ตอนที่ 841 ละอองดาว
เจี้ยนเฉิน หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์และเฮยยู่ประหลาดใจกับคำพูดของรุยจินและใช้สัมผัสจดจ่ออยู่กับมันทันที พวกเขาพบว่าพลังงานที่เกิดขึ้นเป็นพลังงานที่เมื่อร้อนจัดและเย็นจัดหลอมรวมกัน เป็นพลังงานที่คล้ายคลึงกับพลังงานบนท้องฟ้าของเกาะ พวกมันดูคล้ายว่าจะเหมือนกัน
“งั้นพลังงานแปลก ๆ บนเกาะคงเกิดขึ้นแบบนี้เองสินะ ทั้งพลังงานร้อนจัดและเย็นจัดจึงดำรงอยู่ได้ในหลุมอุกกาบาตเดียวกัน นอกจากนี้รูปลักษณ์ของหลุมนี่ช่างแปลกพิกลนัก คล้ายกับว่าถูกสร้างจากปล่องของอุกกาบาต การเปลี่ยนแปลงของเกาะเริ่มจากที่นี่จริง ๆ งั้นหรือ” เฮยยู่ได้อนุมานออกมา
“พลังงานทั้งสองไม่สามารถปรากฏออกมาเฉย ๆ ได้ ทุกอย่างล้วนต้องมีต้นตอของมัน” รุยจินกล่าวอย่างเคร่งขรึม ก่อนที่จะค้นหารอบ ๆ เจี้ยนเฉิน หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์และเฮยยู่เองก็เริ่มค้นหาตามก้นหลุม เพื่อหวังว่าจะพบต้นตอของพลังงานทั้งสอง
การปรากฏนี้ช่างคุ้นเคยจริง ๆ แต่ก็ไม่ใช่ในเวลาเดียวกัน … เสียงที่ดูเหมือนดังกังวานของฉิงโซวดังขึ้นในหัวของเจี้ยนเฉิน
ฉิงโซว เจ้ารู้จักพลังงานนี้หรือ? เจี้ยนเฉินสอบถามกับฉิงโซวด้วยความคิด
นายท่าน พวกเราค่อนข้างคุ้นเคยกับพลังงานที่นี่ แต่ไม่ใช่พลังงานแบบนี้ จือหยิงตอบ
ท่าทางครุ่นคิดปรากฏอยู่ในดวงตาของเจี้ยนเฉิน เขาไม่ได้พูดอะไรและยังคงค้นหารอบ ๆ พื้นที่ของเขาแทน หลังจากที่เดินไปหลายร้อยเมตร ฝุ่นที่ระยิบระยับอยู่บนพื้นเล็ก ๆ นั้นก็จับความสนใจของเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินนั่งยองตัวลงแล้วค่อย ๆ หยิบกอบฝุ่นขึ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด หลังจากนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ละอองดาว นี่คือละอองดาว ข้าได้พบมันในที่สุด ข้าไม่เคยคิดว่าละอองดาวนั้นจะมาจากหลุมอุกกาบาต
เขาทอดสายตาออกไป เขาเห็นละอองดาวที่ระยิบระยับกระจัดกระจายอยู่บนพื้นเหมือนเนินทรายบาง ๆ มันครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดเท่าที่ดวงตาของเขามองเห็น
เจี้ยนเฉินไม่ลังเลแต่อย่างใดที่จะกอบละอองดาวขึ้นมา เขารีบหยิบกระเป๋าออกจากแหวนมิติและเริ่มเก็บละอองดาวต่ออีกหนึ่งกำมือ
ในโลกอื่น ละอองดาวถูกเรียกว่าฝุ่นพลังงาน นอกเหนือจากการใช้หลอมกระบี่ม่วงฟ้าแล้ว ยังสามารถรวบรวมพลังงานของโลกได้อีกด้วย มันเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับนักสู้ ถ้าหากมีผู้ใดเก็บละอองดาวไว้ในนิกาย พลังงานโลกของนิกายจะเพิ่มขึ้นอย่างท่วงทีซึ่งจะเพิ่มอัตราการบ่มเพาะของทุกคนที่นั่น จะเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับขุมกำลังใหญ่ในอนาคต
ละอองดาวนี้มีประโยชน์มากสำหรับตระกูลเจียงหยาง ตอนนี้ที่ข้ามาถึงที่นี่ได้เพราะว่าหลังจากผ่านปัญหามากมาย ข้าจำเป็นต้องรวบรวมมันไว้จำนวนมาก เจี้ยนเฉินคิด
นายท่าน ละอองดาวบนพื้นมีคุณภาพไม่ดี อย่าเก็บสิ่งนั้นเลย เก็บฝุ่นละอองดาวที่ลอยอยู่ในอากาศเถิด ทันใดนั้นเสียงของจือหยิงปรากฏตัวในหัวของเจี้ยนเฉิน
อะไรนะ ? ใช้ไม่ได้หรือ ? เจี้ยนเฉินรู้สึกตกใจ เขาเหลือบมองฝุ่นละอองดาวครึ่งกระเป๋าของเขาแล้วมองไปยังแสงระยิบระยับที่ลอยอยู่กลางอากาศราวกับดาวฤกษ์ เขาเห็นว่าทุกแสงที่ระยิบระยับนั้นมีขนาดเท่าเมล็ดข้าวซึ่งใหญ่กว่าเม็ดทรายที่อยู่ตามบนพื้น นอกจากนี้พวกมันยังเรืองแสงที่สุกสกาวมาก พวกมันสวยงามมาก
เจี้ยนเฉินถามออกมาจากความอยากรู้อยากเห็น จือหยิง สิ่งนี้เป็นละอองดาวหรือไม่ ?
ใช่ นายท่าน นอกจากนี้ยังมีฝุ่นละอองดาวที่ลอยอยู่ในท้องฟ้าอีกทั้งยังมีคุณภาพที่สูงกว่า มันดูดีกว่าขยะที่อยู่ตามพื้นขอรับ น้ำเสียงของจือหยิงที่มีความมั่นใจดังขึ้นในหัวของเจี้ยนเฉิน
ชำเหลือบมองไปยังละอองดาวที่อยู่ในกระเป๋าอีกครั้ง เจี้ยนเฉินลังเลเล็กน้อย เขาไม่ได้เทมันออกไป แต่ผูกกระเป๋าแล้ววางลงในแหวนมิติแทน หลังจากนั้นเขาก็หยิบกระเป๋าใบอื่นขึ้นมาเก็บรวบรวมฝุ่นละอองดาวที่ลอยอยู่ในท้องฟ้า
ในขณะที่ละอองดาวในอากาศกระจัดกระจายไปทั่วทำให้เจี้ยนเฉินเก็บรวบรวมได้ช้ามาก เขาต้องคว้าละอองดาวเท่าเมล็ดข้าวด้วยมือของเขาเอง
พวกท่านทุกคนมาตรงนี้เดี๋ยวนี้
ในขณะนั้นเสียงของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ดังมาจากระยะไกล เมื่อได้ยินเสียง เจี้ยนเฉินก็หยุดการรวบรวมของเขาทันทีและบินไปที่ทิศทางของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์อย่างรวดเร็ว
เมื่อเขาไปถึงที่นั่นเขาก็ตระหนักว่ารุยจินและเฮยยู่ก็ได้มาถึงแล้ว ตรงหน้าทั้งสามคนนั้นเป็นซากศพของมนุษย์ที่วางอยู่ พวกเขาไม่รู้ว่ามันมีอยู่ยาวนานแค่ไหนแล้ว แต่รูปลักษณ์ของมันไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
เจี้ยนเฉินตรวจสอบซากศพด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขารู้สึกได้ถึงพลังงานประหลาด ๆ โดยรอบที่มุ่งเข้าหาร่างซากศพอย่างต่อเนื่องและค่อย ๆ หลอมรวมเข้าไปในกระดูกของมัน พลังงานแปลกประหลาดนี้เกิดขึ้นเมื่อพลังงานที่ร้อนจัดและเย็นจัดผสานเข้าด้วยกัน
มันเป็นเซียนผู้คุมกฎ ดูท่าทางเขาน่าจะตายเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว แต่ไร้ร่องรอยที่ร่างจะสลายตัวเลย รุยจินกล่าวเสียงต่ำ
เฮยยู่จ้องไปที่ซากศพด้วยความสนใจ ข้ารู้สึกได้ว่าในตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในร่างกายของมัน มันกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นบางอย่างราวกับซากศพมีชีวิต ดูที่พลังงานแปลก ๆ เหล่านี้สิ มันทำให้ผู้ล่วงลับได้รับร่างกายที่ไม่สามารถเอาชนะได้ และโดยวิธีแปลก ๆ นี้ มันจะทำให้พวกเขาคืนชีพได้อีกครั้ง
ในขณะนั้นเองซากศพบนพื้นดินได้เปิดตาขึ้นโดยไร้ซึ่งสัญญาณใด ๆ ดวงตาของมันหมองคล้ำไม่มีร่องรอยแห่งชีวิต ทันทีที่มันเปิดตาได้เกิดเสียงคำรามที่ดังก้องอยู่ทั่วทั้งหลุม หลังจากนั้นมันพลันลุกขึ้นจากพื้นและเหวี้ยงกำปั้นให้รุยจินที่ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด
ริมฝีปากของรุยจินขดลงอยู่ในรูปของการดูถูกดูแคลน กำปั้นของเขาชนโดนหน้าอกของศพด้วยความเร็วสายฟ้าฟาด พลังงานที่ทรงอนุภาพกระแทกตรงศพ ทำให้ศพสั่นสะเทือนแล้วสลายกลายเป็นฝุ่นผงกระจัดกระจายไปทั่วในอากาศ
อย่างไรก็ตามในตอนที่ฝุ่นกระจัดกระจายจู่ ๆ ก็เริ่มฟื้นฟูกลับมาในกลางอากาศอีกครั้ง หลังจากนั้นสักพักมันก็ได้รวมตัวเข้าสู่รูปลักษณ์เดิม แล้วจู่โจมมายังรุยจิน
รุยจินยังคงไม่เผยสีหน้าใด ๆ เขาจู่โจมด้วยฝ่ามืออีกครั้งหนึ่ง ทำให้ศพกลายเป็นฝุ่น เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นหกครั้งก่อนที่ซากศพจะหมดพลังงานทั้งหมด และไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ มันกลายเป็นกองฝุ่นสีขาวอยู่บนพื้นดิน
ดูเหมือนการเปลี่ยนแปลงของเกาะจะมาจากที่นี่จริง ๆ น่ะ รุยจินกล่าวอย่างเคร่งขรึม ใบหน้าของเขามืดลง เขายืนยันได้แล้วว่าหลุมอุกกาบาตเป็นต้นตอการเปลี่ยนแปลงเกาะนี้
ถ้างั้นคนตระกูลของข้าที่นี่ก็จากไปแล้ว ? ใบหน้าของรุยจินเต็มไปด้วยความเหงา ในโลกใบนี้ ณ วันนี้บางทีเขาอาจเป็นมังกรตัวเดียวที่ยังเหลืออยู่
โฮก !
ในขณะนั้นเองเสียงคำรามของสัตว์ประหลาดทรงพลังดังขึ้นเรื่อย ๆ ผสานกับเสียงฝีเท้ามากมายของซากศพนับไม่ถ้วนกำลังวิ่งออกมาจากทุกทิศทุกทาง ในกลุ่มซากศพจำนวนมหาศาลนั้นมีแม้แต่เซียนราชาขั้นสูงสุดหลายสิบคน
หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์และเจี้ยนเฉินเริ่มเคร่งเครียดขึ้น อย่างไรก็ตามรุยจินและเฮยยู่ยังคงปกติอยู่ พวกเขาสงบและไร้ความกระวนกระวาย
หลังจากนั้นไม่นานมีกลุ่มซากศพหนาแน่นปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาที่หลุมอุกกาบาตซึ่งเป็นที่ตั้งของซากศพมีชีวิต พวกมันถาโถมเข้ามามากขึ้นจนถึงตอนนี้ก็น่าจะมามากกว่ากว่าครึ่งเกาะแล้ว พวกมันทั้งหมดถูกดึงดูดให้มาที่นี่โดยเสียงของซากศพตนแรก
ข้าไม่เคยคิดว่าจะมีจำนวนมากถึงขนาดนี้ ดูเหมือนว่ามีอย่างน้อยหลายพันตัวเลยน่ะ การพยายามที่จะฆ่าสัตว์ประหลาดที่ไม่สามารถเอาชนะได้เหล่านี้ท่าทางน่าเหนื่อยพอดู รุยจิน เจ้าจัดการมันสิ เฮยยู่หันไปกล่าวกับรุยจิน
รุยจินกวาดสายตาไปทั่วบริเวณโดยรอบ การเอาชนะพวกมันต้องโจมตีจนถึงจุดที่ร่างกายของพวกมันไม่สามารถฟื้นฟูได้อีก มันย่อมเหน็ดเหนื่อย ปล่อยให้ข้าจัดการเอง ขณะที่เขาพูด มือของรุยจินได้ทำตราประทับที่แตกต่างกันจากนั้นก็ผลักประทับตราไปด้านหน้าก่อนที่จะตะโกนอย่างดังว่า ทักษะลับของตระกูลมังกร ผนึกโลกา !
พลังงานที่มองไม่เห็นกระจายไปทั่วทุกทิศทางในรูปแบบวงกลมโดยรุยจินเป็นศูนย์กลาง แผ่กระจายไปหลายกิโลเมตรก่อนที่จะค่อย ๆ หายไป ขณะที่มันขยายตัวออกไป ซากศพทั้งหลายที่กำลังวิ่งออกมาจากบริเวณโดยรอบต่างหยุดชะงักงัน และแช่แข็งพวกมันในท่าวิ่ง แม้แต่ศพของเซียนราชาขั้นสูงสุดก็ไม่มีข้อยกเว้น
ในพริบตาสภาพแวดล้อมโดยรอบเงียบกริบ มันเงียบมากจนแม้กระทั่งเข็มตกยังได้ยิน
หัวใจของเจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยความตกใจเมื่อเขาเห็นฉากนี้ เขาได้รับรู้ถึงความน่ากลัวของรุยจินอีกฉากหนึ่งแล้ว
พลังของตราประทับคงอยู่ได้ไม่นานเกิน 1 ชั่วยาม เราควรรีบหาต้นตอพลังงานแปลก ๆ นี้เถิด รุยจินกล่าว
ทั้งสี่คนเดินกระจายกันไปในทิศทางต่าง ๆ ในระยะไกลเพื่อค้นหาต้นตอพลังงานแปลก ๆ เจี้ยนเฉินมีกระเป๋าที่แขวนอยู่ข้างเอว เขาได้รวบรวมฝุ่นละอองดาวไปด้วยขณะที่เดินตามคนอื่น ๆ อีกสามคน มือของเขาขยับไปเรื่อย ๆ เกือบจะกลายเป็นภาพเบลอ ในตอนนี้เขาเก็บรวบรวมละอองดาวบริเวณใกล้ตัวด้วยความเร็วที่น่ากลัวอย่างมาก
หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ได้เล็งเห็นถึงการเก็บรวบรวมฝุ่นละอองดาวของเจี้ยนเฉิน นางพลันจำได้ว่าเจี้ยนเฉินเคยได้ให้หญ้าน้ำลายมังกร 12 ต้นที่มีค่าแก่นางในมิติวัตถุเซียนและหลังจากลังเลใจอยู่ นางก็ได้พูดว่า ให้ข้าช่วยเจ้าเก็บนะ พิณแห่งปีศาจครวญหายไปจากมือของนางและนางก็เริ่มเก็บละอองดาวในอากาศด้วยมือของนาง
ขอบคุณนะ หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างความขอบคุณนาง
หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ไม่ได้พูดอะไรเพื่อตอบ มือของนางกระพริบอย่างรวดเร็วแล้วคว้าละอองดาวรอบ ๆ ตัวก่อนที่จะโยนมันลงในกระเป๋าข้างเอวของเจี้ยนเฉิน
เฮยยู่หันหน้ากลับไปและเห็นการกระทำของพวกเขา เขาหัวเราะเบา ๆ ข้าล่ะสงสัยว่าเมื่อไหร่กันที่พวกเจ้าถึงจะเก็บแสงระยิบระยับทั้งหมดนั้นได้ ถ้าหากพวกเจ้ายังเก็บอยู่เช่นนี้ ตามมาข้า ข้าจักช่วยพวกเจ้าเก็บ ด้วยเหตุนี้เฮยยู่จึงรีบเปิดปากและตะโกนว่า สุญญากาศแห่งจักรวาล ดูดกลืน !
แรงดึงดูดที่ทรงพลังปรากฏขึ้นจากปากของเฮยยู่ในทันที ทำให้เกิดลมกรรโชกแรงเกิดขึ้นในหลุมอุกกาบาตและฝุ่นละอองดาวทั้งหมดที่ลอยอยู่ในอากาศก็ถูกดึงตรงไปข้างหน้าของเฮยยู่ ในไม่กี่วินาทีกลุ่มฝุ่นละอองดาวขนาดใหญ่ได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ขนาดของมันนั้นไม่มากนัก แต่ฝุ่นละอองดาวแต่ละอันอยู่ติดกับฝุ่นอื่น ๆ โดยไม่มีช่องอากาศอยู่ระหว่างมันเลย กลุ่มฝุ่นนั้นมันมีขนาดเท่าลูกบอล
เมื่อเห็นดังนี้ เจี้ยนเฉินก็ถึงกับพูดไม่ออก โดยทักษะสุญญากาศแห่งจักรวาล เฮยยู่ได้ดูดฝุ่นละอองดาวทั้งหมดในรัศมีหลายกิโลเมตร ถ้าหากเขายังเก็บทั้งหมดด้วยมืออยู่ เขาคงกว่าจะเก็บได้อย่างน้อยก็ 1 วัน
ขอบคุณผู้อาวุโส ฟื้นความรู้สึกของเขา เจี้ยนเฉินรีบแสดงความขอบคุณโดยการป้องหมัดในทันที
เฮยยู่ยิ้มละมุน เพียงเรื่องเล็ก ๆ เท่านั้น ง่าย ๆ เพียงแค่ยกนิ้ว แน่นอนว่าถ้าหากเจ้าอยากจะแสดงความขอบคุณ เจ้าควรให้ข้ายืมใช้จิตวิญญาณของวัตถุเซียนบ้างบางครั้ง เมื่อเวลาข้าอยากจะรักษาความบาดเจ็บในอนาคต
แน่นอน ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้เลย ถ้าหากมีเรื่องใดที่ผู้เยาว์สามารถช่วยได้จากจิตวิญญาณของวัตถุเซียน ผู้เยาว์ก็จะรีบช่วยทันทีเลยครับ เจี้ยนเฉินกล่าว เขาก็เข้าใจว่าเฮยยู่คงจะไม่ใช่แค่ขอความช่วยเหลืออย่างเดียว
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็เก็บฝุ่นละอองดาวทั้งหมดที่ถูกเฮยยู่ดูดมา เข้าไปในกระเป๋าอย่างตื่นเต้น หลังจากบรรจุใส่กระเป๋าใบใหญ่ 3 ใบแล้ว ในที่สุดเขาก็มีละอองดาวตุนไว้