บทที่ 1875 เพิกเฉยต่อภาพรวม

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1875 เพิกเฉยต่อภาพรวม

 

การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป นางบําเรอรัตติกาลเปลี่ยนร่างเป็นบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงและสังหารผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์เว่ยเฟิงทันที

 

บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงผู้นี้โบกมือซ้ายและส่งผู้อมตะหญิงที่หมดสติเข้าไปในมิติช่องว่างของเขา

 

ขณะเดียวกันมือขวาของเขายังจับศีรษะของเว่ยเฟิงเอาไว้และบีบมันจนระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

“นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับพวกเจ้าทุกคน!” บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงกล่าวด้วยใบหน้าชั่วร้าย

 

เขาสามารถอดทนและรอคอยจังหวะที่เหมาะสมเพื่อวางกับดักนี้ นี่ท่าให้เว่ยเฟิงต้องจ่ายด้วยชีวิตของเขา

 

น่าเสียดายที่ฟางหยวนไม่ตะครุบเหยื่อ” บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงรู้สึกเสียดายเล็กน้อย

 

ฟางหยวนเจ้าเล่ห์และระวังตัวเกินไป เขาไม่เปิดโอกาสให้บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย

 

สามผู้อมตะของวังสวรรค์ทั้งโกรธและตกใจ

 

เว่ยเฟิงเสียชีวิตต่อหน้าพวกเขา ขณะที่พวกเขาอาจมีจุดจบที่ไม่ดีเช่นกัน

 

ฟางหยวนนําเรือรบหมื่นปีถอยห่างออกจากบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงอย่างเงียบๆ เขาขุนงง “เกิดสิ่งใดขึ้น?”

 

นางบําเรอรัตติกาลที่กลายร่างเป็นบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงเย้ยหยัน “ไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นคนกําเนิดใหม่งั้นหรือ? เหตุใดเจ้าไม่รู้?”

 

“บรรพชนพันเปลี่ยนแปลง ท่านคิดมากเกินไป” ฟางหยวนหัวเราะ “หากข้าสามารถล่วงรู้ความลับทั้งหมดของโลกใบนี้ ข้าคงกลายเป็นผู้อมตะระดับเก่าไปแล้ว”

 

หลังจากนั้นเขายังยกย่อง “บรรพชนพันเปลี่ยนแปลง วิธีการของท่านไม่ธรรมดาจริงๆ มันคู่ควรกับเป็นมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่ง ท่านสามารถสังหารผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์ได้ในครั้งเดียว ท่านมีความสามารถจริงๆ ผู้เยาว์ผู้นี้รู้สึกชื่นชมนัก”

แต่ในใจเขาคิด บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงคนก่อนหน้าน่าจะถูกสร้างขึ้นจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังหมื่น รูปปั้นบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงตัวจริงควรเป็นนางบําเรอรัตติกาล ด้านหนึ่งเขาต้องการปกป้องเหล่านางสนมเอกด้านเขาใช้มันเป็นเหยื่อล่อเพื่อกําจัดศัตรู

 

ในชีวิตห้าร้อยปีของฟางหยวน วังหมื่นรูปปั้นแสดงพลังอํานาจของมันออกมาในสงครามหาภูมิภาค ฟางหยวนรู้ความลับของมันอย่างชัดเจน

 

วังหมื่นรูปปั้นสามารถเปลี่ยนตัวมันเองให้เป็นบางคน มันยังสามารถเลียนแบบวิธีการทั้งหมดของเป้าหมาย

 

แม้ฟางหยวนจะรู้เรื่องนี้ แต่เขาแสร้งทําเป็นไม่รู้

 

“ร่างใดคือร่างจริงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง!” ซ่งเย่หวังตะโกน

 

“ข้าสามารถบอกเจ้า ข้าคือบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงตัวจริง เขาเป็นพี่ชายฝาแฝดของข้า บรรพชนหมื่นเปลี่ยนแปลง” บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงกล่าว

 

วังหมื่นรูปปั้นในร่างบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงพยักหน้าเบาๆ “วังสวรรค์ของพวกเจ้าคาดไม่ถึงใช่หรือไม่? พวกเจ้าซุ่มโจมตีน้องชายของข้าแต่ไม่คิดว่าจะพบกับสองผู้อมตะระดับแปด ข้าบ่มเพาะอย่างสันโดษมาตลอดชีวิต น่าเสียดายที่ความลับนี้ถูกเปิดเผยแล้ว แต่มันก็คุ้มค่าที่สามารถแลกมาด้วยชีวิตของผู้อมตะระดับแปด”

 

สามผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์มองหน้ากัน ไม่ว่าบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงจะพูดความจริงหรือไม่ สถานการณ์ของพวกเขาก็เปลี่ยนแปลงไปแล้ว

 

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนกับบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงต่อสู้กับสิ่ผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์

 

ตอนนี้เว่ยเฟิงเสียชีวิตไปแล้ว ขณะที่บรรพชนหมื่นเปลี่ยนแปลงปรากฏตัวขึ้น ฝ่ายหนึ่งสูญเสีย ฝ่ายหนึ่งได้รับ มันกลายเป็นการต่อสู้สามต่อสาม

 

หว่านชื่อหงหัวเราะ “หากข้าเป็นหนึ่งในพวกเจ้า ข้าจะให้อีกคนซ่อนตัวอยู่ด้านนอกและช่วยเหลือกัน แต่ตอนนี้พวกเจ้าทั้งสองติดอยู่ในกับดัก ทะเลทรายหมื่นรูปปั้นถูกทิ้งร้างไว้โดยไม่มีคนดูแลผู้อมตะของวังสวรรค์จะไปที่นั่น อา…ถูกต้อง ข้าสงสัยว่าเจ้านวังหมื่นรูปปั้นมาด้วยหรือไม่? มันคงน่าเสียดายหากเจ้าทิ้งมันไว้ที่ทะเลทรายหมื่นรูปปั้น”

 

ค่ากล่าวของหว่านหงซื่อเป็นการคุกคามและเป็นการตรวจสอบ

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนรู้เรื่องนี้ บรรพชนหมื่นเปลี่ยนแปลงถูกสร้างขึ้นจากวังหมื่นรูปปั้น แล้วมันจะไม่อยู่ที่นี่ได้อย่างไร

 

แม้วังสวรรค์จะส่งผู้อมตะไปยังทะเลทรายหมื่นรูปปั้น พวกเขาก็จะไม่ได้รับสิ่งใด

 

แต่การแสดงออกของบรรพชนพันเปลี่ยนกลับเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาตะโกน “วังสวรรค์ของเจ้ายังกล่าเรียกตนเองว่าผู้นําของมนุษยชาตและเป็นฝ่ายธรรมะอีกงั้นหรือ? การกระทําของพวกเจ้าชั่วร้ายยิ่งกว่าปีศาจ!”

 

กระทั่งฟางหยวนก็ยังต้องยกย่องทักษะการแสดงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง

 

บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงไม่สามารถปกปิดความจริงได้นานนัก แม้เทพธิดาจอเว่ยจะไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่นางจะสามารถสรุปความจริงได้ในไม่ช้า

 

วังสวรรค์ยังมีท่าไม้ตายอมตะพลิกคว่าสวรรค์พิภพ พวกเขายังเป็นฝ่ายได้เปรียบ

 

หว่านชื่อหงกล่าว “ข้าจะเป็นคนโจมตีหลักในการต่อสู้ครั้งนี้ พวกเจ้าทั้งสองคอยสนับสนุนข้า”

 

นางออกคําสั่งองค์ชายฟงเซียนและซิงเย่หว่าน

 

หว่านชื่อหงมีความอาวุโสมากที่สุด นอกจากนั้นนางยังแข็งแกร่งที่สุดเช่นกัน

 

ท่าไม้ตายอมตะกลีบดอกไม้สีเลือด

 

หว่านชื่อหงเริ่มโจมตี

 

เลือดไหลออกมาจากร่างของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงและกลายเป็นกลีบดอกไม้สีเลือดจํานวนนับไม่ถ้วน

 

บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงบินออกจากค่ายกลวิญญาณอมตะเพื่อตอบโต้

 

บรรพชนหมื่นเปลี่ยนแปลงไม่ได้ติดตามไปแต่อยู่ปกป้องค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

หว่านชื่อฟงล่าถอยอย่างช้าๆขณะที่องค์ชายฟงเซียนและซิงเย่หวังบินออกไปปิดกั้นบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง

 

หว่านซื้อหงเย้ยหยันและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะเหี่ยวแห้งอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยง

 

กลีบดอกไม้ร่วงหล่นลงจากอากาศและทําลายการโจมตีของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง

 

“บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงรับความตาย!” หว่านชื่อหงชี้นิ้วออกไป

 

ท่าไม้ตายอมตะดอกไม้สีเหลืองทําให้ชีวิตจบสิ้น!

 

การแสดงออกของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงเปลี่ยนไป ร่างกายของเขาเริ่มชุดผอม อายุขัยของเขาลดลงอย่างรวดเร็ว

 

ท่าไม้ตายอมตะดอกไม้สีเหลืองทําให้ชีวิตจบสิ้นเป็นไพ่ตายของหว่านชื่อหง แม้มันจะเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งไม้แต่มันส่งผลกระทบต่ออายุขัย

 

บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงถูกบังคับให้ล่าถอย

 

ซึ่งเย่หวังกับองค์ชายฟงเซียนไล่ล่า บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงต้องใช้วังหมื่นรูปปั้นรับมือศัตรูอย่างไม่มีทางเลือก

 

บรรพชนหมื่นเปลี่ยนแปลงเข้ามาช่วย

 

หว่านชื่อฟงใช้ท่าไม้ตายอมตะดอกไม้สีเลืองทําให้ชีวิตจบสิ้นอีกครั้ง

 

ร่างกายของบรรพชนหมื่นเปลี่ยนแปลงซูดผอมลง แต่มันถูกสร้างขึ้นจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะ มันไม่มีอายุขัย

 

แม้บรรพชนหมื่นเปลี่ยนแปลงจะสูญเสียพละกําลังและอยู่ในสภาพที่น่าสังเวชแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่

 

อย่างไรก็ตามบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงกําลังพบปัญหา เขาไม่สามารถทําลายท่าไม้ตายนี้

 

ท่าไม้ตายของหว่านชื่อหงน่ากลัวเกินไป สิ่งนี้ทําให้นางสามารถเข้าร่วมกับวังสวรรค์แม้นางจะเคยเป็นปีศาจอมตะมาก่อนก็ตาม

 

ในชีวิตก่อนหน้าหว่านชื่อหงขาดวิญญาณอมตะ ดังนั้นนางจึงไม่สามารถปลดปล่อยความสามารถที่แท้จริงออกมา

 

อย่างไรก็ตามแม้หว่านชื่อหงจะสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะดอกไม้สีเหลืองทําให้ชีวิตจบสิ้นแต่ใบหน้าของนางยังกลายเป็นซีดขาว เห็นได้ชัดว่านางต้องจ่ายด้วยราคามหาศาลเช่นกัน

 

บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงตะโกนด้วยความกังวล “ฟางหยวน หากเจ้าไม่เคลื่อนไหวตอนนี้ มันจะสายเกินไป หากข้าล้มลง เจ้าจะไม่สามารถหลบหนีเช่นกัน!”

 

“บีม บีม บีม!”

 

ฟางหยวนเคลื่อนไหว แต่เขาไม่ได้สนับสนุนบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง ตรงข้าม เขาโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง!

 

โดยปราศจากผู้อมตะคอยควบคุม ค่ายกลวิญญาณอมตะจึงถูกทําลายลงในพริบตา

 

ดวงตาของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงแทบสามารถพ่นไฟออกมา “ฟางหยวน คนสารเลว!”

 

เขาตะโกนด้วยความโกรธ

 

ฟางหยวนไม่โจมตีผู้อมตะของวังสวรรค์แต่กลับโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง นี่มันมากเกินไป เขากําลังทําสิ่งใดอยู่ บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงเต็มไปด้วยความโกรธและสับสน

 

บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงมีพันธมิตรเช่นนี้ กระทั่งสามผู้อมตะของวังสวรรค์ยังรู้สึกสงสาร

 

ฟางหยวนปล้นสะดมวิญญาณอมตะจากค่ายกลวิญญาณอมตะของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง จากนั้นเขาก็คว้าวิญญาณอมตะกลายพันธุ์ระดับแปด นางหงหยุน และอาณาจักรแห่งความฝันไปทั้งหมด

 

“ฟางหยวน เจ้าหัวขโมย บัดซบ!” ดวงตาของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงกลายเป็นแดง เขาต้องการฆ่าฟางหยวนทันที

 

หลังจากฟางหยวนได้รับสิ่งที่เขาต้องการ เขาก็บังคับเรือรบหมื่นปีบินจากไป

 

บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงไล่ล่าโดยไม่ยอมแพ้

 

ฟางหยวนรังแกเขามากเกินไป

 

ความเร็วของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงไม่สามารถเปรียบเทียบกับเรือรบหมื่นปี แต่วังสวรรค์ใช้ท่าไม้ตายอมตะพลิกคว่าสวรรค์พิภพขัดขวางฟางหยวน

 

สามผู้อมตะของวังสวรรค์ชะลอการโจมตีของพวกเขาและปล่อยให้บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงต่อสู้กับฟางหยวน

 

“ฟางหยวนตาบอดเพราะผลประโยชน์ เขาเปลี่ยนบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงให้เป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่”

 

“แต่ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ นี่ไม่ใช่นิสัยของฟางหยวน หากข้าเป็นเขา ข้าจะไม่ทําสิ่งนี้”

 

“เดี๋ยว! เขาขโมยวิญญาณอมตะระดับแปดเพราะเขามีวิธีหลบหนีแล้วงั้นหรือ? นี่คือเหตุผลที่เขาไม่กลัว! เราต้องระวัง!”

 

สามผู้อมตะของวังสวรรค์ลอบพูดคุยและเริ่มตื่นตระหนก