บทที่ 560 ไปหาลู่ทางที่เซี่ยงไฮ้

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม

บทที่ 560 ไปหาลู่ทางที่เซี่ยงไฮ้

จางเหมยเหลียนได้รายได้เท่าไหร่ต่อเดือนสะใภ้จางก็ไม่รู้แน่ชัดนัก หล่อนเคยถามแล้ว แต่จางเหมยเหลียนไม่พูด

ดูจากเมื่อก่อนที่หล่อนขี้งกขนาดนั้นแต่ตอนนี้กลับใจกว้างขนาดนี้ แสดงว่าน่าจะได้กำไรอย่างแน่นอน

หากหล่อนถูกตัดขาดไม่ได้สินค้าขึ้นมา หล่อนได้กลับมาโวยวายที่บ้านอีกแน่ หลังจากนั้นเบี้ยเลี้ยง 20 หยวนต่อเดือนของหล่อนที่จะส่งกลับมาบ้านก็อย่าได้คิดอีกเลย

ดังนั้นการไปแจ้งความว่าหลินชิงเหอมีลูกเกินจำนวนไม่มีตรงไหนเลยที่เป็นประโยชน์กับพวกหล่อน

สะใภ้จางที่มองทุกอย่างตามความเป็นจริงจึงกล่าวเตือนแม่เฒ่าจาง แม่เฒ่าจางโมโหมากแต่เรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับร้านของลูกสาวตัวเอง นางจึงไม่กล้าสร้างเรื่องวุ่นวายเลยแม้แต่น้อย

เมื่อตอนปีใหม่ที่ผ่านมา สวี่เชิ่งเฉียงเจ้าลูกเขยให้อั่งเปานางตั้ง 50 หยวนเชียวนะ!

ตระกูลจางถูกหลินชิงเหอข่มขู่ไปแล้ว แต่หลินชิงเหอก็ยังไม่วางใจ เธอไม่เชื่อคนแบบตระกูลจางเลย ยิ่งมันเกี่ยวข้องกับท้องของเธอที่ก่อนหน้านี้มันยังดูไม่น่าชัดว่าท้องหรือไม่ แต่อีกไม่นานท้องก็จะยิ่งโตอย่างเห็นชัดขึ้นแล้ว

ถึงตอนนั้นก็คงปิดเอาไว้ไม่ไหวแล้ว ดังนั้นพอโจวชิงไป๋กลับมา หลินชิงเหอจึงบอกเรื่องนี้กับเขา

โจวชิงไป๋ใบหน้าดำทะมึนไปครึ่งแถบ

“วันนี้ฉันตกใจแถบแย่ ช่วงนี้หล่อนคงไม่กล้าหาเรื่อง แต่คุณต้องไปที่เซี่ยงไฮ้ก่อนแล้วล่ะคะ” หลินชิงเหอพูด

“พรุ่งนี้ผมขอวางแผนก่อน มะรืนถึงจะไป” โจวชิงไป๋พยักหน้าพูด

เห็นทีเขาต้องไปเซี่ยงไฮ้แล้ว ร้านเกี๊ยวก็คิดว่าจะไม่เปิดแล้ว เพราะโจวเฉวี่ยน โจวกุยหลายทั้งสองคนมีเรียน ไม่มีเวลาว่างกันเลย

แต่คุณป้าหม่าก็เข้ามาถามด้วยความเกรงใจ ว่าสามารถยกร้านเกี๊ยวให้หล่อนไปทำได้ไหม?

“คุณป้าหม่าคะ คุณก็รู้ว่าร้านเกี๊ยวนี้เป็นร้านที่ฉันกับโจวชิงไป๋เปิดฆ่าเวลา” หลินชิงเหอพูด

“ฉันรู้จ๊ะ ว่าแต่พวกเธอไปรอบนี้จะกลับมาอีกทีเมื่อไหร่กันล่ะ ฉันจะได้รู้ว่าต้องคืนร้านนี้ให้พวกเธอตอนไหน เดี๋ยวฉันจะทำให้ต่อเอง ไม่อย่างนั้นช่วงเวลาระหว่างนั้นคงต้องสูญเสียไปเปล่า ๆ แล้ว” คุณป้าหม่าพูด

เนื่องจากนางรู้ดีว่ากิจการร้านเกี๊ยวขายดีมากขนาดไหน หากไม่เปิดร้านเลยมันก็น่าเสียดายไม่ใช่หรือ?

“ผมทำเกี๊ยวไว้แบบไหน คุณป้าหม่าก็ทำแบบเดิมเลยนะครับ” โจวชิงไป๋เอ่ยปากพูด

“แน่นอนอยู่แล้วจ้ะ ต้องไม่ทำให้ร้านเสียชื่อเด็ดขาด!” คุณป้าหม่าพยักหน้าพูด

“ถ้าเป็นคนอื่นฉันคงไม่พอใจหรอกคะ แต่กับคุณป้าหม่าไม่เหมือนกัน ระหว่างที่พวกเราไม่อยู่คงต้องยกร้านเกี๊ยวให้คุณป้าเปิดร้านให้แล้ว ของพวกนี้ใช้ได้เลยนะคะสำหรับบ้านเช่าฉันเก็บแค่ 5 หยวนก็พอค่ะ คุณให้พวกเจ้ารองเอานะคะ” หลินชิงเหอพูด

“เดือนละ 7 หยวนเถอะจ๊ะ” คุณป้าหม่ารีบพูด 5 หยวนนั้นมันถูกเกินไป

“ 5 หยวนค่ะ” หลินชิงเหอพูด “คุณป้าหม่าไม่ต้องเถียงฉันแล้วนะคะ”

“ก็ได้จ๊ะ พวกเธอไปเซี่ยงไฮ้ดูแลตัวเองอย่างสยาบใจเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้”คุณป้าหม่าพูดอย่างเกรงใจ

หลินชิงเหอพยักหน้า

แม้ว่าร้านค้าที่นี่จะมีไม่น้อย แต่หลินชิงเหอกลับไม่เป็นห่วงเลย เจ้ารองและเจ้าสามสามารถควบคุมงานอยู่ อีกทั้งหม่าเฉิงหมินก็เป็นผู้จัดการที่หล่อนปั้นเองกับมือ พนักงานก็ทำงานตามปกติของพวกเขาไม่ได้ขาดเหลืออะไร

ตอนที่โจวเฉวี่ยนกับโจวกุยหลายแล้วก็กังจือกลับมาบ้าน พวกเขาก็เพิ่งได้ยินเรื่องนี้

“ทำไมถึงไปเร็วจังครับ?” โจวกุยหลายขมวดคิ้วแน่น

“ไม่มีทางเลือกจ๊ะ ตระกูลจางที่อยู่ข้างบ้านรู้เรื่องแล้ว คนพวกนั้นปากไม่มีหูรูด ดังนั้นพวกแม่เลยต้องไปกันก่อน” หลินชิงเหอพูด

เรื่องที่แม่เฒ่าจางสงสัยว่าเธอท้องนั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเท่าไหร่ เนื่องจากพวกเขาอยู่อยู่ข้าง ๆ บ้านกันนี้เอง

ว่าไปแล้วทางมหาวิทยาลัยก็ปฏิบัติกับเธออย่างดีเหมือนกัน พวกเขาไม่รู้ว่าเธอท้อง แต่พวกเขาก็ช่วยปกปิดเรื่องที่เธอลาออกเอาไว้ให้ คณบดีถึงกับมาหาหล่อนด้วยตัวเอง แล้วบอกให้เธอพักผ่อนไปก่อน 1 ปี

หลินชิงเหอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขารู้แล้วหรือไม่ หรือรู้แล้วแต่ทำเป็นไม่รู้

ถึงอย่างไรก็ดูเหมือนว่าคณบดีจะรู้เรื่องแล้วจริง ๆ ผู้เฒ่าหวังเคยไปทักทายเขา ดังนั้นบ้านนี้จึงสามารถอยู่ต่อได้ หลินชิงเหอกล่าวว่าลาออกแล้วก็จริง แต่มันก็ไม่ต่างอะไรกับพักงานไปช่วงหนึ่งเท่านั้น

สำหรับเรื่องที่มีลูกเกินจำนวน ขอเพียงไม่เปิดโปงต่อหน้าเขา และเขาก็จะทำเป็นไม่รู้ เป็นแบบนี้แล้วใครจะว่ากล่าวอะไรได้?

พอได้ยินเรื่องชั่ว ๆ ของบ้านตระกูลจาง โจวเฉวี่ยน โจวกุยหลายและกังจือก็โมโหเป็นอย่างมาก

“จะโมโหกันไปทำไม ยังไงก็จะไปอยู่แล้ว เพียงแค่ต้องไปก่อนก็เท่านั้น” หลินชิงเหอพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ต่อไปพวกลูกต้องจัดการเรื่องอาหารการกินกันเองแล้ว ร้านเกี๊ยวแม่ยกให้คุณป้าหม่าทำช่วงสั้น ๆ นี้ พวกลูกก็ไปกินข้าวกับคุณปู่คุณย่าเอานะ”

ตอนนี้ซื่อนีที่อยู่ที่ร้านเกี๊ยวก็ไม่ต้องย้ายห้องแล้ว ให้หล่อนอยู่ที่นี่ต่อไปก็พอ คุณป้าหม่าก็แค่ไม่ต้องขึ้นไปชั้นสอง

“พวกผมที่อยู่ทางนี้ต้องให้แม่เตือนด้วยเหรอ แม่กับพ่อต่างหากที่ไปแล้วพวกผมต้องเป็นห่วงน่ะ” โจวกุยหลายพูด

“พวกเราไม่ทำให้พวกลูกไม่สบายใจหรอก” หลินชิงเหอพูด

หลังประกาศบอกพวกเด็ก ๆ ที่บ้านแล้ว วันถัดมาโจวชิงไป๋ก็ไปบอกกล่าวกับท่านพ่อท่านแม่โจว แล้วก็โจวเสี่ยวเหมยและซูต้าหลิน

ด้านหลินชิงเหอก็มาหาคุณแม่เวิงที่อยู่ทางนี้

“อะไรนะคะ ทำไมไปเซี่ยงไฮ้เร็วขนาดนี้” คุณแม่เวิงพูดอย่างอดไม่อยู่

หลินชิงเหอเคยบอกกับหล่อนว่าจะไปคลอดลูกที่เซี่ยงไฮ้ เรื่องนี้หล่อนทราบดี แต่ไม่คิดว่านี้เพียงไม่กี่เดือนก็จะไปแล้ว?

“ไม่มีทางเลือกค่ะ ถูกเพื่อนบ้านแบบนั้นรู้เข้าแล้ว ฉันทำได้เพียงต้องไปก่อน” หลินชิงเหอพูด

“บ้านนั้นแย่จริง ๆ ถ้าหล่อนกล้าพูดออกไป เธอก็หยุดขายสินค้าให้ลูกสาวหล่อนไปเลย!” คุณแม่เวิงพูด

นางกับหลินชิงเหออยู่ใกล้กันขนาดนี้ หลินชิงเหอย่อมต้องตั้งป้อมป้องกันไว้ก่อนอยู่แล้ว คุณแม่เวิงก็รู้เช่นกันว่าแม่เฒ่าจางคนนั้นมีคุณธรรมเป็นแบบไหน และก็รู้เรื่องที่สวี่เชิ่งเฉียงแต่งงานกับลูกสาวบ้านนั้นด้วย

“เมื่อวานฉันข่มขู่พวกหล่อนไปแบบนี้แหละค่ะ แต่ว่าตอนนี้อายุครรภ์ก็ไม่น้อยแล้ว ไปก่อนล่วงหน้าก็ดีค่ะ” หลินชิงเหอพูด

“ไปที่นั่นไม่มีอะไรที่คุ้นเคยเลยนะทั้งคนทั้งสถานที่” คุณแม่เวิงมุ่นคิ้ว

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ชิงไป๋ก็ไปกับฉันด้วย เขาเตรียมการไว้พร้อมแล้ว ฉันไม่จำเป็นต้องกังวลใจอะไร” หลินชิงเหอพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคง

“ไปเมื่อไหร่กันล่ะ?” คุณแม่เวิงพูด

“พรุ่งนี้ชิงไป๋จะไปก่อนค่ะ รอเขาเตรียมการทุกอย่างเสร็จแล้วค่อยมารับฉันไป” หลินชิงเหอพูด

“แบบนี้ก็ดีค่ะ จะได้ไม่ลำบากเธอด้วย แต่ว่าต้องเลือกสถานที่ดี ๆ ทางที่ดีต้องเลือกที่ใกล้โรงพยาบาลที่สุด”คุณแม่เวิงพูด

“ชิงไป๋ก็พูดแบบนี้ค่ะ” หลินชิงเหอพยักหน้า เธอพูดคุยกับคุณแม่เวิงอีกสักพักก็กลับ

ในบ้านมีโจวเสี่ยวเหมยกำลังนั่งรออยู่ พอหล่อนได้ยินข่าวจากพี่สี่ก็รีบมาที่นี่

“วิ่งมาที่นี่ทำไมกันจ๊ะ” หลินชิงเหอพูด

“ฉันโมโหจะตายแล้วนะ ไอ้คนชั่วที่อยู่ข้างบ้านพี่นั่นน่ะ!” โจวเสี่ยวเหมยพูด

หลินชิงเหอหัวเราะ “พวกเขาไม่ได้พูดอะไรเลย”

“พอคุณแม่รู้ก็โกรธมากเหมือนกัน แม่ด่าสาปส่งพวกหล่อนมากกว่านี้อีกค่ะ” โจวเสี่ยวเหมยพูด

ครั้งนี้ท่านแม่โจวโมโหจริง ๆ ด่าว่าแม่เฒ่าจางว่าไร้ศีลธรรมไม่ใช่คน คำกล่าวที่ว่าญาติข้าง ๆ ยังไม่สู้เพื่อนบ้านเรือนเคียงเสียอีก ได้เพื่อนบ้านแบบนี้ก็ถือว่าซวยแล้วจริง ๆ!

รวมไปถึงเชิ่งเฉียงที่ถูกท่านแม่โจวเหมารวมไปด้วยอีกคน

“ต่อไปเจ้ารองกับเจ้าสามต้องไปกินข้าวกับพวกเธอแล้ว ค่าใช้จ่ายรายเดือนพวกเขาจะดูแลกันเอง” หลินชิงเหอพูด

“ยังจะพูดอยู่อีกเหรอคะ” โจวเสี่ยวเหมยพูด “ไปเซี่ยงไฮ้แล้วพี่สะใภ้สี่ต้องดูแลตัวเองนะคะ พี่ชายสี่ของฉันเฝ้ารอลูกสาวมาตลอด พี่มีอะไรก็ให้เขาทำไปนะคะ อย่าให้ตัวเองต้องเหนื่อยเลย”

…………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

กฎหมายมีลูกคนเดียวแรงมากจริง ๆ ค่ะ ขนาดที่แม่ต้องหนีไปคลอดลูกที่เซี่ยงไฮ้เลย ถ้ายังอยู่ต่อคือเสียค่าปรับมหาศาลหรือโหดขึ้นมาหน่อยก็คือโดนบังคับให้ไปทำแท้งตอนอายุครรภ์น้อย ๆ

ขอให้แม่กับพ่อไปเซี่ยงไฮ้อย่างราบรื่นนะคะ

ไหหม่า(海馬)