บทที่ 724 หล่อนวิงวอนร้องขอเขา

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

เส้นหมี่ยื่นมือเข้าไปจะประคองคนคนไข้คนนี้

จริงแล้วประณพเป็นคนที่ชอบปฏิเสธการช่วยเหลือจากคนอื่น และไม่ชอบให้คนอื่นปฏิบัติกับเขาในฐานะคนป่วย และยิ่งไปกว่านั้นคือไม่ชอบแววตาน่าสงสารของคนอื่นที่มองเขา

แต่ตอนนี้ หลังจากที่เขาเห็นแววตาอันงดงามของคุณหมอสาวสวยคนนี้ที่รักษาเขาโดยที่ไม่มีความรู้สึกสงสารเขา…

“หมอคิตตี้ ต่อไปคุณจะมาดูแลผมใช่ไหม?”

“น่าจะประมาณสองสามวันนี้ค่ะ”

ทันใดนั้นสีหน้าของเส้นหมี่ก็เปลี่ยนไป เธอบอกความจริงกับเขาแล้วเข็นเขาออกจากห้องผู้ป่วยไป

ประณพ:“……”

เขายังไม่ได้พูดอะไรสักคำ หลังจากรถเข็นวีลแชร์ถูกเข็นออกไป เขาก็บังเอิญไปเจอคนไข้ที่ถูกเข็นอยู่ตรงระเบียงทางเดินด้วย และเขาก็รู้สึกว่ามือของคนข้างหลังที่เข็นอยู่นั้นกำลังจะปล่อยมือ

“คุณแสนรัก,คุณแสนรัก……”

ผู้หญิงคนนี้วิ่งเร็วมาก แวบเดียวก็ทิ้งให้เขาอยู่ตรงนั้น และวิ่งตามคนไข้คนนั้นไป

เป็นหมอภาษาอะไรกัน?

ก่อนหน้านี้เธอยังรู้สึกดีกับเขา ไม่ทันไรก็ทิ้งคนไข้ของตัวเองไว้แล้วเหรอ?

ประณพรู้สึกโกรธเคืองเล็กน้อย เขายืนขึ้นจากรถเข็นวีลแชร์และค่อยๆหันไปทางสองคนนั้นแล้ววิ่งไปหาพวกเขา

“คุณแสนรัก คุณคะ…คุณกำลังจะไปที่ไหน? ต้องขอโทษด้วยนะคะ จริงๆแล้วฉันจะไปดูแลคุณที่ห้องผู้ป่วย แต่ฉันได้รับผิดชอบดูแลผู้ป่วยเตียง15 ฉันจึงทำได้เพียงไปตรวจดูแลภายในห้องเท่านั้น”

ในที่สุดเส้นหมี่ก็ไล่ตามคนนี้ทันจนได้ เขารีบอธิบายอย่างติดอ่าง

แต่ในความเป็นจริง หล่อนก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองต้องอธิบายด้วย?

ทั้งๆที่เมื่อคือเขาเองนั้นแหละที่ไล่หล่อนออกจากห้อง

“ตอนนี้ผมไม่ใช่คนไข้ที่อยู่ในความดูแลของคุณแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องเข้ามาในห้องผู้ป่วยอีก”แต่ผลสรุปเมื่อหล่อนพูดจบ เขาก็นั่งลงบนรถเข็นวีลแชร์แล้วตอบเธออย่างเฉยเมยและไร้ความปรานี

แล้วสีหน้าของเส้นหมี่ก็ซีดลงทันทีทันใด

หล่อนไม่ใช่เป็นคนไม่รักษาคำพูด

เหตุผลที่หล่อนไล่ตามเขาโดยที่ไม่สนใจอะไรเลยรวมถึงคำพูดเหล่านั้นด้วย ไม่ใช่เพราะเธอห่วงใยเขา อยากดูแลเขา และพาเขากลับบ้านหลังจากรักษาเขาหายแล้ว

พวกเขาเป็นสามีภรรยากันนะ!

เส้นหมี่กล้ำกลืนทนความขมขื่นในหัวใจ และรวบรวมความกล้าอีกครั้ง:“คุณแสนรัก ให้ฉันกลับไปดูแลคุณได้ไหม? เมื่อวานคุณไล่ฉันออกไปเป็นเพราะเรื่องลูกสาวฉันใช่ไหม? ต่อไปนี้คงวางใจได้เลย ฉันจะไม่พาลูกสาวมาด้วยอีกเด็ดขาด”

หล่อนขอวิงวอลเขา และคิดว่าการพาลูกสาวมาด้วยทำให้เขารำคาญใจ เธอจึงสัญญากับเขาว่าจะไม่พาลูกมาอีก

แต่ชายคนนี้ก็ยังคงเฉยเมย

“ตอนนี้ใบหน้าของคุณแพทย์ทุกคนที่นี่หนาขนาดนี้เชียวเหรอ? ก็พูดชัดเจนแล้วแต่ยังทำเหมือนคลุมเครือไม่ชัดเจน หรือเธอต้องการให้ฉันไปคอมเพลนกับไพบูลย์ใช่ไหม? ผมไล่คุณออกไปจากโรงพยาบาลนี้?!”

แต่ละคำคมเหมือนมีด

ผู้ชายคนนี้ ไม่คิดว่าหลังจากที่เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ความชั่วร้ายในปากและใจที่โหดเหี้ยมของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปด้วยเลย แค่ประโยคเดียวก็สามารถแทงเข้าไปในส่วนลึกของหัวใจ

และชักเนื้อและเลือดของคุณออกมา

เส้นหมี่ถึงกลับพูดไม่ออก

เธอมองดูผู้ชายนี้ด้วยสีหน้าที่ซีดเซียว ความโศกเศร้าในดวงตาของเธอราวกับน้ำหมึกที่เป็นก้อนไม่ละลาย รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดในหัวใจเธอ

“คิตตี้นี่เธอกำลังทำอะไรอยู่? ฉันให้เธอไปดูแลผู้ป่วยเตียง15ไม่ใช่เหรอ? ทำไมยังอยู่ที่ได้อีกหล่ะ? ฉันจะบอกอะไรให้นะ อย่าคิดว่าเป็นนักศึกษาของผู้อำนวยการแล้วจะไม่ทำตามกฎระเบียบ ไม่ฟังคำสั่ง โรงพยาบาลสามารถลงโทษเธอได้เหมือนกัน!”

ในขณะนั้นเองหัวหน้าแพทย์ศัลยกรรมก็เข้ามา

เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า หล่อนรีบคลุมศีรษะปิดหน้าแล้วสั่งสอนเส้นหมี่ต่อหน้าฝูงชน

เส้นหมี่กำมือแน่น

สุดท้ายก็หล่อนก็เหลือบไปมองผู้ชายคนนั้นที่ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างนิ่งๆ โดยที่ไม่ขยับตัวเลยแม้แต่น้อย หล่อนหันหลังไปด้วยน้ำตาคอเบ้าและเดินจากไป

ถึงแม้หล่อนจะรู้ว่ามันไม่ใช่ความผิดของเขา

แต่หล่อนก็เสียใจมากจริงๆ

เส้นหมี่ไม่รู้ว่ากลับมาหน้าประตูห้องผู้ป่วยเตียง15ได้อย่าไงไร หล่อนรู้แค่ว่าหลังจากที่หล่อนมาที่นี่ คนที่นั่งอยู่รถเข็นวีลแชร์ที่หล่อนเข็นออกมาก็หายไปแล้ว

คนไปไหนแล้วล่ะ?

เธอตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ความเศร้าโศกในใจยังหายและยังโชคร้ายมาเจอคนนี้อย่างกะทันหันอีก

“หมอคิตตี้ผมอยู่ข้างใน”

ไม่คิดว่าจู่ๆจะมีเสียงประณพดังออกมาจากห้องผู้ป่วย

เมื่อเส้นหมี่ได้ยินถึงได้รู้สึกตัวขึ้นมาและรีบเข็นรถวีลแชร์เข้าไปในห้อง: “คุณ…ทำไมถึงกลับมาที่ห้องผู้ป่วยอีกหล่ะคะ? ต้องขอโทษด้วยนะคะ เมื่อกี้หมอ….”

“คุณรู้จักกับคุณชายตระกูลเทวเทพไหม? คุณเคยเป็นแพทย์ดูแลเขาเหรอ? ประณพพูดแทรกขัดจังหวะหล่อน ไม่ใช่ว่าเขาอารมณ์เสียแต่เขาถามด้วยความสนใจต่างหาก

คุณชายตระกูลเทวเทพ?

เส้นหมี่รู้สึกแปลกๆเมื่อมีคนที่ไม่คุ้นเคยเรียกชื่อหล่อน

“ไม่รู้จักคะ ช่วงนั้นผู้อำนวยการไพบูลย์เป็นคนฝากคนไข้ให้ฉันดูแล แล้วคุณประณพรู้จักเขาไหมคะ?

“ใช่ผมรู้จักเขา ก็เขาคือคุณชายเล็กของตระกูลเทวเทพที่เพิ่งหาตัวเจอไม่ใช่เหรอ?”ประณพพูดอย่างเยาะเย้อ ระหว่างคิ้วบางๆของเขามองเห็นการเย้าเย้อได้อย่างชัดเจน

เส้นหมี่:“……”

แหง่สิ ในเมืองนี้ใครจะไปสู้เขาได้อีกล่ะ?