บทที่ 737 คนขี้หึงเอาอีกแล้ว

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 737 คนขี้หึงเอาอีกแล้ว
“คุณเป็นหมอที่แสนรักพามาใช่ไหม”

ในขณะเดียวกัน ม็อกโกที่เข้ามาก็กำลังวัดดูหญิงสาวที่มาปรากฏอยู่เบื้องหน้าอย่างกะทันหันนี้ เมื่อเห็นว่าเธอสวมใส่ถุงมือปลอดเชื้ออยู่ อีกทั้งดวงตาสุกใสทั้งสองข้างก็มองมาที่เขาอย่างสงสัย เขาจึงทายสถานะของเธอออกมา

ที่เดอะวิวซีนี้ ไม่มีใครไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร

เส้นหมี่จึงพยักหน้า:“ใช่ค่ะ ขอโทษนะคะคุณคือ?”

ม็อกโกจึงแนะนำตัวเองออกมา:“ม็อกโก พี่ชายของแสนรัก”

เส้นหมี่:“……”

ทันใดเบิกตาทั้งสองกว้างขึ้นมา มองไปที่คนคนนี้ที่ได้ยินมาแล้วหลายครั้ง แต่เวลานี้ถือว่าได้พบตัวจริงแล้ว เซอร์ไพรส์เป็นอย่างมาก!

ที่แท้ เขาก็คือม็อกโก!

สำหรับม็อกโกคนนี้ ภายในใจของเส้นหมี่มีความซับซ้อนอยู่ เธอรู้จักมาตลอด เขาเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของแสนรัก แต่ว่า เธอก็รู้ว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของตระกูลพวกเขา ทั้งหมดนี้ ก็เพราะคนคนนี้ที่เป็นต้นเหตุในตอนนั้นไม่ใช่เหรอ

ถ้าตอนนั้นเขาไม่บังคับพาตัวภารานินไป ก็เป็นไปได้ว่าภารานินอาจจะยังไม่ตาย

ถ้าภารานินไม่ตาย งั้นแสนรักก็จะไม่ทำอะไรสุดโต่งแบบนี้ เขาเป็นคนที่ฉลาดคนหนึ่ง ถ้าไม่ถูกความเคียดแค้นเข้าครอบงำละก็ เขาไม่มีทางเลือกวิธีที่โหดร้ายแบบนั้นมาทำลายคนบ้าคลั่งอย่างวุฒิพลคนนั้นลงไปด้วยกัน

แววตาของเส้นหมี่เย็นชาลงแล้ว

“ที่แท้เป็นคุณชายใหญ่นี่เอง ขอโทษด้วยนะคะ ฉันพึ่งจะมีที่นี่ จึงไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร”

“……”

ม็อกโกขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย

เขารู้สึกว่าหมอสาวคนนี้เย็นชาขึ้นมาอย่างกะทันหัน ภายในใจรู้สึกไม่ค่อยดีขึ้นมา

แต่ว่า ด้วยการถูกอบรมมาอย่างผู้ดี ทำให้เขาต้องเก็บเอาไว้และถามออกไปต่อ:“ไม่เป็นไร ใช่แล้ว คุณทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ แสนรักล่ะ”

“เขาอยู่ที่ตึกใหญ่ทางด้านโน้น ฉันมาจัดการห้องรักษา……หลังจากนั้น ที่นี่ของพวกคุณกว้างใหญ่เหลือเกิน ฉันเดินวนจนมึนไปหมดแล้ว หาทางกลับไม่เจอค่ะ”

เส้นหมี่รู้สึกเขินอายขึ้นมาเกาหัวเบาๆ

ความลำบากใจในก่อนหน้านี้ เรื่องอื่นอย่าพึ่งสนใจก่อน จัดการให้เสร็จก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที

ม็อกโกได้ยินแล้ว ปรากฏว่าหางตากระตุกขึ้นมา!

หลงทาง?

โตขนาดนี้แล้ว ยังหลงทางได้?

เขารู้สึกว่าทำหน้าไม่ถูกขึ้นมา เพราะว่าเดอะวิวซีที่นี่นั้น แม้ว่าจะค่อนข้างกว้าง แต่เรื่องหลงทางเรื่องนี้ อย่างน้อย ลูกชายที่พึ่งจะเจ็ดขวบของคุณสี่ของตระกูลเทวเทพมาที่นี่ ก็ยังไม่เคยหลงทาง

ม็อกโกกลั้นยิ้มเอาไว้ ได้เพียงแต่พยักหน้า:“ใช่ครับ เดิมทีที่นี่เป็นสถานที่ที่ใช้ต้อนรับเหล่าทหารที่มาจากที่อื่น อาจจะกว้างใหญ่ไปสักหน่อย งั้นคุณเดินมากับผมเถอะ ผมจะพาคุณกลับไปเอง”

“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”

ในที่สุดเส้นหมี่ก็ถอนหายใจออกมายาวๆ

ตอนนี้ ทั้งสองเดินมาในเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตก พูดคุยกันบ้างเป็นช่วงๆอย่างไม่ได้ตั้งใจนัก กลับไปยังตึกใหญ่ด้านโน้นด้วยกัน

“ที่แท้คุณหมอสวยใสเป็นนักเรียนของผู้อำนวยการไพบูลย์นี่เอง ผมถึงว่าทำไมถึงได้ถูกส่งตัวมาให้ดูแลแสนรัก”

“ค่ะ ฉันเรียนแพทย์แผนจีน สามารถช่วยเขาได้”

เส้นหมี่จึงพูดออกมาหนึ่งประโยค

ใครจะไปคิดว่า คำพูดนี้พูดออกมา ชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้างของเธอก็หันมามอง :“คุณเป็นแพทย์แผนจีน”

เส้นหมี่พยักหน้า:“ใช่ค่ะ ทำไมเหรอคะ”

ดวงตาของเธอก็มองมาเช่นกัน มองมาที่เขาอย่างไม่เข้าใจ

แต่ว่าในวินาทีที่ทั้งสองได้สบตากัน แววตาของคนคนนี้ก็ได้เบนกลับไป หลังจากนั้น มองเห็นเพียงความเจ็บปวดและความเศร้าซึมที่สะท้อนออกมาจากนัยน์ตาทั้งสองข้างของเขา

สีหน้าของเขา เปลี่ยนเป็นโดดเดี่ยวเดียวดาย

“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมแค่นึกถึงคนคนหนึ่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน เธอก็มีความสามารถด้านนี้”

“งั้นหรือ ใครเหรอคะ”

“ก็คือ…..ภรรยาของน้องชาย”น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนเป็นหดหู่เป็นอย่างมาก อีกทั้งในตอนที่พูดสองคำสุดท้ายออกมา รู้สึกได้ทันทีว่า เขาไม่อยากจะพูดต่อไปอีก

ทันใดเส้นหมี่ก็รู้สึกอึ้ง!

ที่เขานึกถึงนั้น กลับเป็นเธอ?

ทำไมถึงได้นึกถึงเธอขึ้นมาอย่างกะทันหัน เธอไม่เคยเจอเขามาก่อน

เส้นหมี่ไม่เข้าใจ

แต่เธอรับรู้ได้ว่าคนคนนี้ที่อยู่เบื้องหน้า หลังจากที่ตระกูลพวกเขาเกิดเรื่องขึ้น ได้ยินกับหูตัวเองว่าเส้นหมี่ตายอยู่ที่ทางด่วนสายนั้น เห็นกับตาตัวเองว่าแสนรักเปลี่ยนไปเป็นอีกคน ครึ่งปีมานี้เขาผ่านมาได้อย่างไร?

เป็นไปได้ว่า เธอเข้าใจแล้ว

ใช่แล้ว ม็อกโก เดิมทีเขาไม่ใช่คนที่ชั่วร้ายอะไร

ในตอนที่แสนรักมีสติดีเคยพูดว่า ความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาเคยทำ ก็คือไม่ได้ใช้ชีวิตเป็นของตัวเอง แต่เป็นกลายเป็นสินค้าที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนของตระกูลเทวเทพ !

ทั้งสองกลับมายังตึกใหญ่

“แสนรัก ในที่สุดคุณก็ออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง”เมื่อเข้ามา ม็อกโกเห็นว่าแสนรักกำลังวาดรูปอยู่ในห้องรับแขก เขาจึงเดินเข้ามาอย่างดีใจ

เส้นหมี่ก็เดินตามเข้ามาแล้ว

แต่แสนรักไม่ได้สนใจม็อกโก เขาเหมือนกับว่ามองไม่เห็นเขายังไงอย่างงั้น นั่งอยู่บนวีลแชร์อย่างเย็นชา ถือดินสอวาดภาพที่กระดานวาดภาพต่อ

ม็อกโก:“……”

เส้นหมี่ได้เห็นแล้ว จึงรินน้ำเข้ามาแก้วหนึ่ง:“คุณชายม็อกโก ดื่มน้ำสักหน่อย คุณไม่ต้องสนใจเขา ในตอนนี้ถ้าเขาได้ทำอะไรบางอย่างอยู่ ปกติแล้วจะไม่ชอบให้ใครเข้ามารบกวน”

ม็อกโกจึงพยักหน้า รับน้ำแก้วนั้นมา

“แกร๊ง——”

ทันใดนั้น ดินสอแท่งนั้นก็ลอยมา ม็อกโกยังไม่ทันได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ น้ำแก้วนั้นที่อยู่ในมือเขาก็ได้คว่ำไปแล้ว

นี่เป็นจังหวะแบบไหนกัน?

มองดูเศษแก้วกับน้ำที่หกลงพื้นเต็มไปหมด ทั้งสองต่างตกใจขึ้นมา มองมาระหว่างกัน