ตอนที่ 1207

Alchemy Emperor of the Divine Dao

หลิงฮันวางมือลงและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พูดด้วยความสัตย์จริง ข้าส่งมอบหยดเซียนหยวนให้กับร้านค้าตระกูลโม่เพื่อนำประมูลไปแล้ว หากพวกท่านไม่เชื่อก็สามารถไปดูเพื่อพิสูจน์ได้ จะไปพวกท่านน่าจะมีคนของตัวเองอยู่ในงานประมูลและน่าจะกลับมารายงานในอีกไม่ช้า”

“และข้าอารมณ์เสียมากที่มักจะมีคนพูดจาใส่ร้ายป้ายสีข้า ขณะที่ทำให้ตัวเองดูเป็นผู้เสียหาย”

ใบหน้าของเฉินคั่วและหม่าไกกลายเป็นมืดมน เจ้าเด็กนี่คิดว่าพวกเขาพาตัวมาเป็นแขกของที่นี่อย่างนั้นรึ? และยังมีท่าทีที่สงบเกินไป อย่างไรก็ตาม ถ้าทุกอย่างที่เขาพูดเป็นความจริง ทุกอย่างก็จะกลับตาลปัตร!

พวกเขาหันไปมองจูเทียนโฉวและหยีสือ ใบหน้าของทั้งสองคนปกคลุมไปด้วยเหงื่อ ถ้านายน้อยไม่ได้รับหยดเซียนหยวนมาล่ะก็ พวกเขาจะต้องแบกรับความผิดชอบอย่างหนัก

เมื่อนึกถึงคำพูดของก่าวฮวงแล้ว สีหน้าของทั้งคู่กลายเป็นซีดขาวราวกับคนป่วย

“ฮันหลิน การกระทำของเจ้านั้นกล้าหาญมาก!” เฉินคั่วกล่าวด้วยน้ำเสียงเดือดดาล “ใครเป็นเจ้าของหยดเซียนหยวนทั้งสี่หยดยังเป็นที่ถกเถียง แต่เจ้ากลับนำมันไปประมูล เจ้ายังเห็นนิกายอยู่ในสายตาเจ้าอีกหรือไม่?”

หลิงฮันพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “พวกท่านอย่าพูดไร้สาระแบบนั้น หยดเซียนหยวนเป็นของข้าแต่แรก มิหน่ำซ้ำ ถ้าข้าแย่งชิงมันมาจากพวกเขาจริง ข้าสามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียวหรือไม่?”

“การใส่ร้ายป้ายสีที่ไม่มีหลักฐานจะไปมีน้ำหนักอะไร? หรือว่าพวกมันจะไปเข้าฝันพวกท่าน?”

อึก!

ศิษย์หลายคนที่มาดูการสอบสวนระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันที นี่เป็นการพิจารณาคดีสาธารณะ ดังนั้นพวกเขาจึงมีสิทธิ์เข้ามาดูการตัดสิน

ใบหน้าของเฉินคั่วเป็นเหมือนน้ำ

เขาไม่คิดเลยว่าจะมีวันที่เขาถูกจอมยุทธระดับภูผาวารีตรอกหน้าหลายครั้ง

จะมีจอมยุทธระดับภูผาวารีคนใดที่กล้าพูดจาต่อล้อต่อเถียงกับจอมยุทธระดับสุริยันจันทรา?

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่สามารถกระโจนเข้าไปทำร้ายหลิงฮันได้

อย่างแรก เขายังไม่ทราบแน่ชัดว่าหยดเซียนหยวนถูกนำไปประมูลจริงหรือไป ถ้าหลิงฮันซ่อนมันเอาไว้และเขาเผลอฆ่าหลิงฮันเข้า…เช่นนั้น ข้าก็รอถูกก่าวฮวงฆ่าได้เลย

อย่างที่สอง หลิงฮันเป็นศิษย์เมล็ดพันธุ์ เขาไม่สามารถฆ่าหลิงฮันได้เลย

ดังนั้น เขาจึงทำได้แค่แสดงความโกรธออกมาเท่านั้น

ปัง!

ในขณะนั้นเอง ประตูของวิหารหยกขาวก็ถูกผลักอย่างกะทันหัน – พูดให้ถูกคือมันถูกเตะให้เปิด และหลังจากที่ประตูเปิดแล้วก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างห้าวหาญ

เขาเป็นชายหนุ่มที่มีรูปร่างผอมเพรียวและดูหล่อเหลามาก แต่กลิ่นอายของเขากลับน่าสะพรึงกลัว ดังนั้นหลายคนที่นี่จึงรู้สึกอึดอัด ราวกับบีบคอ

“คารวะนายน้อย!” เมื่อเฉินคั่วและคนอื่นๆเห็น พวกเขาก็รีบแสดงความเคารพทันที

ชายหนุ่มผู้นี้คือ…ก่าวฮวง!

หลิงฮันหันหน้าไปมองและจดจำรายละเอียดทั้่งหมด เพราะเขาไม่เคยพบเคยเห็นก่าวฮวงมาก่อนและเพื่อให้แน่ใจว่าในอนาคตเขาจะไม่สังหารผิดคน

ใบหน้าของก่าวฮวงดูไม่ดีนัก เขาเดินเข้ามาในห้องโถงและพูดอย่างเย็นชาว่า “ทำไมพวกเจ้าทุกคนถึงไร้ค่าขนาดนี้? แล้วเหตุใดกัน หยดเซียนหยวนถึงถูกประมูลขายไปแล้วหนึ่งหยด!”

หยดเซียนหยวนถูกประมูลขายไปแล้วหนึ่งหยด นั่นแสดงให้เห็นว่าร้านค้าตระกูลโม่ยังเหลืออีกสามหยด

เฉินคั่วและคนอื่นๆต่างปิดปากเงียบ ถึงพวกเขาจะเป็นจอมยุทธระดับสุริยันจันทราที่มีความแข็งแกร่งไม่ได้ด้อยไปกว่าอีกฝ่ายและยังมีสถานะสูง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าก่าวฮวงพวกเขาก็เหมือนเด็กน้อยไปเลย เขาเป็นบุตรชายของจอมยุทธระดับดาราขั้นสูง ใครจะกล้าสร้างความขุ่นเคืองให้กับเขา?

นอกจากนั้น พวกเขาทุกคนคือสมาชิกกองกำลังก่าว แล้วพวกเขาจะไม่เคราพนายน้อยของตัวเองได้อย่างไร?

ก่าวฮวงจ้องมองไปที่หลิงฮันและพูดว่า “เจ้า จงรีบไปที่งานประมูลเดี๋ยวนี้และหยุดมันซะ!”

“โอ้ ทำไมข้าต้องทำเช่นนั้นด้วย?” หลิงฮันถามด้วยรอยยิ้ม

“เพราะมันเป็นคำสั่งของข้า!” ก่าวฮวงกล่าวอย่างภาคภูมิใจ

“โง่เขลา!” หลิงฮันด่า

“น…นี่เจ้ากล้าด่าข้าอย่างนั้นรึ?” ก่าวฮวงกล่าวด้วยความโกรธ

หลิงฮันยักไหล่และพูดว่า “ถ้าเจ้าไม่ใช่คนโง่ แล้วทำไมเจ้าถึงร้อนตัวด้วย?”

ฮ่าฮ่าฮ่า!

ก่าวฮวงโกรธจัดราวกับถูกฟ้าผ่า เขาไม่เคยเจอคนที่กล้าด่าเขามาก่อน เขาตะคอกกลับไปว่า “ข้าอยากจะรู้นักว่าเจ้าจะทำตัวอวดดีได้นานแค่ไหน อย่าได้ลืมว่าเจ้ากำลังยืนอยู่ที่ใด! ตัดสินโทษหลิงฮันต่อได้แล้ว!”

เฉินคั่วและคนอื่นๆมองหน้ากัน พวกเขายังพิจารณาตัดสินโทษหลิงฮันไม่เสร็จ แต่ก็ถูกก่าวฮวงเข้ามาขัดจังหวะและยังถูกตำหนิอีกด้วย

แต่พวกเขาสามารถพูดบ่นได้หรือไม่?

พวกเขาไม่ใช่หลิงฮัน

“ฮันหลิน วันนี้เจ้าจะไม่สามารถหลบหนีการถูกลงโทษจากความยุติธรรมไปได้!” เฉินคั่วกลับไปที่บัลลังก์ เขาทุบโต๊ะและพูดว่า “เบิกตัวพยาน!”

หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนจำนวนหนึ่งออกมาจากห้องโถงด้านหลัง พวกเขาทุกคนต่างเป็นศิษย์หนุ่มสาวที่อยู่ระดับภูผาวารี

“พวกเจ้าเห็นฮันหลินสังหารศิษย์ร่วมสำนักใช่หรือไม่?” เฉินคั่วถาม

“ขอรับ ผู้อาวุโส!” ศิษย์หลายคนพยักหน้าพร้อมเพรียงกัน

“ฮันหลิน ทีนี้เจ้าจะพูดโต้แย้งยังไง?” เฉินคั่วหันไปมองหลิงฮัน

หลิงฮันหัวเราะและหันไปพูดกับพยานคนหนึ่งว่า “ถ้างั้นข้าขอถามเจ้า ข้าใช้ทักษะอะไรและอาวุธอะไรในการฆ่า?”

“เอ่อ-” ศิษย์ที่ถูกถามพูดไม่ออก เพราะมันไม่มีอยู่ในสคริปต์

“อะไรกัน ในเมื่อเจ้าบอกเห็นข้าสังหารศิษย์ร่วมสำนัก แต่กลับไม่รู้ว่าข้าใช้ทักษะและอาวุธอะไรอย่างนั้นรึ?” หลิงฮันหัวเราะ “หรือเจ้าจะเป็นคนตาบอด?”

หลิงฮันโบกมือและหันไปมองคนที่เหลือ เขาพูดว่า “ในเมื่อพวกเจ้าบอกว่าเห็นข้าสังหารศิษย์ร่วมนิกาย ถ้างั้นข้าใช้อาวุธอะไรในการสังหาร?”

“ไม่ต้องกังวล ข้าจะนับหนึ่งถึงสาม และให้พวกเจ้าตอบพร้อมกัน”

“หนึ่ง”

“สอง”

“พอได้แล้ว!” เฉินคั่วตะคอก “ฮันหลิน เจ้าคิดจะสร้างปัญหาอย่างนั้นรึ?”

หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจและพูดว่า “มิใช่ว่าข้ากำลังพิสูจน์ตัวเองหรอกหรือ? ยิ่งไปกว่านั้น คำถามของข้านั้นธรรมดามาก หรือท่านว่าไม่จริง? ในเมื่อพวกเขาบอกว่าเห็นข้าสังหารศิษย์ร่วมนิกาย ข้าก็แค่ถามอาวุธที่ข้าใช้สังหารเท่านั้น นี่ไม่ใช่เรื่องที่สดเหตุสมผลหรือไม่?”

“ไม่ ที่เจ้ากำลังทำคือข่มขู่พยานต่างหาก!” เฉินคั่วกล่าว

“ฮ่าฮ่าฮ่า ต่อหน้าผู้อาวุโสระดับสุริยันจันทราหลายคนอย่างพวกท่าน ข้าจะกล้าข่มขู่พยานได้อย่างไร? และข้าไม่มีพลังที่จะทำเช่นนั้น!” หลิงฮันกล่าว “ถ้างั้นข้าจะไม่พูดอะไร แค่นี้พวกท่านพอใจหรือยัง?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า คำพูดของเจ้าช่างแหลมคมยิ่งนัก!” ท่ามกลางเสียงหัวเราะ มีชายอีกคนหนึ่งปรากฏตัวอยู่ที่ประตู

ไม่ใช่ คนเดียวแต่เป็นสองคน เขาอยู่ด้านหลังชายคนนั้น

คนที่กำลังยืนอยู่ตรงประตูเป็นชายหนุ่มที่มีหน้าตาหล่อเหลาไม่ได้ด้อยไปกว่าก่าวฮวง รวมถึงความแข็งแกร่ง และมีกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวเช่นกัน

หลิงฮันไม่รู้จักอีกฝ่าย แต่เมื่อหลิงฮันเห็นคนที่อยู่ด้านหลังอีกฝ่ายคือจีหยุนจือ ทำให้เขาสามารถคาดเดาตัวตนของอีกฝ่ายได้ทันที

เขาคือนายน้อยแห่งกองกำลังฮวา ฮวาหยางเหวิน!