ตอนที่ 958 หวุดหวิดรอดตายมาได้หลายหน

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ดวงตาของบรรดาราชทินนามทั้งหลายแดงก่ำขึ้นแล้ว หากเป็นเมื่อครู่ที่ฝ่าบาทบีบบังคับพวกเขาจึงจำเป็นต้องไป ทว่า ตอนนี้กลับเป็นเพราะผลประโยชน์อันยิ่งใหญ่ที่ผลักดันให้พวกเขาไป

มู่เฉียนซีกล่าวถามขึ้น “เจ้าวางแผนจะเดินทางเมื่อไหร่?”

หลงฉือกล่าว “อุโมงค์ฝังศพมังกรจะปรากฏขึ้นนานเพียงใดนั้น ข้าไม่อาจควบคุมได้ แน่นอนว่ายิ่งเร็วก็ยิ่งดี แต่ก่อนไป ข้าต้องมอบของล้ำค่าเพื่อให้พวกเจ้าได้เอาไว้ป้องกันตัวสักเล็กน้อย”

“อาวุธวิญญาณ พวกเจ้าไม่ได้ขาดแคลน ยาวิญญาณรักษาชีวิต พวกเจ้าทุกคนล้วนแต่มีกันแล้วคนละขวด”

ครั้นแล้วหลงฉือจึงมอบยาวิญญาณอันล้ำค่าให้กับพวกเขาหลายขวด เมื่อรวบรวมกำลังคนทั้งสิบสามคนได้แล้วก็ออกเดินทางไปยังอุโมงค์ฝังศพมังกรทันที

การปรากฏของอุโมงค์ฝังศพมังกรนี้ได้ทำให้ผู้คนทั่วทั้งเมืองเฮยตูรู้สึกตกใจ

ผู้ที่อยากรู้อยากเห็นหลาย ๆ คนรีบเดินทางไปยังที่แห่งนั้น บางคนก็พรวดเข้าไปทันที แต่บางคนก็ไม่กล้าเข้าไปลึกมากนัก

ในตอนนี้ ผู้ที่อยู่รอบอุโมงค์ฝังศพมังกรก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นอายอันแข็งแกร่งที่ใกล้เข้ามา

สีหน้าของพวกเขาพลันเปลี่ยนไปมาก “ฝ่าบาทกับเหล่าบรรดาราชทินนามทั้งสิบสองท่านพากันมาแล้ว”

“สิบสามท่าน ท่านราชทินนามโยวก็มาด้วย”

“……”

มู่เฉียนซีเดินมาถึงเขตแดนของอุโมงค์ฝังศพมังกร มันดูเหมือนกับหลุมขนาดใหญ่ที่ถูกหินอุกกาบาตตกลงมากระแทกอย่างไรอย่างนั้น

ส่วนลึกของอุโมงค์ใหญ่นี้มีหมอกหนาสีดำปกคลุมไปทั่วทุกสารทิศ ทำให้มองไม่ออกว่าตกลงแล้วด้านในมีสิ่งใดอยู่กันแน่

หลงฉือกล่าว “เข้าไปเถอะ!”

เขานำเข้าไปก่อน ส่วนคนอื่น ๆ ก็ทยอยตามกันเข้าไป

กู้ไป๋อีกล่าวกับมู่เฉียนซีว่า “ต้องระวังตัวให้มากนะ!”

“อืม แน่นอนอยู่แล้ว!”

ฝ่าบาทกับเหล่าราชทินนามทั้งสิบสามท่านได้เข้าไปแล้ว และแน่นอนว่ามีหลายคนต้องการติดตามเข้าไปด้วยหวังว่าจะโชคดี หากสามารถได้ของดีจากด้านในมาได้ก็นับว่ากำไรไม่น้อยเลย

คนส่วนใหญ่ในเมืองเฮยตูล้วนแต่เป็นผู้ที่ไม่เกรงกลัวต่อความตาย ครั้นแล้วคนจำนวนไม่น้อยก็ได้พรวดตามเข้าไปในอุโมงค์ฝังศพมังกร

ยิ่งพวกเขาเดินเข้าไปลึกมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเข้าใกล้ใจกลางของอุโมงค์ฝังศพมังกรมากขึ้นเท่านั้น หมอกควันหนาทึบได้ปกคลุมพวกเขาทั้งหมดไว้ บนพื้นล้วนแต่เป็นหินสีดำขรุขระวางอยู่เป็นหลุมเป็นบ่อ

หลงฉือกล่าว “หมอกดำนี้มีอากาศที่เป็นพิษรุนแรงมาก เอาเม็ดยาวิญญาณที่ข้าให้พวกเจ้าออกมากินซะ มิเช่นนั้นแล้วพลังขั้นจักรพรรดิของพวกเราก็ไม่อาจต้านทานได้”

เหล่าบรรดาราชทินนามทั้งสิบเอ็ดคนนั้นกลืนเม็ดยาวิญญาณเข้าไปอย่างไร้ซึ่งความสงสัย ส่วนมู่เฉียนซี ทันทีที่เปิดขวดยานั้น นางก็ขมวดคิ้วขึ้นฉับพลัน

ถึงแม้ว่าอากาศพิษรอบ ๆ จะส่งผลกระทบต่อประสาทสัมผัสการรับกลิ่นของนางทำให้รู้สึกเหม็น แต่นางก็ยังสามารถรู้ได้อย่างชัดเจนว่าในเม็ดยาวิญญาณนี้มีพิษอยู่

มู่เฉียนซีไม่ได้แตะต้องยานั้นแต่อย่างใด ส่วนกู้ไป๋อีนั้นแน่นอนว่าไม่กินอยู่แล้ว

หลงฉือกล่าว “เป็นอะไรไปล่ะ หรือกลัวว่าข้าจะทำร้ายพวกเจ้าด้วยเม็ดยาวิญญาณนี้?”

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “ไม่ใช่เช่นนั้นแน่นอน เพียงแต่ว่า ยานี้ดูเหมือนมันจะไม่อร่อยน่ะ ยากที่จะกลืนลงไปได้จริง ๆ”

ราชทินนามเฮยกล่าวเย้ยหยันว่า “ราชทินนามโยวถูกราชทินนามหานตามใจจนเคยตัว จนกลายเป็นคนเย่อหยิ่งเกินไปแล้ว เม็ดยาวิญญาณนี้ข้าว่ารสชาติมันก็อร่อยดี”

มู่เฉียนซีหันไปกล่าวกับกู้ไป๋อีว่า “เสี่ยวไป๋ ท่านป้าผู้นี้เป็นลมบ้าหมูอีกแล้วกระมัง เพื่อให้นางหยุดพูดจาไร้สาระ เช่นนั้นเราก็กินยาเม็ดนี้ไปให้สิ้นเรื่องเถอะ!”

กู้ไป๋อีในตอนนี้นั้น ยาพิษเม็ดนี้ไม่สามารถทำอันใดเขาได้ นางก็เช่นกัน

“อืม!” กู้ไป๋อีพยักหน้าพลางกล่าว

ท่านป้าเหรอ! ได้ยินมู่เฉียนซีเรียกตนเองเช่นนี้สีหน้าของราชทินนามเฮยก็เขียวคล้ำขึ้นมาทันที นางอยากจะจับสาวน้อยผู้นี้ฉีกปากเสียจริง

หลังจากที่ได้กลืนเม็ดยาวิญญาณลงไปแล้ว พวกเขาก็เดินมุ่งหน้าต่อไป

แต่ในขณะที่เดินอยู่นั้น พวกเขาก็พบว่าได้เดินวนอยู่ที่เดิม

“ฝ่าบาท!” คนอื่น ๆ ต่างก็หันไปมองหน้าหลงฉือพร้อมกัน

หลงฉือกล่าว “ที่นี่มีพลังที่แข็งแกร่งมาก มันได้ปิดผนึกมิติบริเวณรอบ ๆ ไว้ พวกเราก็เลยเดินวนอยู่ที่เดิมเช่นนี้”

ราชทินนามเฮยขมวดคิ้วขึ้น “แล้วจะทำเช่นไรกันดี?”

หลงฉือกล่าว “ข้ามีวิธีรับมืออยู่แล้ว!”

เขาเอามีดสีดำเล่มหนึ่งออกมาจากมิติ และกล่าวว่า “มีดเล่มนี้สามารถฉีกมิติให้พวกเราออกไปได้ ทันทีที่ข้าลงมือ พวกเจ้าก็ออกไปทางที่มีรอยแตก”

“ขอรับ!”

หลงฉือรวบรวมพลังวิญญาณของตนเอง และค่อย ๆ ใช้มีดเล่มนั้นฟันเบา ๆ กลางอากาศ จากนั้นรอยแตกก็ได้ปรากฏขึ้น

ขวับ ขวับ ขวับ!

พวกเขาทั้งหมดล้วนแต่รีบพรวดออกไป

เมื่อพวกเขาออกไปได้ ทันใดนั้นเองหมอกดำหนาทึบก็ได้ห่อหุ้มพวกเขาไว้ และมิติก็ถูกเปิดออก

เดิมทีพวกเขาล้วนยืนอยู่ด้วยกัน แต่ตอนนี้ถูกมิตินี้แยกออกพวกเขาออกจากกันแล้ว

ปัง ปัง ปัง!

ร่างหลายร่างได้ตกลงไปในถ้ำภูเขาแห่งหนึ่ง

หลงฉือก็คิดไม่ถึงว่าภายในชั่วพริบตาเดียวคนของตนเองนั้นได้อันตรธานหายไปไม่น้อยแล้ว ราชทินนามซวงกล่าว “ฝ่าบาท!”

หลงฉือกล่าวอย่างจนปัญญา “อุโมงค์ฝังศพมังกรไม่ใช่ที่ที่จะบุกเข้ามาได้ง่าย ๆ จริง ๆ ทั่วทุกหนแห่งล้วนแต่มีกับดักอยู่ ไม่ต้องสนใจคนอื่น พวกเราเดินทางต่อ”

ในตอนนี้กู้ไป๋อีได้มาอยู่ในอีกสถานที่หนึ่งเพียงลำพัง เขาไม่เห็นมู่เฉียนซีแล้ว

สีหน้าของเขาซีดเผือดลง เขากับสาวน้อยถูกแยกออกจากกันแล้ว!

ไม่นานนักเขาก็สบสติอารมณ์ลง เป้าหมายของพวกเขาเป็นสิ่งเดียวกัน นั่นก็คือของล้ำค่าของเผ่ามังกรที่อยู่ในใจกลางของอุโมงค์ฝังศพมังกรแห่งนี้

ตราบใดที่เขาไปถึงสถานที่ใจกลางของอุโมงค์ฝังศพมังกรนี้ได้ ก็จะต้องเจอกับนางแน่นอน

ถึงแม้ว่าจะหวุดหวิดรอดตายมาได้หลายครั้งก็ตาม!

ราชทินนามเฮยที่ตกลงไปอย่างน่าอับอายในตอนนี้ก็ค่อย ๆ ลุกยืนขึ้น นางมองมู่เฉียนซีอย่างเคร่งขรึมและกล่าวว่า “ราชทินนามโยว ช่างบังเอิญยิ่งนัก! รอยแตกของมิตินั้น นึกไม่ถึงเลยว่าจะทำให้เราตกลงมาอยู่ในที่เดียวกัน เจ้าว่า ข้าควรจะทำเช่นไรกับเจ้าดีล่ะ!”

ราชทินนามเฮยคิดจะฉวยโอกาสในตอนที่มู่เฉียนซีกับกู้ไป๋อีแยกออกจากกันนี้ลงมือกับมู่เฉียนซี แต่ไม่ใช่เพียงแค่นางสองคนที่ตกลงมาอยู่ที่สถานที่เดียวกัน

ยังมีราชทินนามอีกสองท่านนั่นก็คือราชทินนามฉื่อและราชทินนามอวิ๋น

ราชทินนามอวิ๋นกล่าว “ราชทินนามเฮย ที่พวกเรามาที่นี่ก็เพื่อตามหาของล้ำค่า เจ้าอย่ามาเสียเวลาเพียงเพราะความแค้นส่วนตัวเลย”

ราชทินนามเฮยก็รู้ดีว่าอุโมงค์ฝังศพมังกรนี้อันตรายมาก หากมาสูญเสียพลังวิญญาณเพราะต้องรับมือกับมู่เฉียนซีที่นี่มันไม่คุ้มเลย อีกทั้งยังทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตรายในดินแดนแห่งนี้อีกด้วย

ราชทินนามเฮยหรี่ตายิ้มพลางกล่าว “ราชทินนามโยว ข้าปล่อยเจ้าไปก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น”

มู่เฉียนซีกล่าวเย้ยหยันว่า “เจ้าคิดว่าข้ากลัวเจ้าอย่างนั้นเหรอ?”

“ตอนนี้พี่ไป๋อีไม่อยู่ เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า” ราชทินนามเฮยกล่าวด้วยความมั่นใจ

มู่เฉียนซีขมวดคิ้วขึ้น บรรยากาศรอบ ๆ ทั่วทั้งอุโมงค์ฝังศพมังกรหดหู่เป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าตอนนี้เสี่ยวไป๋จะเป็นเช่นไรบ้าง

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!

อ๊า!

ทันใดนั้นเอง เลือดสดก็สาดกระเซ็นมาเปื้อนกระโปรงของราชทินนามเฮย

ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บก็คือราชทินนามฉื่อ บนร่างของเขานั้นมีรอยเลือดที่ลึกมากจนเห็นกระดูก และสิ่งที่น่ากลัวไปมากกว่านั้นก็คือ เลือดสีแดงสดของเขายิ่งกลายเป็นสีดำขึ้นเรื่อย ๆ

บริเวณรอบถ้ำภูเขานี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่ เมื่อครู่เป็นสิ่งใดกันที่ลอบโจมตีราชทินนามฉื่อ

พวกเขารวบรวมพลังจิตสำรวจบริเวณรอบ ๆ ส่วนราชทินนามฉื่อก็รีบรักษาบาดแผลของตัวเอง

ฟิ้ว! ทันใดนั้นเอง เสียงตัดผ่านอากาศเสียงหนึ่งดังขึ้น

มู่เฉียนซีรับรู้ได้ถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามา นางตะโกนขึ้นอย่างเย็นชาว่า “โล่วิญญาณน้ำแข็ง!”

ชั้นน้ำแข็งได้ห่อหุ้มพวกเขา และตอนนี้กรงเล็บอันแหลมคมกรงเล็บหนึ่งได้พุ่งตรงไปที่หัวใจของมู่เฉียนซี

ชั้นน้ำแข็งนั้นสำหรับมันแล้วก็เป็นเหมือนกระดาษบาง ๆ แผ่นหนึ่งเท่านั้น และดูเหมือนว่ามันสามารถฉีกออกตอนไหนก็ได้

เมื่อรู้สึกว่ากรงเล็บอันแหลมคมนั้นกำลังใกล้เข้ามาแล้ว มู่เฉียนซีจึงทำได้เพียงแค่เอากระบี่มังกรเพลิงออกมาต้านทาน!

แกร๊ง!

ตูม!

กระบี่มังกรเพลิงต้านทานเจ้านี่ไว้ได้ มู่เฉียนซีถอยหลังไปหลายก้าว

ในที่สุดพวกเขาก็เห็นชัดแล้วว่าสิ่งที่ลอบโจมตีพวกเขานั้นเป็นสิ่งใด มันคือวานรหน้าปีศาจสีดำขลับตัวหนึ่งซึ่งดูแล้วช่างแปลกประหลาดมาก

“มังกรเพลิงสังหาร!” หลังจากที่ต้านทานการโจมตีของวานรหน้าปีศาจได้แล้ว มู่เฉียนซีกวัดแกว่งกระบี่มังกรเพลิงออกมา

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!

แต่ความเร็วของวานรหน้าปีศาจนั้นรวดเร็วมาก การโจมตีของมังกรเพลิงสังหารนี้ไม่ได้ทำให้วานรหน้าปีศาจตัวนี้บาดเจ็บได้เลยแม้แต่น้อย

ราชทินนามฉื่อกับราชทินนามอวิ๋นไม่ได้คิดจะช่วยมู่เฉียนซีเลย สำหรับพวกเขาแล้ว มู่เฉียนซีก็เป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าเท่านั้น ส่วนราชทินนามเฮยตอนนี้ก็รู้สึกดีอกดีใจในความโชคร้ายของมู่เฉียนซียิ่ง แต่นางดีใจได้ไม่นานนัก จู่ ๆ ด้านหลังนางก็มีจิตสังหารอันเย็นยะเยือกแผ่ซ่านมา