บทที่ 1860 เจ้ารู้มากเกินไป

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1860 เจ้ารู้มากเกินไป

 

ฟางกงที่ซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์รู้สึกกังวล

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น? เหตุใดจึงไม่มีการเคลื่อนไหวจากวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์?” ฟางกงคํานวณเวลา

 

เนื่องจากซวนปู้จินเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เขาอาจเกิดข้อสงสัย ดังนั้นฟางกงจึงต้องซ่อนตัวอยู่ ใกล้ๆเพื่อเฝ้าระวังอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด

 

“ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งโปรดสบายใจ ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองวางแผนมาเป็นอย่างดี เขาเหนือกว่า ซวนปู้จิน นอกจากนั้นด้วยการสนับสนุนจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะ ความพ่ายแพ้ของซวนปู่จนเป็นเรื่องที่แน่นอน อย่างไรก็ตามหากมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ผู้อาวุโสสูงสุดล่าดับที่สองสามารถส่งข้อความถึงพวกเราอย่างรวดเร็ว” ผู้อาวุโสสูงสุดล่าดับที่สามฟางฮั่วเฉิงกล่าวด้วยความมั่นใจมาจากด้านข้าง

 

“เจ้าพูดถูก” ฟางกงพยักหน้า

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่การระเบิดปะทุขึ้นภายในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

ฟางกงและฟางฮั่วเฉิงชําเลืองมองกันขณะที่ฝ่ายหลังกล่าว “มันเริ่มขึ้นแล้ว คฤหาสน์วิญญาณอมตะระเบิดตัวเองแล้ว!”

 

“ไปดูกันเถอะ!” ฟางกงรีบวิ่งไปที่วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

ประตูของวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ถูกปรับแต่งไปแล้ว ดังนั้นฟางกงกับฟางฮั่วเฉิงจึงสามารถเข้าไปได้อย่างง่ายดาย

 

“ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สอง!” ฟางกงเห็นฟางตี้เฉิงที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง

 

“ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สอง ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?” ฟางฮั่วเฉิงเริ่มเข้าไปช่วยเหลือ

 

เขาเป็นผู้อมตะสายรักษาของตระกูลฟาง

 

ด้วยการรักษาของเขา ฟางตี้เฉิงค่อยๆรู้สึกตัวในที่สุด

 

เขากล่าวเสียงเบา “ซวนปู้จินซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้ แม้ข้าจะประสบความสําเร็จในการซุ่มโจมตี แต่ข้ายังถูกตอบโต้และได้รับบาดเจ็บสาหัส อย่างไรก็ตามวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์…”

 

ก่อนที่ฟางตี้เฉิงจะกล่าวจบ ฟางกงกลับกล่าวขัดจังหวะ “ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองอย่าพึ่งกล่าวถึงวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ เจ้าคือสมองของตระกูลฟาง เราไม่สามารถขาดเจ้า ให้ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สามรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้าก่อน”

 

ฟางฮั่วเฉิงกล่าวเสริม “ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองอย่าหักโหมเกินไป อาการบาดเจ็บของท่านไม่เบา ท่านควรฟังผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง มาเถอะ ให้ข้าพาท่านไปพักที่ห้องลับ”

 

“ตกลง” ฟางตี้เฉิงปิดเปลือกตาลงด้วยความอ่อนล้า

 

เขาถูกนําตัวไปยังห้องลับและรักษาอาการบาดเจ็บ

 

การรักษาใช้เวลาหนึ่งวันสองคืน

 

หลังจากการรักษาเสร็จสิ้น ฟางฮั่วเฉิงไปพบฟางกงและรายงาน

 

“สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?” ฟางกงถาม

 

ฟางฮั่วเฉิงตอบ “รายงานผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง ไม่มีปัญหา ข้าตรวจเลือด ดวงวิญญาณ และร่างกายของผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองอย่างละเอียดแล้ว พวกมันเป็นของจริง ยิ่งไปกว่านั้นโคมไฟวิญญาณและป้ายวิญญาณของผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองควรเป็นตัวของเขาเอง”

 

ฟางฮั่วเฉิงไม่เพียงรักษาอาการบาดเจ็บของฟางตี้เฉิงแต่เขายังลอบตรวจสอบฟางตี้เฉิง

 

ฟางกงพยักหน้า “ข้าเชื่อใจผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองแต่การตรวจสอบก็เป็นเรื่องจําเป็น ฟางหยวนสามารถแทรกซึมเข้าสู่ภาคใต้และทําให้กองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้กลายเป็นตัวตลก แม้ซวนปู้จินจะไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับฟางหยวน แต่เขาก็เป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เรายังไม่รู้จักเขาดีพอ เราไม่สามารถประมาท ยิ่งไปกว่านั้นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองยังขอให้ข้าทําเรื่องนี้ด้วยตัวของเขาเอง”

 

ฟางฮั่วเฉิงหัวเราะ “พวกท่านทั้งสองช่างรอบคอบนัก จากสิ่งที่ข้าเห็น แม้ซวนปู้จินจะเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งปัญญา แต่เขาเป็นเพียงผู้บ่มเพาะสันโดษ รากฐานของเขามีจํากัด ตระกูลฟางของเราเป็นมหาอํานาจ เราทุ่มเทกับแผนการนี้ ด้วยความแข็งแกร่งที่แตกต่างกัน การกําจัดซวนปู้จินไม่ใช่เรื่องยาก”

 

“แม้เขาจะตายไปแล้ว ข้าก็ต้องการเห็นศพของเขา มิฉะนั้นข้าจะไม่สามารถผ่อนคลาย” ฟางกงกล่าว

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า เขาบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปัญญา ไม่ใช่เส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง แม้ผู้อาวุโสสูงสุดล่าดับที่สองจะไม่อธิบาย แต่ข้าก็สามารถคาดเดาได้ว่าซวนปู้จินต้องใช้วิธีการบางอย่างเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเองอย่างกะทันหัน นั้นทําให้การระเบิดที่เกิดขึ้นทําลายทั้งร่างกายและดวงวิญญาณของเขาไปพร้อมกัน” ฟางฮั่วเฉิงกล่าว

 

ฟางฮั่วเฉิงยังนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงและไม่ได้อธิบายสิ่งใดกับพวกเขา

 

“ตอนนี้ฟางฮั่วเฉิงคงรายงานฟางกงเรียบร้อยแล้ว ดูเหมือนข้าจะประสบความสําเร็จในการหลอกลวงพวกเขา” ฟางตี้เฉิงคิด

 

ความจริงก็คือเขาไม่ใช่ฟางตี้เฉิงแต่เป็นฟางหยวน!

 

ย้อนกลับไปเมื่อฟางฮั่วเฉิงเริ่มแผนการของเขา

 

“น้องซวนปู้จิน ข้ารู้ว่ามันไม่ยุติธรรมกับเจ้า”

 

“แต่เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว โปรดตายเพื่ออนาคตของตระกูลฟาง” ฟางตี้เฉิงโค้งคํานับฟางหยวน

 

ฟางหยวนเริ่มสาปแช่ง

 

การแสดงออกของฟางตี้เฉิงกลายเป็นเย็นชา “เจ้าเป็นสมาชิกตระกูลฟาง มันเป็นเรื่องถูกต้องแล้วที่เจ้าจะตายเพื่อตระกูล จงพักผ่อนให้สบาย”

 

หลังกล่าวจบคํา เขาก็เริ่มขั้นตอนสุดท้าย

 

เงียบ..

 

“หือ?” ฟางตี้เฉิงมึนงงเล็กน้อย เขากระตุ้นใช้งานมันอีกครั้ง

 

เงียบ…

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” รูม่านตาของฟางตี้เฉิงหดเล็กลง เขาเร่งตรวจสอบ

 

ในเวลาเดียวกันการแสดงออกที่ตื่นตระหนกของฟางหยวนก็หายไปและถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มที่น่าขนลุก “โอ้ เจ้ารู้แล้ว”

 

“นี่เป็นไปได้อย่างไร? ข้าดูแลกระบวนการทั้งหมด้วยตนเอง เจ้าให้คําแนะนําเพียงเล็กน้อยเท่านั้น” ฟางฮั่วเฉิงรู้สึกหนาวสันขณะที่เขากล่าวต่อ “เป็นไปได้หรือไม่ว่า…”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า” ฟางหยวนปรบมือ “สมกับเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งปัญญา ถูกต้อง แม้ข้าจะให้คําแนะนําเพียงเล็กน้อย แต่มันทําให้วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์สามารถแทรกซึมเข้าสู่คฤหาสน์วิญญาณอมตะและค่ายกลวิญญาณอมตะที่อยู่ด้านนอก ในขณะเดียวกันข้าก็สามารถส่งอิทธิพลต่อวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์”

 

สิ่งที่ฟางหยวนทําตอนนี้คือใช้พลังอํานาจของวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เพื่อสร้างสถานการณ์ปัจจุบัน

 

ฟางตี้เฉิงมองฟางหยวนและกล่าว “เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่? มันไม่ง่ายเลยที่จะทําสิ่งนี้ให้สําเร็จ! ประการแรก เจ้าต้องมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลสูงมาก ประการที่สอง เจ้าต้องมีวิธีที่สามารถส่งอิทธิลต่อวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์!”

 

ฟางหยวนยิ้ม แม้ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของเขาจะต่ํากว่าฟางตี้เฉิง แต่เขามีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกล นี้ทําให้เขามีข้อได้เปรียบ

 

ฟางหยวนสามารถมองเห็นแผนการของฟางตี้เฉิงและวางแผนต่อต้านเอาไว้แล้ว

 

ท่าไม้ตายอมตะต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรม!

 

ควันสีเขียวลอยขึ้นเหนือศีรษะของฟางหยวนและก่อตัวเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่

 

วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เริ่มสั่นไหว

 

ดวงตาของฟางฮั่วเฉิงเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ “เจ้าเป็นคนของวังสวรค์ สารเลว!”

 

เขาเคยเห็นเฉินอี้ใช้ท่าไม้ตายนี้มาแล้ว

 

ตอนนี้เมื่อเขาเห็นมันอีกครั้ง เขาจึงเชื่อมโยงซวนปู้จินกับวังสวรรค์และคิดว่าวังสวรรค์ต้องการนาวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์กลับไป

 

ตั้งแต่ตระกูลฟางถือครองวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาก็ถือเป็นศัตรูของวังสวรรค์แล้ว

 

เหงื่อไหลลงมาจากหน้าผากของฟางตี้เฉิง หากนี้เป็นการสมรู้ร่วมคิดระหว่างชวนจินกับวังสวรรค์ ซวนปู้จิน ย่อมมีแผนสํารอง บางทีผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์อาจซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆกับฐานทัพใหญ่ของตระกูลฟางแล้ว

 

เมื่อเห็นฟางตี้เฉิงเข้าใจผิด ฟางหยวนไม่อธิบายแต่ยังให้ความสําคัญกับท่าไม้ตายอมตะต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรม

 

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้ท่าไม้ตายนี้อย่างเปิดเผย ในไม่ช้าฟางหยวนก็ตระหนักว่าวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เริ่มยอมรับเขาเป็นเจ้านาย

 

ฟางตี้เฉิงไม่สามารถขยับเขยื้อน

 

เดิมทีฟางตี้เฉิงต้องการใช้สิ่งนี้กับซวนปู้จิน แต่ผู้ใดจะคิดว่าเขาจะกลายเป็นฝ่ายถูกกระทํา

 

“ดี ดีมาก ซวนปู้จิน! ข้ายอมรับความพ่ายแพ้ ฆ่าข้าซะ!” ฟางตี้เฉิงเย้ยหยันโดยไม่เกรงกลัวต่อความตาย

 

ฟางหยวนหัวเราะ “เจ้าต้องการใช้ความตายกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับป้ายวิญญาณและโคมไฟวิญญาณเพื่อแจ้งเตือนฟางกงและคนอื่นๆที่อยู่ข้างนอกงั้นหรือ? เป็นความคิดที่น่ายกย่อง แต่ข้าจะไม่ถูกหลอก

 

ข้าจะดึงดวงวิญญาณของเจ้าออกมาและใช้ดวงวิญญาณแยกของข้ายึดครองร่างกายของเจ้า ร่างกายของเจ้าจะไม่ตายขณะที่ดวงวิญญาณของเจ้าก็ยังอยู่ ดังนั้นป้ายวิญญาณและโคมไฟวิญญาณจะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง” 

 

“จากนี้ไปข้าจะใช้ร่างของเจ้าแทรกซึมเข้าสู่ตระกูลฟาง ข้าจะค้นวิญญาณของเจ้าอย่างหมดจด ข้าจะปล้นประสบการณ์ ความทรงจํา และข้อมูลทั้งหมดของเจ้า”

 

“ฮึ่ม เป็นไปไม่ได้ อย่าแม้แต่จะคิด!” ฟางตี้เฉิงกันเสียงเย็น “เจ้าคิดว่าการแยกดวงวิญญาณไม่สามารถตรวจสอบได้งั้นหรือ? รายละเอียดเกี่ยวกับดวงวิญญาณของข้าถูกบันทึกไว้แล้ว ความแตกต่างที่เกิดขึ้นจะทําให้เจ้าถูกเปิดเผย!”

 

“นอกจากนี้เจ้าก็มีเวลาน้อยเกินไป หากข้าไม่ออกไปในเวลาที่กําหนด ผู้อาวุโสคนอื่นๆจะบุกเข้ามา!”

 

“เมื่อเวลานั้นมาถึงแม้เจ้าจะมีกําลังเสริมจากวังสวรรค์ แต่เจ้าจะทนได้นานเพียงใด? ผู้อาวุโสสูงสุดล่าดับที่หนึ่งฟางกงจะเปลี่ยนเจ้าเป็นเนื้อบด!”

 

“ซวนปู้จิน ร่วมมือกับตระกูลฟางของข้า วังสวรรค์กําลังใช้เจ้าแต่พวกเขาไม่สนใจชีวิตของเจ้า” ฟางตี้เฉิงโจ้มน้าว

 

ฟางหยวนยิ้มและทําให้ใบหน้าของฟางตี้เฉิงกลายเป็นซีดเผือด

 

“ไม่ เจ้าไม่ได้ถูกส่งมาโดยวังสวรรค์!”

 

“เจ้า! เจ้าคือฟางหยวน!”

 

เขาตระหนักถึงเรื่องนี้ในที่สุด

 

ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรมเป็นท่าไม้ตายอมตะของเฉินอี้ขณะที่เฉินอี้ถูกสังหารโดยฟางหยวน เรื่องนี้ ฟางหยวนเป็นคนกระจายข่าวออกไปด้วยตนเอง

 

ฟางหยวนปรบมือ “สมกับเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งปัญญาอย่างแท้จริง”

 

ฟางตี้เฉิงกล่าวอย่างยากลําบาก “ฟางหยวน เราสามารถร่วมมือ ไม่จําเป็นต้องสร้างความขัดแย้ง โปรดเชื่อในความแข็งแกร่งและความจริงใจของตระกูลฟาง อา…”

 

ดวงตาของฟางตี้เฉิงเบิกกว้างขึ้นอย่างกะทันหัน

 

เส้นเลือดปูนโปนขึ้นบนหน้าผากของเขา ใบหน้าของเขากลายเป็นแดงก๋าราวกับเขาถูกมือที่มองไม่เห็นบีบลําคอและปิดจมูก

 

“ฟาง…ฟางหยวน…ทุกอย่าง…สามารถ…พูดคุย…”

 

ฟางหยวนสายศีรษะ “น่าเสียดายที่ปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยิ่งใหญ่ต้องมาตายอยู่ที่นี่ แต่เจ้า…รู้มากเกินไป”

 

“อา…” ร่างของฟางตี้เฉิงกระตุกสองสามครั้งก่อนที่เขาจะตาย