ผู้อาวุโสเผ่าหงส์ที่เป็นคนสร้างค่ายขังมังกรเมื่อรับรู้ได้ถึงฉากนั้น ก็มีสีหน้าตกตะลึงในทันที “สามารถต้านค่ายขังมังกรระดับแปดระดับแปดได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ ไอ้หนุ่มนี่ไม่ธรรมดาเลย”

“เฮอะ ต่อให้ไม่ธรรมดามากเพียงใดก็เป็นแค่คนรุ่นหลัง พวกเราหกคนจะจัดการเขาไม่ได้เลยหรือ?”

ผู้แข็งแกร่งระดับ เจ้ายุทธจักรช่วงกลางของเผ่าหงส์มีท่าทีไม่สนใจ พวกเขาทั้งหกคนต่างมีผลการฝึกตนระดับ เจ้ายุทธจักร อีกทั้งมีสองคนที่เป็น เจ้ายุทธจักรช่วงกลาง แต่หลัวซิวกลับเป็นแค่ผู้น้อยระดับมกุฎยุทธ์เท่านั้น ตรงกลางมีความแตกต่างกันถึงหนึ่งแดนใหญ่

หากพูดแค่ระดับที่บรรลุถึง เจ้ายุทธจักรสามารถฆ่ามกุฎยุทธ์ให้ตายได้อย่างง่ายดายด้วยมือข้างเดียว แต่ก็มีอัจฉริยะหาตัวจับยากบางคนที่สามารถข้ามไปฆ่าหนึ่งแดนใหญ่ได้

ยังไงก็ตาม ด้วยจำนวนหกต่อหนึ่ง หากพวกเขาไม่สามารถจัดการหลัวซิวได้ เจ้ายุทธจักรทั้งหกของเผ่าหงส์ก็จะต้องรู้สึกว่าการฝึกตนนับพันปีของตนนั้นช่างสูญเปล่าจริง ๆ

“ข้าจะไปจัดการเอง!”

ผู้อาวุโส เจ้ายุทธจักรช่วงกลางที่เอ่ยปากพูดเมื่อครู่ก้าวเท้าเดินออกไป เมื่อมาถึงกลางตำหนัก แค่พริบตาเดียวก็เห็นหลัวซิวที่กำลังสาวเท้าเดินเข้ามา

“ไอ้สัตว์เดรัจฉาน คิดจะมาช่วยคนจำต้องผ่านด่านข้าไปก่อน”

ผู้อาวุโสเผ่าหงส์คนนี้หนวดเคราปลิวไสว ด้านหลังปรากฏทะเลเพลิง พลังแห่งกฎเพลิงอัคคีกลายร่างเป็นหงส์ ร่อนลงมาทางหลัวซิว

ในระยะที่ใกล้เช่นนี้ การโจมตีของผู้อาวุโสเผ่าหงส์นั้นกะทันหันอย่างมาก ไม่มีโอกาสให้สามารถหลบได้เลย

หลัวซิวไม่ได้ยอมรับ ยกมือขึ้นปล่อยหมัดออกไป ทักษะการต่อสู้หมัดกระบี่ตกลงบนตัวของหงส์ โจมตีจนแตกออกเป็นผุยผง

ผู้อาวุโสเผ่าหงส์ที่เผชิญหน้าอยู่นั้นหน้าถอดสี กัดฟันแน่ในทันที มือจีบพลังตราประทับ “กระบี่หงส์!”

เพลิงอัคคีด้านหลังของเขา มีเปลวไฟพุ่งออกมา หลอมรวมกันเป็นรูปทรงกระบี่ พร้อมกับเสียงร้องของหงส์ พุ่งตรงไปฆ่าหลัวซิวราวกับเหยี่ยวที่ตกใจ

นี่คือวิชายิ่งเลิศของเผ่าหงส์ พลังอำนาจนั้นแข็งแกร่งมาก ผู้อาวุโสเผ่าหงส์คนนี้ ตั้งแต่ที่ฝึกจนสำเร็จ ไม่ว่าไปที่ใดก็ไม่เคยเสียเปรียบ

“เป็นแค่รูปลักษณ์ดูดี แต่ไร้ประโยชน์!”

หลัวซิวพลิกฝ่ามือ สีทองของมกุฎอัคคีนภาเหลืองปะทุขึ้นมา ดับกระบี่เพลิงอัคคีจนสิ้นแสง เสียงหงส์ร้องเมื่อครู่ก็เงียบไปด้วยเช่นกัน

“เจ้า ……”

ผู้อาวุโสเผ่าหงส์ทั้งโกรธทั้งอาย ตนเป็นถึงผลการฝึกตน เจ้ายุทธจักรช่วงกลาง เพียงแค่ต่อสู้กับมกุฎยุทธ์ตัวเล็ก ๆ แต่กลับโดนอีกฝ่ายทำลายลงได้อย่างง่ายดาย เช่นนี้เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

“นภาเพลิงช่วงโชติ!”

ทะเลเพลิงโหมกระหน่ำออกไป เพลิงอัคคีที่เต็มไปด้วยพลังแห่งกฎที่สามารถเผาพลาญโซนจนไม่เหลือชิ้นดีได้นั้น พุ่งตรงมายังร่างของหลัวซิวอย่างรวดเร็ว

“กล้าเล่นไฟต่อหน้าข้า พวกเจ้าเผ่าหงส์ยังห่างไกลนัก!”

เสียงหัวเราะของหลัวซิวดังออกมาท่ามกลางทะเลเพลิงที่โหมกระหน่ำ เพลิงอัคคีอันไม่มีที่สิ้นสุดอยู่ดี ๆ ก็เริ่มหดเล็กลง ผู้อาวุโสเผ่าหงส์มองด้วยความตกใจถึงขีดสุด เพลิงอัคคีทั้งหมดที่เขาปล่อยออกไปนั้น ได้ถูกหลัวซิวกลืนกินดูดซับเข้าไปในร่างของตนจนหมด ไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยว

“ไอ้แก่ แก่ก็ลองรับมือกับข้าบ้าง”

ปีกเพลิงนิลที่อยู่ด้านหลังสยายออก เพียงพริบตาเดียว หลัวซิวก็พลันปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าผู้อาวุโสเผ่าหงส์ ทักษะการต่อสู้หมัดกระบี่ถูกปล่อยออกไป

ปัง!

ผู้อาวุโสเผ่าหงส์ยกมือขึ้นกำบัง ทันใดนั้นแขนของเขาก็ขาดออกทันที ร่างทั้งร่างลอยกระเด็นออกไป ชนเข้ากับกำแพงหินด้านหนึ่งภายในตำหนักจนแตกกระจาย
“ไม่ได้การ ทุกคนออกมาช่วยกัน!”

พลังที่หลัวซิวเผยให้เห็นนั้นดูเหมือนจะเกินความคาดหมายของเหล่าผู้อาวุโสเผ่าหงส์ แม้แต่ เจ้ายุทธจักรช่วงกลางต่างก็ไม่ใช่คู้ต่อสู้ นั่นทำให้ที่เหลืออีกห้าคนมีสีหน้าตื่นตระหนกอย่างมาก

โซ่เพลิงอัคคีที่ถูกหลัวซิวโจมตีจนแตกสลายไปก่อนหน้านี้ก่อตัวขึ้นใหม่อีกครั้ง ร่างทั้งห้าปรากฏตัวขึ้นกลางตำหนัก โจมตีมายังหลัวซิวเป็นทางเดียว เปลวเพลิงโหมสูงเสียดฟ้า

เพราะเลือดในตัวของเผ่าหงส์ เหมาะสมที่จะฝึกตนกฎเพลิงอัคคีตั้งแต่กำเนิด แต่ในกฎประเภทเดียวกัน มีวิธีการฝึกตนที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นวิธีการโจมตีของเหล่า เจ้ายุทธจักรเผ่าหงส์ จึงได้ละลานตาไปหมด ทำให้คนมองเวียนหัวได้

ปัง!

ออร่ารอบกายหลัวซิวพุ่งสูงขึ้น พลังต่อสู้ทั้งหมดถูกเปิดออก เตาทยานนภามังกรคู่ลอยขึ้นเหนือศีรษะ มังกรเขียวสองตัวพันรอบ ปกป้องรอบกาย ต้านการโจมตี