บทที่ 903 ชีวิตจอมมารไม่รู้ว่าจะเป็นหรือตาย

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 903 ชีวิตจอมมารไม่รู้ว่าจะเป็นหรือตาย
จอมมารกอดไหกักวิญญาณไว้แน่น ราวกับไหกักวิญญาณเป็นสิ่งของล้ำค่าที่สุดในโลก

เขายิ้มอยู่อย่างไม่เสียใจ แม้ใบหน้าที่หล่อเหลาไร้ที่ติจะเหี่ยวย่นแล้วในเวลานี้ เขาก็ยังยิ้มแย้มอย่างเต็มใจ

“พี่สาว…..ในที่สุด….ข้าก็สามารถปกป้องวิญญาณของเจ้าไว้ได้”

เพียงประโยคสั้นๆ ก็ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็น้ำตาไหล

คนบนโลกนี้มีใครไม่รู้บ้างว่าจอมมารรักสวยรักงาม

เส้นผมขาว รอยเหี่ยวย่นบนร่างกาย สำหรับจอมมารแล้วจะเจ็บปวดขนาดไหน

แต่เขาไม่เสียใจเลย กลับเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มแห่งความฝัน

“ไปดูจอมมาร……”

เย่จิ่งหานพูดขึ้นอย่างอ่อนแรง

ซูมู่จับดูชีพจรของจอมมาร แล้วก็ส่ายหัวอย่างหมดแรง

หนึ่งคนสองคนสามคนต่างก็บาดเจ็บสาหัสขนาดนั้น

เขาเป็นเพียงหมอคนหนึ่ง ไม่ใช่เทพเทวดา จะรักษาได้อย่างไร?

เส้นเอ็นจอมมารขาดหมดแล้ว พลังชีวิตทั้งหมดถูกใช้ไปหมดแล้ว อวัยวะภายในทั้งหมดก็แตกละเอียดเช่นกัน ใครจะช่วยเขาได้?

พวกเย่จิ่งหานต่างเจ็บปวด

หากกู้ชูหน่วนยังมีชีวิตอยู่ แล้วเห็นจอมมารกลายเป็นเช่นนี้ กู้ชูหน่วนจะเจ็บปวดขนาดไหน

“คุณชายซู ไม่มีหนทางแล้วจริงๆหรือ มีวิธีอัศจรรย์อะไรไหม?” ชิงเฟิงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา

เมื่อก่อนเขาไม่ชอบจอมมาร แต่ตอนนี้…….

เขาเสียดายแทนจอมมาร

ซูมู่ยิ้มอย่างขมขื่น

“บนโลกนี้จะมีความอัศจรรย์มากมายอะไรขนาดนั้น เจ้าคิดว่าเทพแห่งความอัศจรรย์จะรักและดูแลทุกคน เหมือนอย่างที่รักและดูแลเย่จิ่งหานหรือ?”

เย่จิ่งหานอดกลั้นทนร่างกายที่บาดเจ็บสาหัส เดินมาหาจอมมาร พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงสะอึกสะอื้นว่า “เจ้ายังมีอะไรสั่งเสียไหม?”

“หา…. หาวิธีฟื้นคืนชีวิตพี่สาวให้ได้…..”

“ได้ ข้ารับปากเจ้า ต่อให้เจ้าไม่พูด ต่อให้แลกด้วยทั้งชีวิตของข้าเย่จิ่งหาน ข้าก็จะคิดหาทุกวิถีทางเพื่อฟื้นชีวิตของนางคืนมา”

“ข้าเชื่อเจ้า…..”

จอมมารยิ้มหัวเราะ

เขาแก่แล้ว ผิวหนังบนใบหน้าทั้งเหี่ยวย่นทั้งแก่ ราวกับเป็นชั้นผิวหนัง เวลายิ้มเป็นเหมือนดั่งผี กลับไม่มีใครเห็นว่ารอยยิ้มของเขาอัปลักษณ์

จอมมารยื่นไหกักวิญญาณให้กับเย่จิ่งหานอย่างอาลัยอาวรณ์

เขายื่นให้เขา เท่ากับเป็นการเอาความหวังสุดท้ายยื่นให้กับเย่จิ่งหาน

“พี่สาว….ขอโทษนะ….อาโม่…..อยู่กับเจ้าต่อไปไม่ได้อีกแล้ว…..”

มีหัวสมองปรากฏภาพตอนที่เขาเพิ่งได้เจอกับกู้ชูหน่วน รอยยิ้มบนใบหน้าจอมมารยิ่งอยู่ก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ

โดยเฉพาะประโยคที่กู้ชูหน่วนพูดว่า “ต่อไปข้าจะดูแลปกป้องเจ้า”

ใช่….

เขามีคนคอยดูแลปกป้อง

ใครก็….รังแก….รังแกเขาไม่ได้……

จอมมารค่อยๆหลับตาลง หนังตาที่หนักอึ้งลืมไม่ขึ้นอีก มีเพียงภาพที่เกี่ยวข้องกับกู้ชูหน่วน ยังคงปรากฏอยู่ในหัวสมองของเขา

สุดยอดผู้อาวุโสเดินไปหาอย่างโซเซ เขาส่ายหัวอย่างที่สุด

“ไม่ได้ เขาจะตายไม่ได้ อาหน่วนสั่งไว้ว่าให้พวกเราปกป้องเจ้าให้ดี ข้าจะให้เจ้าตายไม่ได้”

พูดเสร็จ สุดยอดผู้อาวุโสก็เปิดบัญชา เอาพลังทั้งหมดของตนเองส่งให้กับจอมมาร

“สุดยอดผู้อาวุโส…..ท่านจะเอาพลังทั้งหมดให้กับเขาไม่ได้ ให้เขาไปแล้ว ท่านจะทำอย่างไร?”

“ข้าก็แค่คนแก่คนหนึ่ง ตายไปก็ไม่เป็นไร แต่เขายังหนุ่ม เขายังมีหนทางอีกยาวไกลที่จะต้องเดิน”

“สุดยอดผู้อาวุโส……”

“ข้าไม่รู้ว่า ข้าใช้พลังทั้งหมดของตนเองแล้วจะสามารถช่วยเขาได้ไหม สามารถช่วยได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี หากช่วยไม่ได้ ข้าก็จะได้ไม่รู้สึกผิดต่ออาหน่วนแล้ว”

“พลั๊ก…..”

คนของเผ่าหยกต่างพากันคุกเข่าลงอีกครั้ง

ค่ำคืนนี้ ถึงเป็นค่ำคืนยาวนานของคนเผ่าหยก

หัวหน้าเผ่ากู้ชูหน่วนของพวกเขา เพื่อรวมตัวมุกมังกร ถอนคำสาปโลหิต ใช้เลือดตรงขั้วหัวใจตนเองจนเสียชีวิต

เพื่อรักษาวิญญาณของกู้ชูหน่วน จอมมารใช้วิชาดอกไม้ผลิบานอีกครั้งถึงสองครั้ง เส้นผมดำกลายเป็นสีขาวดั่งหิมะ ไม่รู้เป็นตายร้ายดี

เพื่อช่วยชีวิตจอมมาร สุดยอดผู้อาวุโสใช้พลังทั้งหมดของตนเอง จนเสียชีวิต

เย่จิ่งหานบาดเจ็บสาหัส ถูกพวกซูมู่พากลับไป

ก่อนไป เขาเอาไหกักวิญญาณไปด้วย จากนั้นบนโลกนี้ก็ไม่มีข่าวของเย่จิ่งหานอีกต่อไป

มีคนบอกว่าเขาตายแล้ว

มีคนบอกว่าเขากำลังรักษาตัวอยู่

มีคนบอกว่าเขาเปลี่ยนชื่อปกปิดตน แล้วออกตามหาวิธีฟื้นคืนชีพให้กับกู้ชูหน่วน

ส่วนเซียวหยู่เซวียน เขาก็จากไปอย่างโศกเศร้า พากองทัพของเขานับแสนหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปอยู่ที่ไหน