หวางซีไม่อยากเชื่อฉากที่เห็นตรงหน้า

เย่เซิ่งเทียนเพิ่งสลบไปเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ผมของเขา เป็นหงอกขาวไปหมดแล้ว!

เป็นแบบนี้ได้อย่างไรกัน?

ก่อนหน้านี้ เกิดเรื่องขึ้นกับแม่ เย่เซิ่งเทียนก็ผมหงอกไปคืนหนึ่ง แต่นั่นเป็นจอนผมไม่กี่เส้นที่เป็นผมหงอก

แต่ตอนนี้ ผมหงอกไปทั้งหัว!

“อาจารย์หญิง คุณไม่ต้องกังวล อาจารย์……อาจารย์เขาไม่เป็นอะไรมาก”

เผยชุนชิวน้ำตาหลั่งด้วยความเศร้าสุดขีด ไม่รู้จริงๆว่าควรจะปลอบใจอาจารย์หญิงน้อยอย่างไรดี

โก้วหวยผลักเผยชุนชิวออก ด่าอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “แกพูดไม่เป็นก็หุบปากไป เดิมทีอาจารย์ไม่ได้อาการสาหัส แต่แกพูดซะจนอาการหนักเลย”

ในที่สุดเจียงหมิงเฉิงที่พอพูดแทรกออกมาได้ก็รีบแสดงความคิดเห็นทันทีว่า “ก็จริง อาจารย์หญิง ท่านอาจารย์เขา……”

เขายังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกจั่วอู๋เต้าและหูชิงหนิวปิดปากไว้และลากไปด้านหลัง

หวังหลิงเก็บกดมาตั้งนานแล้ว สุดท้ายอัดอั้นจนพูดออกมาสามคำว่า “ไม่เป็นไร”

โก้วหวยจ้องพวกเขาตาเขม็ง และพูดต่อ “ท่านอาจารย์ผมหงอก หลักๆแล้วเป็นเพราะสองวันนี้เหนื่อยล้าทั้งกายและใจ จนทำให้จิตใจกระทบกระเทือน ส่งผลให้แผลเก่ากำเริบ ดังนั้นจึงผมหงอกเต็มหัว อาจารย์หญิงคุณไม่ต้องเป็นห่วง อาจารย์มีความแข็งแกร่งเหนือคนทั่วไป ใช้เวลาไม่นานก็สามารถฟื้นคืนกลับมาได้ ผมเป็นสีขาว นี่ก็เป็นเพราะพลังงานภายในร่างกายของอาจารย์เกิดการปะทะกัน ซึ่งมันไม่ได้สาหัสเลย”

“ขอบคุณพวกคุณนะ ขอบคุณ”

หวางซีรู้แล้ว ว่าพวกเขาสองสามคนกลัวว่าตัวเองจะไม่สบายใจ จึงปลอบใจตัวเองเช่นนี้

แต่ถึงแม้แผลเก่าจะกำเริบ ทำไมเพียงแค่ 1 ชั่วโมงสั้นๆ ก็ทำให้ผมหงอกเต็มหัวได้ล่ะ?

เธอรู้ นี่คือโรคหัวใจของเย่เซิ่งเทียน ซึ่งไม่มีวิธีรักษาได้

นอกจากช่วยแม่ออกมา ล้างแค้น

การตายของพ่อ เป็นการโจมตีเย่เซิ่งเทียนที่หนักหนาเกินไป

เขานำเรื่องทั้งหมดนี้ โทษใส่ตัวเองทั้งหมด

บรรยายความแห้งเหี่ยว จั่วอู๋เต้าหมอผีที่ดูเหมือนผี พูดด้วยเสียงที่น่าสะพรึงกลัวว่า “อาจารย์หญิง คุณไม่ต้องห่วง มีพวกเราอยู่ อาจารย์ไม่เป็นอะไรหรอก ถึงแม้ว่าจะก้าวไปถึงความตาย พวกเราสามารถดึงกลับมาให้คุณได้ แต่การกระทบกระเทือนจิตใจไม่มียาใดรักษาหายได้ ท่านเป็นกังวลไปก็เท่านั้น ท่านเพียงแค่ดูแลตัวเองกับศิษย์น้องให้ดี อาจารย์จะได้ไม่ต้องเป็นกังวลแล้ว เรื่องที่เหลือ ให้พวกเราจัดการเถอะ”

หวังหลิงอยากจะพูด เขาอัดอั้นจนหน้าดำหน้าแดง ถูกเจียงหมิงเฉิงชิงตัดหน้าเสียก่อนแล้ว “ใช่”

หวังหลิงจ้องเจียงหมิงเฉิงอย่างดุร้าย ถ้าไม่เกรงว่าจะทำให้อาจารย์หญิงตกใจ เขาจะเอาแมลงที่มีพิษในตัวยัดใส่ปากของเจียงหมิงเฉิงแล้ว

มันยากมากสำหรับเขาที่จะพูดคำนั้น คิดไม่ถึงว่าจะถูกเจียงหมิงเฉิงไอ้เวรคนนี้แย่งพูดตัดหน้าไปแล้ว

น่ารังเกียจเสียจริง

“ฉันเข้าใจ ขอบคุณพวกคุณนะคะ ที่ให้ฉันได้อยู่เป็นเพื่อนเซิ่งเทียน ฉันขอขอบคุณพวกคุณแทนเซิ่งเทียนด้วย”

หวางซีโค้งคำนับให้พวกเขา ซึ่งมันทำให้พวกเขาตกใจแทบแย่ โก้วหวยรีบกล่าวว่า “อาจารย์หญิง ท่านอย่าได้เกรงใจเด็ดขาด ถ้าไม่ใช่เพราะอาจารย์ พวกเราเหล่านี้เกรงว่าจะทะเลาะกันเองจนตายแล้ว เป็นเพราะอาจารย์ได้ช่วยสมาคมทางการแพทย์ คนที่ต้องขอบคุณ ควรจะเป็นพวกเราต่างหากที่ต้องขอบคุณอาจารย์”

ผู้คนเหล่านี้รีบแสดงความเคารพคืน

แม้ว่าอายุของพวกเขาเยอะกว่าหวางซีมาก ปกติก็ไม่ค่อยน่าเชื่อถือสักเท่าไหร่

แต่ภายในใจ พวกเขาให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสืบทอดหลักธรรมของอาจารย์

พวกเขาบอกว่าต้องการเคารพเย่เซิ่งเทียนเป็นอาจารย์ นั่นไม่ใช่แค่การพูดเพียงเท่านั้น

“พวกเราออกไปกันเถอะ ให้อาจารย์หญิงได้อยู่กับอาจารย์”

เผยชุนชิวกะพริบตาให้คนเหล่านี้ ตอนนี้ก็มีเพียงแค่อาจารย์หญิงถึงจะสามารถปลอบใจอาจารย์แล้ว

ผู้คนเหล่านี้รีบออกไป และถูกคนกลุ่มหนึ่งล้อมไว้

หวางซีนั่งยอง ๆอยู่ข้างเตียง สัมผัสใบหน้าของเย่เซิ่งเทียนเบาๆ พูดพึมพำกับตัวเองมากมาย

เย่เซิ่งเทียนในขณะนี้ กำลังหลับฝันอยู่

ในความฝัน เขาไม่ใช่เจ้าเทพ และก็ไม่มีสรวงสวรรค์

พ่อแม่ก็ยังอยู่ ไม่เกิดเรื่องแย่ๆอย่างที่เคยเกิดขึ้น

ซือซือร้องไห้ แม่ถือไม้กวาดไล่ตีเขา ด่าเขาเหมือนไม่ใช่ผู้ใหญ่

พ่อเล่านิทานให้ฟัง หัวเราะกับซือซือ

ซือซือร้องเพลงเด็กด้วยเสียงที่หวานไพเราะ

“อา~ทุกคืนจะคิดถึงคำของแม่ น้ำตาวับวาวดั่งดอกหลูปิง ดวงดาวบนฟ้าไม่เอ่ยวาจา ลูกน้อยข้างล่างนี้คิดถึงแม่เหลือเกิน……”

ในอาการสลบไสล น้ำตาร่วงจากหางตาของเย่เซิ่งเทียน