บทที่ 1721 ให้ทั้งครอบครัวอย่าได้อยู่เป็นสุข / บทที่ 1722 เยี่ยมเยียนเก็บหนี้

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1721 ให้ทั้งครอบครัวอย่าได้อยู่เป็นสุข

“แต่…ผู้หญิงที่โผล่มาตอนหลังคนนั้น แม่ง…สวยเป็นบ้าเลย…ตอนผมอยู่รัฐอิสระเหมือนจะเคยเห็นผู้หญิงคนนั้นบนอินเทอร์เน็ตมาก่อนนะ…เหมือนจะเป็นสุดยอดราชีนีจอเงินเมื่อไม่กี่ปีก่อนอะไรนี่แหละ…น่าเสียดายที่สวมแว่นตาดำเลยเห็นไม่ชัด” เป่ยโต่วมีสีหน้าเปี่ยมความเสียดาย

เมื่อเจอกับเป่ยโต่วที่จ้อไม่หยุด เยี่ยหวันหวั่นกับพวกชีซิงคร้านจะสนใจ

สั่งชุดครอบครัวสองสามชุด หลังทุกคนกินอิ่มแล้วเยี่ยหวันหวั่นจึงเรียกรถแท็กซี่ พาทุกคนขึ้นรถมุ่งหน้าไปที่เขตเมือง

“พี่เฟิง เศรษฐกิจของจีนใช้ได้เลยนะ รุ่งเรืองกว่ารัฐอิสระโข แน่นอนถ้าพูดถึงระดับความมั่งคั่ง ก็รับรองว่าเทียบกับพวกเราไม่ได้” เป่ยโต่วมองทิวทัศน์ด้านนอกหน้าต่าง

“เฮ้อ ซูเปอร์คาร์น้อยชะมัด ไม่เท่าไรนี่นา…เครื่องบินส่วนตัวก็น้อย แม้แต่ผมกับเหล่าชียังมีเครื่องบินส่วนตัวกันคนละลำเลยนะ” เป่ยโต่วเดาะลิ้นเอ่ย

เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก ทำไมฉันไม่มีล่ะ!

“เฮ้อ นั่นก็ร้านอาหารห้าดาวของจีนเหรอ ไม่เห็นเท่าไรเลย ร้านอาหารที่ผมกินบ่อยๆ ยังหรูหรากว่านั้นเลยนะ…เชี่ย ถึงกับยังมีจักรยาน…รัฐอิสระของพวกเรา อย่างน้อยก็เป็นรถหรูหมดนะ…”

ทันใดนั้นคนขับรถก็แค่นหัวเราะ “น้องชาย ฉันเห็นคนคุยโม้มาเยอะ ไม่เคยเห็นใครคุยโม้เท่าน้องชายมาก่อน ไหนจะเครื่องบินส่วนตัว ทำไมน้องชายไม่บินขึ้นฟ้าไปเลยล่ะ ห้าคนเบียดกันอยู่ในรถแท็กซี่ยังจะโม้อีกนะ”

ชีซิงพูดไม่ออก

เยี่ยหวันหวั่นหมดคำจะพูด

ผู้อาวุโสใหญ่นิ่งเงียบ

ผู้อาวุโสสามก็นิ่งเงียบ

ประเทศจีน ตระกูลเยี่ย

ในห้องโถงใหญ่ เยี่ยอีอีมองชายวัยกลางคนในชุดสูทดำตรงหน้าขณะหัวเราะเบาๆ “ให้พวกคุณทำเรื่องนี้ จนถึงตอนนี้ยังทำไม่เสร็จเลยนี่”

ได้ยินดังนั้น ชายวัยกลางคนหัวเราะเสียงเบา “ประธานเยี่ย พูดแบบนี้ไม่ได้นะครับ”

เยี่ยอีอีจ้องชายวัยกลางคน “งั้นควรพูดแบบไหน”

“ประธานเยี่ย ทุกอย่างต้องว่ากันด้วยเหตุผลถึงจะถูกนะครับ…ตอนนั้นเยี่ยเส่าถิงติดหนี้ดอกเบี้ยสูงของพวกเรา แต่ก็คืนมาพอสมควรแล้ว…ตอนนี้ประธานเยี่ยจะให้พวกเราไปเก็บทะเลทองคำ คฤหาสน์ของเหลียงหวั่นจวิน…เรื่องนี้ เหมือนไม่ค่อยเหมาะสมมั้งครับ”

เยี่ยอีอีส่ายหน้า “ฉันไม่คิดแบบนั้น เยี่ยเส่าถิงติดหนี้ดอกเบี้ยสูงพวกคุณ ถึงใกล้จะคืนหมดแล้วแต่ยังไงก็ยังคืนไม่หมดที พวกคุณแค่ต้องเพิ่มดอกเบี้ยสูงขึ้นอีกหน่อย เก็บคฤหาสน์ทะเลทองคำด้วยจะมีปัญหาอะไร…อีกอย่าง ขอแค่พวกคุณยึกคฤหาสน์ทะเลทองคำได้ คฤหาสน์ทะเลทองคำก็เป็นของพวกคุณ นอกจากออกทุนให้แล้ว ฉันยังจะให้พวกเขาเท่านี้ด้วย

“โอ้? “

เห็นจำนวนที่เยี่ยอีอีบอกมา ดวงตาชายวัยกลางคนเป็นประกายเล็กน้อย

เยี่ยอีอีให้พวกเขาไปเก็บคฤหาสน์ คฤหาสน์ให้พวกเขา แถมยังจะเพิ่มเงินให้พวกเขาอีกก้อน…

“ฮ่าๆ ผมเข้าใจแล้ว…ประธานเยี่ย คุณอยากให้เหลียงหวั่นจวินเร่ร่อนข้างถนนสินะครับ” ชายวัยกลางคนจ้องเยี่ยอีอีและพลันหัวเราะยิ้มเอ่ย

ทุกคนต่างรู้ว่าสามีของเหลียงหวั่นจวินเยี่ยเส่าถิงและลูกชายคนโตเยี่ยมู่ฝานฆ่าเยี่ยเส่าอันพ่อของเยี่ยอีอี

ถึงแม้เยี่ยเส่าถิงกับเยี่ยมู่ฝานถูกจับไปแล้ว แต่เกรงว่าก็ยากจะสลายความแค้นในหัวใจของเยี่ยอีอี ดังนั้นเยี่ยอีอีจึงอยากให้เหลียวหวั่นจวินไปเร่ร่อนข้างถนน ให้ทั้งครอบครัวเยี่ยเส่าถิอย่าได้อยู่เป็นสุข ห้ามสักคนลงเอยด้วยดี

“ถูกต้อง ฉันคิดอย่างนี้” เยี่ยอีอีมองชายวัยกลางคนอย่างเรียบนิ่ง มุมปากยกขึ้นน้อยๆ วาดเป็นรอยยิ้มบาง “แล้ว พวกคุณทำให้ได้ไหม”

———————————————————————–

บทที่ 1722 เยี่ยมเยียนเก็บหนี้

“ฮ่าๆๆ ประธานเยี่ยเป็นคนตรงไปตรงมา ในเมื่อประธานเยี่ยพูดแบบนั้นแล้ว พวกเรารับรองว่าจะช่วยประธานเยี่ยจัดการเรื่องนี้อย่างสวยงามสมบูรณ์แบบไร้จุดบกพร่อง ประธานเยี่ยวางใจได้ พวกเราจะยึดคฤหาสน์ทะเลทองคำกลับมาแน่น อีกทั้งจะรับประกันว่าเหลียงหวั่นจวินจะไม่มีแม้แต่เงินสักสลึงเดียว ต้องให้เธอเร่ร่อนอยู่ข้างถนน เป็นขอทานให้ได้ครับ!” ชายวัยกลางคนลุกขึ้นยืนก่อนตบอกเอ่ยรับประกัน

“ดีมาก” เยี่ยอีอีพยักหน้าน้อยๆ “งั้นฉันก็ไม่ส่งแล้ว รอข่าวดีจากพวกคุณ”

ชายวัยกลางคนลุกขึ้นอำลาและจากไปอย่างรวดเร็ว

เวลานั้นชายวัยกลางคนหยิบมือถือออกมากดโทรออก

ไม่นานคนกว่าสิบคนก็กรูกันเข้ามา บนตัวซ่อนพวกท่อนไม้ เดินทางไปยังคฤหาสน์ทะเลทองคำ

ราวๆ ครึ่งชั่วโมง ประตูใหญ่ของคฤหาสน์ทะเลทองคำก็ถูกเคาะ

ผู้เปิดประตูคือคุณนายดูแล้วอายุสี่สิบห้าสิบปี แต่งตัวเรียบง่ายสีหน้าซีดเผือด

หน้าตาของเหลียงหวั่นจวินแก่ชรากว่าเมื่อก่อนมาก ตั้งแต่ที่เยี่ยมู่ฝานกับเยี่ยเส่าอันถูกจับไป ช่วงเวลาที่อยู่ในบ้านก็ใช้น้ำตาล้างหน้า ไม่ว่ายังก็ไม่อยากเชื่อแม้แต่น้อย

ถ้าไม่ใช่เพราะลูกสาวเยี่ยหวันหวั่นปลอบประโลมเธอเป็นช่วงๆ เกรงว่าเหลียงหวั่นจวินก็คงทนต่อไปไม่ไหวแล้ว

“พวกคุณ…”

เห็นพวกชายกลางคน สีหน้าเหลียงหวั่นจวินเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“หึๆ คุณนายเหลียงหวั่นจวิน คุณเห็นพวกเรารีบมาตั้งไกล เท้านี่นะ ขาเล็กๆ นี่ด้วย ปวดระบมมาก หรือว่าไม่คิดจะเชิญพวกเราเข้าไปนั่งพักหน่อย ให้พวกเราพี่น้องดื่มชาอะไรหน่อยเหรอ” ชายวัยกลางคนจ้องเหลียงหวั่นจวินพลางหัวเราะชั่วร้าย

ได้ยินคำพูดนี้ หัวคิ้วเหลียงหวั่นจวินขมวดเล็กน้อย เธอส่ายหน้า “ในบ้านมีฉันคนเดียว ไม่สะดวก…”

เหลียงหวั่นจวินพูดจบก็ตั้งท่าจะปิดประตู

แต่ชายวัยกลางคนกลับดึงมือเข้ามาเกาะประตูไว้ไม่ให้โอกาสเหลียงหวั่นจวินปิดประตู

“พวกคุณคิดจะทำอะไร!” เห็นดังนั้นเหลียงหวั่นจวินก็ขึ้นเสียงตะคอก

“คุณนายเหลียงหวั่นจวิน ดูคุณพูดเข้าสิ ยังถามว่าพวกเราคิดจะทำอะไร…สามีคุณนายเยี่ยเส่าถิงติดเงินพวกเรา ถึงตอนนี้ยังคืนไม่ครบ จุดนี้เป็นความจริงนะครับ ติดหนี้คืนเงินเป็นสัจธรรม ทั้งที่พวกคุณทำตัวไร้ยางอาย ทำไมกลับเหมือนพวกเราเป็นฝ่ายผิดเสียอย่างนั้น ใต้หล้าไม่มีหลักการนี้หรอกมั้งครับ” ชายวัยกลางคนจ้องเหลียงหวั่นจวินพลางหัวเราะเยาะ

“พูดเหลวไหล…ที่ติดเงินพวกคุณ ก่อนหน้าเยี่ยเส่าถิงเคยบอกฉันว่าคืนหมดแล้วนะ!” เหลียงหวั่นจวินเอ่ย

“หึ…คำพูดนี้ ยังดีพวกเรามีบันทึกการโอน ให้คุณดูเองแล้วกัน” พูดจบชายวัยกลางคนก็ให้คนหยิบบันทึกการโอนยื่นมาตรงหน้าเหลียงหวั่นจวิน

เหลียงหวั่นจวินกวาดตามองอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ในบันทึกการโอนนี้ขาดเงินจำนวนหนึ่งจริงๆ เป็นเงินประมาณหนึ่งหมื่นกว่า

“ตกลง ฉันจะไปหยิบมาให้พวกคุณ!”

เหลียงหวั่นจวินหันตัวเข้าบ้าน พวกชายวัยกลางคนก็ตามหลังเหลียงหวั่นจวินเข้าไปในคฤหาสน์

“จิ๊ๆ คฤหาสน์นี้ไม่เลวจริงๆ”

ชายวัยกลางคนพินิจมองในคฤหาสน์รอบด้าน สีหน้าเปี่ยมความพอใจ อีกไม่นานคฤหาสน์นี้ก็จะเป็นของพวกเขาแล้ว

เหลียงหวั่นจวินที่ไม่ล่วงรู้ความคิดของฝ่ายตรงข้ามถือกระเป๋าเงินเดินมาอย่างรวดเร็ว

ต่อหน้าทุกคน เหลียงหวั่นจวินเปิดกระเป๋าเงินอย่างระมัดระวัง

ในกระเป๋าเงินแทบจะมีแต่ธนบัตรหนึ่งร้อยหยวนที่ค่อนข้างยับเยิน ในนั้นยังมีเหรียญค่าเงินเล็กๆ อีกจำนวนหนึ่ง แค่มองก็รู้ว่าเป็นเงินที่เหลียงหวั่นจวินรวบรวมมาอย่างยากลำบาก