บทที่ 1374 สระอสุนีบาต

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

เย่ซิงเฉินถึงกับอึ้งไปจนพูดอะไรไม่ออกอยู่นานแต่แล้วเมื่อนึกถึงครั้งที่ตนเองเคยรับทัณฑ์สวรรค์มา จึงได้แต่ร้องถามออกไปว่า
  “หลิงหยุนข้าเองก็เข้าสู่ด่านกลางขั้นพลังชี่มาก่อนแล้ว เหตุใดจึงไม่มีทัณฑ์สวรรค์เทียนเจี๋ยเกิดขึ้นกับข้าเล่า”
  “หรือเจ้าจะพิเศษกว่าข้าอย่างนั้นรึ!”
  หลิงหยุนยิ้มออกมาพร้อมกับเอื้อมมือไปโอบเอวเย่ซิงเฉินไว้และตอบกลับไปว่า “เทพบนสวรรค์ล้วนแล้วแต่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ไม่แน่ว่าจู่ๆ ทัณฑ์สวรรค์เทียนเจี๋ยอาจฟาดลงใส่ศรีษะของเจ้าเมื่อใดก็ได้!”
  “ซิงเฉินเจ้าถือแก้วจ้าวสมุทรนี้ไว้ หลังจากที่ข้าออกไปแล้ว เจ้าเองก็รีบหนีออกไปให้พ้นรัศมีของทัณฑ์เมฆาเหล่านี้เสียก่อน แล้วจึงค่อยเหาะออกมา แต่ห้ามเข้าใกล้รัศมีทัณฑ์เมฆาโดยเด็ดขาด!”   หลิงหยุนกำชับเย่ซิงเฉินพร้อมกับยื่นแก้วจ้าวสมุทรในมือให้จากนั้นจึงหันมาสำรวจความพร้อมของตนเอง แล้วจึงหันไปยิ้มและปลอบใจนาง
  “ซิงเฉินแค่ทัณฑ์สวรรค์เล็กๆเท่านั้น เจ้าอย่าได้ตื่นตระหนก หรือเป็นกังวลใจไป!”
  “ข้าไปก่อนล่ะ!”
  จากนั้นหลิงหยุนจึงใช้ความเร็วสูงสุดของตนพุ่งร่างออกจากรัศมีของแก้วจ้าวสมุทรพร้อมกับใช้วิชาคลื่นคงคาเปิดทางน้ำกว้างกว่าหนึ่งเมตรเหาะขึ้นไปทันที!
  ในเวลาเพียงแค่สองวินาทีร่างของหลิงหยุนก็เข้าน่านน้ำของทะเลจีนตะวันออก!
  เปรี้ยง!
  แล้วก็เป็นอย่างที่หลิงหยุนคาดการไว้ไม่มีผิดทันทีที่เขาเข้าสู่น่านน้ำทะเลจีนตะวันออก ทัณฑ์สวรรค์เทียนเจี๋ยก็ปรากฏขึ้นทันที และอสุนีบาตสีน้ำเงินก็ฟาดผ่านเมฆสีดำทะมึนเข้าใส่ร่างของหลิงหยุนอย่างรวดเร็ว  ในเวลาเดียวกันนั้นเองสายฟ้าจำนวนวนมากมายนับไม่ถ้วน ก็ล้อมร่างของหลิงหยุนที่อยู่กลางทะเลไว้อย่างแน่นหนา..
  หลิงหยุนถึงกับชาไปทั่วทั้งร่างเขาถึงร้องอุทานออกมาด้วยความโมโห!
  “โธ่เว้ย!!”
  ความจริงแล้วหลิงหยุนตั้งใจไว้ว่าหลังจากเข้าสู่น่านน้ำทะเลจีนตะวันออกแล้ว เขาจะรีบว่ายน้ำหนีให้เร็วที่สุดก่อนเพื่อที่จะหลบไปตั้งหลัก แต่เวลานี้ดูเหมือนแผนการของเขาจะเป็นไปไม่ได้เสียแล้ว..
  นั่นเพราะไม่เพียงอสุนีบาตสีน้ำเงินนี้จะทำให้หลิงหยุนถึงกับชาไปทั่วทั้งร่างแต่เขายังรู้สึกว่าผืนน้ำทะเลรอบๆตัวเขานั้นหนักอึ้งไปด้วย ราวกับว่ามันได้เปลี่ยนจากผืนน้ำเป็นกำแพงน้ำที่แข็งแกร่ง และกำลังบีบรัดเข้ามาที่ร่างของเขาจนไม่สามารถขยับเขยื้อนได้..
  “หึ..นี่คิดจะใช้น้ำทดสอบข้าแทนงั้นรึ”
  อสุนีบาตของทัณฑ์สวรรค์เทียนเจี๋ยนั้นเป็นได้มากกว่าสายฟ้าธรรมดาๆ และในเมื่อเวลานี้ร่างของหลิงหยุนอยู่ในน้ำ ทัณฑ์สวรรค์เทียนเจี๋ยจึงใช้อสุนีบาตสีฟ้านี้บีบรัดร่างของหลิงหยุนให้จมลงสู่ใต้ท้องทะเล
  “อสุนีบาตห้าธาตุหรอกรึ!”
  อสุนีบาตห้าธาตุนั้นชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต้องเกี่ยวพันกับธาตุทั้งห้าบนโลกซึ่งก็คือธาตุทอง ธาตุไม้ ธาตุน้ำ ธาตุไฟ และธาตุดิน
  อสุนีบาตห้าธาตุนี้นับเป็นอสุนีบาตที่มีความรุนแรงและอันตรายอย่างยิ่ง หากผู้บ่มเพาะตนยังไม่เข้าสู่ขั้นแก่นเต๋าทองคำ ก็ย่อมไม่อยากต้องพบเจออย่างแน่นอน!
  นั่นเพราะอสุนีบาตห้าธาตุนี้ไม่เพียงเป็นอสุนีบาตที่มีความรุนแรงอย่างมาก แต่สายฟ้าทั้งห้าธาตุยังสามารถรวมตัวกันได้ตามต้องการ และแปรเปลี่ยนไปตามธาตุต่างๆได้โดยยากที่จะคาดเดา ทำให้ผู้ที่รับทัณฑ์สวรรค์ยากที่จะหาทางรับมือได้ และหากพลาดท่าก็จะถูกอสุนีบาตห้าธาตุนี้ฟาดใส่ร่างแหลกสลายได้ในทันที!   ไม่เพียงแค่อสุนีบาตห้าธาตุเท่านั้นที่ผู้บ่มเพาะตนต้องเผชิญแต่ยังมีทัณฑ์เมฆาดำทะมึนเหนือศรีษะที่กดต่ำลงมาเรื่อยๆอีกด้วย และหากไม่สามารถรับมือได้ แน่นอนว่าย่อมต้องร่างกายแหลกสลายอย่างยากที่จะหลีกเลียงได้..
  แน่นอนว่าทัณฑ์สวรรค์เทียนเจี๋ยกระหน่ำฟาดสายฟ้าลงมาอย่างมากมายนั้นเป็นเพียงแค่การจู่โจมเบื้องต้น แต่พลังของสายฟ้าแต่ละเส้นหลังจากนั้นต่างหากที่น่ากลัว..
  การรับทัณฑ์สวรรค์ซื่อจิ่วนั้นเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะตนทุกคนที่เข้าสู่ด่านกลางขั้นพลังชี่จะต้องเผชิญ ส่วนทัณฑ์สวรรค์เทียนเจี๋ยนั้น หากเกิดขึ้นกับผู้บ่มเพาะตนคนใด เชื่อกันว่าคนผู้นั้นได้เข้าถึงรากฐานแห่งเต๋าแล้ว และกำลังเดินเข้าสู่เส้นทางที่มุ่งสู่ความเป็นเซียนอย่างแท้จริง!
  และแน่นอนว่าหลิงหยุนก็คือหนึ่งในผู้ที่สมควรที่จะต้องเผชิญหน้ากับทัณฑ์สวรรค์เทียนเจี๋ยอย่างมากแม้เขาจะรู้ตัวและเตรียมพร้อมไว้แล้ว แต่ก็ยังอดที่จะประหลาดใจไม่ได้ เมื่อต้องพบกับอสุนีบาตห้าธาตุเช่นนี้!
  แต่ถึงกระนั้นหลิงหยุนก็ยังคงสงบนิ่งและไม่รู้สึกหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งเวลานี้ทัณฑ์เมฆาก็ปรากฏขึ้นแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คงไม่อาจหลีกเลี่ยงการรับทัณฑ์สวรรค์ครั้งนี้ได้ ผลจะออกมาเป็นเช่นใดก็ไม่อาจรู้ได้..
  “นี่..คิดว่าข้าหวาดกลัวอสุนีบาตห้าสีมากงั้นรึ”
  เวลานี้หลิงหยุนอยู่ใต้น้ำทะเลลึกลงไปจากผิวน้ำราวห้าร้อยเมตรและร่างของเขาก็ถูกล้อมรอบด้วยสายฟ้าจำนวนมากมาย แต่ก็ไม่วายที่จะเอ่ยวาจาเยาะเย้ยถากถางออกไป..
  ด้วยความแข็งแกร่งของหลิงหยุนเวลานี้แรงดันในน้ำที่ความลึกห้าร้อยเมตร หาได้มีผลต่อหลิงหยุนไม่ เขารู้ดีว่าแรงดันที่บีบรัดร่างของตนเข้ามาเรื่อยๆนั้น แท้ที่จริงก็คือพลังของสายฟ้าเหล่านั้นนั่นเอง
  เมื่อครั้งที่หลิงหยุนเข้าสู่ขั้นพลังชี่นั้นเขาก็ถูกอสุนีบาตหลากหลายชนิดกระหน่ำใส่ร่างมามากแล้ว อสุนีบาตห้าธาตุที่เพิ่งเริ่มต้นนี้จึงยังไม่อาจทำอันตรายกายเนื้อของเขาได้..
  เวลานี้หลิงหยุนเลือกที่จะใช้ร่างกายที่แข็งแกร่งของตนต้านทานพลังของอสุนีบาตที่กำลังบีบรัดร่างของเขาเข้ามาทุกทิศทาง และเขาก็มั่นใจว่าร่างกายของตนจะสามารถต้านทานไว้ได้..
  ภาพที่เห็นเวลานี้จะพบว่าน้ำทะเลรอบตัวหลิงหยุนนั้น มีกระแสไฟสีน้ำเงินส่องแสงแปลบปลาบอยู่โดยรอบ และทุกครั้งที่กระแสไฟฟ้าเหล่านี้บีบรัดเข้าไป ก็จะบีบน้ำทะเลรอบตัวหลิงหยุนออกไปด้วย..
  “เข้ามาเลย..”
  หลิงหยุนร้องตะโกนเสียงดังจากนั้นจึงกางแขนและขาของตนเองออก แล้วจึงเริ่มดูดซับเอาสายฟ้าสีน้ำเงินรอบตัวเข้าไปในร่าง
  นั่นเพราะอสุนีบาตธาตุน้ำจะมีพลังชีวิตธาตุน้ำที่บริสุทธิ์ยิ่งนักหลิงหยุนย่อมไม่ปล่อยให้หลุดลอยไปแน่..   ภาพที่เห็นในเวลานี้หากผู้ใดพบเข้าคงต้องอัศจรรย์ใจไม่น้อย เพราะไม่เพียงอสุนีบาตสีน้ำเงินมากมายภายใต้ความลึกห้าร้อยเมตรจากผิวน้ำทะเล จะไม่สามารถทำอันตรายหลิงหยุนได้แล้ว เขายังกำลังดูดซับอสุนีบาตธาตุน้ำเหล่านั้นเข้าไปในร่างของตนอีกด้วย..
  หลังจากที่อสุนีบาตสีน้ำเงินจำนวนมากหลั่งไหลเข้าไปในร่างของหลิงหยุนแล้วแรงดันแข็งแกร่งของน้ำรอบกายจึงได้ลดลงไปด้วย และเวลานี้หลิงหยุนก็สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้แล้ว
  ทัณฑ์อสุนีบาตเหล่านี้หากผู้บ่มเพาะตนไม่สามารถรับมือได้ ก็ต้องร่างกายแตกสลายตายไป แต่หากสามารถรับมือได้ ย่อมนับว่าเป็นรางวัลจากสรวงสวรรค์เลยทีเดียว!
  เปรี้ยง!
  แต่ในเมื่อทัณฑ์สวรรค์เทียนเจี๋ยปรากฏขึ้นแล้วมันก็มิได้หยุดง่ายๆเช่นกัน อสุนีบาตสีน้ำเงินยังคงพุ่งผ่านกลุ่มเมฆสีดำลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะพุ่งตรงเข้าใส่ร่างของหลิงหยุนที่อยู่ใต้น้ำทะเล ทำให้ร่างของเขาถูกตรึงไว้อีกครั้ง แต่หลิงหยุนก็รีบดูดเอาสายฟ้าสีน้ำเงินเหล่านั้นเข้าไปในร่างกายอย่างรวดเร็ว ทำให้เขากลับมาเป็นอิสระได้อีกครั้ง..
  ในระหว่างนั้นหลิงหยุนก็ค่อยๆว่ายขึ้นสู่เหนือผิวน้ำเรื่อยๆ และเขามั่นใจอย่างยิ่งว่าครั้งนี้ตนเองจะได้รับประโยชน์กลับไปอย่างมากมายมหาศาลเลยทีเดียว
  หลังจากที่ดูดซับเอาสายฟ้าสีน้ำเงินจำนวนมากเข้าไปครั้งแล้วครั้งเล่าส่วนใหญ่ก็จะถูกเส้นโค้งรูปมังกรภายในจุดตันเถียนของเขาดูดซับเข้าไปอีกที ในขณะที่บางส่วนหลิงหยุนก็ได้นำไปเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเปลวไฟธาตุน้ำ ซึ่งเป็นหนึ่งในเปลวไฟห้าธาตุหยิน–หยางของตน
  ครืน..ครืน..
  ในขณะที่หลิงหยุนเข้าใกล้ผิวน้ำทะเลเข้าไปเรื่อยๆนั้นสายฟ้าธาตุน้ำที่ฟาดกระหน่ำลงใส่ร่างของหลิงหยุนก็เริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆ และมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน จนในที่สุดก็กลายเป็นสายฟ้าที่มีความหนากว่าครึ่งเมตรฟาดเข้าใส่ร่างของหลิงหยุน..
  หลิงหยุนเองก็ไม่คิดที่จะหลบหลีกสายฟ้าเหล่านั้นเช่นกันและยังคงดูดซับเข้าไปในร่างกายอย่างต่อเนื่อง
  หลิงหยุนได้แต่คิดในใจว่าเหตุใดทัณฑ์สวรรค์จึงไร้สมรรถภาพเช่นนี้
  แต่เวลานี้เส้นโค้งรูปมังกรภายในจุดตันเถียนของหลิงหยุนก็ได้ดูดซับเอาสายฟ้าสีน้ำเงินเข้าไปจนอัดแน่น และไม่สามารถดูดซับเข้าไปได้อีกแล้ว ส่วนเปลวไฟห้าธาตุนั้น ก็ไม่สามารถรองรับสายฟ้าสีน้ำเงินได้อีกเช่นกัน และเวลานี้เปลวไฟทั้งเจ็ดสีของเขาก็ได้เปลี่ยนเป็นสีฟ้าเช่นเดียวกับเปลวไฟธาตุน้ำไปแล้ว ทำให้หลิงหยุนรู้สึกหงุดหงิดใจที่ไม่สามารถดูดซับสายฟ้าสีน้ำเงินรอบตัวเข้าไปได้อีกแล้ว
  เวลานี้เหลืออีกเพียงแค่หนึ่งร้อยเมตรหลิงหยุนก็จะสามารถขึ้นสู่ผิวน้ำได้แล้ว แต่ก็ต้องหยุดนิ่งจ้องมองอสุนีบาตธาตุน้ำรอบตัวจำนวนมากด้วยความรู้สึกเสียดาย!
  ในที่สุด..หลิงหยุนจึงกัดฟัน และตัดสินใจเปิดสระอสุนีบาต!
  นี่นับเป็นการตัดสินใจที่บ้าบิ่นที่สุดของหลิงหยุนแม้แต่ผู้ที่อยู่ในขั้นแก่นเต๋าทองคำยังไม่กล้าเปิดสระอสุนีบาตเลย เพราะนั่นไม่ต่างจากการรนหาที่ตาย..
  แต่หลิงหยุนกลับไม่กลัวเขารู้ดีว่ากายเนื้อของตนเองนั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด อีกทั้งยังมีทั้งสมุดจักรพรรดิ และพู่จักรพรรดิอยู่ด้วย เขาจึงต้องการที่จะลองดู!
  ครั้งนี้หลิงหยุนไม่กล้าเสี่ยงที่จะเปิดสระอสุนีบาตในจุดซือไห่เขาจึงเปิดสระอสุนีบาตในจุดตันเถียนของตนเองแทน!
  ‘อย่างน้อยก็ต้องลองดู!’
  หลังจากที่คิดได้เช่นนั้นหลิงหยุนก็ไม่ลังเลอีกต่อไป เขาจัดการเผาเสินหยวนสามพันหกร้อยหยดในคราวเดียว และนี่คือการเผาเสินหยวนสูงสุดเท่าที่เขาจะทำได้ในเวลานี้!
  และเพียงแค่พริบตาเดียวจากการเผาเสินหยวนพร้อมกันถึงสามพันหกร้อยหยดนี้ก็ทำให้หลิงหยุนสามารถใช้พลังเหนือธรรมชาติได้อย่างน่าอัศจรรย์ เขาจึงได้ใช้พลังวิเศษนี้ของตนเปิดพื้นที่ในจุดตันเถียนทันที!
  และในพื้นที่นี้พลังหยินและหยางหรือแม้แต่พลังชีวิตอื่นๆ ก็ไม่สามารถเข้าไปได้ ภายในจุดตันเถียนสีทองสุกสว่างนี้ จึงดูคล้ายกับมีหลุมดำอยู่ภายใน!
  และนี่คือสระอสุนีบาต!
  สระอสุนีบาตนี้นับว่าใหญ่โตมากพอที่จะให้หลิงหยุนใช้กักเก็บสายฟ้าจำนวนมากมายได้..
  หลังจากที่ทำการเปิดสระอสุนีบาตแล้วหลิงหยุนก็อ้าแขนขาของตนเองออก และเริ่มทำการดูดซับเอาสายฟ้าสีน้ำเงินรอบตัวเข้าไปในร่างกายของตนเองอีกครั้ง  สายฟ้าจำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของหลิงหยุนและตรงเข้าสู่หลุมดำภายในจุดตันเถียนของเขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นหลุมดำมืดก็ค่อยๆเปล่งแสงสว่างไสว
  “ขั้นพลังเพียงแค่นี้แต่กลับกล้าเปิดสระอสุนีบาต พ่อหนุ่ม.. เจ้าช่างบ้าบิ่นนัก! แต่ข้าก็นึกชื่นชมอยู่ไม่น้อย…”
  ในที่สุดพู่กันจักรพรรดิก็อดรนทนไม่ได้จนต้องเอ่ยออกมา“แต่เอาล่ะ เห็นแก่ที่เจ้ามีความพยายาม ตาเฒ่านั่นจะคอยปกป้องจุดตันเถียนให้เจ้าเอง!”
  “ขอบคุณอาวุโส!”
  หลิงหยุนเอ่ยออกมาอย่างดีอกดีใจและได้แต่คิดในใจว่า หากไม่มีสมุดจักรพรรดิอยู่ภายในจุดตันเถียน เขาคงไม่กล้าตัดสินใจทำเช่นนี้แน่!