บทที่ 906 เพื่อนเก่า

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 906 เพื่อนเก่า
คนที่มาร่วมงานศพเย่ห้าว เป็นผู้ที่ร่ำรวยและน่านับถือ

เย่เซิ่งเทียนขอบคุณคนในครอบครัวทีละคน ขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นว่า เขาเย่เซิ่งเทียน กลับมาแล้ว

“คุณเย่ ขอแสดงความเสียใจด้วย”

คู่สามีภรรยาหยูฝานและเจียงเหมยมาแสดงความเสียใจตรงหน้า เย่เซิ่งเทียนพยักหน้า ถามถึงสุขภาพของคุณท่านหยูและลูกสาวของพวกเขา

ไม่กี่เดือนก่อน หยูฝานและเจียงเหมยไปเมืองเฉียนถัง เป้าหมายเพื่อที่จะไปจัดการกับบริษัทหัวหยวน

แต่ยังไม่ทันได้ลงมือ พ่อของเขาและลูกสาวก็เกิดอุบัติเหตุทางรถ และได้รับการช่วยเหลือจากเย่เซิ่งเทียน

คุณท่านหยูด่าหยูฝานใส่หน้าโครมๆ หยิบไม้เท้ามาทุบตีสองสามที หยูฝานมาขอโทษถึงที่ด้วยตนเอง ทั้งสองฝ่ายถือว่ายิ่งทะเลาะกันก็ยิ่งเข้าใจกัน

หยูฝานกล่าวด้วยความนอบน้อมจริงใจว่า”หายเป็นปกติดีแล้ว คุณเย่ท่านเป็นผู้มีพระคุณของตระกูลหยูและตระกูลเจียงของพวกเรา หากต้องการอะไรคุณสั่งกำชับมาได้เลย”

เย่เซิ่งเทียนพยักหน้า และไปทักทายหลี่อิงหมินผู้นำตระกูลร่วมสมัยแห่งตระกูลหลี่แห่งเกาะดาว รวมถึงไฉหรงผู้นำตระกูลตระกูลไฉแห่งตงต่าว

ตอนนั้น คุณท่านฟางถูกตระกูลโจวฆาตกรรม ฟางหยวนถูกโจวอู่จับตัวไป และเกือบจะขายให้หลี่อิงเจี๋ยท่านปู่รองตระกูลหลี่

ครั้งนั้น เหลิ่งเจว๋ซื่อนำคำบัญชาเจ้าเทพมาเฝ้าระวังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ตกใจสั่นสะท้านไปทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลี่เย่าจู่คุณท่านแห่งตระกูลหลี่หักขาหลี่อิงเจี๋ยลูกชายคนที่สอง พาหลี่อิงหมิงมาขอโทษถึงที่ อธิบายต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวด้วยตัวเอง ถึงจะทำให้เรื่องนั้นสงบลง

เพียงแค่ ฟางหยวนถูกชายชราปริศนาพาตัวไป ตอนนี้ยังคงไม่พบข่าวคราวใดๆ

เย่เซิ่งเทียนก็หมดทางอื่นแล้ว ละอายใจต่อสหายร่วมรบฟางหงปิน

เขาก็กังวลว่า การหายตัวไปของฟางหยวนมีส่วนเกี่ยวข้องกับสรวงสวรรค์หรือตระกูลลี้ลับหรือไม่

ช่วงสองสามเดือนนี้ ยิ่งสัมผัสบางสิ่งมากเท่าไหร่ เย่เซิ่งเทียนก็ยิ่งรู้สึกว่าโลกนี้เต็มไปด้วยความลึกลับ

ดินแดนลึกลับเหล่านั้นที่แต่ละประเทศเคยพบเจอก่อนหน้านี้ ทุกคนต่างก็คิดว่าเป็นซากยุคก่อนประวัติศาสตร์บางส่วน ตอนนี้เย่เซิ่งเทียนไม่คิดเช่นนี้ แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐาน แต่ดินแดนลึกลับเหล่านั้นอาจจะเกี่ยวข้องกับช่วงเวลาของประวัติศาสตร์ลึกลับ

เพียงแค่ช่วงเวลาของประวัติศาสตร์นั้น ทุกคนต่างก็ไม่กล้าแน่ใจ เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไร ช่วงเวลาของประวัติศาสตร์นั้นถูกเรียกว่ายุคแห่งตำนาน

ถ้ายุคของตำนานมีอยู่จริง งั้นเรื่องราวก็ยิ่งซับซ้อนขึ้นแล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรากฏตัวของวิญญาณหอคอย เย่เซิ่งเทียนรู้สึกมากยิ่งขึ้น ยุคของตำนานมีความเป็นไปได้มากว่าจะมีอยู่จริง

เพียงแค่ ตอนนี้มีเรื่องราวมากมายที่ไม่สามารถยืนยันได้ ไม่รู้ว่าวิญญาณหอคอยที่พูดถึงอยู่ในยุคใด มีความแตกต่างกับยุคตำนานที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของประเทศต้าเซี่ยอย่างไรบ้าง

ทางข้อมูลทางฝั่งเหย้ซูหลิงที่ให้มา ก็ไม่ได้ครอบคลุม ยังมีอีกหลายสิ่งที่เป็นการคาดเดา และไม่สามารถตรวจสอบได้

สิ่งเดียวที่รู้ความจริงบางอย่างในตอนนี้ อาจจะมีเพียงแค่ทางฝั่งสรวงสวรรค์เท่านั้น

“คุณเย่ เมื่อก่อนลูกชายฉันไม่เคารพคุณ ได้รับความกรุณาจากคุณผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ได้คิดหยุมหยิม พวกเราตระกูลไฉ รู้สึกซาบซึ้งจนหาที่สุดมิได้”

ไฉหรงผู้นำตระกูลตระกูลไฉแห่งตงต่าวพูดด้วยความเคารพ

ไฉจวิ้นลูกชายของเขา จะต้องล่วงเกินเย่เซิ่งเทียนหลายครั้งแล้ว

ต่อมาไฉจวิ้นเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของเย่จิงหง ได้พบเย่เซิ่งเทียนอีกครั้ง พาผู้แข็งแกร่งสามสี่คนที่บูชาเลี้ยงไว้มาด้วย แม้โอกาสจะตอบโต้กลับก็ไม่มีเลย

ตอนนี้ไฉจวิ้นกลัวจนไม่กล้าออกไปข้างนอกแล้ว

เย่เซิ่งเทียนไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำ เพียงแค่พยักหน้าเท่านั้น

“คุณเย่ ขอแสดงความเสียใจด้วย”

ตระกูลเปาก็มาแล้ว เปาเจิ้นพาลูกชายเปาจี้จู่มาด้วย ผู้ชายวัยกลางคนอื่นคนที่อยู่ข้างๆคือหยางซวนผู้นำตระกูลตระกูลหยาง รวมถึงหยางจิ้งที่มีหน้าตาหล่อเหลาและเก่งวิทยายุทธ์แห่งตระกูลหยาง

เมื่อก่อนคู่ที่ถูกจับคลุมถุงชนกับเปาจี้จู่ ก็คือหยางจิ้งคนนี้เอง

หน้าตาไม่เลวเลย แต่แต่งตัวเป็นทอม ท่าทางการเคลื่อนไหวก็มีกลิ่นอายของทหาร

“พี่เทียน”

เปาจี้จู่เรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง เมื่อเทียบอาการป่วยกับเมื่อหลายเดือนก่อนก็ดีขึ้นเยอะแล้ว

ตอนนั้นเย่เซิ่งเทียนบอกเขาว่าเขาถูกพัวพันไปด้วยเคราะห์ร้าย เพลย์บอยก็ยังไม่เชื่อ

หลังจากนั้นก็เชื่อแล้ว หลังจากกลับบ้านครึ่งปีก็ไม่ได้ออกจากบ้านเลย

ถ้าไม่ใช่เพราะในตอนแรกเย่เซิ่งเทียนกำลังจัดการฮวงจุ้ยมังกรร้ายของตระกูลกู่ ให้เปลี่ยนไปเป็นเคราะห์ร้ายของเปาจี้จู่ ไม่เช่นนั้นเขาก็คงไม่ชีวิตไปตั้งนานแล้ว

แม้จะเป็นเช่นนี้ ก็ถูกทรมานเกือบตาย เกือบจะม่องเท่งแล้ว โชคดีที่เปาเจิ้นรู้จักคนที่มีความสามารถมากมาย จึงทำให้เปาจี้จู่ได้ชีวิตกลับคืนมา

และก็เป็นงานศพของพ่อเย่เซิ่งเทียน เขาจึงมาอย่างฝืนใจ ไม่เช่นนั้นเขาก็ไม่มีทางออกจากบ้าน

เย่เซิ่งเทียนตบไหล่เพลย์บอย แม้ว่าเพลย์บอยเป็นลูกผู้ดี แต่นิสัยก็ไม่ได้แย่เลย

“รอสักประเดี๋ยวฉันจะเอายาให้คุณ”

ได้ยินคำนี้ เปาเจิ้นแอบโล่งใจ

ชีวิตของลูกชายเขา แม้ว่าเย่เซิ่งเทียนจะช่วยกลับมาได้ ถ้าหากเย่เซิ่งเทียนเต็มใจที่จะลงมืออีกครั้ง ลูกชายก็จะไม่เป็นอะไรร้ายแรงแล้ว

“เย่เซิ่งเทียน คุณยังโอเคใช่ไหม?”

กู่ฉิงฉิงมาพร้อมกันกับคุณพ่อกู่เหอ แต่เธอกับหยางจิ้งเป็นเพื่อนสนิทกัน ดังนั้นจึงคลุกคลีอยู่กับหยางจิ้งและเปาจี้จู่

มองเห็นเย่เซิ่งเทียนเหนื่อยทั้งกายและใจ เธอก็รู้สึกปวดใจเล็กน้อย