ตอนที่ 2164 มหาสงครามแดนพฤกษา (11)

A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน

มารสาวมีปีกเจ็ดตนกรีดร้องพร้อมกัน ค่ายกลแสงทั้งเจ็ดก็เปล่งแสงขึ้นแล้วกลายเป็นเปลวไฟคล้ายลาวา

ค่ายกลแต่ละอันมีประกายไฟออกมา หมอกสีเลือด เปลวเพลิงก็พุ่งขึ้นไปด้านบนกลายเป็นทะเลเพลิงปรากฏทั่วท้องฟ้า

แต่ที่แปลกก็คือทะเลเพลิงที่ว่าไม่มีความร้อนเลย มีแต่ไอเย็นแผ่ออกมา

ตอนนั้นเองค่ายกลไฟทั้งเจ็ดผสานรวมกันเป็นหนึ่ง ไฟนั้นแปลงเป็นคำว่า ‘ผนึก’ และตกลงมาด้านล่าง

อักษรรูนขนาดใหญ่หล่นลงมาในทะเลเพลิง เสียงดัง “ตู้ม”

ในตอนนั้นเองลูกไฟจากทะเลเพลิงก็ลุกท่วม หลังจากนั้นควบแน่นกลายเป็นม่านแสงสีดำแดงชั้นหนึ่ง ดูเหมือนว่าทะเลเพลิง จากนั้นทะเลเพลิงจะถูกปิดผนึกเอาไว้

อักษรรูนจำนวนนับไม่ถ้วนวิ่งวนไปมา มันหดเล็กและขยายใหญ่ขึ้นลงไม่หยุด ดูน่ามหัศจรรย์อย่างมาก

เมื่อชายชราสวมชุดคลุมยาว สีหน้าเข้มขึ้น จากนั้นก็พูดออกมาว่า “ยอดเยี่ยม” เมื่อร่างนั้นขยับตัวเขาก็หายเข้าไปอยู่ด้านบนของทะเลเพลิง

เมื่อมารตัวนั้นอ้าปากออก แสงสีขาวก็พุ่งออกจากปาก โดยมีขวดโอสถหยกสีขาวปรากฏขึ้นในมือของเขา

ชายชราหยิบขวดนั้นออกมาโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง ปากก็ร่ายคาถาไม่หยุด

ทันทีที่เปลวเพลิงสีขาวกระจายออกไป เพียงครู่เดียวพวกมันก็กลายเป็นมังกรเพลิงสีขาวสามตัว ม่านแสงแทบจะบังอะไรไม่ได้เลย แต่มันก็ยังไม่ได้เข้าไปที่ทะเลเพลิง

นาทีต่อมามังกรทั้งสามตัวก็ส่ายหัวส่ายหาง มันอ้าปากแล้วพ่นไฟสีขาวออกมา เปลวไฟที่ทะเลเพลิงลุกโชนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตอนนั้นเอง มารสาวทั้งเจ็ดและชายชราก็ค่อยๆ นั่งขัดสมาธิ สองตาปิดสนิท ปากก็ร่ายคาถาไม่หยุด

ทะเลเพลิงก็ถูกกระตุ้นอีกครั้ง ระลอกคลื่นเพลิงก็โหมขึ้นอย่างรุนแรงภายใต้ม่านแสง ลูกไฟด้านในก็ระเบิดขึ้นอย่างนับไม่ถ้วน มังกรเพลิงสีขาวก็ดูดุร้ายมาก ราวกับว่ามันจะกัดกินสิ่งมีชีวิตทุกสิ่ง

หากเป็นผู้ฝึกตนธรรมดาตกลงไปท่ามกลางทะเลเพลิงเช่นนั้น ไม่ถึงนาทีเขาจะต้องกลายเป็นเถ้าธุลีไปแล้ว ไม่ได้เกิดใหม่อีกแน่นอน

แต่นี่ก็ผ่านมาสักระยะหนึ่งแล้ว ยังได้ยินเสียงหานลี่พูดเบาๆ อยู่เลย

“นี่คือวิธีของพวกเจ้าหรือ ก็ไม่เท่าไหร่นี่นา” ชายชราสวมชุดคลุมและมารสาวทั้งเจ็ดได้ยินดังนั้นก็ตกใจอย่างมาก พวกเขาลืมตาขึ้นอย่างอดไม่ได้และกวาดสายตาเขาไปมองเปลวเพลิง

ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงร้องดังออกมาจากทะเลเพลิง แสงสีเงินส่องแสงวูบวาบ นกเพลิงสีเงินขนาดหลายสิบจั้งบินออกมา มันบินขึ้นไปที่ม่านแสงด้านบน

ขนของนกเพลิงตัวนี้เป็นสีเงินสว่าง ปีกทั้งสองข้างปกคลุมด้วยเปลวไฟสีเงิน ดูแล้วงดงามอย่างมาก

ชายชราผู้นั้นหน้าเปลี่ยนสีทันที เขานึกร่ายคาถาในใจพร้อมชี้นิ้วไปที่ทะเลเพลิง

ทันใดนั้นมังกรสามตัวที่อยู่กลางทะเลเพลิงก็ร้องคำรามขึ้น จากนั้นพวกมันก็บินตรงพร้อมจะโจมตีนกตัวนั้น

นกเพลิงสีเงินสัมผัสได้ถึงอันตรายที่อยู่ด้านหลัง มันกระพือปีกเล็กน้อยแล้วหันตัวกลับไปเผชิญหน้ามังกรเพลิงทั้งสามตัวอย่างดุเดือด

เสียงคำราม เสียงนกร้อง ดังขึ้นพร้อมกับม่านแสงที่ระเบิดออก

นกเพลิงสีเงินพุ่งเข้าโจมตีมังกรทั้งสามทันที เกล็ดมังกรและขนนกร่วงลงพื้น

การสู้ต่อรุนแรงอย่างมาก

นกเพลิงต้องสู้หนึ่งต่อสาม แต่มันไม่มีความกลัวเลย ดูเหมือนว่ามันจะเหนือกว่าด้วยซ้ำ

และในตอนนี้ท่ามกลางทะเลเพลิงก็มีแสงสีทองปรากฏขึ้น ลำแสงที่ว่ามีหกเส้น เมื่อมันถูกปล่อยออกมามันก็โจมตีเข้าไปที่ม่านแสงสีดำทันที

เสียงดังสนั่น ระเบิดแสงสีทองทำลายไปที่ม่านแสงนั้น

ดูเหมือนว่าม่านแสงที่แข็งแกร่งก็เริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง อักษรรูนส่วนใหญ่ด้านหน้าหายไปทันที

มารสาวทั้งเจ็ดที่นั่งขัดสมาธิอยู่รอบๆ ยังไม่เปลี่ยนสีหน้า ราวกับเขาไม่ได้เห็นสิ่งรอบข้างเลย เขาเพียงแค่อ้าปากออกมาพร้อมกัน แต่ละคนก็พ่นเลือดสดๆ ออกมาคนละก้อน

เลือดสดๆ จำนวนนั้นออกมากวัดแกว่งไปมา จากนั้นมันก็กลายเป็นหมอกโลหิตเข้าไปในม่านแสง

ม่านแสงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอีกครั้ง อักษรรูนที่หายไปก็กลับมา

ท่ามกลางทะเลเพลิงก็มีส่งร้องดังเกิดขึ้นอีก

“ฟิ้ว ฟิ้ว” เสียงร้องดังทะลุอากาศ และมีแสงกระบี่สีเขียวพุ่งออกมาโจมตีอย่างดุเดือด มันโจมตีเข้าที่ม่านแสงราวกับฝนตก

วินาทีต่อมาม่านแสงสีดำแดงก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง จากนั้นมันก็เริ่มกะพริบอย่างบ้าคลั่ง และดับมืดลงไปทันที เหมือนกับว่ามันใกล้จะระเบิดแล้ว

ชายชราเมื่อเห็นเหตุการณ์ดังนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เขาสะบัดแขนเสื้อทีหนึ่ง จากนั้นแหวนสีเงินก็ปรากฏออกมา ขนาดของมันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ก่อนที่มันจะตกลงไป มันก็ครอบไปที่ม่านแสงนั้น

ม่านแสงที่กำลังจะแตกก็สงบลงอย่างรวดเร็ว

“ดี ข้าจะดูสิว่าพวกเจ้าจะกดข้าได้นานแค่ไหน”

เสียงของหานลี่ดังขึ้นมาอีกครั้ง ทันทีที่เสียงสิ้นสุดลง ก็มีเสียงคำรามออกมาจากทะเลเพลิงอีกหนึ่งเสียง ปราณของมันน่ากลัวมาก

ชายชราสวมชุดคลุมสัมผัสได้ถึงความอันตรายนั้นหน้าของเขาก็ถอดสี แต่ก่อนที่เขาจะใช้วิธีถ่วงเวลาอื่นๆ อยู่ๆ ทะเลเพลิงก็เกิดการสั่นสะเทือนขึ้น คาดไม่ถึงว่าจะมีหมัดสีทองที่เต็มไปด้วยขนโผล่ออกมา

หมัดนี้เป็นการกำเล็บทั้งห้ารวมกัน เพียงครู่เดียวเงากำปั้นสีทองซ้อนทับกันหลายๆ ชั้น แต่เมื่อเมื่อมันรวมตัวกันเสร็จเรียบร้อย ก็กลายเป็นกำปั้นขนาดใหญ่เท่าภูเขาลูกเล็กๆ มันโจมตีเข้าไปที่ม่านแสงอย่างรุนแรง จนเกิดเสียงสั่นสะเทือน

ในเวลาต่อมาก็มีแสงอาทิตย์สีทองส่องออกมาจากม่านแสง ดูเจิดจ้าอย่างมาก เป็นพลังขนาดใหญ่ที่ทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง

ในครั้งนี้มารสาวทั้งเจ็ดจะโคจรพลังช่วยเอาไว้ แต่ม่านแสงสีดำก็ไม่อาจต้านทานพลังรุนแรงนั้นได้ จึงแตกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

ทะเลเพลิงด้านล่างถูกกระฉากเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่กลับมีเงาของคนคนหนึ่งปรากฏออกมา และดูเหมือนว่ากำลังจะบินออกมา

“ฟิ้ว”

ชายชราเผ่ามารเมื่อเห็นเหตุการณ์ดังนั้น สีหน้าก็ดูไม่ได้เลย เขาร่ายคาถาออกมาอย่างไม่ลังเล

ทันใดนั้นก็มีแสงไฟขนาดใหญ่วิ่งหมุนติ้วๆ และกดทับไปที่ร่างเงาของคนผู้นั้น

เงาคนร่างทองผู้นั้นคำรามออกมาอย่างเสียงดัง เขายกมือขึ้นสองแขน หมัดทั้งสองก็จู่โจมไปที่วงแหวนแห่งแสงเหล่านั้น

“ตู้ม ตู้ม!” เสียงดังสองครั้งติดกัน

พายุหมุนสองลูกพุ่งทะยานขึ้นไปสู่ท้องฟ้า โจมตีไปที่วงแหวนแสงที่มันกำลังกดตัวลงมา แต่เมื่อโดนแรงดันพายุหมุนขนาดใหญ่มันก็ไม่สามารถโจมตีลงมาได้

อีกทั้งตอนนี้ก็ล่าช้ามานานแล้ว ร่างเงาสีทองก็ค่อยๆ เลือนหายไป

ชายชราที่กำลังใช้พลังกดวงแหวนอย่างดุเดือด เมื่อเห็นดังนั้น เขาก็รู้สึกตกใจอย่างมาก เขาเอานิ้วแตะไปที่ขวดโอสถหยกขาวที่อยู่ด้านบนโดยไม่ต้องคิดเลย

“ฟู่ๆ” ขวดโอสถนั่นก็พลิกคว่ำลงมา มันเทเปลวเพลิงสีขาวออกมา จากนั้นก็กลายเป็น ม่านแสงปกป้องเขาอีกชั้น

ในขณะเดียวกัน ชายชราก็ยังร่ายคาถาด้วยมือเดียว ด้านหลังของเขามีปราณที่น่ากลัวปรากฏขึ้น จากนั้นเงาของแมลงยักษ์ก็เกิดขึ้นมาอีกครั้ง

“หึ ปฎิกิริยาตอบรับเร็วมาก”

กลางอากาศมีระลอกคลื่นเกิดขึ้น ร่างเงาคนสีทองเดินออกมาจากระลอกคลื่นนั้น อันที่จริง ร่างนั้นคือวานรยักษ์ตัวใหญ่ขนสีทอง เขาพ่นลมหายใจออกอย่างเย็นชา

วานรตัวนั้นยืนอย่างมั่นคง มืออีกข้างก็แบออกมาท่ามกลางความว่างเปล่า จากนั้นกระบี่สีทองขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา จากนั้นเขาก็ฟันลงมาอย่าโหดร้าย

ทุกการเคลื่อนไหวของเขาดูรวดเร็วอย่างมาก

สีหน้าของชายชราเผ่ามารเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาเร่งกระตุ้นคาถาในมือ แมลงโลหิตที่อยู่ด้านหลังก็อ้าปากกว้าง และกัดเข้าที่แขนของวานรตัวนั้น

ขวดโอสถหยกมันก็หมุนไปรอบๆ กลายเป็นแสงสีขาวที่เข้าโจมตีกระบี่สีทอง

หานลี่หัวเราะเยาะในใจ กลางฝ่ามือสีทองมีประจุสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏอยู่ ขนาดมันใหญ่มาก

“ตู้ม!” “ปัง!” เสียงสองเสียงที่แตกต่างกันดังออกมาพร้อมกัน

แมลงขนาดใหญ่หายไปเพราะการโจมตีจากประจุสายฟ้าเพียงครั้งเดียว ส่วนอีกด้านขวดโอสถหยกสีขาวไม่รู้ว่าทำมาจากอะไร เมื่อกระบี่สีทองฟาดลงไปกับขวดนั้นเกิดพลังสะท้อนกลับทันที โดยไม่ได้รับความเสียหายเลย

ชายชราสวมชุดคลุมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เมื่อเขาสะบัดแขนเสื้อ ทะเลเพลิงที่อยู่รอบๆ ก็กลายเป็นมังกรเพลิงหนึ่งตัว แล้วโจมตีไปที่ฝ่ามือนั้นอย่างรุนแรง

เสียงดัง “ตู้ม” เกิดขึ้นอีกครั้ง

นิ้วทั้งห้าจับหัวของมังกรเพลิงขาวเอาไว้ แต่เปลวเพลิงเหล่านั้นมันก็แตกกระจายหายไป ทันใดนั้นมังกรเพลิงตัวนั้นก็รวมก้อนเพลิงขึ้นมาใหม่แล้วพันรอบข้อมือของวานรตัวนั้น

ประจุสายฟ้าสีทองกะพริบอย่างรุนแรง แม้ว่าเขาจะสะบัดมือแรงแค่ไหน มังกรตัวนั้นก็ไม่ยอมหลุดไป

ในตอนนั้นเอง หานลี่ที่กลายร่างเป็นวานรยักษ์ก็ได้ส่งยิ้มแปลกๆ

ในขณะเดียวกันมีระลอกคลื่นสองจุดเกิดพร้อมกัน คลื่นอันแรกเป็นเงาแสงสีเขียว คลื่นอีกอันเป็นยักษ์พราหมณ์สามเศียรหกกรปรากฏขึ้นอย่างเงียบๆ

เมื่อเขาอ้าปา เขาก็พ่นตาข่ายสีเขียวออกมา แขนทั้งหกก็ขยับขึ้นลงทันที อักษรรูนสีทองก็ปรากฏขึ้น ลูกบอลแสงแต่ละลูกพุ่งเข้าโจมตีชายชราเผ่ามาร

ด้วยระดับพลังของชายชรา เพียงครู่เดียวเขาก็รู้แล้วว่ามีอะไรผิดปกติอยู่ด้านหลัง แต่ในตอนนั้นความสนใจทั้งหมดทุ่มอยู่ที่การต่อสู้กลางอากาศจะหันหลังกลับไปก็ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อเขาใจเย็นลง เขาก็โยกหัวอย่างจนใจ จากนั้นก็มีลำแสงสีขาวพุ่งผ่านไป พุ่งโจมตีเงาร่างทั้งสอง

ไม่ว่าเงาร่างคนสีเขียวหรือเงายักษ์สามเศียรหกกร จะโดนสามง่ามสีขาวนั้นโจมตี พวกเขาก็ไม่ยอมหลบทางเลยแม้แต่น้อย

สุดท้ายหลังเสียง “แกร๊ก” สองร่างนั้นก็ปะทะกับสามง่ามบินสีขาวนั้นโดยตรงจนระเบิดออกมา ร่างกายของเขาสั่นสะเทือนอย่างกะทันหัน และถอยหลังออกไปสองก้าวอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่อีกฝ่ายไม่ได้ถอยหลังกลับไปเลยแม้แต่นิดเดียว

อีกทั้งสามง่ามบินกระดูกขาวก็ไม่สามารถโจมตีร่างสีเขียวได้เลย