มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 770
ความแข็งแกร่งของตัวสำนึกจู่โจม ไม่จำเป็นต้องสงสัย แต่ก็มีข้อจำกัดมากมาย บวกกับการเข้าแดนฝึกจิต ยากลำบากกว่าการกลั่นร่างอยู่มาก

โดยทั่วไปตัวสำนึกของจอมยุทธ์กลั่นวิญญาณ อย่างมากก็มากกว่าผลการฝึกตนของตนเองสามแดนเล็กเท่านั้น นั่นก็สามารถเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะแถวหน้าของเส้นทางนี้แล้ว

หากสามารถข้ามผลการฝึกตนของตนเองได้ถึงสี่แดนเล็ก จะได้ชื่อว่าอัจฉริยะหาตัวจับยาก

จนถึงตอนนี้ ในบรรดาอัจฉริยะรุ่นหลังของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่รับรู้กันทั่วว่า ในด้านกลั่นวิญญาณผู้ที่โดดเด่นมากที่สุดนั่นคือต้าวหวูซิน

หญิงผู้นี้ใช้เหลืองเสวียนชุบตัวสำนึก ผลการฝึกตนคือมหายุทธ์ช่วงต้น แต่ตัวสำนึกกลับบรรลุถึงมหายุทธ์ขั้นเก้าแล้ว เมื่อผสานเข้ากับการสำแดงวิชาลับ การโจมตีของตัวสำนึกนั้นสามารถทำให้พรีเมี่ยมยุทธ์ได้รับบาดเจ็บได้

แต่หลัวซิวมีผลการฝึกตนระดับใด? แม้แต่แดนมหายุทธ์เขายังไม่สามารถบรรลุถึง เป็นเพียงแค่มกุฎยุทธ์ขั้นแปด แต่ถึงกระนั้นบรรลุถึงมหายุทธ์ขั้นเก้า มีความเป็นไปได้ว่าเขามีพรสวรรค์ทางด้านกลั่นวิญญาณ มากเสียยิ่งกว่าต้าวหวูซิน?

หลัวซิวสีหน้านิ่งเรียบ มีเพียงแต่เขาเท่านั้นที่รู้ ตัวสำนึกของเขาสามารถฝึกตนถึงแดนนี้ ทั้งหมดเพราะอาศัยการมีอยู่ของช่องจิตปลอม พรสวรรค์ด้านกลั่นวิญญาณ ยังห่างไกลจากต้าวหวูซินมากนัก

ทุกคนต่างคิดว่าคุณสมบัติด้านพรสวรรค์ของหลัวซิวช่างน่าเกรงกลัวนัก แต่ในความจริงแล้ว พรสวรรค์ของเขาไม่ได้โดดเด่นไปกว่าใครเลย แต่เพียงเพราะโอกาสที่หลากหลาย เขาจึงได้รับพลังและศักยภาพที่แข็งแกร่งขึ้น

หากว่ากันถึงพรสวรรค์ของเขามีค่าควรแก่การเอาออกมาพูดถึง ก็มีเพียงแค่ความเข้าใจเท่านั้น มิเช่นนั้นก็ไม่สามารถ ตระหนักรู้ทักษะการต่อสู้หมัดกระบี่จุลอมตะในการฝึกซ้อมที่ดินแดนศักดิสิทธิ์ได้ รวมถึงตราทวยมรณะฉบับย่อ ก็อยู่บนแดนกฎบรรลุถึงพื้นฐานควบคุมช่วงกลาง ล้ำหน้ากว่ารุ่นเดียวกันมาก

“หลัวซิว ช่างอาจหาญนัก เวลาเช่นนี้ยังกล้าปรากฏตัวออกมา คิกว่านิกายมารศักดิ์สิทธิ์ของข้าไม่มีใครสามารถฆ่าเจ้าได้หรือ?”

จอมยุทธ์หลายคนที่มีออร่าแกร่งกล้าเดินออกมา ผลการฝึกตนต่ำกว่าระดับมหายุทธ์ขั้นเจ็ด และมีราว ๆ สิบคนที่มีผลการฝึกตนระดับมหายุทธ์ขั้นเก้า

“นิกายมารศักดิ์สิทธิ์!” หลัวซิวแววตาสั่นไหวเล็กน้อย ศิษย์แดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ ไม่ใช่สิ่งที่แดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือดสามารถเทียบได้

ต่อให้เขามีความสามารถฆ่าคนพวกนี้ได้ แต่ก็ไม่สามารถทำได้อย่างง่ายดายไร้ความกดดันอย่างเมื่อครู่ได้

นิกายมารศักดิ์สิทธิ์นั่นคือแดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์อาณาจักรตะวันตก คนจากนิกายมารศักดิ์สิทธิ์ลุกยืนขึ้น แดนศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ จากอาณาจักรตะวันตก อย่างเช่นเขาว่านเหลยและสำนักกระบี่เทพ ต่างก็มองมาที่หลัวซิวเป็นตาเดียว

“ข้าไม่ได้ชอบถูกรุมทำร้ายเป็นงานอดิเรก”

หลัวซิวหัวเราะเสียงดัง ปีกทิพย์ไร้มลทินที่มีเพลิงนิลหลอมรวมสยายอยู่กลางแผ่นหลัง ภายใต้การสั่นไหวของปีกเพลิงนิล ร่างของเขาเหมือนกับเปลวเพลิง บินตรงเข้าไปกลางโถงใหญ่

“ปีกทิพย์ไร้มลทิน!”

ครั้งนี้หลัวซิวเปิดเผยปีกทิพย์ไร้มลทินต่อหน้าต่อตาฝูงชน ผู้คนจำนวนมากจำได้ทันที

ก่อนหน้านี้ถูกดาบปีกเพลิงไล่ฆ่า ปีกทิพย์ไร้มลทินก็ถูกเปิดเผยแล้ว แน่นอนว่าหลัวซิวก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังอีกต่อไป

ทันทีที่หลัวซิวเข้าสู่เขตหวงห้าม 100 เมตรใจกลางห้องโถงใหญ่ ออร่าที่เฉียบคมพุ่งเข้ามาหา ในขณะเดียวกันยังมีแรงกดดันจากออร่ากฎดั้งเดิม ทำให้ความเร็วของปีกทิพย์ไร้มลทินพลันช้าลงหลายเท่า

พลังของลูกแก้วเสวียนดำเปิดใหญ่งาน หลัวซิวใช้พลังจิตแท้ยกระดับผลการฝึกตนครั้งหนึ่งก็ถึงระดับมหายุทธ์ขั้นแปด

ด้วยบารมีพลังจิตแท้คอยหนุนหลัง มือเขาจีบพลังตราประทับ เพลิงมรณะหลวมรวมเป็นเพลิงนิลรูเล็ตอยู่เหนือศีรษะ มีร่องรอยจาง ๆ ของออร่ากฎดั้งเดิม

แม้ว่าออร่านี้จะอ่อนแออย่างมาก แต่ก็สามารถทำให้หลัวซิวลดแรงกดดันจากที่นี่ได้ไม่น้อยเลย

ตราทวยมรณะฉบับย่อนั้น มีต้นกำเนิดจากตราธรรมจุติมรณะ และตราธรรมจุติมรณะก็คือพลังอมตะที่แปรเปลี่ยนมาจากกฎความเป็นตายดั้งเดิม ย่อมต้องมีออร่ากฎดั้งเดิมแฝงอยู่เป็นเรื่องธรรมดา

อีกทั้งร่างเนื้อของหลัวซิวได้รับผลกระทบจากออร่าลูกแก้วความเป็นตายเป็นระยะเวลานาน ความจริงแล้วก็ยังแฝงไปด้วยออร่ากฎดั้งเดิมบาง ๆ ถึงแม้ออร่านี้จะไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ และไม่สามารถนำมาต้านพลังโจมตีของกฎดั้งเดิมได้ แต่หากนำมาต้านผลกระทบจากออร่ากฎดั้งเดิม นั่นก็ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องยากอะไร