บทที่ 1735 วิธีที่อ่อนโยนหน่อย / บทที่ 1736 อยากให้นอนด้วยกันสักคืน?

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1735 วิธีที่อ่อนโยนหน่อย

ไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นพูดจบ หานเซี่ยนอวี่พูดอย่างอ่อนโยนว่า “เยี่ยไป๋ เธอพูดแบบนี้เห็นเป็นคนไกลเกินไปแล้ว คำพูดขอบคุณด้วยความสัมพันธ์ของพวกเราฉันไม่อยากพูดมาก แต่ไม่มีเธอ ก็ไม่ฉัน ไม่มีจูเสินสือไต้ของพวกเรา ตอนนี้เธอตกที่นั่งลำบาก พวกเราย่อมยืนด้วยกันกับเธอ จุดนี้ไม่ว่าตอนไหนก็ไม่เปลี่ยนแปลง”

ลั่วเฉินได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าทันที ใบหน้าเผยสีหน้าอารมณ์แบบเดียวกับหานเซี่ยนอวี่

เจียงเยียนหรานก็กอดเยี่ยหวันหวั่น “หวันหวั่น ห้ามพูดเรื่องดึงหรือไม่ดึงมาพัวพันอีกนะ ไม่งั้นฉันจะโกรธแล้ว เรื่องของพี่ชายเธอกับคุณอาพวกเราก็ติดต่อหาทนายตลอด กำลังคิดหาวิธี เธอไม่ต้องกังวลเกินไปหรอก”

เยี่ยหวันหวั่นมองเพื่อนผองที่อยู่ตรงหน้า หัวใจพลันเอ่อล้นด้วยคลื่นความอบอุ่น “ขอบคุณนะ!”

เนื่องจากอีกเดี๋ยวพวกหานเซี่ยนอวี่ยังมีงานและกำหนดการอยู่ เยี่ยหวันหวั่นจึงไม่ได้รั้งอยู่นาน คุยอีกครู่หนึ่งก็จากไป

เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งเดินจากไป กงซวี่ก็นั่งแหมะก้นลงบนพื้นพรมทันที “เชี่ย…ในที่สุดก็ปิดผ่านไปได้…”

พูดจบก็เด้งตัวขึ้นมา เลิกเสื้อนอกของตัวเองขึ้นแล้วชี้ที่เอวของตัวเอง “บ้าเอ๊ย! เจ้าโง่! นายจะเตือนฉันก็ใช้วิธีที่อ่อนโยนกว่านี้หน่อยไม่ได้รึไง! เอวของคุณชายถูกนายหยกช้ำหมดแล้ว!”

ลั่วเฉินไม่พูดจา แค่ใช้สายตาเหมือนมองคนโง่มองอีกฝ่ายเหมือนเคย ไม่คิดอยากคุยกับอีกฝ่ายแม้แต่น้อย

กงซวี่รู้ว่าตัวเองเกือบทำความแตก ก็รู้สึกผิดอยู่นิดหน่อย แต่ยังคงเอ่ยอย่างอวดดี “เป็นไง ความสามารถในการตอบสนองกับทักษะการแสดงของคุณชายไม่เลวเลยใช่ไหม”

ลั่วเฉินเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “โอเวอร์”

กงซวี่ค้อนใส่เขาทันที “เหลวไหล! สมบูรณ์แบบชัดๆ! คุณชายคือราชาจอเงินเชียวนะ!”

เจียงเยียนหรานเอ่ยปากกับหานเซี่ยนอวี่อย่างไม่ค่อยวางใจ “น่าจะปิดได้มั้ยนะ”

ความจริงหานเซี่ยนก็ไม่แน่ใจอยู่บ้าง เขายิ้มขื่นเอ่ย “น่าจะนะ”

เฟ่ยหยางที่ดูราชากับราชินีจอเงินแต่ละคนกระหน่ำทักษะการแสดงทุกขั้นตอนอยู่ด้านข้างเอ่ยปาก “พวกนายกังวลอะไรเล่า สามราชาจอเงินกับหนึ่งราชินี เยี่ยไป๋จะดูออกได้ยังไง! แถมตอนนี้เธอกำลังยุ่งเรื่องฝั่งพ่อกับพี่ชายเธออยู่ เดาว่าคงไม่มีเวลามาดูแลเรื่องฝั่งนี้หรอก!”

เจียงเยียนหรานถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย “ก็หวังจะเป็นอย่างนั้น…”

ลั่วเฉินหันมองกงซวี่ ลังเลครู่หนึ่งก็พูดอย่างหาได้ยาก “พรุ่งนี้นาย…ระวังตัวด้วย”

กงซวี่เลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เหมือนนึกไม่ถึงว่าลั่วเฉินจะเป็นห่วงตัวเอง จากนั้นก็เชิดคอเอ่ยทันที “ใครที่ต้องระวัง? ไม่เคยมีใครเอาเปรียบคุณชายได้มาก่อน นายเป็นห่วงตัวเองดีกว่าเถอะ!”

ภายในรถ

หลังจากพาเป่ยโต่วกับชีซิงออกจากคฤหาสน์ของหานเซี่ยนอวี่และขึ้นรถมาแล้ว รอยยิ้มบางกับความอบอุ่นบนใบหน้าของเยี่ยหวันหวั่นพลันมลายหายไปทันที

“หึ…” ผ่านไปนาน เยี่ยหวันหวั่นถึงหลุบตาลง พลันหัวเราะเสียงต่ำ

เป่ยโต่วที่อยู่ด้านข้างเกาหัว มีสีหน้าไม่เข้าใจ “พี่เฟิงพี่หัวเราะทำไมน่ะ”

เยี่ยหวันหวั่นหัวเราะเสียงเบา สีหน้ามีความจนใจอยู่บ้าง “ฉันปลื้มใจน่ะ…ราชาราชินีจอเงินที่ตัวเองฝึกฝนมา…มีทักษะการแสดงไม่เลวจริงๆ…”

“หา? หมายความว่ายังไง” เป่ยโต่วงุนงง

ชีซิงก็หันไปมองเยี่ยหวันหวั่น เขาเผยท่าทีครุ่นคิด

เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้ตอบกลับ รอยยิ้มมุมปากจางหายไปก่อนจะเอ่ย “เป่ยโต่ว นายไปสะกดรอยตามสถานการณ์ทางฝั่งตระกูลเยี่ยต่อ ชีซิง นายช่วยฉันตรวจสอบเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างจูเสินสือไต้กับหวงเทียนเอนเตอร์เทนเมนต์ในช่วงหลายเดือนมานี้อย่างชัดเจน ตรวจสอบรายละเอียดและขั้นตอนที่หวงเทียนเอนเตอร์เทนเมนต์ซื้อบริษัทเมื่อครึ่งเดือนก่อนมาด้วย”

ชีซิงพยักหน้ารับ “ครับ”

————————————————————

บทที่ 1736 อยากให้นอนด้วยกันสักคืน?

รัฐอิสระ

ในคฤหาสน์สไตล์ยุโรปโบราณ รอบด้านมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา

ถ้ามีคนรู้ว่าวันนี้มีการนัดพบใครในคฤหาสน์หลังนี้ คนคนนั้นจะต้องตกใจจนหน้าถอดสีเป็นแน่

องค์กรคุกคนบาปที่ซ่อนตัวมาหลายปี สมาชิกแกนนำหัวหน้าทั้งสามของอาชูร่า สวรรค์ชัง และกลุ่มนักเชือด พบหน้ากันครั้งแรกหลังจากแยกกันเมื่อการล่มสลายครั้งนั้น

เจียงเหยียนกับหลินเชวียคุ้มกันด้านนอกประตูอย่างเงียบๆ จนกระทั่งสีท้องฟ้าเริ่มมืดลง แสงยามโพล้เพล้ปกคลุม

ตอนที่กำลังรออยู่ข้างนอกอย่างสงบเงียบ มือถือของเจียงเหยียนก็พลันดังขึ้น

เจียงเหยียนเดินไปอีกด้านหนึ่งก่อนรับสาย

“ว่ายังไงนะ”

ก็ไม่รู้ว่าคนปลายสายโทรศัพท์นั้นพูดอะไร สีหน้าของเจียงเหยียนพลันทะมึนทันที

“จับตาดูต่อไป!”

ย้ำประโยคนี้แล้ว เจียงเหยียนก็วางสายไป

หลินเชวียที่อยู่ด้านข้างซึ่งใช้รูปลักษณ์ปลอมปรากฏตัวมาตลอดตั้งแต่รู้ว่าเยี่ยหวันหวั่นมาถึงรัฐอิสระ เมื่อเห็นดังนั้นก็เหลือบมองเจียงเหยียนแวบหนึ่ง “ทำไมเหรอ ทำหน้าเหมือนกินขี้อย่างนั้นแหละ”

เจียงเหยียนเอ่ยอย่างเปี่ยมความโมโห “ไป๋เฟิงออกจากรัฐอิสระแล้ว!”

หลินเชวียได้ยินดังนั้นหัวคิ้วก็เลิกขึ้นทันที อะไรนะ เยี่ยหวันหวั่นออกจากรัฐอิสระแล้ว?

เด็กสาวคนนั้นช่วงนี้ไม่ใช่กำลังเค้นสมองอยากเปิดเผยตัวตนแฝงของซือเยี่ยหานเหรอ ทำไมจู่ๆ ออกจากรัฐอิสระไปแล้ว

“เธอไปไหนแล้ว” หลินเชวียถามโดยไม่รู้ตัว

เจียงเหยียนเอ่ยอย่างโมโห “ประเทศจีน! รับภารกิจขยะให้ทำลายล้างทหารรับจ้างที่หลบหนีอะไรนี่แหละ! อย่างมากต้องใช้เวลาสามถึงห้าเดือน อย่างน้อยต้องใช้หนึ่งถึงสองเดือนถึงจะทำสำเร็จ! ภารกิจนั่นก็ไม่ง่ายอย่างที่เธอคิดแม้แต่น้อย พลาดท่าก็ตายแล้ว ผู้ไม่รู้ไม่กลัวจริงๆ!”

“หึ ไม่ใช่ว่านายเกลียดเธอเหรอ ทำไม เธอตายไปไม่ดีรึไง” หลินเชวียยิ้มถาม

“ฉันสนว่าเธอจะเป็นหรือตาย! เจ้านายโดนกู่พิศวาส ถ้าไม่มียาถอนพิษภายในสามเดือนต้องตายอย่างแน่นอน ตอนนี้ยังหายาถอนพิษไม่ได้! ถ้าเวลานี้เธอตายแล้ว งั้นเจ้านายก็…”

หลินเชวียพยักหน้าด้วยสีหน้าเข้าใจ “งั้น นายหวังให้เธอนอนกับเจ้านายสักคืนเพื่อถอนพิษสินะ”

เจียงเหยียนหน้าแข็งทื่อ บนลำคอเป็นสีแดงอย่างน่าสงสัย “ฝันไปเถอะ!”

หลินเชวียส่ายหน้าจิ๊ปากเดาะลิ้น มองเจียงเหยียนที่มองเยี่ยหวันหวั่นเป็นภัยน้ำท่วมไม่ก็สัตว์ประหลาด ท่าทางเหมือนกลัวว่าเธอจะทำผู้นำของตนแปดเปื้อน ถ้ารู้ว่าผู้นำของตัวเองเคยนอนกับอีกฝ่ายนานแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะมีปฏิกิริยายังไง…

แต่เด็กคนนั้นกลับประเทศจีนไปแล้ว แบบนั้นไม่เท่ากับว่า…

ดวงตาหลินเชวียวาบประกาย ขณะที่กำลังครุ่นคิด ประตูใหญ่ของคฤหาสน์ก็เปิดออกในที่สุด

ชายหนุ่มร่างเพรียวที่สวมชุดสูทสไตล์โบราณเคร่งครัดสีดำเหมือนม่านราตรี ใบหน้างามเลิศล้ำเคลือบความเย็นชา เดินออกมาจากด้านในช้าๆ

“ผู้นำ!” เจียงเหยียนกับหลินเชวียเข้าไปต้อนรับทันที

เจียงเหยียนจ้องเจ้านายของตัวเอง สีหน้าอยากพูดแต่ก็ลังเล

หลินเชวียกลับไม่ได้เป็นกังวล เขายิ้มพูดทันที “พอดีเลย มีข่าวดีจะบอกนาย”

ข่าวดี?

นายของอาชูร่าเหลือบมองหลินเชวีย ส่งสายตาเรียบเฉยกลับไป

หลินเชวียยิ้มตาหยีบอก “เด็กคนนั้นรับภารกิจระดับ A ให้จับทหารรับจ้างหลบหนีของโรงเรียนชื่อเยี่ยน วิ่งกลับไปประเทศจีนแล้ว”

พริบตาที่สิ้นเสียงของหลินเชวีย ดวงตาชายหนุ่มพลันหดลงหลายส่วน วินาทีถัดมา ชายหนุ่มเอ่ยปากทันทีอย่างแทบไม่ต้องคิด “จัดกำหนดการไปประเทศจีน”

เจียงเหยียนได้ยินก็พลันเบิกตาโต สีหน้าเปี่ยมด้วยความไม่อยากเชื่อ

ว่าไงนะ ผู้นำได้ยินว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่ประเทศจีนก็จะไปประเทศจีนเลยทันที นี่หมายความว่ายังไง?

หรือว่าผู้นำไม่เสียดายที่อดทนกล้ำกลืนมาจนถึงตอนนี้ และจะใช้วิธีอย่างนั้นถอนพิษกู่จริงๆ?