ครืน..ครืน.. เปรี้ยง.. เปรี้ยง..
เหนือท้องทะเลภายใต้ทัณฑ์เมฆาดำทะมึน ทัณฑ์อสุนีบาตห้าธาตุทั้งสามสี ยังคงกระหน่ำลงฟาดใส่ร่างของหลิงหยุนอย่างต่อเนื่อง..
และร่างของเขาก็ร่วงลงสู่ท้องทะเลลึกเพราะทัณฑ์อสุนีบาตสามสีที่รุนแรงเขาพยายามตะเกียกตะกายขึ้นจากน้ำได้หลายครั้งหลายครา แต่ก็ถูกสายฟ้าสามสีที่รุนแรงนี้ทำร้ายร่างกายอย่างสาหัสครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นแววตาของหลิงหยุนก็ยังคงมุ่งมั่น และเป็นประกายเจิดเจ้า ริมฝีปากที่เม้มเข้าหากันแน่นนั้น บ่งบอกถึงความกล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับพลังสายฟ้าที่รุนแรงอย่างไม่นึกเกรงกลัว!
แต่ทัณฑ์อสุนีบาตชุดที่สามนี้ก็ยาวนานเสียเหลือเกินและนานกว่าทัณฑ์อสุนีบาตทั้งสองก่อนหน้านี้รวมกันเสียอีก ทำให้หลิงหยุนอ่อนล้าลงจากการเผาเสินหยวนไปมาก!
การรับทัณฑ์สวรรค์นั้นจะต้องทนต่ออสุนีบาตที่กระหน่ำลงมาให้ได้ นั่นหมายความว่าผู้บ่มเพาะจำเป็นต้องมีร่างกายที่แข็งแกร่ง และเสินหยวนที่มากพอ มิฉะนั้นแล้วหากการรับทัณฑ์สวรรค์ต้องใช้เวลานาน และเสินหยวนในจุดซือไห่หมดไปเสียก่อน ย่อมเท่ากับว่าผู้บ่มเพาะจะไม่สามารถใช้พลังวิเศษได้อีก ย่อมหมายความว่าผู้บ่มเพาะรายนั้นจะไม่ถูกอสุนีบาตฟาดใส่ร่างจนแหลกเหลวหรอกหรือ
แทบไม่ต้องพูดถึงอสุนีบาตที่ทรงพลังเพียงแค่อสุนีบาตธรรมดาๆในครั้งแรก ก็คงต้องตายในทันทีแล้ว แต่ถึงแม้จะทานทนมาได้นานเท่าใด แต่หากไม่สามารถรับทัณฑ์สวรรค์ในชุดสุดท้ายได้ ก็ต้องตายไม่ต่างกัน!
ครั้งนี้หลิงหยุนเผชิญหน้ากับทัณฑ์อสุนีบาตห้าสีอันทรงพลังด้วยความปิติยินดีเพราะรู้ว่าอานุภาพของมันนั้น หาใช่ผู้บ่มเพาะธรรมดาทั่วไปจะสามารถทานทนได้!
และการที่ทัณฑ์อสุนบาตห้าสีปรากฏขึ้นนั้นส่วนหนึ่งย่อมต้องสัมพันธ์กับขั้นพลังของหลิงหยุนที่เข้าสู่ขั้นอู่เฉิงชี่ (ขั้นพลังชี่-5) แล้วนั่นเอง หากเขายังอยู่เพียงแค่ขั้นซื่อเฉิงชี่ (ขั้นพลังชี่-4) ทัณฑ์อสุนีบาตก็อาจจะไม่ปรากฏ แต่หากปรากฏ เขาย่อมไม่สามารถข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ได้เป็นแน่
หลิงหยุนนึกดีใจไม่น้อยที่ครั้งนี้เขาเลือกที่พัฒนาขั้นภายในดวงตาค่ายกลหยินและหยางเพราะพลังหยินและหยางมากมายภายในดวงตาค่ายกล เขาจึงสามารถเข้าสู่ระดับกลางขั้นอู่เฉิงชี่ (ขั้นพลังชี่-5) ไม่เช่นนั้นเขาคงยากที่จะข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ที่หนักหน่วงนี้ไปได้แน่!
สิ่งที่ทำให้หลิงหยุนดีใจมากที่สุดก็คือหลังจากที่ร่างกายของเขารับคลื่นอสุนีบาตครั้งแล้วครั้งเล่านั้น ทั้งกายเนื้อและจุดซือไห่ของเขาได้ถูกสายฟ้าที่แข็งแกร่งนั้นชำระล้าง และสร้างความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นให้อย่างมากมาย เขาจึงไม่ลังเลที่จะรับคลื่นสายฟ้าที่กระหน่ำลงมา แม้จะเจ็บปวดอย่างยากที่จะทานทนได้ แต่เขาก็ยินดีแบกรับ!
“นับว่าโชคดีที่ข้าตัดสินใจเปิดสระอสุนีบาตขึ้นไม่เช่นนั้นแล้ว สายฟ้าอันทรงพลังที่ร่างกายของข้าไม่สามารถดูดซับเข้าไปได้หมด คงต้องถูกทิ้งขว้างอย่างน่าเสียดาย..”
หลิงหยุนบ่นพึมพำกับตัวเองในขณะที่มือก็กวัดแกว่งกระบี่โลหิตเทวะในมือเข้าใส่สายฟ้าสีทองที่พุ่งเข้ามาและทำการดูดซับเข้าไปในร่างกายเรื่อยๆ
อสุนีบาตธาตุทองนี้เป็นประโยชน์กับกระดูกสันหลังของหลิงหยุนอย่างมากและตอนนี้กระดูกสันหลังของเขาก็ได้กลายเป็นสีทองสุกสว่างยิ่งกว่าเดิม เพราะมีสายฟ้าสีทองอัดแน่นอยู่เต็มไปหมด
ในขณะเดียวกันเส้นโค้งรูปมังกรทองของหลิงหยุน ก็ดูดกลืนสายฟ้าธาตุทองนี้เข้าไปอย่าตะกละตะกลามเช่นกัน
ส่วนเปลวไฟห้าธาตุหยิน–หยางของหลิงหยุนเวลานี้เปลวไฟทั้งสี่ธาตุอันได้แต่ธาตุน้ำ ธาตุไม้ ธาตุไฟ และธาตุทอง ก็ได้ลุกโชนและมีความสว่างไสวในระดับเดียวกันแล้ว และเวลานี้เปลวไฟทั้งสี่สีก็ได้ลุกโชนยิ่งกว่าเดิมถึงห้าเท่า!
และทั้งหมดนี้ก็คือประโยชน์ที่ได้จากการเข้ารับทัณฑ์สวรรค์ในครั้งนี้นับได้ว่าเป็นการรับทัณฑ์สวรรค์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก
อสุนีบาตชุดที่สามนั้นตั้งแต่เริ่มต้นมาจนถึงตอนนี้ก็กินเวลาไปร่วมหนึ่งชั่วโมงแล้ว และเวลานี้มือที่ตวัดกระบี่โลหิตเทวะไปมาของหลิงหยุนนั้น ก็เริ่มชาขึ้นเรื่อยๆ และสายฟ้าเส้นสุดท้ายก็ได้ซัดร่างของเขาตกลงไปในท้องทะเลอีกครั้ง ในที่สุดคลื่นอสุนีบาตชุดที่สามก็สิ้นสุดลง!
“ฮู่ว..อสุนีบาตธาตุทองช่างน่าสะพรึงกลัวจริงๆ ข้าเกือบจะไม่สามารถทนได้แล้วสิ!”
หลิงหยุนทะยานขึ้นจากน้ำทะเลอีกครั้งเขาหายใจแรงพร้อมกับกัดฟันทนต่อความเหนื่อยล้า และเจ็บปวด!
ผลพวงจากคลื่นอสุนีบาตชุดที่สามนี้ทำให้ร่างกายของหลิงหยุนท่วมไปด้วยเลือดยกเว้นแผ่นหลัง นอกเหนือจากนั้นไม่ว่าจะเป็นหน้าอก แขน ขา หรือแม้แต่หน้าแข้ง ก็เต็มไปด้วยบาดแผลที่เกิดจากศาสตราวุธที่แปลงจากสายฟ้าธาตุทองทั้งสิ้น
นั่นเพราะเมื่อครั้งที่สายฟ้าธาตุทองปรากฏขึ้นครั้งแรกนั้นร่างของหลิงหยุนได้ถูกสายฟ้าธาตุไม้ตรึงร่างไว้ทำให้ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ จึงได้ถูกทั้งกระบี่และหอกสีทองทิ่มแทงทั่วร่าง
ครั้งนั้นหลิงหยุนใช้พลังวิเศษปกป้องเฉพาะอวัยวะสำคัญไว้ได้เท่านั้นจนกระทั่งผ่านไปครู่หนึ่ง หลังจากที่หลิงหยุนเริ่มปรับตัวเรียนรู้สายฟ้าสามสีได้แล้ว เขาจึงค่อยรับมือกับมันได้..
และในเวลานั้นเย่ซิงเฉินก็ได้เหาะขึ้นมาจากผืนน้ำทะเลแล้ว นางเหาะไปยืนอยู่นอกเขตของทัณฑ์เมฆาดำทะมึนกลุ่มนั้น และเฝ้ามองหลิงหยุนด้วยความเป็นห่วง เพราะไม่เคยพบเห็นหลิงหยุนได้รับบาดเจ็บมากมายถึงเพียงนี้มาก่อน..
เย่ซิงเฉินรู้ดีว่าหลังจากที่หลิงหยุนพัฒนาขั้นแล้วนั้นเขาแข็งแกร่งมากเพียงใด แต่ทัณฑ์อสุนีบาตกลับสามารถทำให้เขามีสภาพบาดแผลเต็มตัวเช่นนี้ได้ ย่อมหมายความว่าทัณฑ์สวรรค์ย่อมต้องทรงพลังอย่างที่สุด!
–ซิงเฉินเจ้าอย่าได้กังวลใจไป ข้าไม่เป็นอะไร!-
หลิงหยุนเม้มริมฝีปากแน่นเวลานี้จิตหยั่งรู้ของเขามีรัศมีกว้างไกลถึงเจ็ดกิโลเมตร จึงสามารถมองเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลของเย่ซิงเฉินได้ชัดเจน เขาจึงได้แต่ส่งกระแสจิตบอกให้นางคลายกังวล..
จากนั้นหลิงหยุนจึงได้เรียกยันต์บำบัดระดับเจ็ดออกมารักษาบาดแผลตามร่างกายอีกครั้งและเมื่อบาดแผลทั้งหมดหายไป หลิงหยุนก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดอีก และเตรียมพร้อมเข้ารับคลื่นอสุนีบาตชุดที่สี่ต่อไป..
ปกติแล้วทัณฑ์สวรรค์ซื่อจิ่วจะมีคลื่นอสุนีบาตทั้งหมดสี่ชุดเท่านั้นแต่หลิงหยุนรู้ดีว่าสำหรับตนเองแล้ว มักจะไม่เคยมีสิ่งใดปกติสักอย่าง รวมถึงครั้งนี้ด้วย เขาเชื่อว่าทัณฑ์อสุนีบาตห้าธาตุนี้ จะต้องเกิดกับเขาทั้งหมดห้าครั้งแน่..
นั่นเพราะในคลื่นอสุนีบาตชุดที่สามนั้นมีสายฟ้าทั้งสี่ธาตุรวมตัวขึ้นพร้อมกัน ฉะนั้นแล้วในคลื่นอสุนีบาตชุดที่สี่นี้ จะต้องมีการรวมตัวของสายฟ้าทั้งสี่ธาตุ และในคลื่นอสุนีบาตชุดที่ห้าก็จะเป็นการรวมตัวของสายฟ้าทั้งห้าธาตุคือน้ำ ไม้ ไฟ ทอง และดิน..
หลิงหยุนกำลังคาดเดาอยู่ว่าในอสุนีบาติชุดที่สี่นั้นจะมีสายฟ้าธาตุดิน หรือธาตุน้ำปรากฏขึ้นพร้อมกับอีกสามธาตุกันแน่..
“ข้าต้องระมัดระวังทัณฑ์อสุนีบาตชุดที่สี่นี้ให้มากไม่แน่ว่าครั้งนี้ข้าอาจจะไม่สามารถทานทนได้..”
หลิงหยุนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่น่าสะพรึงกลัวพร้อมกับคอยเตือนตัวเองไม่ให้ประมาท!
หลิงหยุนเรียกหม้อเสินหนงออกมาจากแหวนจักรวาลของตนเองจากนั้นจึงใช้พลังจิตควบคุมให้หม้อเสินหนงลอยอยู่เหนือศรีษะของเขา เพื่อใช้เป็นโล่ป้องกันไว้อีกหนึ่งชั้น
เด็กหนุ่มที่อยู่เบื้องล่างหม้อเสินหนงนั้นมีสีหน้าและแววตาที่มุ่งมั่น มือของเขากำกระบี่โลหิตเทวะไว้แน่น ในขณะที่แสงสีทองสุกสว่างก็เปล่งประกายออกมาจากร่างของเขา ส่วนหอกมังกรทองก็หมุนวนอยู่รอบๆร่างกายของเขาอย่างตื่่นตัว..
หลิงหยุนเชื่อมั่นในอานุภาพของหม้อเสินหนงอีกทั้งเวลานี้ภายในจุดซือไห่ของเขาก็มีเสินหยวนอยู่มากมายกว่าเจ็ดหมื่นหยด ซึ่งเพียงพอให้เขาใช้ได้อย่างไม่ต้องกังวล..
ครืน..ครืน..
เสียงฟ้าร้องคำรามดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วท้องทะเลทัณฑ์เมฆาดำทะมึนเริ่มกดต่ำลงมา เป็นสัญญาณว่าคลื่นอสุนีบาตชุดที่สี่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
ในขณะเดียวกันท้องทะเลที่เคยสงบนิ่งก่อนหน้านี้จู่ๆก็เริ่มมีลมพัดแรง และท้องน้ำก็เริ่มปั่นป่วน ก่อนจะหมุนวนเป็นเกลียวคลื่นที่มีความสูงนับยี่สิบเมตร!
สายฟ้าชุดแรกฟาดลงมาและเป็นสายฟ้าสี่สีซึ่งมีทั้งสีทอง สีแดงเพลิง สีเขียว และสีน้ำเงิน!
“อสุนีบาตธาตุทองธาตุไฟ ธาตุไม้ และธาตุน้ำหรอกรึ!”
แววตาของหลิงหยุนเป็นประกายระยับระยับในขณะที่มือก็ตวัดกระบี่โลหิตเทวะไปมากไม่หยุด!
หม้อเสินหนงเคลื่อนตัวไปรองรับอสุนีบาตสายแรกให้กับหลิงหยุนแต่ก็สามารถต้านทานไว้ได้เพียงแค่เจ็ดสิบส่วนเท่านั้น ส่วนพลังจากอสุนีบาตที่เหลือก็พุ่งตรงเข้าใส่ร่างของหลิงหยุนทันที!
ไม่เพียงหม้อเสินหนงเท่านั้นหลิวเทวะวิญญาณก็ได้ช่วยดูดเอาสายฟ้าธาตุไม้เข้าไปให้ด้วยเช่นกัน!
และเมื่อมีของวิเศษทั้งสองสิ่งนี้คอยช่วยเหลือความกดดันต่างๆของหลิงหยุนก็เริ่มจางคลายลง กระบี่โลหิตเทวะในมือของเขายังคงฟาดฟันใส่สายฟ้าสีทอง และทำการดูดซับพลังชีวิตธาตุทองเข้าไปในร่างอย่างต่อเนื่อง..
คลื่นอสุนีบาตชุดที่สี่นั้นรุนแรงกว่าที่หลิงหยุนคาดคิดไว้มากคลื่นลูกยักษ์จากท้องทะเล ได้พุ่งทะยานซัดเข้าใส่ร่างของหลิงหยุน พร้อมกับห่อหุ้มร่างของเขาไว้ภายใน..
เปรี้ยง!!
และในระหว่างนั้นเองสายฟ้าเส้นที่สองก็ฟาดลงมา..
ระหว่างที่ร่างของหลิงหยุนถูกคลื่นยักษ์รัดรึงอยู่นั้นเขาก็ถึงกับต้องตกใจอย่างมากเมื่อพบว่า สายฟ้าเส้นที่สองนี้แม้จะยังคงมีสี่สีเช่นเคย แต่สีของมันได้เปลียนไป..
สีน้ำน้ำเงินหายไปและสีเหลืองเข้ามาทดแทน!
และในที่สุดสายฟ้าธาตุดินก็ปรากฏขึ้น!
“ธาตุทองธาตุไม้ ธาตุไฟ และธาตุดิน..” สายฟ้าสี่ธาตุเส้นนี้ฟาดเข้าใส่ร่างของหลิงหยุนที่อยู่ใต้น้ำอย่างรุนแรงและครั้งนี้หลิงหยุนถึงกับกระอักเลือดออกมาทันที!
จากนั้นร่างของหลิงหยุนที่อยู่ในน้ำทะเลสีฟ้า ก็ราวกับถูกฝังอยู่ใต้ผืนพสุธา สายฟ้าธาตุดินได้ห่อหุ้มร่างของหลิงหยุนไว้อย่างหนาแน่น ทำให้เขารู้สึกราวกับถูกฝังอยู่ใต้ดิน และไม่สามารถขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวร่างกายได้เลยแม้แต่น้อย..
หลิงหยุนถึงกับตื่นตระหนกตกใจอย่างที่สุดเพราะคิดไม่ถึงว่าสายฟ้าสี่ธาตุจะเปลี่ยนสีได้รวดเร็วเช่นนี้ โดยที่ตัวเขาเองยังไม่ทันได้ปรับตัวเลยแม้แต่น้อย
หลิงหยุนได้แต่นึกกังวลใจว่าขนาดสายฟ้าสี่ธาตุยังรุนแรงถึงเพียงนี้ แล้วหากต้องเผชิญกับสายฟ้าที่มาพร้อมกันทั้งห้าธาตุเล่า เขาจะสามารถรับมือได้อย่างไร
แต่หลังจากที่ตั้งสติได้หลิงหยุนก็ได้ทำการเผาเสินหยวน และเริ่มใช้วิชาใต้ปฐพีจัดการกับสายฟ้าธาตุดินทันที! ผืนดินแข็งแกร่งรอบตัวหลิงหยุนเริ่มอ่อนยวบลงหลิงหยุนจึงสามารถขยับแขนขาได้ และได้พุ่งตัวขึ้น พร้อมกับใช้กระบี่โลหิตเทวะในมือฟาดฟันเข้าใส่สายฟ้าธาตุดินรอบตัวจนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
จากนั้นจึงหันไปรับมือกับศาสตราวุธสีทองที่พุ่งเข้าใส่ร่างของตนเองพร้อมกับดูดซับพลังชีวิตธาตุทอง และธาตุไม้เข้าไปในร่างกายอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่หอกมังกรทองของหลิงหยุนก็พุ่งเข้าใส่สายฟ้าธาตุทองอย่างต่อเนื่องเช่นกัน!
“มาเลย!”
ถึงแม้ว่าจะยากลำบากแต่เมื่อหลิงหยุนสามารถรับมือกับสายฟ้าสี่ธาตุเส้นแรก และเส้นที่สองได้แล้ว เขาก็เริ่มมั่นใจขึ้นอย่างมาก
ยิ่งลำบากมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น!