อันที่จริงเผยซื่อหาวคิดมากไปแล้ว ที่เฉินโม่ปฏิเสธเขา ไม่ได้มีสาเหตุอื่น ก็แค่ไม่อยากสนใจเขาเท่านั้น
เมื่อประชาชนของประเทศต้าเหอเห็นคนของหัวเซี่ยที่มีเพียงเศษหนึ่งส่วนสิบ กลับกล้าที่จะส่งเสียงแข่งกับพวกเขา ก็เกิดความขุ่นเคืองในทันใด แล้วก็ตะโกนเสียงให้ดังยิ่งกว่าเดิม
ยากิวยิโตะมองไปยังประชาชนที่กำลังตื่นเต้นของประเทศต้าเหอที่อยู่ด้านล่าง กลางสองมือออก แล้วโอบรับความว่างเปล่า “ดูสิ มันก็คือเหตุผลที่ผมต้องยอม!”
“รัฐบาลไม่สามารถสั่งให้ผมทำอะไรฝืนใจผมได้ แต่พรจากผู้คนนับพันนับหมื่นของประเทศต้าเหอ สามารถทำให้ผมทำทุกอย่างเพื่อพวกเขา!”
“ไต้ซือในนิยายมีจอมยุทธของหัวเซี่ยเคยพูดเอาไว้อย่างนี้ วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ เพื่อชาติประชา ผมนั้นชื่นชมมาก และได้เอาคำพูดประโยชน์มาเป็นคติประจำใจ การเป็นนักบู๊ ประโยชน์นี้คือคุณค่าของการดำรงอยู่”
เฉินโม่พูดอย่างราบเรียบ “คุณไม่ใช่ปลา คุณจะรู้ความสุขของปลาได้อย่างไร? (อย่าเอามุมมองของเราไปตัดสินคนอื่น)อย่าเอาพฤติกรรมของตัวเอง ไปเป็นข้อแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น คุณไม่สามารถเป็นตัวแทนของประชาชนที่บริสุทธิ์เหล่านั้นได้ และคุณไม่มีทางเข้าใจความสุขที่เรียบง่ายและเล็กๆได้
“วิถีอันยิ่งใหญ่ในธรรมชาติเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ มันใช่สิ่งที่คนธรรมดาอย่างคุณจะควบคุมได้เหรอ?”
“ลงมือเถอะ ให้ผมได้เห็นพลังที่แท้จริงของคุณด้วย!”
ยากิวยิโตะที่สีหน้าเคร่งขรึม ค่อยๆดึงดาบออกมาจากเอว
เฉินโม่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังอันชั่วร้ายของดาบได้
“ดาบเล่มนี้ เกรงว่าคงเคยปนเปื้อนชีวิตคนนับพัน!” เสียงของเฉินโม่เย็นชาเล็กน้อย จากเดิมที่มีความรู้สึกที่ดีต่อยากิวยิโตะ แต่เพราะการปรากฏตัวของดาบเล่มนี้ ความรู้สึกที่ดีได้หายไปเลย
ยากิวยิโตะใช้มือลูบคมมีดอย่างเบามือ ราวกับว่ากำลังพยุงคนรักตัวเองอยู่ “ใช่ มันมีชื่อว่าดาบปีศาจมุรามาสะ!”
“ที่แท้ก็คือดาบปีศาจเล่มนี้นี่เอง คนที่ใช้ดาบเล่มนี้เป็นอาวุธ จริงๆแล้วล้วนสมควรตาย!” เฉินโม่พูดอย่างเย็นชา
ดาบปีศาจมุรามาสะ มันเป็นดาบสังหารที่มีชื่อเสียงของประเทศต้าเหอ และมันยังเคยปรากฏอยู่ในตำนานของประเทศต้าเหอด้วย
แน่นนอน และดาบเล่มนี้มีเลือดของชาวหัวเซี่ยปนเปื้อนเยอะที่สุด!
“ก็แค่อาวุธ ไม่มีแบ่งแยกความดีกับความชั่ว มันอยู่ที่ใจคน ถ้าใช้อย่างชอบธรรม ก็เป็นคนชอบธรรม แต่ถ้าใช้อย่างชั่วช้า ก็เป็นคนชั่วช้า คุณไม่มีสิทธิ์มาตัดสินมัน!” บนใบหน้าที่ชั่วร้ายของยากิวยิโตะ และแสงสีแดงค่อยๆเต็มดวงตาของเขา
เฉินโม่มองยากิวยิโตะ “คุณถูกวิญญาณดุร้ายเข้าสิงแล้ว คุณยังสามารถรักษาความตั้งใจเดิมได้เหรอ? น่าขำสิ้นดี!”
ยากิวยิโตะสีหน้าดุร้าย “อย่าพูดมากเลย รับดาบของฉัน!”
ยากิวยิโตะตะโกนเสียงดัง และชูดาบปีศาจมุรามาสะด้วยมือทั้งสองข้าง และคมดาบได้เปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด
“อ้า!”
ทันทีที่แทงดาบออกไป ฟ้าดินก็เปลี่ยนสี ลอยไปด้วยควันดำ เหมือนมีหน้าปีศาจปรากฏขึ้นบนดาบเล่มนั้น และกำลังอ้าปากเข้าหาเฉินโม่ เพื่อจะกลืนกินเฉินโม่
ทุกคนที่ด้านล่างของภูเขารู้สึกเย็นยะเยือกราวกับว่าพวกเขาตกลงไปในนรกขุมที่เก้าทันที หนาวจนทำให้ตัวสั่น
“ดาบปีศาจแบบนี้ ไม่ควรที่จะเก็บไว้บนโลกจริงๆ!” เฉินโม่ที่ใบหน้าไร้ความรู้สึก ได้ชกหมัดออกไป
เทรง!
หมัดของเฉินโม่ปะทะกับดาบปีศาจ กลับเกิดเป็นเสียงปะทะกันของทองและเหล็ก
เฉินโม่ถูกแรงดาบทำให้กระเด็นลอยออกไป อย่างไรก็ตามยากิวยิโตะก็สะเทือนจนถอยหลังไปหลายก้าว แต่เฉินโม่กลับลอยออกไป
รอยเลือดสีแดงบนตาของยากิวยิโตะยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรง จากนั้นไม่นาน ดวงตาก็ได้กลายเป็นสีแดงเลือดทั้งหมด
“ถ้าหากนายมีพลังแค่นี้ วันนี้ก็อยู่ที่นี่เถอะ!”
เสียงของยากิวยิโตะดังก้องสะท้อนไปทั่วฟ้า
อีกอย่าง ยากิวยิโตะไม่ได้ไล่ไปโจมตี แถมยังเก็บดาบเข้าไปในปลอก มือข้างหนึ่งได้กดไว้ตรงด้ามดาบ ท่าทางแปลกประหลาด
เฉินโม่มองยากิวยิโตะที่จู่ๆก็ทำท่าแปลกประหลาด จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขารู้สึกได้ว่าชี่ฟ้าดินคลุ้งคลั่งขึ้นมาในทันที และกำลังพุ่งเข้าหายากิวยิโตะอย่างรวดเร็ว
“เตรียมพร้อมจู่โจม!”
สีหน้าของเฉินโม่เคร่งขรึม มองยากิวยิโตะที่คุกเข่าอยู่ข้างเดียว มือเตรียมพร้อมในท่าชักดาบ
“คิดไม่ถึง คุณเข้าใจพลังสรรพสิ่งแล้ว!” เฉินโม่ตกใจเล็กน้อย