ตอนที่ 677 ยกมือขึ้น / ตอนที่ 678 เงินทุนอนุมติ

Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ

ตอนที่ 677 ยกมือขึ้น

ณ องค์การอวกาศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน

ภายในห้องประชุม

หน้าจอแสดงหัวข้องานวิจัย

[ความเป็นไปได้ของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ฟิวชั่นและการขับเคลื่อนด้วยเครื่องขับดันพลังไอออนในอวกาศ]

หัวข้อของงานวิจัยเป็นหัวข้อในการประชุมวันนี้

แม้ว่าชื่อเรื่องจะไม่ได้ยาวมาก แต่อัดแน่นไปด้วยข้อมูลเยอะมากจนขนาดที่ว่าการประชุมเริ่มขึ้นตั้งนานแล้วแต่ยังไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลย

ผู้อำนวยการซุนมองคนในห้องประชุม เขาหลับตาวิเคราะห์ และค่อยๆ ลืมตาขึ้นเพื่อพูดทำลายความเงียบ

“วิทยานิพนธ์นี้ถูกเขียนโดยศาสตราจารย์ลู่เมื่อประมาณสองวันที่แล้ว หลังจากที่เราได้รับวิทยานิพนธ์ หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์จีนก็บอกให้ผมอภิปรายเรื่องนี้กับพวกคุณ”

ผู้อำนวยการซุนนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะมั่นใจว่าเขาไม่ลืมรายละเอียดอะไร

“วิทยาพนธ์นี้เกี่ยวข้องกับเรื่องกระสวยอวกาศ ผมอยากได้ยินความเห็นของพวกคุณทุกคน”

ห้องประชุมยังคงเงียบเหมือนเดิม

หลังจากนั้นไม่นาน เสียงก็ค่อยๆ ดังขึ้น

“เฉียนเสวี่ยเซินระงับโปรแกรมกระสวยอวกาศเพราะเหตุผลบางอย่าง…เราควรจะอภิปรายเรื่องนี้กันจริงเหรอ”

“เราจะต้องฟังเฉียนเสวี่ยเซินตลอดไปหรือไง อีกอย่างเรื่องนั้นก็เกิดขึ้นนานมาแล้ว ถ้าร้อยปีที่แล้วมีใครอยากจะสร้างเครื่องบินขึ้นมา คุณคิดว่าจะมีใครเชื่อพวกเขาไหม”

“ผมเห็นด้วยกับศาสตราจารย์หยู ตอนนี้โปรแกรม NASP และโปรแกรมแซงเกอร์ที่เยอรมันกำลังให้ความสนใจกระสวยอวกาศที่สามารถกลับมาใช้ซ้ำได้เพื่อระบบขนส่งไปกลับ ผมมั่นใจว่าอเมริกาสูญเสียโปรแกรมกระสวยอวกาศมากกว่าเรา อย่างไรเสียพวกเขาต้องมีเหตุผลที่จะทำวิจัยกระสวยอวกาศ เพราะฉะนั้นเราจะเพิกเฉยต่อการตัดสินใจของพวกเขาไม่ได้”

ผู้อำนวยการซุนนั่งอยู่ท้ายสุดของโต๊ะประชุม เขาฟังคำอภิปรายอยู่เงียบๆ

แม้ว่าการอภิปรายจะดูยุ่งเหยิง แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น

เพราะในวิทยานิพนธ์ของศาสตราจารย์ลู่มีการกล่าวถึงเทคโนโลยีอ่อนไหว จึงไม่เหมาะสมที่จะจัดการประชุมในที่สาธารณะหรือแม้แต่ประชุมในห้องก็ตาม ข้อมูลที่ถูกส่งไปให้ผู้ร่วมประชุมถูกดัดแปลงแล้ว ตัวอย่างเช่น คำว่า แบตเตอรี่ฟิวชั่นก็จะถูกอธิบายว่าเป็นเทคโนโลยีสมมุติฐานที่ยังไม่สำเร็จ

ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงไม่ให้ความสนใจกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ฟิวชั่นขนาดนั้น

จริงๆ แล้วเคยมีเหตุการณ์คล้ายกันนี้เกิดขึ้นที่ห้องประชุมที่นี่ แต่สมัยนั้นไม่ได้มีเครื่องมือมัลติมีเดียที่ทันสมัยและผู้เข้าร่วมประชุมก็ไม่เหมือนตอนนี้

รองผู้อำนวยการหวังมองไปที่ห้องประชุมที่ดูวุ่นวาย เขาพูดเบาๆ “ผู้อำนวยการครับ”

“มีอะไร”

“การอภิปรายครั้งนี้สำคัญด้วยเหรอครับ”

ผู้อำนวยการซุนเลิกคิ้ว

“หมายความว่าอย่างไร”

รองผู้อำนวยการหวังพูด “เบื้องบนต้องการให้เราจริงจังกับวิทยานิพนธ์ของศาสตราจารย์ลู่ เจตนาของพวกเขาก็ชัดเจนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”

ผู้อำนวยการซุนพูดด้วยสีหน้าที่ว่างเปล่า “อย่างไรเสียเราก็ต้องอภิปรายเรื่องนี้ ถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาดขึ้นมาคุณอยากจะรับผิดชอบไหม”

รองผู้อำนวยการยิ้มและเงียบไป

การอภิปราบเริ่มดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ

ไม่มีใครโน้มน้าวใครได้ทั้งนั้น

ผู้อำนวยการซุนมองนาฬิกาและเห็นว่าจวนจะได้เวลาแล้ว เขากระแอมและพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้น

“เพื่อให้มั่นใจว่าการประชุมในครั้งนี้มีประสิทธิภาพจริงๆ ผมจะอภิปรายถึงข้อมูลที่เป็นความลับ ผมอยากจะมั่นใจว่าทุกคนที่นี่ไม่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และต้องเก็บข้อมูลเหล่านี้เป็นความลับสุดยอด”

ห้องประชุมเริ่มเงียบลง

ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในห้องต่างมองหน้ากัน สีหน้าของพวกเขาดูคิดหนัก

แน่นอนว่าบางคนอาจจะสับสน พวกเขามองผู้อำนวยการซุนด้วยความสงสัย

ผู้อำนวยการซุนไม่อธิบายอะไรต่อ เขามองผู้ช่วยที่นั่งข้างๆ พร้อมพยักหน้า

ผู้ช่วยที่ยืนใกล้ๆ โต๊ะมัลติมีเดียรู้ทันทีว่าต้องทำอะไร เขาใส่แผ่นซีดีเข้าไปในคอมพิวเตอร์ที่อยู่บนโต๊ะและหาวิทยานิพนธ์ในซีดี เนื้อหาข้อมูลบางข้อมูลอ่อนไหวเช่นเดียวกับข้อมูลแบตเตอรี่ฟิวชั่น

ทันทีที่ข้อมูลถูกฉายบนจอ ห้องประชุมเงียบลง

เวลาผ่านไปไม่กี่นาที

อยู่ดีๆ ห้องประชุมก็เกิดความวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง

“100 เมกะวัตต์! เป็นไปไม่ได้”

“ถ้าพลังงานที่ได้สูงถึง 100 เมกะวัตต์ มันก็สามารถผลิตแรงผลักได้หลายกิโลนิวตัน…”

“ตลกสิ้นดี! ถ้าพลังสูงถึง 100 เมกะวัตต์ แปลว่าเครื่องขับดันพลังไอออนสามารถผลิตแรงผลักได้หลายกิโลนิวตันเหรอ”

ตอนนี้เครื่องขับดันพลังไอออนที่มีแรงมากที่สุดในโลกคือระบบนาซาส์เน็กซ์ ที่ผลิตพลังได้มากถึง 6.8 กิโลนิวตัน พร้อมแรกผลักที่ 0.236 นิวตัน

แรงผลักปริมาณหลายพันนิวตัน…

มันจะต้องใช้พลังงานตามเมกะวัตต์ แต่ไม่มีเครื่องขับดันพลังไอออนในโลกที่ไหนที่สามารถใช้พลังงานขนาดนี้ได้

ศาสตราจารย์สูงวัยใส่แว่นจ้องมองข้อมูลบนโปรเจคเตอร์

“เครื่องขับดันพลังไอออนแบบไหนกันที่มีพลังมากขนาดนี้…”

“พวกเขาไม่ได้หลอกเราเพื่อทุนในการทำวิจัยใช่ไหม”

“เป็นไปไม่ได้ ศาสตราจารย์ลู่เป็นคนส่งมาด้วยตัวเอง! คุณคิดว่าเขาไม่มีเงินทุนในการทำวิจัยเหรอ”

“ผมคิดว่าเขาหลอกลวง”

“แต่ถ้าเขาทำได้จริงๆ ล่ะ”

“เงียบ! “

เสียงที่ดังขึ้นหยุดความวุ่นวายทุกอย่างในห้องประชุม

ผู้อำนวยการมองไปที่ผู้เชี่ยวชาญในห้องประชุมและพูด “ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอะไร ผมจึงบอกไม่ได้ว่างานนี้น่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน ผมเคยขึ้นเครื่องมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยขึ้นกระสวยอวกาศเหมือนกัน

 “พวกคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอวกาศ ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี อุตสหกรรมอวกาศของประเทศเราก้าวหน้าขึ้นมากเพราะความช่วยเหลือจากพวกคุณ เราไม่ได้แค่ค้นพบเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ แต่เราประสบผลสำเร็จในหลายๆ ด้านที่ประเทศอื่นไม่กล้าแม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ

เพราะฉะนั้นผมเชื่อในการตัดสินใจของพวกคุณ”

ผู้อำนวยการซุนพูดเพียงแค่ประโยคเดียวเพื่อยุติการโต้แย้ง

“ยกมือขึ้นเพื่อลงคะแนน”

ห้องประชุมเงียบไปสักพัก

ผู้เชี่ยวชาญมองข้อมูลโปรเจกต์อย่างไตร่ตรองและเริ่มพิจารณา

ใครบางคนค่อยๆ ยกมือขึ้นมา

คนที่สอง…

คนที่สาม…

หลังจากนั้นไม่นาน ผู้อำนวยการซุนมองรอบๆ ห้องและเริ่มนับ

คน 11 คนจากทั้งหมด 20 คนยกมือขึ้น

แม้ว่าบางคนไม่อยากลงคะแนน แต่คนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับโปรเจกต์นี้

ผู้อำนวยการซุนมองไปรอบๆ ห้องและพยักหน้า เขายืนขึ้นและกล่าวคำสั้นๆ ได้ใจความ

“โปรเจกต์ได้รับการอนุมัติ!

“การประชุมเสร็จสิ้นแล้ว! “

……………………………………………..

ตอนที่ 678 เงินทุนอนุมติ

กระสวยอวกาศมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน

ตั้งแต่การแข่งขันโปรแกรมอะพอลโลในประเทศสหรัฐอเมริกาช่วงปี 1960 กระสวยอวกาศไร้คนขับได้รับความสนใจในเรื่องของการบำรุงรักษาที่ง่ายและสามารถปล่อยครั้งละหลายๆ ลำ โปรเจกต์กระสวยอวกาศของโซเวียตไล่ตามสหรัฐอเมริกามาติดๆ พวกเขาสามารถปล่อยกระสวยอวกาศทั้งสามลำได้สำเร็จ เช่น สโนว์สตอร์มและลิตเติ้ลเบิร์ด

ประเทศจีนเองก็ไม่อยากล้าหลัง พวกเขาจึงวางแผนขึ้นมาบ้าง

อย่างเช่น โปรเจกต์ 863-204 หรือที่เรียกว่าระบบขนส่งรอบโลก ในช่วงของการประมูลโปรเจกต์ระยะแรก ผู้เชี่ยวชาญด้านอวกาศจีนอภิปรายเรื่องกระสวยอวกาศอย่างจริงจัง คนที่สนับสนุนการสร้างกระสวยอวกาศพากันยกมือ

เมื่อการอภิปรายได้ข้อสรุป รายงานถูกส่งไปให้เฉียนเสวี่ยเซินที่ใกล้เกษียณเต็มที

หลังจากที่เฉียนเสวี่ยเซินได้อ่านรายงาน เขาตอบเพียงแค่บรรทัดเดียว ข้อความนี้เปลี่ยนวิธีทางเทคนิคของกระสวยอวกาศโดยสิ้นเชิง รวมทั้งเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอวกาศของประเทศจีนด้วย

“เป็นความคิดที่แย่มาก”

ถ้าลองมองย้อนกลับมาดู การตัดสินใจถูกต้องอย่างไม่มีข้อสงสัย

จริงๆ แล้วกระสวยอวกาศก็ไม่ได้มีงดงามอย่างที่เห็น ขนาดประเทศมหาอำนาจทั้งสองประเภทยังไม่สามารถเดินทางไปอวกาศได้อย่างง่ายดายดั่งที่พวกเขาฝันเลย

ลองดูสหรัฐอเมริกาเป็นตัวอย่าง กระสวยอวกาศโคลัมเบียถูกออกแบบให้เดินทาง 100 ครั้งในเวลา 20 ปี แต่กระสวยอวกาศที่ถูกส่งออกไป รวมกระสวยอวกาศทั้งห้าลำที่สหรัฐอเมริกาสร้างก็ยังไม่ถึง 100 รอบด้วยซ้ำ ค่าใช้จ่ายและค่าบำรุงรักษาก็มากมายมหาศาล เกินงบประมาณที่พวกเขาตั้งไว้

ส่วนทางด้านโซเวียตยิ่งแย่ไปกว่านั้นอีก พวกเขามีกระสวยอวกาศสามลำ ถูกส่งไปอวกาศเพียงลำละครั้งเท่านั้น หลังจากยุค 90 กระสวยอวกาศก็ไม่สามารถถูกส่งไปยังอวกาศอีกเลย มีหนึ่งลำที่ถูกซื้อโดยพิพิธภัณฑ์ที่เยอรมัน

 แทนที่จะต้องเจอปัญหาแบบเดิมอีกรอบ การทำวิจัยปรับปรุงการส่งจรวดขั้นที่สองน่าจะดีกว่า และค่าใช้จ่ายก็คงพอๆ กับการพัฒนาเทคโนโลยีกระสวยอวกาศ

แต่เวลาก็เปลี่ยนแปลงเสมอ

เมื่อเรามองปัญหาจากมุมมองอื่น ปัญหาทุกปัญหาย่อมมีทางออก

ณ ศูนย์ประกอบกระสวยอวกาศ…

ลู่โจวยืนใกล้ๆ กับหุ่นยนต์อุตสาหกรรมพร้อมถุงมือในมือ เขาหยิบท่อโลหะขนาดเท่าขวดน้ำจากกล่องพลาสติก และวางท่อใกล้ๆ ช่องโลหะ หลังจากนั้นก็เริ่มสังเกตพื้นผิวอย่างละเอียด

“ทำไมผมรู้สึกว่ามันใหญ่เกินไป”

ข้อความเด้งขึ้นบนหน้าจอควบคุมอุปกรณ์เครื่องมือกล

เสี่ยวไอ [ขอโทษค่ะเจ้านาย! นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่เสี่ยวไอทำได้]

ลู่โจว “ไม่เป็นไร ผมไม่โทษคุณหรอก…คุณทำดีแล้ว”

เสี่ยวไอ [จริงเหรอ? 0.0]

“ใช่”

เสี่ยวไอ: [มีความสุข! Φ(≧ω≦*)♪]

ลู่โจว “…”

ในมือของเขามีตัวผลักดันผลกระทบฮอลล์จากเศษซากหมายเลข 3 ในเวอร์ชั่นที่ใหญ่ขึ้น อุปกรณ์ส่วนนี้เป็นขีดจำกัดในการสร้างของเครื่อง CNC แล้ว

ลู่โจวบอกให้เสี่ยวสร้างอุปกรณ์ชิ้นนี้ให้มีขนาดที่เล็กแต่ประสิทธิภาพการทำงานยังเท่าเดิม เส้นผ้าศูนย์กลางของอุปกรณ์ขับเคลื่อนเล็กลงแค่ 1 มิลลิเมตรซึ่งทำให้การทำงานโดยรวมยากขึ้นเป็นทวีคุณ อีกทั้งยังส่งผลต่อความเสถียรของอุปกรณ์ขับเคลื่อนอีกด้วย

แม้ว่าการใช้วิธีวิศวกรรมย้อนกลับกับเทคโนโลยีเศษซากหมายเลข 3 จะเป็นเรื่องยาก แต่การคัดลอกในครั้งนี้ถือว่าออกมาดีทีเดียว

พอร์ตเครื่องยนต์ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.32 เมตรสามารถจุหน่วยขับเคลื่อนฮอลล์ได้ 200 หน่วย พลาสมาพลูมสามารถเพิ่มความเร็วได้ถึงหนึ่งต่อพันความเร็วแสงและฉีดย้อนกลับเนื่องจากการอัดและแก้ไขซีนอนพลาสมาในเครื่องมือวัดปริมาณรังสี ส่งผลให้แรงผลักถึงจุดสูงสุดที่ 200 กิโลนิวตัน

เครื่องยนต์หนึ่งเครื่องมีแรงผลัก 200 กิโลนิวตัน เพราะฉะนั้นเครื่องยนต์ห้าเครื่องก็ต้องมีแรงผลักทั้งหมด 1,000 กิโลนิวตัน

แม้จะมีน้ำหนัก 50 ตัน มันก็สามารถสร้างความเร่งได้ถึง 1G มันอาจจะช้ากว่าจรวดเคมีดั้งเดิมแต่ประโยชน์ของมันคือมันไม่จำเป็นต้องบรรทุกเชื้อเพลิงหนักๆ

ปัญหาเดียวในตอนนี้ก็คือแบตเตอรี่ฟิวชั่น 100 เมกะวัตต์จะต้องเหมาะสมกับตัวผลักดันผลกระทบฮอลล์ชนิด 1X

ถ้าเขาต้องการพลังงานที่ถูกนำมาใช้มากเพียงพอ เขาจะต้องอัปเกรดพลังแบตเตอรี่ฟิวชั่น

“ดูเหมือนว่าเราต้องเพิ่มพลังของแบตเตอรี่ฟิวชั่นเป็น 500 เมกะวัตต์ หรืออาจจะเป็น 1,000 เมกะวัตต์” ลู่โจวมองระบบขับเคลื่อนที่อยู่ในมือและพูด “เรายังต้องพัฒนาระบบการควบคุมพลังงาน มีวิธีการไหนไหมที่จะรวมเครื่องมือวัดปริมาณรังสีกับเครื่องยนต์ห้าตัวหรือไม่ก็ใช้ตัวผลักดันผลกระทบฮอลล์ที่ใหญ่กว่าที่มีแรงขับเคลื่อนมากกว่า”

ลู่โจววางระบบขับเคลื่อนลงในกล่องพลาสติกและเดินออกมาจากโรงงาน เขาไปที่ออฟฟิศหลักของอาคารข้างๆ และพบกับผู้อำนวยการทางด้านเทคนิคของศูนย์ประกอบการกระสวยอวกาศสตาร์สกายเทคโนโลยีโฮ่วกวง

ชายคนนี้ก็เป็นคนบ้าพอๆ กัน

ศาตราจารย์สูงวัยเคยมีส่วนร่วมในโปรเจกต์ 836-204 ตอนนั้นเขาเป็นเพียงนักศึกษาฝึกงานในการออกแบบกระสวยอวกาศแต่เขามีประสบการณ์มากมายในสาขาการบินและอวกาศ เพราะเขาทำงานเป็นศาสตราจารย์สาขาการบินและอวกาศที่มหาวิทยาลัยเป่ยหาง

โดยปกติแล้วการจะจ้างคนที่มีชื่อเสียงขนาดนี้เป็นเรื่องยาก ทันที่ที่ศาสตราจารย์ได้ยินว่าลู่โจวนำทีมสร้างกระสวยอวกาศ เขารีบรับข้อเสนอของสตาร์สกายเทคโนโลยีทันที วันต่อมาเขาก็รีบบินมาที่จินหลิงเลย

เขาทำงานที่นี่ในฐานะผู้อำนวยการทางเทคนิคมากว่าหนึ่งเดือนแล้ว

ลู่โจวรู้สึกพอใจกับงานของเขา

เพราะท้ายที่สุดแล้วกระสวยอวกาศไม่ใช่สิ่งที่ลู่โจวชื่นชอบนัก มันคงจะดีกว่าถ้าเขาให้มืออาชีพเป็นคนจัดการเรื่องนี้

“ผมทำการวิจัยดีไซน์ของกระสวยอวกาศอย่างละเอียด เพราะขนาดของอุปกรณ์จ่ายพลังงาน เครื่องขับดันพลังไอออน ตัวขับเคลื่อน เราจะต้องออกแบบกระสวยอวกาศมากกว่า 40%”

ลู่โจว “มากกว่า 40% หมายความว่าอย่างไร”

โฮ่วกวงคิดครู่หนึ่งก่อนจะตอบอย่างชัดเจน

“เราอาจจะต้องออกแบบใหม่ตั้งแต่ส่วนปีกของเครื่อง”

ลู่โจวพยักหน้า

“ไหนๆ คุณก็เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องกระสวยอวกาศ ผมจะทำตามที่คุณบอกก็แล้วกัน จากประสบการณ์ของคุณ ผมอยากให้คุณช่วยประเมินค่าใช้จ่ายสำหรับโปรเจกต์นี้คร่าวๆ “

โฮ่วกวงคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “ค่าใช้จ่ายคร่าวๆ โดยประมาณอยู่ที่หนึ่งพันล้านเหรียญ แน่นอนว่าก่อนที่การออกแบบใหม่จะออกมา ไม่มีใครรู้ว่ามันจะใช้เงินเท่าไหร่”

 พันล้านดอลลาร์…

สำหรับโปรเจกต์กระสวยอวกาศแล้ว เงินแค่นี้ไม่ได้สูงเลย เพราะอเมริกาเสียค่าใช้จ่ายไปกับกระสวยอวกาศโคลัมเบียมากกว่า 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐและนั่นมันก็ผ่านมาตั้งนานแล้ว การใช้งบประมาณแค่พันล้านเหรียญสหรัฐในการสร้างครั้งนี้ก็เพราะการออกแบบเสร็จสิ้นตั้งแต่ปี 1990 และตอนนี้ศูนย์ประกอบการก็ดำเนินการเรื่องส่วนประกอบส่วนใหญ่ไปแล้ว สิ่งที่พวกเขาต้องการตอนนี้ก็มีแค่วัตถุดิบ

แม้ว่าลู่โจวจะเตรียมตัวที่ต้องจ่ายเงินไว้แล้ว

ค่าใช้จ่ายหนึ่งพันล้านมันเกินงบที่เขาตั้งไว้

ลู่โจวอดไม่ได้ที่จะกังวลเรื่องเงิน

ราควรจะขายหุ้นให้อีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ดีไหม

แม้ว่าจะไม่ใช่บริษัทเอกชน แต่เขาสามารถขายหุ้นได้อย่างง่ายดาย เพราะทุกคนรู้ดีว่าบริษัทฟิวชั่นใหญ่ยักษ์นี่มีประสิทธิภาพมากขนาดไหน อย่างไรก็ตามงานที่ดาย่าเบย์เพิ่งจะเริ่มต้น และกริดไฟฟ้าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็เพิ่งจะอยู่ในขั้นตอนแรก คงน่าเสียดายถ้าต้องขายตอนนี้

เราควรยืมเงินธนาคารไหม

แต่นี่คือโปรเจกต์อวกาศ จะรอผลตอบแทนก็นานเกินไป อีกทั้งยังไม่มีการคาดการณ์ในอนาคตการกู้ยืมจึงเป็นเรื่องยาก

ขณะที่ลู่โจวกำลังกังวลอยู่นั้นเขาได้ยินเสียงเคาะประตู

ลู่โจวมองไปที่ประตูและพูด “เข้ามาได้”

เมื่อประตูเปิดออก เลขาศูนย์ประกอบการยืนอยู่ที่ประตู

เลขาไม่คาดคิดว่าลู่โจวจะมาที่นี่ เธอนิ่งไปครู่หนึ่งและดูประหลาดใจ

“ศาสตราจารย์ลู่! “

ลู่โจวถาม “มีอะไรเหรอ?”

เธอพูดด้วยความตื่นเต้น “กองทุนงานวิจัยที่เราที่ส่งไปให้องค์การอวกาศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนได้รับการอนุมัติ! “

…………………………………..