พื้นน้ำระยิบระยับรับฟ้าสีคราม เรือสำราญลำหนึ่งฝ่าทะเลไปข้างหน้า ย่ำไปบนระลอกคลื่นน้ำ มุ่งทิศทางไปสู่ประเทศต้าเหอ
บนดาดฟ้าเรือ คนวัยหนุ่มในชุดดำยืนโต้ลมอยู่ สูดดมกลิ่นอายเค็มคาวที่ลมทะเลพัดโชยมา ทอดสายตามองไกลออกไป
สาวสวยวัยเต็มนางหนึ่ง ท่าทางอ้อนแอ้น พาร่างอวบแน่น เดินเข้ามาช้า ๆ ใช้สองมือเกาะกุมราวกันตกของเรือ แอ่นตัวยืดไปข้างหลัง ปล่อยให้ส่วนที่สวยงามน่าชมนั้นเผยออกกลางอากาศ
ไม่พูดไม่ได้ว่า นี่เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์มากนางหนึ่ง ให้ผู้ชายมาได้เห็น ยังไงก็อดไม่ได้ที่จะมโนคิดเอียงแถไป
หญิงนางนั้นหันมองไปที่เฉินโม่ สายตาส่อให้เห็นแววความสงสัย “ทำไมนายไม่ไปเล่นกับเขาพวกนั้น?”
เรือสำราญลำนี้เป็นเรือสำราญระดับสุดหรู บนเรือนั้นมีอุปกรณ์การบันเทิงครบครัน อีกทั้งเมื่อออกพ้นแนวเขตทะเลของหัวเซี่ยไปแล้ว ก็จะมีรายการบันเทิงชนิดที่มีไม่ได้เลยภายในประเทศ จัดให้กับกลุ่มเศรษฐีในเรือสำราญเป็นเฉพาะเท่านั้น
เฉินโม่มองไปที่หล่อนแวบหนึ่ง ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยรู้จักกับเขามาก่อนเลย แต่ในขณะที่ทั้งสองได้เจอหน้ากัน ผู้หญิงคนนี้ก็จ้องติดที่เฉินโม่ไม่ยอมละห่าง
“เธอก็ไม่ได้ไปเล่นกับพวกเขาเหมือนกันไม่ใช่หรือ?” เฉินโม่ถามไปเรียบ ๆ
“หุ ๆ ฉันไม่เหมือนกับนาย ฉันปีนี้สามสิบเข้าไปแล้ว นายยังอยู่ในวัยหนุ่ม!” สายตาที่หญิงนางนั้นมองหยางเฉิน ทอส่องแววความไม่น่าเชื่อ
“รสนิยมของคนวัยหนุ่มน้อยก็ไม่ได้จะเหมือนกันทั้งหมด ฉันชอบความเงียบสงบ” เฉินโม่พูดอย่างเรียบเฉยจบ เก็บสายตากลับ มองทอดยาวออกไปไกลสุดขอบทะเลต่อ
แววตาของหญิงนางนั้น แสดงออกให้เห็นถึงความชื่นชอบมากขึ้น
ในขณะนั้น ดาดฟ้าเรือในตอนหลัง ชายหนุ่มคนหนึ่งมองผู้หญิงที่ยืนอยู่กับเฉินโม่ ในดวงตาส่อความละโมบออกมา
เด็กลูกน้องสมองไวที่ยืนอยู่ข้างหลัง เข้าใจถึงความรู้สึกของเจ้านายได้ในทันที เดินขึ้นหน้ามา พูดเบา ๆ ว่า “คุณชาย คิดไม่ถึงว่ามาเรือเที่ยวนี้มีสาวเซ็กซี่ระดับสุดยอดแบบนี้มาด้วย!”
ดวงตาของชายหนุ่มคนนั้นทอประกายร้อนแรงออกมาแวบ บอกกับลูกน้องคนนั้นไปว่า “ไปสืบถามดูที ไอ้หมอที่อยู่ข้าง ๆ หล่อนนั้นเป็นใครมายังไงกัน?”
“ครับผม!”
บนท้องฟ้า จู่ ๆ เมฆดำคลุมครึ้ม สภาพอากาศในท้องทะเล เหมือนใบหน้าทารก นึกจะเปลี่ยนก็เปลี่ยน
หญิงคนนั้นมองหน้าเฉินโม่ พูดเสียงหวานจ๋อย “ฝนจะตกแล้ว กลับกันเถอะ!”
“อือฮึ!” เฉินโม่ผงกหัวนิด หมุนตัวเดินกลับไปในห้องโดยสารเรือ
ภายในห้องโดยสารเรือ เสียงเพลงพลิ้วกล่อมเบา ๆ ชายหญิงในชุดแต่งตัวสีสดใส คุยกันเสียงซุบซิบ บางคู่ก็เริ่มเล่นหูเล่นตากันและกัน
มีบางคู่ ก็ได้พาจูงมือกันออกไป มุ่งสู่ห้องส่วนตัวของตัวเอง
ผู้หญิงคนนั้นคงเดินตามอยู่หลังเฉินโม่ พูดเบา ๆ ว่า “ฉันจะเลี้ยงเครื่องดื่มนายสักแก้ว พอจะให้เกียรติได้ไหม?
เฉินโม่หน้าก็ยังไม่หันกลับ พูดเสียงเรียบเฉย “ฉันชอบอยู่เงียบ ๆ”
“หุ ๆ เป็นครั้งแรกที่ฉันออกปากเชิญชวนเองแล้วถูกปฏิเสธ” หญิงคนนั้นหัวเราะเบา ๆ ไม่มีอาการแสดงว่าโกรธ
เฉินโม่ไม่มีทีท่าว่าจะสืบสานสัมพันธ์กับหล่อน ตั้งท่ากลับไปห้องตัวเอง
“ทุกท่านขอได้โปรดเงียบสักแป๊ปหนึ่ง!คุณชายใหญ่เรามีเรื่องจะพูดหน่อย!” เด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินออกไปกลางห้องโถง พูดด้วยเสียงอันดัง
ห้องโถงนั้นถึงจะกว้างใหญ่มาก แต่ก็ไม่มีใครพูดส่งเสียงดัง ผู้คนที่มากันในเรือนั้นไม่เศรษฐีก็คนสูงศักดิ์ ทุกคนจึงระมัดระวังในเรื่องการวางตัว
ฉะนั้น พอเด็กหนุ่มคนนี้ส่งเสียงดังออกมา ก็ถูกจ้องมองด้วยความสนใจจากทุกคนในทันที
แม้แต่เฉินโม่เอง ก็ชะงักนิดและหยุดยืน มองไปที่เด็กหนุ่มคนนั้น
คนทั้งหมดในโถงนั้น สีหน้าท่าทีต่างกันไป บางคนไม่ชอบ บ้างก็อยากรู้ และบ้างก็วางตัวรอดูเหตุการณ์
ไม่รู้จะเป็นคุณชายอะไรใครตระกูลไหน คิดอยากออกหน้าอวดตัวในงานนี้
ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา แววตาดูค่อนข้างโหดเหี้ยมคนหนึ่ง เดินนำลูกน้องสองคน ค่อย ๆ เดินเข้ามากลางห้องโถง
“เชิญคุณชาย!” เด็กหนุ่มที่ตะโกนพูดเมื่อกี้นี้ ก้มหัวโค้งตัวคำนับและขานเรียกไปทันที หลังจากนั้นก็เลี่ยงถอยไปอยู่ข้างหลังชายหนุ่มคนนั้นอย่างสงบเสงี่ยม