเซิง เป็นการถ่ายทอดจากเทพไท่อี้หรือบุคคลในตำนานคนอื่นที่รอดพ้นจากวิกฤตการณ์ แล้วสืบทอดมาถึงปัจจุบัน หรือเป็นคนที่อยู่ในยุคหลังวิกฤตการณ์ได้วิชาลับมาเพราะโชควาสนา?’

ชายหนุ่มแม้จะไม่ได้เข้าใจคัมภีร์นภากาลเวลา แต่ค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายที่เขาครอบครอง เป็นการสืบทอดวิชาสายตรงของเทพไท่อี้

ในตอนนี้เมื่อเห็นวิชาจากคัมภีร์นภากาลเวลา เขาก็อดตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้

แน่นอนว่าสิ่งที่เยี่ยนจ้าวเกอสนใจมากที่สุดก็คือ การปรากฏตัวอีกครั้งของผู้สืบอดของผู้วิเศษเซิง ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการมาโลกซ้อนโลกในครั้งนี้ของตนอย่างมหาศาล

เขากับราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องก็ไม่ได้ปรองดองกัน นอกจากจะฆ่าแม่ทัพที่เฝ้าระวังจุดยุทธศาสตร์ของอีกฝ่าย ยังคบหากับสำนักความมืดใกล้ชิดเกินไป เป็นโทษติดต่อกับโจรกบฏชัดเจน

ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องเปิดการต่อสู้กับขุมกำลังต่อต้านต้าเสวียนโดยมีหอสักการะหลักสำนักความมืดเป็นศูนย์กลาง ทั้งสองฝ่ายส่งผลกระทบต่อใต้หล้า การต่อสู้ยิ่งมายิ่งรุนแรง

มาถึงตอนสุดท้ายก็ส่งผลกระทบต่อทะเลหวงเจียเกือบครึ่งส่วน

ไม่ได้มีแค่พวกยอดฝีมือเช่นพวกเสวียนมู่อ๋อง หลัวจื้อเทา และโจวฮ่าวเซิงที่อยู่ในระดับสุดยอดจะต่อสู้เข่นฆ่ากันอยู่เท่านั้น

ยอดฝีมือในระดับรองลงมาของทั้งสองฝ่าย ก็กำลังสู้กันอยู่เช่นกัน

ทางด้านต่อต้านต้าเสวียน หลักๆ คือจอมยุทธ์สำนักความมืด ไม่เพียงแต่หอสักการะย่อยเกาะเซิ่งเหอที่พวกเยี่ยนจ้าวอยู่ก่อนหน้านี้เท่านั้น หอสักการะย่อยแต่ละที่ของสำนักความมืดในตอนนี้ต่างถูกราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องโจมตี เพลิงสงครามลุกลามไปทั่ว

รอบๆ หอสักการะหลักสำนักความมืด จอมยุทธ์ที่มีพลังฝึกปรืออ่อนแอค่อยๆ หลบฉากไปนอกวงล้อม เพื่อไม่ให้โดนลูกหลงจากสถานการณ์การต่อสู้ของพวกเสวียนมู่อ๋องและโจวฮ่าวเฉิง

ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องครั้งนี้บุกมาด้วยความดุร้าย สำนักความมืดตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ คนในสำนักขณะหลบหนีถูกยอดฝีมือแห่งราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องไล่ล่าอย่างต่อเนื่อง

เยี่ยนจ้าวเกอแม้จะสั่งให้วังฝูงมังกรเข้าไปในท้องทะเล แต่ว่าในทะเลก็ไม่ได้สงบ ยังได้รับผลกระทบจากการต่อสู้ของยอดฝีมือสองฝ่ายอยู่เนืองๆ

หลังจากรับการชำระล้างจากพลังแห่งอาทิตย์ย้อนจันทร์ย้อน พวกเยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งขับเคลื่อนลมปราณปรับร่างกาย ทางหนึ่งหลอมพลังอาทิตย์ยะเยือกจันทร์ดำเข้าไปในร่าง

ชายหนุ่มอยู่ในวังฝูงมังกร แม้จะเร้นกายออกมาด้านนอกน้อยครั้ง แต่ก็ไม่ได้ปิดกั้นข่าวสาร

เขามีร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกสืบหาข่าวอยู่ด้านนอก

ถึงแม้ว่าบางทีข่าวสารอาจจะล้าหลังไปบ้าง ไม่ได้เร็วทันเวลาจริงเท่าใดนัก แต่หลังจากเวลาผ่านไป ก็ยิ่งมายิ่งได้รับข่าวสารมากขึ้น

หลายวันก่อนหน้า สงครามที่หอสักการะหลักสำนักความมืดในที่สุดก็ปิดฉากลงแล้ว

ต่อจากผู้คุมหอกระบี่ทะเลเหนือกู้หง และเจ้าสำนักแสงสว่างหลัวจื้อเทา ผู้ปกครองเกาะมนุษย์สำริดกงซุนหมิงก็มาช่วยรบด้วย

ทั้งสองฝ่ายทำสงครามที่หอสักการะหลักสำนักความมืด จนหอสักการะหลักสำนักความมืดถูกทำลาย

ยอดฝีมือซึ่งเป็นผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิงสองคนที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ดยังไม่ต้องพูดถึง กระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อน อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงที่เคยติดตามตัวผู้วิเศษเซิงสยบใต้หล้า ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

บวกกับหอกราชาลี้ลับอันเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง สุดท้ายราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องก็ได้รับชัยชนะในสงครามนี้

จอมยุทธ์สำนักความมืดที่มีโจวฮ่าวเซิงเป็นผู้นำถูกกดดันให้ละทิ้งหอสักการะหลัก แม้จะต้องถอยร่นไป ทว่าก็รักษากองทัพจำนวนมากไว้ได้

ส่วนหอสักการะย่อยสำนักความมืดที่อยู่ในแต่ละที่ เนื่องจากถูกราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องกวาดล้าง ก็พากันสูญสิ้น สำนักความมืดได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวงในสงครามครั้งนี้

ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่ขวัญกำลังใจฮึกเหิมสร้างกระแสคลื่นโต้ตอบ ครองความได้เปรียบในการโจมตีต่อ เป้าหมายต่อไปคือหอกระบี่ทะเลเหนือ

‘เป็นตัวเลือกที่ชาญฉลาด ปล่อยสำนักแสงสว่างไว้ก่อน’ เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินข่าวก็เบะปาก ‘ถึงแม้ตอนนี้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เป็นผลดี สำนักแสงสว่างก็คงไม่วู่วาม แต่อาจจะเปลี่ยนใจมากลืนกินสำนักความมืดที่พลังได้รับความเสียหายก็ได้’

ในทะเลหวงเจีย ขุมกำลังใหญ่สี่แห่งที่มีในตอนนี้เป็นขุมกำลังที่ยังคงรักษาอำนาจหลังจากราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องสร้างแผ่นดินไว้ได้ แบ่งเป็น สำนักแสงสว่าง สำนักความมืด หอกระบี่ทะเลเหนือ และเกาะมนุษย์สำริด

สำนักความมืดปัจจุบันได้รับความเสียหายใหญ่หลวง เป้าหมายต่อไปของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องไม่เลือกสำนักแสงสว่าง ก็มีแค่หอกระบี่ทะเลเหนือและเกาะมนุษย์สำริดแล้ว

สถานการณ์ของเกาะมนุษย์สำริดมีข้อยกเว้น บนเกาะมีของวิเศษ คือมนุษย์หล่อสำริดลี้ลับที่ไม่รู้ความเป็นมาสามตัว

ขอแค่ไม่ออกจากเกาะ มนุษย์หล่อสำริดสามตัวนี้ก็สามารถแสดงพลังในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด ขั้นสะพานเซียนระยะต้นได้ พร้อมประสานกับความแข็งแกร่งสมชื่อของค่ายกลคุ้มเกาะมนุษย์สำริด

ดังนั้นถึงเกาะมนุษย์สำริดจะไม่มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ช้้นสูง ทว่ากงซุนหมิง ‘มนุษย์เทวะสำริด’ ผู้ปกครองเกาะ ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเกาะแม้จะไม่อยู่ในขั้นสะพานเซียน แต่ปัจจุบันเกาะมนุษย์สำริดกลับเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์วรยุทธ์ที่ทุกคนรู้กันดีว่ามีชัยภูมิป้องกันดีที่สุดในทะเลหวงเจีย

ทว่าถ้าหากออกจากการคุ้มครองของมนุษย์สำริดสามตัวบนเกาะ พลังของเกาะมนุษย์สำริดเมื่อเทียบกับขุมกำลังอื่นแล้ว จะอ่อนแอลงเล็กน้อย

มีลักษณะป้องกันเหลือเฟือ แต่หากจะให้บุกก็ยังไม่แกร่งพอ

หากไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องจะปล่อยเกาะมนุษย์สำริดไว้จัดการในตอนท้ายสุด

ด้วยเหตุนี้ เป้าหมายในปัจจุบันของพวกเขา จึงเหลือแค่หอกระบี่ทะเลเหนือแล้ว

หลังจากจักรพรรดิเสวียนเหวินอ๋องสิ้นพระชนม์ ผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิงก็ไม่ปรากฏตัวอีก ผู้คุมหอกระบี่ทะเลเหนือกู้หง ในฐานะจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนเพียงคนเดียวของทะเลหวงเจีย มีสภาวะเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งอย่างเลือนราง จึงถือเป็นหัวมังกรในขุมกำลังต่อต้านต้าเสวียน

ปัจจุบันผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิงปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว พลังของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องเพิ่มขึ้นมาก เป้าหมายก็คือหอกระบี่ทะเลเหนือ

เยี่ยนจ้าวเกอแตะริมฝีปากครุ่นคิด ‘สำนักความมืดไม่แน่ว่าจะร่วมมือกับหอกระบี่ทะเลเหนือ ไม่รู้ว่าตอนนี้ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องยิ่งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง สำนักแสงสว่างกับเกาะมนุษย์สำริดจะหลบเลี่ยงอีกหรือไม่

‘ถ้าหากต้องการดำเนินการต่อต้านถึงที่สุด ทั้งสองฝ่ายจะต้องทำสงครามกันอีกครั้งที่หอกระบี่ทะเลเหนือหรือไม่?’

‘น่าเสียดายที่สถานการณ์ในตอนนี้ของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกไม่สะดวกกับการหาข่าว ข้าต้องออกโรงด้วยตัวเองแล้ว’

ขณะที่คิด เยี่ยนจ้าวเกอก็เก็บวังฝูงมังกร บินออกมาจากท้องทะเล หลังจากแยกแยะทิศทางสักพัก ก็มุ่งไปทางทิศเหนือ

หอสักการะหลักสำนักความมืดโผล่ออกมา พัดพลิ้วตามกระแสคลื่น ถูกคลื่นใต้สมุทรพาลอยไปยังทิศเหนือ

ปัจจุบันได้เข้าใกล้ทางเหนือของทะเลหวงเจีย อยู่ห่างจากอาณาเขตของหอกระบี่ทะเลเหนือไม่ไกลแล้ว

เป็นไปตามที่คาดไว้ก่อนหน้า คนของสำนักแสงสว่างและราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องกางแหฟ้าตาข่ายดินขึ้น แยกย้ายตามหาที่อยู่ของตัวเอง

แน่นอนว่าความตั้งใจส่วนใหญ่ของพวกเขาอยู่ที่สถานการณ์ของทะเลหวงเจียในปัจจุบัน แต่ว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ความพยายามและจำนวนยอดฝีมือที่ตามจับเยี่ยนจ้าวเกอก็มีไม่น้อยเช่นกัน

พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะทำตัวขัดสามัญสำนึก ไม่ได้หลบอยู่ในสถานที่อื่นที่อยู่ห่างไกล กลับมายังอาณาเขตของหอกระบี่ทะเลเหนือที่มีแต่ความสับสน

นี่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอเดินทางได้สะดวกโยธิน

ครั้นออกจากผิวน้ำ เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งเดินทางหนึ่งมอง รู้สึกว่าไกลออกไปคล้ายมีญาณจริงแท้ปราณจิตราของจอมยุทธ์สั่นไหวอยู่ ใบหน้าของเขาพลันปรากฏรอยยิ้ม เหยียบทะเลมุ่งหน้าไปทิศทางนั้น